หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
เว้ (Hue) เป็นเมืองเอกของจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ ประเทศเวียดนาม และเคยเป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยราชวงศ์เหงียนช่วงปี พ.ศ. 2345-2488 มีโบราณสถานที่มีชื่อเสียงอยู่ทั่วเมือง เช่น พระราชวังเว้ สุสานจักรพรรดิ์ กิจกรรมการล่องเรือชมแม่น้ำหอม นอกจากเว้เป็นเมืองที่เงียบสงบและน่าค้นหาแล้ว ยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงจำนวนมากเกิดที่เมืองนี้ หรือได้เคยมาเยือนเมืองนี้ ปัจจุบันเว้จีงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม
วัดเจดีย์เทียนมู่ หรือ เจดีย์เทียนมู่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหอม เมืองเว้ สร้างขึ้นราว ปี พ.ศ.2144 ในสมัยจาม ตามดำริของขุนนางเหวียนฮวาง (Nguyen Hoang) เจ้าผู้ปกครองเมืองเว้ (หรือเมือง Thuan Hoa) คนไทยเรียกว่า วัดเทพธิดาราม วัดแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนานิกายเซน และมีจุดเด่นคือเจดีย์เทียนมู่ ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเว้มาตั้งแต่ปี คศ. 1710 มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นเชื่อว่าเป็นตัวแทนชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า
ตลาดดองบา (Dong Ba Market) เป็นตลาดช้อปปิ้งซื้อของฝาก และตลาดสินค้าขนาดใหญ่ของเมืองเว้ (Hue) ตั้งอยู่ติดกับเมื่อน้ำเหืองหรือแม่น้ำหอม สินค้าที่นี่สามารถต่อรองราคาได้ ข้อควรระวังในการมาซื้อของที่ตลาดนี้คือ เรื่องการจ่ายเป็นเงินดอง อาจหลงลืมเช่นราคา 10000 แต่ให้เงินใบละ 100000 มองผ่านๆแล้วอาจดูยาก เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากจีน เช่น เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง เกรดของ สินค้าก็พอๆ กับราคา สำหรับของฝากที่ใช้ในครัวเรือน ที่เป็นของท้องถิ่นจริงๆ ก็พวกอาหาร
เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางเมืองเว้ ที่มาของชื่อแม่น้ำ เนื่องจากบริเวณภูเขาริมฝั่งแม่น้ำนี้มีป่าค่อนข้างสมบูรณ์ ลมที่พัดเข้ามาจะพาจะเอากลิ่นหอมของมวลดอกไม้ป่ามาด้วย จึงเป็นที่มาของชื่อแม่น้ำหอม
พระราชวังไดโน้ย (Dai Noi) สร้างตามความเชื่อแบบจีน โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งจำลองแบบมาจากพระราชวังกู้กงหรือพระราชวังต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่ของกรุงปักกิ่งประเทศจีน และการก่อสร้างพระตำหนักต่างๆรวมถึงกำแพงรอบพระราชวังทั้งหมด ได้นำอิฐมาจากประเทศฝรั่งเศสโดยทางเรือ พระราชวังไดโน้ย มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ล้อมรอบด้วยคูน้ำขนาดใหญ่ทั้งสี่ด้าน
นั่งรถสามล้อชมเมืองเว้ (Cyclo) จักรยานลักษณะนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า "ซีโคล่ (Cyclo)" คนเวียดนามเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า "แซบาแบ้ง” เป็นรถรับจ้างที่ปรากฏในประวัติศาสตร์เวียดนาม มาตั้งแต่ยุคอาณานิคมฝรั่งเศส ซึ่งจะมีที่นั่งสําหรับผู้โดยสาร 1 ท่าน หรือผู้ใหญ่นั่งกับเด็กเล็กอยู่ด้านหน้า และคนถีบจักรยานจะอยู่ทางด้านหลัง จึงทําให้ผู้โดยสารสามารถเห็นวิว หรือบรรยากาศโดยรอบได้อย่างชัดเจน
บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) แหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตแห่งใหม่ในเมืองดานัง อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 25 กิโลเมตร ซึ่งภูเขาแห่งนี้มีทั้งรีสอรท์ โรงแรม รวมทั้งสวนสนุกขนาดใหญ่บนยอดเขา จุดไฮไลต์ของที่นี่คือ การนั่งกระเช้าขึ้นไปข้างบน ทั้งนี้กระเช้าแห่งบานาฮิลล์ได้รับการบันทึกสถิติโลก โดย World Record ว่าเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก ในประเภท Non Stop เพราะมีความยาวถึง 5,042 เมตร ในอดีตบานาฮิลล์เป็นสถานตากอากาศที่ดีที่สุดในเวียดนามกลาง ถูกค้นพบในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครองเวียดนาม
บานาฮิลล์ แฟนตาซี ปาร์ค (Bana Hills Fantasy Park) สวนสนุกในร่มและกลางแจ้งขนาดใหญ่ โดยสร้างให้เป็นเหมือนเมืองแห่งเทพนิยายที่สวยงาม ตั้งอยู่ท่ามกลางสายหมอกบนยอดเขาบาน่าฮิลล์ (Bana Hills) เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งแม้จะยังสร้างไม่เสร็จ 100% แต่หลายๆ โซนก็ได้เปิดให้ใช้บริการแล้ว อย่างเช่น ภาพยนตร์ในระบบ 4D บ้านผีสิง ถ้ำาไดโนเสาร์ โซนเกมและเครื่องเล่นต่างๆ รวมทั้งร้านค้าร้านอาหารก็มีให้บริการครบครัน
สวนดอกไม้แห่งความรัก (Le Jardin d'Amour) เป็นสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ที่จัดเป็นสัดส่วนอย่างสวยงาม ท่ามกลางอากาศที่แสนเย็นสบาย ที่ไม่ว่าเราจะอยู่มุมไหนของสวน ก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงามและน่ารัก พร้อมกับสัมผัสบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก
สะพานมือยักษ์สีทอง (Golden Bridge) เป็นจุดแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดในการมาเที่ยวบานาฮิลล์ สะพานลอยฟ้าแห่งนี้อยู่บนเขาบานาฮิลส์ เป็นสะพานสีทองทอดยาวโดยมีมือ 2 ข้างอุ้มไว้ มีความสูง 1,414 เมตรจากระดับน้ำทะเล ความยาวเกือบ 150 เมตร และกว้าง 12.8 เมตร ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า Paradise Garden เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปวิวพาโนรามาของบานาฮิลล์ได้แบบ 360 องศา ตั้งอยู่ในตําแหน่งที่โดดเด่นสวยงาม เป็นอีกจุดท่องเที่ยวหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
วัดหลินอึ๋ง (Linh Ung Temple) เป็นวัดที่ถูกสร้างใหม่และใหญ่ที่สุดของเมืองดานัง โดยมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักด้วยหินอ่อนขนาดใหญ่ หันหน้าออกทะเล ด้านหลังชนภูเขา ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวสง่างาม "หลินอึ่ง" มีความหมายว่า สมปารารถนาทุกประการ ชาวประมงนิยมไปกราบไหว้ขอพรช่วยปกปักรักษา จากจุดวัดหลินอึ๋งสามารถมองเห็นตัวเมืองดานังได้อย่างชัดเจน วัดหลินอี๋งจึงเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองดานัง
หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน (Marble Sculpture Village) หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน เมืองดานัง ที่เกือบทุกครอบครัวในหมู่บ้านนี้ทำอาชีพแกะสลักหินอ่อน โดยนำมาจากภูเขาลูกเล็กๆ ในละแวกนั้น เพื่อผลิตเป็นสินค้าจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว อาทิรูปปั้นเทพเจ้า แจกัน โต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้กระทั่งเครื่องประดับชิ้นเล็ก ให้เราได้เลือกชมและซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกได้
หมู่บ้านกั๊มทาน (Cam Thanh Village) หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่เมืองฮอยอัน ซึ่งเอกลักษณ์เด่นของหมู่บ้านนนี้คือรอบๆ หมู่บ้านจะมีสวนมะพร้าวและมีแม่น้ำล้อมรอบ และคนในหหมู่บ้านจะประกอบอาชีพทําประมงเป็นหลัก ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งเรือกระด้ง ทำให้หมู่บ้านนี้เป็นที่รู้จักว่า หมู่บ้านเรือกระด้งนั่นเอง
เมืองโบราณฮอยอัน (Hoi An Ancient Town) เมืองสำคัญที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรม และเป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศเวียดนาม ย่านเมืองเก่าที่มีสัญลักษณ์เป็นตึกสีเหลืองสดใส สไตล์ชิโนโปรตุกีสผสมโคโลเนียลที่มีให้เห็นตลอดทาง มีความสวยงามสมกับเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO
รูปปั้นปลามังกรพ่นน้ำ (Dragon Carp Statue) ที่ถือได้ว่าเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองดานัง เคียงคู่ไปกับสะพานมังกร
ตลาดฮาน (Han Market) คือตลาดสดของเมืองดานัง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮาน (Han River) ไม่ไกลจากสะพานข้ามแม่น้ำฮาน ด้านหน้าตลาดมีปฏิมากรรมริมแม่น้ำฮานเป็นรูปปั้นหญิงสวยงาม ส่วนในตลาดฮานเป็นตลาดสดทั่วไป ไม่มีอะไรเด่นมาก แต่หากไปช่วงเช้ามืดที่ตลาดนี้คึกคัก มีปลาทะเลสด ๆ อาหารทะเล เพราะดานังคือเมืองติดทะเล