Mushroom Travel

เช็กก่อน! 10 ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน พร้อมแนะนำของจำเป็นที่ต้องพก!!

พี่เห็ดพาทุกคนไปเก็บกระเป๋าขึ้นเครื่องบินกันนน… ถ้าเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ รถไฟ เราอยากเอาอะไรติดตัวไปด้วยก็โยนใส่กระเป๋าไปได้เลย แต่ถ้าเป็นการเดินทางโดยเครื่องบิน จะมีสิ่งของบางอย่างที่ห้ามนำติดตัวไปด้วยหรือมีข้อจำกัดที่ต้องรู้ บทความนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยจะพาทุกคนไปเช็ก 10 ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน พร้อมแนะนำของจำเป็นที่ควรพก เพื่อให้การเดินทางราบรื่น และไม่ต้องทิ้งสิ่งของไปฟรีๆ จะมีของอะไรบ้าง ไปดูกัน!!

น้ำหนักและขนาดกระเป๋าสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง

Credit : PassionStudio / canva.com

สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน จะมีน้ำหนักและขนาดที่สายการบินอนุญาตให้ผู้โดยสารถือขึ้นเครื่องได้ โดยน้ำหนักสัมภาระที่อนุญาตคือ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม ต่อผู้โดยสาร 1 ท่าน (บางสายการบินอาจให้ถึง 10 กิโลกรัม) และกระเป๋าจะต้องมีขนาดไม่เกิน 36 x 56 x 23 เซนติเมตร หรือมีความยาวไม่เกิน 56 เซนติเมตร ความสูง 36 เซนติเมตร และความกว้าง 23 เซนติเมตรนั่นเองค่ะ แนะนำว่าก่อนเดินทางให้ตรวจสอบรายละเอียดเรื่องข้อกำหนดของสายการบินที่เราจะเดินทางอีกครั้ง ส่วนสิ่งของที่ห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน มีดังนี้

10 ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน

1. ของเหลวที่มีปริมาณเกิน 100 ml.

ถ้าพูดถึง สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน หลายคนต้องนึกถึงของเหลวเป็นอย่างแรกแน่นอน จริงๆ แล้วเพื่อนๆ สามารถนำของเหลวติดตัวขึ้นเครื่องได้ โดยมีข้อกำหนดว่า แต่ละชิ้นต้องมีปริมาณไม่เกิน 100 ml. รวมทุกชิ้นไม่เกิน 1,000 ml. ซึ่งจะต้องบรรจุรวมอยู่ในถุงซิปล็อคให้เรียบร้อย และบรรจุภัณฑ์ต้องมีตัวเลขบอกปริมาณอย่างชัดเจน โดยการดูจะยึดจากตัวเลขนี้ ถ้าตัวเลขบนบรรจุภัณฑ์เกิน 100 ml. แม้ว่าด้านในจะมีของเหลวไม่เต็มขวดหรือใกล้หมดแล้ว ก็ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ค่ะ

Credit : krisblackphotography / canva.com
2. อาวุธ ของมีคม เครื่องกระสุน และสิ่งเทียมอาวุธทุกชนิด

เพื่อความปลอดภัยทั้งของผู้โดยสารทุกท่าน สายการบินจึงไม่อนุญาตให้นำ อาวุธ ของมีคม  เครื่องกระสุน และสิ่งเทียมอาวุธทุกชนิด ขึ้นเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็น ปืน ดาบ กระบอง ปืนเด็กเล่น สนับมือ คัตเตอร์ กรรไกร มีดโกน รวมถึง กรรไกรตัดเล็บ แต่ถ้าเป็นกรรไกรตัดเล็บอันเล็กๆ ที่ทางสายการบินพิจารณาแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอันตรายก็สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ ใครจะพกกรรไกรตัดเล็บขึ้นเครื่องก็แนะนำให้ตรวจสอบกับทางสายการบินก่อนนะคะ

3. วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด

ของอีกหนึ่งประเภทที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบินก็คือ วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด เนื่องจากอาจเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ และสร้างความเสียหายให้กับตัวเครื่อง รวมถึงผู้โดยสารท่านอื่นๆ หรือร้ายแรงที่สุดอาจทำให้เสียชีวิต ซึ่งนอกจากจะห้ามนำขึ้นเครื่องบินแล้ว ยังมีคำพูดที่ห้ามพูดในสนามบินและบนเครื่องบินอีกด้วย เพราะอาจสร้างความแตกตื่น รวมถึงต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม ทำให้เสียเวลากว่าเดิม พี่เห็ดได้รวมคำพูดต้องห้ามในสนามบิน และบนเครื่องบิน ไว้ให้แล้ว >> ที่นี่

Credit : Kittisak Kaewchalun / canva.com
 4. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า กระเป๋า นาฬิกา เสื้อผ้า เครื่องประดับ ถือเป็น ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน เพราะสินค้าเหล่านี้เป็นการนำผลงานของผู้อื่นมาทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ และหาผลประโยชน์โดยที่เจ้าของผลงานไม่ได้อนุญาต รวมทั้งหลายประเทศยังมีกฎหมายคุ้มครองการละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย

5. อาหารที่มีกลิ่นแรง

แม้อาหารจะอร่อยจนอยากนำขึ้นเครื่องไปด้วยแค่ไหน แต่ถ้าเป็น อาหารที่มีกลิ่นแรง ก็ต้องอดใจไว้ก่อนค่ะ เพราะถือเป็นหนึ่งใน ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน กะปิ ของหมักดองต่างๆ ของบางอย่างอาจนำขึ้นเครื่องได้แต่ต้องแพ็คให้เรียบร้อย และโหลดใต้เครื่อง ซึ่งจะแล้วแต่การพิจารณาของสายการบิน แต่อย่างทุเรียนจะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องทุกกรณี เนื่องจากกลิ่นเหล่านี้อาจไปรบกวนผู้โดนสารท่านอื่นๆ บางท่านอาจมีอาการแพ้ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ เป็นต้น

Credit : rattanakun / canva.com
6. สัตว์มีพิษ สัตว์ดุร้าย

เหล่าคนรักสัตว์ทั้งหลายคงอยากพาสัตว์เลี้ยงไปเที่ยวด้วยใช่ไหมคะ ถ้าเป็นน้องหมา น้องแมว หรือกระต่าย ก็อาจจะไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากนัก แถมบางสายการบินยังอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องไปพร้อมกับเจ้าของได้ด้วย แต่ถ้าน้องเป็น สัตว์มีพิษ สัตว์ดุร้าย จะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ค่ะ เพราะอาจเกิดอันตรายแก่ผู้โดยสารท่านอื่นๆ

7. สารอันตรายต่างๆ และสารเสพติด

สารอันตรายต่างๆ และสารเสพติด เช่น น้ำยาล้างท่อ, ปรอท, คลอรีน, กัมมันตภาพรังสี, วัตถุติดเชื้อหรืออันตรายทางชีวภาพ ฯลฯ ถือเป็น ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน เพราะอาจเกิดอันตรายกับผู้โดยสารท่านอื่นๆ หรือแม้จะเป็นสารที่ถูกกฎหมายประเทศต้นทาง แต่ก็อาจผิดกฎหมายในประเทศปลายทางได้ ดังนั้นก่อนเดินทางอย่าลืมศึกษากฎของสายการบิน และกฎหมายของประเทศนั้นๆ ด้วยนะคะ

Credit : pixelshot / canva.com
8. บุหรี่ไฟฟ้า

บุหรี่ไฟฟ้า สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ แต่ห้ามโหลดใต้เครื่อง และต้องถอดแบตเตอรี่ออกให้เรียบร้อย รวมทั้งไม่อนุญาตให้มีการสูบบนเครื่องบิน เพราะนอกจากจะส่งกลิ่นรบกวนแล้ว ยังส่งผลต่อระบบตรวจจับควันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยและอีกหลายๆ ประเทศ บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นของผิดกฎหมาย ดังนั้นก่อนเดินทางไปประเทศไหน ควรศึกษากฎหมายของประเทศนั้นๆ ก่อนนะคะ

9. ต้นไม้ และดอกไม้สด

ใครเพิ่งได้ดอกไม้มา หรืออยากนำต้นไม้ข้ามจังหวัด ข้ามประเทศไปปลูก อาจจะต้องศึกษารายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมก่อนค่ะ เพราะ ต้นไม้ที่มีดิน และดอกไม้สด ถือเป็น ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากภายในห้องโดยสารไม่ได้มีอากาศถ่ายเท ผู้โดยสารบางท่านอาจแพ้เกสรดอกไม้ และหากจะนำเข้าหรือออกนอกประเทศ ดินต่างๆ ที่ติดมากับต้นไม้อาจทำให้เกิดการปนเปื้อน หรือเป็นการแพร่กระจายเชื้อโรคได้

Credit : manifesto / canva.com
10. เนื้อสด และผลไม้สด

สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน อย่างสุดท้ายก็คือ เนื้อสด และผลไม้สด เพราะด้วยระยะเวลาเดินทางที่ค่อนข้างนาน อาจทำให้เกิดการเน่าเสีย ส่งกลิ่น บางประเทศไม่อนุญาตให้นำเข้าประเทศ เพราะเสี่ยงต่อการปนเปื้อน และการแพร่กระจายเชื้อโรคต่างๆ ที่ติดมากับเนื้อสัตว์และผลไม้ ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ

นอกจากนี้ยังมีสิ่งของอื่นๆ ที่บางครั้งก็นำขึ้นเครื่องได้ บางครั้งก็นำขึ้นไม่ได้ เช่น ขาตั้งกล้อง ที่บางสายการบินไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง มีการจำกัดขนาด หรืออนุญาตเฉพาะการโหลดใต้เครื่องเท่านั้น ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ข้อกำหนดและดุลยพินิจของแต่ละสายการบิน รวมไปถึง อุปกรณ์กีฬา เครื่องดนตรี ที่อนุญาตเฉพาะอุปกรณ์บางชนิด หรือต้องมีการทำเอกสารเพิ่มเติม ดังนั้นใครที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินก็อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขให้ละเอียดด้วยนะคะ


ตรวจสอบของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบินแล้ว ต่อไปพี่เห็ดขอพาเพื่อนๆ ไปเก็บกระเป๋า เอาของจำเป็นที่ควรพกติดตัวขึ้นเครื่องกันบ้างดีกว่า รวบรวมมาให้ ดังนี้

ของใช้จำเป็น ควรพกติดตัวขึ้นเครื่องบิน

1. ปากกา

ปากกามีความสำคัญสำหรับการกรอกเอกสารต่างๆ ทั้งเอกสารเข้าออกระหว่างประเทศ หรือ เอกสารของด่านศุลกากร นอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้ปากกาจดบันทึก หรือใช้สำหรับวาดเขียน เพื่อผ่อนคลาย ลดความเบื่อหน่ายระหว่างเดินทาง ซึ่งถ้าหากใครไปเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์ ทางทัวร์จะมีบริการทั้งปากกา เอกสารสำหรับเข้าประเทศ รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ที่ช่วยอำนวยให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น

2. พาวเวอร์แบงค์ หรือแบตเตอรี่สำรอง

ในยุคปัจจุบันที่โทรศัพท์มือถือ ไอแพด หรือแม้กระทั่งแลปท็อป เป็นของใช้ส่วนตัวที่หลายคนขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะใช้เพื่อความบันเทิงหรือในการทำงานก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่ควรพกติดตัวไปเสมอก็คือ พาวเวอร์แบงค์ หรือแบตเตอรี่สำรอง นั่นเองค่ะ แต่มีข้อกำหนดของขนาดความจุไฟฟ้าดังนี้

✅ ความจุไม่เกิน 20,000 mAh (100 Wh) สามารถนำขึ้นเครื่องได้
✅ ความจุ 20,000 – 32,000 mAh (100 – 160 Wh) นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน
❌ ความจุเกิน 32,000 mAh (160 Wh) ห้ามนำขึ้นเครื่องเด็ดขาด

พี่เห็ดแนะนำ พกพาวเวอร์แบงก์ไม่เกิน 20,000 mAh จะดีที่สุด เพราะสนามบินบางประเทศจะไม่อนุญาตให้นำพาวเวอร์แบงก์ 20,000 – 32,000 mAh ขึ้นเครื่องบิน เช่น ประเทศจีน จะได้ไม่มีปัญหาในการเดินทาง

โดยการนำพาวเวอร์แบงก์ขึ้นเครื่องบินจะต้องพกติดตัวเท่านั้น ห้ามโหลดใต้เครื่อง และเพื่อความปลอดภัย บางสายการบินจึงมีกฎ ห้ามใช้งานพาวเวอร์แบงค์ขณะอยู่บนเครื่องบินตลอดการเดินทาง โดยพี่เห็ดได้รวมสายยการบินที่มีกฎดังกล่าวมาไว้ให้ ดังนี้

3. ผ้าเช็ดมือฆ่าเชื้อโรค

ในแต่ละวันมีผู้เดินทางที่ต้องใช้บริการสนามบินในแต่ละแห่งนับล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ ดังนั้นเราจะทราบได้อย่างไรว่าผู้คนทั้งหมดนี้จะปลอดโรค เพราะอย่างน้อยที่สุด 1 ในล้านของผู้คนที่ต้องผ่านสนามบิน อาจจะมีใครสักคนที่มีเชื้อไข้หวัดใหญ่ หรือ โควิด ดังนั้นการป้องกันเอาไว้ก่อนอย่างการพกผ้าเช็ดมือฆ่าเชื้อโรคติดตัวไปด้วยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยเลยค่ะ

4. หน้ากากปิดตา และที่อุดหู

หากคุณต้องการนอนหลับพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวภายในเครื่องบิน อีกหนึ่งอย่างที่ลืมไม่ได้ก็คือ หน้ากากปิดตา และที่อุดหู ซึ่งบางสายการบินที่เป็น Full-Service อาจจะมีให้บริการตรงส่วนนี้ แต่หลายๆ สายการบินก็ไม่ได้มีให้ โดยเฉพาะประเภทโลว์คลอส ดังนั้นการพกขึ้นเครื่องไปด้วยจะทำให้คุณสะดวกในการหยิบใช้ อีกทั้งเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางคุณก็ยังสามารถใช้งานในโรงแรมที่พักได้ด้วยค่ะ

Credit : pixelshot / canva.com
5. ผ้าคลุมไหล่ หรือผ้าพันคอผืนใหญ่

อีกหนึ่งอุปกรณ์เพื่อความสะดวกสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการเดินทางไกลซึ่งต้องใช้ระยะเวลาบินมากกว่า 5 ชั่วโมงขึ้นไป นั่นก็คือ ผ้าห่ม นั่นเอง โดยปกติแล้วผ้าห่มจะมีให้ใช้ในสายการบินประเภท Full-Service เช่นเดียวกับหน้ากากปิดตาและที่อุดหู แต่ถ้าอยากใช้แบบส่วนตัว แนะนำให้พกติดตัวไปเองค่ะ อาจจะเป็น ผ้าคลุมไหล่ เสื้อคาดิแกน หรือผ้าพันคอผืนใหญ่ก็ได้ เพราะประโยชน์ของมันนอกจากจะเป็นออฟชั่นเสริมในเรื่องของแฟชั่นแล้ว เรายังสามารถใช้ห่มคลุมแทนผ้าห่มได้อีกด้วย

6. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ทั้งระหว่างการเดินทาง หรือการติดค้างในสนามบิน หูฟัง ไอแพด รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จะช่วยเพิ่มความบันเทิงและทำให้คุณหายเบื่อได้ค่ะ จะดาวน์โหลดหนังแบบออฟไลน์เก็บไว้ ฟังเพลง อ่านหนังสือจากแอป ก็สามารถทำได้ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใช้ฆ่าเวลาได้ดีเลยค่ะ

Credit : digitalskillet / canva.com
7. Dry Shampoo

สำหรับคนที่ผมมีความมันมากๆ การเดินทางไกลในระยะเวลานานอาจทำให้คุณต้องต่อสู้กับผมที่มันดั่งชะโลมด้วยน้ำมัน สิ่งที่ช่วยได้ก็คือ Dry Shampoo มีให้เลือกทั้งแบบสเปรย์และแบบเจล ไอเท็มนี้จะทำให้ผมคุณหายมันได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ฉีดหรือลูบทั่วศีรษะ จากนั้นใช้แปรงสางเบาๆ ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมยังให้ความหอมที่สดชื่นอีกด้วย แต่หากต้องการพกติดตัวขึ้นเครื่อง ควรซื้อเป็นไซซ์เล็กๆ และอย่าลืมดูปริมาณก่อนซื้อด้วยนะคะ

อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ คงรู้แล้วใช่ไหมคะว่า สิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน มีอะไรบ้าง และของอะไรที่ควรพกติดตัวไปด้วยเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปเตรียมจัดกระเป๋าและออกเดินทางท่องเที่ยวกันได้เลย ใครอยากไปประเทศไหน ลองปรึกษาพี่เห็ดก่อนได้ มัชรูมทราเวลมี ทัวร์ต่างประเทศ ให้เลือกเพียบ ทั้งเอเชีย ยุโรป พี่เห็ดคอยให้คำแนะนำตลอดทริป บอกเลยว่าหายห่วง


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง

2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel บริษัททัวร์ ที่มีโปรแกรมให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
Line id : @mushroomtravel

เช็กก่อน! 10 ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน พร้อมแนะนำของจำเป็นที่ต้องพก!! was last modified: April 18th, 2025 by Khaettaliya Tannarat
Exit mobile version