Mushroom Travel

28 วัน ฉายเดี่ยวตะลุย คุนหมิง ไปสิ้นสุดที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก 3

Guest ของ มัชรูมทราเวล วันนี้เป็น… ชายหนุ่มที่หาญกล้า เดินทางจากเมืองไทยสู่คุณหมิง ประเทศจีน และไปต่อที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ประเทศรัสเซียด้วยตัวคนเดียว ซึ่งการเดินทางของเค้านั้นไม่ธรรมดาเลย เพราะงานนี้ใช้การโดยสารทางรถไฟเป็นหลัก

28 วัน ฉายเดี่ยวตะลุย คุนหมิง ไปสิ้นสุดที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก 3

ผมอยู่บนรถไฟด้วยความเหงาและความแฮ้งก์ครับ ในตู้ผมมีคู่สามีภรรยามองโกเลียอายุประมาณ 40 กว่าๆ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ครับ ตามตั๋วโดยสารผมเขียนว่าจะถึงเอียร์คุสตอนตี 2 ของอีก 2 วันครับ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเวลาในตั๋วนั้นเป็นเวลาของมอสโควครับ ซึ่งไวกว่าเอียร์คุส 5 ชั่วโมง

ผมเผลอหลับไปตอนเที่ยงคืน ตื่นอีกทีตี 3 ผมตกใจมากคิดว่านั่งเลยมาแล้วเลยเดินไปถามพนักงานครับว่าจะถึงเอียร์คุสกี่โมง พนักงานบอกว่าถึงตอน 7 โมง ผมก็งงๆ ครับ ทำไมถึงตอน 7 โมงแต่ก็ไม่กังวลเท่าไหร่ครับ มากังวลอีกเรื่องครับ เหตุคือตอนผมรู้เวลาที่ผมจะถึงเอียร์คุสตอนแรกตี 2 ผมส่งเมลไปคุยกับเจ้าของโฮสเทลถึงวิธีการเดินทางไปครับ เจ้าของบอกว่าถ้านั่งแท็กซี่มาจะแพงมาก เขาเลยเสนอมารับผมที่สถานีรถไฟในราคา 500 รูเบิล ซึ่งผมก็กังวลว่าเขาจะมารอผมตอนตี 2 ซึ่งผมไปถึงจริงๆ 7 โมงเช้าเข้าให้ สุดท้ายพอไปถึงก็เจอคนชูป้ายชื่อรอรับอยู่ครับ ถามไถ่ได้ความว่าเขาเอาเลขขบวนรถไฟผมไปเสิร์ชดู แล้วก็มารับผมตามเวลาครับ ( แสบจริงๆ แทนที่จะบอกว่าถึง 7 โมงจะได้นั่งรถเมล์ไป)

พอขึ้นรถเขาก็บอกว่าโฮสเทลของเค้ากำลังรีโนเวทใหม่อยู่ครับ เลยจะพาผมไปอีกโฮสเทลนึงซึ่งราคาเท่ากัน พอมาถึงก็สุดยอดมากครับ โฮสเทลที่นี่สวย คนน้อย สะอาด สต๊าฟสวย และอยู่ละแวกในสถานีท่องเที่ยวครับ ชื่อโฮสเทล Ushanka Hostel ครับ ผมยกให้เป็นโฮสเทลที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลยครับ ใครมาเที่ยวเอียร์คุสผมแนะนำที่นี่เลยครับ จำนวนคนมากสุดแค่ 12 เท่านั้นครับ ผมนอนห้อง Dorm 6 เตียงซึ่งมีคนนอนจริงๆ 2 คน ราคาไม่แพงคืนละ 500 รูเบิล

คิวรถน่าจะมีตลอดครับ พอคนครบก็ออกเป็นรอบๆ ไปถามเค้าว่ารถที่ไป Listvyanka ครับ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอ่านออกเสียงยังไงแต่ผมจดไปให้เค้าดู นั่งมาเรื่อยๆ เวลาน่าจะประมาณชั่วโมงก็ถึงครับ สิ่งที่ผมเห็นคือความว่างเปล่า ไม่มีคนไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่มีร้านค้าใดๆ ยังสงสัยอยู่ว่าเขาพามาลงจุดที่ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวหรือเปล่า

ทะเลสาบตระหง่านอยู่หน้าผมยาวไปสุดลูกหูลูกตาครับ จุดพีคก็คือหนาวมากๆ อากาศวันนั้นประมาณ -20 แล้วลมที่ทะเลสาบแรงมากๆ และหมอกเยอะสุดๆ มองไปข้างหน้าได้ ไม่ไกลเลย ผมเดินวนเล่นประมาณครึ่งชั่วโมง กินปลาโอมูลไปตัวนึงรสชาติเหมือนปลาเค็มบ้านเราเลยครับ จากนั้นก็มารอรถตู้ที่จุดที่เขามาส่งเราครับ ไม่ไหวจริงๆ ครับอากาศมันทำให้ทรมานมาก มือเท้าผมไม่มีความรู้สึกใดๆ เหลืออยู่เลย จะเอามือออกจากกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ถ่ายรูปยังยากเลยครับ ผมเลยได้ภาพมาน้อยมาก

เช้าวันต่อมา วันนี้ผมจะต้องไปนั่งรถไฟสายทรานไซเบียแล้วครับ เวลาตามตั๋วคือ 20.45 ซึ่งเป็นเวลามอสโคว์นะครับ เวลาจริงๆ ที่รถไฟออกที่จากเอียร์คุสคือตี 1.45 ครับ อย่าพลาดนะครับ ถ้าพลาดมีหวังต้องนั่งเปื่อยอยู่สถานีรถไฟหลายชั่วโมงแน่ๆ ทางที่ดีลองถามพนักงานโรงแรมเอาครับว่าเวลารถไฟออกคือกี่โมง วันนี้ผมมาเดินเที่ยวตาม Green line ที่อยู่ในแผนที่เมืองเอียร์คุสครับ โดยใช้เวลาไปประมาณ 2 ชั่วโมงและเดินไม่ครบตามรูทด้วยครับเพราะอากาศหนาวมากๆ ผมค่อนข้างใช้เวลาส่วนใหญ่ในเอียร์คุสนี่อยู่ แต่ในโฮสเทลนะครับ

จากนั้นก็มาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเสบียงไว้นั่งรถไฟ 3 วัน 4 คืนครับ ไม่มากครับเพราะผมมีเสบียงที่ขนมาอยู่แล้ว ที่ซื้อเพิ่มก็คือขนมปัง คอนเฟลก นม เนื้อบดกระป๋อง กาแฟ ช็อกโกแลตร้อนครับ และก็ไปนั่งๆ นอนๆ รอในโฮสเทลจนกว่าจะถึงเวลา

ได้มาขึ้นรถไฟจนได้ครับเป็นรถไฟสาย 043E ชั้น Reserved ชั้นราคาถูกที่สุด โดยเตียงล่างจะแพงกว่าเตียงบนนิดหน่อยแต่สำหรับเวลา 3 วันกว่าผมยอมจ่าย ผมไม่หวังอะไรเลยบนรถไฟขบวนนี้นอกจากใครสักคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ ซึ่งผมไม่เจอเลยครับ T^T แต่ถึงกระนั้นชาวรัสเซียที่ผมเจอบนรถไฟก็ใจดีกันมากๆ ครับ พยายามแนะนำโน้นนี่ให้ผม ชวนผมทานอาหาร ชวนผมเล่นไพ่ซึ่งนั่งดูเป็นชั่วโมงผมยังเล่นไม่เป็นเลย

กิจกรรมบนรถไฟของผมคือกิน นอน อ่านหนังสือ เล่นซุโดกุ นั่งรอจังหวะปลั๊กไฟว่าง ชาร์จแบตโทรศัพท์และไอแพด กิน นอน อ่านหนังสือ เล่นซุโดกุ นั่งรอจังหวะปลั๊กไฟว่าง ชาร์จแบตโทรศัพท์และไอแพด วนอยู่แบบนี้เป็นเวลา 86 ชั่วโมงเต็มครับ ไม่มีการพูดจาใดๆ ที่เป็นการสนทนาเลยครับ

ที่เสื้อแขวนอยู่นั่นแหละครับ เตียงผม

การอยู่คนเดียวนานๆ นี่ก็ดีนะครับ มีเวลาคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้เยอะแยะไปหมด มีเวลาตื่นมานั่งจดความฝันเมื่อคืน จากคนไม่เคยเขียนไดอารี่ก็ได้เขียน จากเล่นซูโดกุด่านยากสุดเป็น ชั่วโมงก็เหลือ 10 นาที ที่ดีที่สุดคือใจที่เกิดมาแล้วเห็นโลกกว้างครับ คำนี้เป็นคำที่ผมได้ยินฝรั่งพูดกันบ่อย และผมก็ชอบมากครับ ” Enjoy the youth ”

ในที่สุดผมก็ถึงมอสโคว์แล้วครับ เวลา 11.03 น. ดีใจจนเดินยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียวเลยครับ เหมือนตอนที่เราทำอะไรสำเร็จสักอย่างนึง เช่น เรียนจบ กลับจากเขาชนไก่ หรือได้งานทำครับ เหมือนผ่านเคสชีวิตเพิ่มมาหนึ่งอย่าง ดีใจมากครับ เดินแบกกระเป๋าแบบไม่มีความเหนื่อยเลย อยากเห็นจริงๆ เลยไอ้เมืองที่กรูนั่งๆ นอนๆ ทรมานอยู่บนรถไฟ 3 วัน 4 คืนหน้าตาจะเป็นยังไง

เดินมาที่เมโทร Komsomolskaya ครับเพื่อนั่งไปยัง Friday Hostel ที่พักสำหรับ2 คืนของผม ซึ่งอยู่สถานี Kitay-gorod ทางออก Maroseyka street จุดสังเกตคือร้าน Mcdonald ที่ฝั่งตรงข้ามปากซอยโฮสเทลครับ

โฮสเทลที่นี่ห้องรวม 10 เตียงราคาอยู่ที่คืนละ 500 รูเบิลครับ ซึ่งไม่แพงเลย แต่ผมคิดว่าเพื่อนร่วมโฮสเทลไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ครับ ไม่ค่อยมีพวกนักท่องเที่ยวแบคแพคมา ส่วนใหญ่จะเป็นคนพักแบบเหมือนอยู่อาศัยเลยมากกว่าครับ

สำหรับโปรแกรมบ่ายวันนี้ของผมมี 2 ที่ครับ คือตลาด Izamailov และจัตุรัสแดง วิธีไปตลาด Izamailov ก็ง่ายมากครับ นั่งเมโทรไปสถานี Partizanskaya สายสีน้ำเงิน จริงๆ เลยไปอีกป้ายก็จะเป็นสถานี Izamailov นะครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องลงป้ายก่อนหน้า น่าจะอารมณ์เหมือน MRT บ้านเรามั้งครับ ถ้าอยากไปลงตลาดจตุจักรเลยต้องลงป้ายกำแพงเพชร

ตลาดคล้ายๆ จตุจักรบ้านเราครับ แต่ให้อารมณ์คลาสสิกกว่ามาก ของเก่าของใหม่ของฝากขายกันเพียบไปหมด ผมซื้อของฝากแค่ไม่กี่ชิ้นและก็ว่าจะไปจัตุรัสแดงต่อครับ นั่งเมโทรไปสถานี Ploshchad Revolyutsii ที่จัตุรัสแดงเดินชมโบสถ์เซนบาซิล State Historical Museum กำแพงพระราชวังเครมลินและห้างกุมครับ

State Historical Museum

วิหารเซนต์บาซิล

วันต่อมาวันนี้ผมมีแพลนจะเที่ยวพระราชวังเครมลิน โบสถ์ Cathedral of Christ the Savoir และถนนอารบัตครับ ตื่นเช้ามาก็เดินจากโฮสเทลไปจัตุรัสแดงกันเลย ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรครับ

มาถึงก็ซื้อบัตรก่อนเข้านะครับ ผมซื้อทั้งหมด 3 ใบครับมี

ซึ่งใช้บัตรนักเรียน ISIC ลดไม่ได้ครับ (แต่ไปเห็นเคาน์เตอร์ที่ขายตั๋ว Diamond Fund ใน Armoury Chamber มีป้ายราคานักเรียนอยู่ แต่ไม่ทันแล้วครับ ซื้อราคาเต็มไปแล้ว)

จากนั้นก็ไปโบสถ์ Cathedral of Christ the Savior ครับ เดินออกจากเครมลินมาข้ามสะพานข้ามฟาก Borovitskaya และข้ามกลับที่สะพาน Patriarshiy most จะเป็นทางเชื่อมกับโบสถ์พอดีครับ

โบสถ์ Cathedral of Christ the Savior นี่ผมยกให้เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สวยงามที่สุดในทริปนี้ของผมเลยครับ ทั้งด้านนอกและด้านใน โดยเฉพาะด้านในนี่สุดยอดมากจริงๆ ครับ สวยแบบทำให้ยืนตาค้างไปหลายวินาทีทั้งยังมีชั้นใต้ดินให้ลงไปอีกรู้สึกว่าจะเข้าฟรีนะครับถ้าผมจำไม่ผิด สวยมากจริงๆ ครับ ใครมามอสโคว์ต้องมาให้ได้ครับ

ประสบการณ์มาเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!

ระดับความสนุก: ✩✩✩✩
เครดิต: www.facebook.com/tong.thanarat.1


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook 

www.facebook.com/mushroomtravel/

28 วัน ฉายเดี่ยวตะลุย คุนหมิง ไปสิ้นสุดที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก 3 was last modified: May 27th, 2022 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version