Mushroom Travel

เที่ยวอียิปต์ เดือนไหนดี ? เทียบอากาศแต่ละฤดู พร้อม 7 ไฮไลต์ต้องไปให้ได้!

ถ้าพูดถึงสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หนึ่งในความอลังการสุดน่าทึ่งที่ควรค่าแก่การไปเห็นกับตาตัวเองสักครั้งก็คือ อียิปต์ ที่นี่มีประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และที่เที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็จะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันไป สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากไปเที่ยวอียิปต์แต่ยังไม่รู้ว่าควร เที่ยวอียิปต์ เดือนไหนดี บทความนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มีข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศในแต่ละช่วงฤดู พร้อมแนะนำ 7 ที่เที่ยวอียิปต์ ไฮไลต์ที่ควรไปเช็กอิน เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถวางแผนทริปได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดแบบไม่เสียเที่ยว!

รู้ก่อนเที่ยวอียิปต์

Credit : Orhan Cam / shutterstock.com

ก่อนจะไปเก็บข้อมูลสภาพอากาศต่างๆ ตลอดทั้งปีของอียิปต์ เรามาทำความรู้จักกับประเทศนี้กันค่ะ อียิปต์ (Egypt) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย และมีแม่น้ำไนล์ไหลผ่านเป็นเส้นเลือดหลัก เมืองต่างๆ ในอียิปต์เต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าระดับโลก เช่น พีระมิดกิซ่า มหาสฟิงซ์ วิหารคาร์นัค หรือ หุบเขากษัตริย์ ซึ่งล้วนเป็นมรดกทางอารยธรรมที่หาชมได้ยากและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน นอกจากนี้ เมืองท่องเที่ยวหลักอย่าง ไคโร ลักซอร์ อัสวาน และ อเล็กซานเดรีย ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลาดพื้นเมือง และกิจกรรมยอดนิยมหลากหลาย เช่น การล่องเรือชมแม่น้ำไนล์ หรือ ขี่อูฐในทะเลทราย ทำให้อียิปต์กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากแวะมาเยือน

เที่ยวอียิปต์ เดือนไหนดี ?

สภาพอากาศตลอกทั้งปีของอียิปต์ มี 4 ฤดูกาลหลักๆ ซึ่งแต่ละฤดูก็มีสภาพอากาศแตกต่างกันชัดเจน ทั้งด้านอุณหภูมิและความเหมาะสมในการท่องเที่ยว ดังนี้

Credit : givaga / shutterstock.com
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)

อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 – 30 องศาเซลเซียส ทางตอนใต้อุณหภูมิอาจสูงถึง 35 องศาเซลเซียส เป็นช่วงที่ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศอบอุ่นกำลังดี ไม่ร้อนจัดเหมือนช่วงกลางปี เหมาะสำหรับการเดินเที่ยวกลางแจ้งและสำรวจโบราณสถานต่างๆ ไม่แพ้ช่วง High Season แต่ควรระวังในบางพื้นที่อาจมีลมร้อนและพายุทรายที่เรียกว่า คัมซิน (Khamsin) ซึ่งพบได้บ่อยในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน จึงควรเตรียมหน้ากาก ผ้าคลุม หรือแว่นกันฝุ่น และควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเสมอหากวางแผนมาเที่ยวในช่วงนี้

ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)

อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30 – 40 องศาเซลเซียส และในบางพื้นที่อาจสูงถึง 50 องศาเซลเซียส ทำให้ฤดูร้อนกลายเป็นช่วง Low Season ที่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย เพราะสภาพอากาศโดยรวมมีแดดแรงตลอดวัน อากาศร้อนจัด และช่วงเวลากลางวันยาวกว่ากลางคืน หากต้องการมาเที่ยวในช่วงนี้ควรเตรียมหมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดด และน้ำดื่มให้พร้อม โดย ที่เที่ยวอียิปต์ แนะนำคือ เมืองตากอากาศริมทะเลแดง เช่น ฮูร์กาดา และ ชาร์มเอลเชค เพราะอากาศริมทะเลเย็นกว่าบนแผ่นดินใหญ่ และกิจกรรมทางน้ำสามารถทำได้ตลอดวัน อีกทั้งราคาทัวร์ โรงแรม และค่าเดินทางมักถูกลงกว่าช่วงฤดูท่องเที่ยวหลักอีกด้วย

Credit : AlexAnton / shutterstock.com
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)

อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 22 – 28 องศาเซลเซียส เป็นอีกหนึ่งช่วงที่นักท่องเที่ยวเริ่มเยอะ เพราะอากาศเริ่มเย็นลงจากหน้าร้อน ทำให้เดินเที่ยวสถานที่ต่างๆ ได้สบายมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นท้องฟ้าจะค่อนข้างปลอดโปร่ง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ชมวิวทะเลทราย และเดินสำรวจโบราณสถานแบบไม่เหนื่อยมาก แต่อุณหภูมิในช่วงกลางวันอาจไต่สูงขึ้นถึง 35 องศาเซลเซียส จึงควรสวมหมวก แว่นกันแดด และพกน้ำดื่มไว้ด้วยหากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)

อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15 – 21 องศาเซลเซียส เป็นช่วงน่าเที่ยวที่แนะนำ และถือเป็นช่วง High Season ที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุด เนื่องจากอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่ง แม้จะเป็นฤดูหนาว แต่อากาศที่อียิปต์ไม่ได้ร้อนหรือหนาวจนเกินไป และแทบไม่มีฝนมากวนใจเลย ทำให้เดินเที่ยวชมโบราณสถานกลางแจ้งได้อย่างสะดวกและมองเห็นทัศนียภาพได้เต็มตา โดยเฉพาะการเที่ยวพีระมิด วิหารกลางทะเลทราย หรือ ล่องเรือชมแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากในช่วงนี้ แต่ช่วงเวลากลางคืนบางพื้นที่อุณหภูมิอาจลดลงเหลือประมาณ 8 – 12 องศาเซลเซียส จึงควรเตรียมเสื้อกันหนาวหรือผ้าคลุมเผื่อไว้ด้วย

สรุปแล้วถ้าถามว่า เที่ยวอียิปต์ เดือนไหนดี ? พี่เห็ดต้องบอกเลยว่า ขึ้นอยู่กับเพื่อนๆ เลยค่ะว่าชอบบรรยากาศแบบไหน เพราะอียิปต์เป็นประเทศที่มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่แนะนำช่วง เดือนตุลาคม – เมษายน ที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป เที่ยวได้สบายๆ โดยวันนี้พี่เห็ดมี 7 พิกัดเด็ด แลนด์มาร์คสำคัญของอียิปต์ที่ไม่ว่ามาในฤดูไหนก็ไม่ควรพลาดมาแนะนำ จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย

ที่เที่ยวอียิปต์ 7 พิกัดไฮไลต์แนะนำ

1. พีระมิดกิซ่า (Giza Pyramids)
Credit : givaga / shutterstock.com

พีระมิดกิซ่า ถือเป็นแลนด์มาร์คอันดับหนึ่งของอียิปต์ และเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงกิซ่าใกล้กรุงไคโร ประกอบด้วยพีระมิดหลัก 3 องค์ ได้แก่ พีระมิดคูฟู คาเฟร และ เมนคูเร สร้างขึ้นด้วยหินก้อนยักษ์นับล้านก้อนโดยไร้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญา ความเชื่อ และความศรัทธาในโลกหลังความตายของชาวอียิปต์โบราณได้อย่างชัดเจน ภายในพีระมิดเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้บางส่วน หรือจะชมจากด้านนอก นั่งอูฐชมวิวทะเลทรายและถ่ายภาพมุมกว้างเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็ได้เช่นกัน

2. มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza)
Credit : Daily Travel Photos / shutterstock.com

ถ้ามาเที่ยวพีระมิดกิซ่าก็ต้องไม่พลาดแวะชม มหาสฟิงซ์ เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันและเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของอียิปต์ โดยมหาสฟิงซ์มีลักษณะเป็นสิงโตหมอบที่มีพระพักตร์ของฟาโรห์ เชื่อกันว่าสร้างขึ้นเพื่อเฝ้าปกปักรักษาพีระมิดและสะท้อนอำนาจ ความยิ่งใหญ่ และความศรัทธาของชาวอียิปต์โบราณ ไฮไลต์ของการมาเยือนคือต้องถ่ายภาพกับองค์สฟิงซ์ในมุมต่างๆ โดยเฉพาะมุมที่เห็นพีระมิดอยู่ด้านหลัง เพื่อเป็นการเช็กอินว่ามาถึงดินแดนอารยธรรมโบราณแห่งนี้แล้วจริงๆ

3. วิหารคาร์นัค (Karnak)
Credit : AlexAnton / shutterstock.com

วิหารคาร์นัค ตั้งอยู่ที่เมืองลักซอร์ ริมแม่น้ำไนล์ ถือเป็นหนึ่งในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดของยุคราชวงศ์ใหม่ โดยสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้เทพเจ้าอามุน รวมถึงเทพมุตและเทพคอนซู ภายในมีเสาหินขนาดมหึมาสูงกว่า 20 เมตรเรียงรายกว่า 134 ต้น พร้อมจารึกอักษรเฮียโรกลิฟิกบนเสาและผนังอย่างประณีต นอกจากนี้ยังมีถนนสฟิงซ์ ความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร ที่มีรูปปั้นสฟิงซ์เรียงรายอยู่สองข้างทาง, เสาโอเบลิสก์ของฟาโรห์ฮัตเชปซุต และทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในพิธีกรรมโบราณให้นักท่องเที่ยวเดินชม ถ่ายภาพ และเรียนรู้เรื่องราวของอียิปต์โบราณได้อย่างใกล้ชิด พี่เห็ดแอบกระซิบเลยว่าเป็น ที่เที่ยวอียิปต์ ที่สวยงามมากๆ และไม่ควรพลาดเด็ดขาดเลย!

4. หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings)
Credit : Anton Belo / shutterstock.com

ไม่ว่าจะเลือกมา เที่ยวอียิปต์ เดือนไหนดี อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือ หุบเขากษัตริย์ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ในเมืองลักซอร์ พื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ฝังพระบรมศพของฟาโรห์และเชื้อพระวงศ์ในยุคราชวงศ์ใหม่ รวมแล้วกว่า 60 สุสาน ซึ่งสุสานแต่ละแห่งมีอุโมงค์ทางเดินลึกลงไปใต้ภูเขาหิน ระหว่างทางจะเห็นผนังประดับด้วยภาพแกะสลักเรื่องราวเทพเจ้าและชีวิตหลังความตาย พร้อมอักษรเฮียโรกลิฟิก (Hieroglyphic) ที่ยังคงความคมชัดเจนแม้จะผ่านเวลาหลายพันปี โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปชมความงดงามและความลี้ลับได้อย่างใกล้ชิด ภายใต้บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณที่ชวนให้จินตนาการถึงอารยธรรมที่รุ่งเรืองในอดีต

5. พิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโร (The Egyptian Museum in Cairo : EMC)
Credit : dailynewsegypt.com

ใครที่อยากหลุดเข้าไปในยุคฟาโรห์และสัมผัสเสน่ห์ของอียิปต์โบราณแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ต้องไม่พลาด พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอียิปต์ เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุจากยุคฟาโรห์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดแสดงมากกว่า 170,000 ชิ้น ทั้งมัมมี่ เครื่องประดับทองคำ พระโกศ รูปสลัก รูปปั้นเทพเจ้า และสิ่งของจากสุสานของกษัตริย์หลายพระองค์ ทั้งยังมีสมบัติของฟาโรห์ตุตันคามุน ที่ถูกค้นพบในสภาพเกือบสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากทองคำ หีบพระศพ เครื่องประดับ อาวุธ เครื่องใช้ หรือโลงศพซ้อนหลายชั้นที่เป็นตำนานระดับโลก พี่เห็ดรับรองว่าได้เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบใหม่ที่หาดูไม่ได้จากที่ไหนแน่นอน

6. วิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel)
Credit : doleesi / shutterstock.com

วิหารอาบูซิมเบล เป็น ที่เที่ยวอียิปต์ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ใกล้พรมแดนซูดาน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลงานทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟาโรห์รามเสสที่ 2 โดดเด่นด้วยประติมากรรมแกะสลักจากภูเขาหินทั้งลูกจำนวน 4 องค์ ความสูงประมาณ 10 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าทางเข้า ภายในวิหารประกอบด้วยห้องโถงขนาดใหญ่ เสาหินทรงกลม และผนังที่เต็มไปด้วยภาพแกะสลักเล่าเรื่องสงคราม พิธีบูชาเทพเจ้า และวิถีชีวิตของราชสำนักในยุครามเสส ความพิเศษที่สุดคือปรากฏการณ์ “แสงอาทิตย์ส่องเทพ (Solar Alignment)”  ซึ่งเกิดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และ 22 ตุลาคม โดยแสงแดดจะส่องผ่านปากทางเข้าไปถึงรูปสลักเทพเจ้าด้านในสุดทำให้วิหารอาบูซิมเบลเป็นทั้งโบราณสถาน ศิลปกรรม และผลงานด้านวิศวกรรมที่ทรงคุณค่าระดับโลกเลยก็ว่าได้

7. แม่น้ำไนล์ (Nile River)
Credit : AlexAnton / shutterstock.com

แม่น้ำไนล์ แม่น้ำสายประวัติศาสตร์ที่ถือเป็น “หัวใจของอารยธรรมอียิปต์” มีความยาวกว่า 6,600 กิโลเมตร ไหลผ่านหลายประเทศในทวีปแอฟริกาก่อนจะสิ้นสุดที่อียิปต์ โดยชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าแม่น้ำไนล์คือสายใยแห่งชีวิต เพราะเอื้อต่อการเพาะปลูก การตั้งถิ่นฐาน และการขนส่งสินค้า จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอารยธรรมฟาโรห์อย่างแท้จริง ซึ่งในปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือเฟลุกกะ (Felucca) หรือเรือสำราญ เพื่อชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ รวมถึงได้ผ่านเมืองสำคัญอย่างไคโร ลักซอร์ และอัสวาน ที่มีทั้งโบราณสถาน วิหารริมฝั่งน้ำ และทัศนียภาพที่งดงามราวกับได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคฟาโรห์ ไม่ว่าจะเลือกมา เที่ยวอียิปต์ เดือนไหนดี ก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาล่องเรือชมแม่น้ำไนล์สักครั้ง!

อียิปต์เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่รอให้ไปสัมผัส ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเลือกไป เที่ยวอียิปต์ เดือนไหนดี ก็จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและประวัติศาสตร์โบราณอย่างใกล้ชิดแน่นอน แต่หากกังวลเรื่องการวางแผนเที่ยวเอง กลัวเก็บแลนด์มาร์กไม่ครบ หรือไม่มั่นใจเรื่องเส้นทาง แนะนำให้จอง ทัวร์อียิปต์ ไปเที่ยวกับมัชรูมทราเวลได้เลย พี่เห็ดดูแลให้ครบทั้งที่เที่ยวไฮไลต์ การเดินทาง ที่พัก อาหาร พร้อมความรู้แน่นๆ จากไกด์มืออาชีพ รับรองว่าสนุก ปลอดภัย และอิ่มเอมทุกโมเมนต์ค่ะ


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์อียิปต์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

เที่ยวอียิปต์ เดือนไหนดี ? เทียบอากาศแต่ละฤดู พร้อม 7 ไฮไลต์ต้องไปให้ได้! was last modified: October 21st, 2025 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version