เตรียมตัวไปอร่อยกับเมนูเด็ด เพราะพี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาเพื่อนๆ ไป เที่ยวฉงชิ่ง ตะลุยกิน 10 เมนูเด็ด อาหารฉงชิ่ง ที่ทั้งแซ่บ เผ็ด ซี้ด จนปากเบิร์น รสชาติเข้มข้นถึงใจสไตล์เสฉวนแท้ๆ มีครบทั้งของคาว ของหวาน และสตรีทฟู้ดอิ่มท้อง ที่สายหมาล่า สายเผ็ด สายชาบูห้ามพลาด! บอกเลยว่าสวรรค์ของคนรักอาหารรสจัดอยู่ตรงนี้แล้ว ตามมาดูเมนูยั่วๆ แล้วบินไปกินที่ฉงชิ่งกัน!
1. หม้อไฟฉงชิ่ง (Chongqing Hot Pot)
ถ้าไม่รู้จะเริ่มมื้อแรกในฉงชิ่งด้วยอะไรดี พี่เห็ดขอแนะนำให้มุ่งตรงเข้าร้าน หม้อไฟฉงชิ่ง เลยจ้า เพราะถือว่าเป็นอาหารประจำชาติของคนที่นี่ หัวใจของหม้อไฟอยู่ที่น้ำซุปสีแดงฉานที่เต็มไปด้วยพริกแห้งและพริกเสฉวน กลิ่นหอมชัดเจน รสชาติแสบลิ้น เผ็ดร้อนและชาลิ้นจนต้องร้องซี้ด สามารถเลือกใส่เนื้อสัตว์ เครื่องใน หรือผักอะไรก็ได้ตามชอบ ต้มกันสดๆ บนโต๊ะ พร้อมด้วยน้ำจิ้มสไตล์จีน เช่น น้ำมันงา น้ำพริก หรือ พริกเผา เพิ่มความแซ่บขึ้นไปอีกระดับ แต่ถ้าใครไม่ไหวกับความเผ็ดร้อน ก็มีหม้อไฟสองน้ำที่แบ่งหม้อเป็นสองฝั่ง เลือกซดได้แบบฟินๆ พูดเลยว่ามา เที่ยวฉงชิ่ง แล้วไม่กินหม้อไฟ ถือว่ามาไม่ถึง!
2. บะหมี่ฉงชิ่ง (Chongqing Noodles)
อีกหนึ่งเมนู อาหารฉงชิ่ง ขึ้นชื่อที่ติดอันดับอาหารจีนยอดนิยมทั่วประเทศก็คือ บะหมี่ฉงชิ่ง บะหมี่เสฉวนรสเด็ด ความพิเศษอยู่ตรงที่บะหมี่เส้นเหนียวนุ่ม ลวกจนสุกกำลังดี ราดด้วยน้ำซุปกระดูกหอมๆ ตามด้วยน้ำมันพริกสีแดงสด ผักเขียวกรอบ ถั่วลิสงคั่ว และต้นหอมซอยเพิ่มกลิ่นชวนหิว อย่าลืมว่าต้องใส่เนื้อสัตว์ด้วย แต่ไฮไลต์ที่ทำให้คนติดใจจนวางช้อนไม่ลงก็คือ ความแซ่บซ่าแบบลงตัว ทั้งความเผ็ดจัด เค็มมัน และความชาของพริกเสฉวนที่สะกิดลิ้นแบบไม่เกรงใจใคร ถ้าได้ลองแล้วระวังจะหลงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น
3. เกี๊ยวเสฉวน (Suanla Chaoshou)
เกี๊ยวที่นี่อร่อยเด็ดไม่แพ้ที่ไหนกับ เกี๊ยวเสฉวน ฉ่ำด้วยซอสรสเปรี้ยวเผ็ด เป็นเกี๊ยวหมูต้ม ไม่ได้โดดเด่นแค่แป้งบาง หรือไส้แน่นเท่านั้น แต่จุดขายของแท้คือ ซอสที่ราดมาแบบจัดเต็ม! มีส่วนผสมของน้ำมันพริกแดงหอมๆ โรยกระเทียมสับ ต้นหอม รสชาติเผ็ดร้อน เปรี้ยวซ่าจากน้ำส้มสายชู เค็มนิดๆ เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบอะไรแสบๆ จี๊ดๆ กินแล้วตื่นทั้งปากทั้งตา
4. ไก่ผัดพริกแห้ง (Laziji)
อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของเมืองฉงชิ่งที่เผ็ดร้อนทะลุเพดานกับ ไก่ผัดพริกแห้ง สไตล์ฉงชิ่ง เผ็ดสะใจจนต้องยกนิ้วให้ ทำจากเนื้อไก่ที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หมักด้วยซอสถั่วเหลืองและเครื่องเทศจัดจ้าน แล้วนำไปทอดจนแห้งกรอบเล็กน้อย ก่อนจะนำไปผัดกับพริกแห้ง พริกเสฉวน และกระเทียมแบบจัดเต็ม รสชาติหอมเผ็ดเข้มข้นทุกคำ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมมาก ใครอยากรู้ว่าตัวเองทนความเผ็ดได้แค่ไหน ลองสั่งสักจานดู แล้วจะรู้ว่ารสจัดจ้านของจริงนั้นเป็นยังไง
5. ปลาต้มพริกแห้ง (Shui Zhu Yu)
อาหารฉงชิ่ง ที่แซ่บเผ็ดร้อนไม่ต่างจากเมนูนี้เมื่อกี้เลยก็คือ ปลาต้มพริกแห้ง เนื้อปลาสดนุ่มๆ แล่เป็นชิ้น ต้มในน้ำซุปเผ็ดร้อนกับพริกแห้งและพริกเสฉวน ช่วยดับกลิ่นคาวปลาได้ดี แค่ยกชามมาก็หอมน้ำซุป กลิ่นเตะจมูกแล้ว ปิดท้ายด้วยการโรยกระเทียมเจียวหอมฟุ้ง เสิร์ฟมาในชามไซซ์บิ๊ก สีแดงจัดจ้าน เผ็ดร้อนสะท้านลิ้น รสชาติเข้มข้นถึงใจ ใครเป็นสายกินดุสายเผ็ดห้ามพลาดเด็ดขาด
6. เหม่าเสวี่ยหวัง (Mao Xue Wang)
ใครเป็นสายเครื่องในเลิฟเวอร์ต้องจัด เหม่าเสวี่ย เลือดเป็ดต้มสไตล์ฉงชิ่ง ร้อนแรงจนข้าวสวยต้องเข้าด่วนๆ มีวัตถุดิบหลายอย่างมากรวมอยู่ในชามเดียว ไม่ว่าจะเป็น เลือดเป็ดก้อน, กระเพาะวัว, ไส้วัว, แฮม, เต้าหู้ รวมถึงผักต่างๆ ต้มในน้ำซุปรสเผ็ดเข้มข้นที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศ ทำให้ได้รสชาติที่เผ็ดร้อนและหอมเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นหม้อไฟฉบับย่อส่วน ที่รวมความเด็ดของเครื่องในและวัตถุดิบหลากชนิดในน้ำซุปสุดเผ็ดร้อน แค่ได้กลิ่นก็น้ำลายสอแล้ว
7. ซวนล่าฟัน (Suan La Fen)
เที่ยวฉงชิ่ง ทั้งที พลาดไม่ได้ต้องจัด ซวนล่าฟัน สตรีทฟู้ดยอดฮิต ไม่ว่าใครเดินผ่านก็ต้องแวะชิม วุ้นเส้นหนึบๆ ทำจากแป้งมันเทศหรือถั่วเขียว คลุกเคล้ากับน้ำซุปเปรี้ยวเผ็ดจากน้ำส้มสายชูดำ ผสมกับความเผ็ดหอมของน้ำมันพริก ทำให้ได้รสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม ครบรสในคำเดียว ท็อปปิ้งหลักๆ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ถั่วลิสงทอดกรอบที่เพิ่มสัมผัสเคี้ยวมัน และผักดองเสฉวนที่ให้ความเปรี้ยวซ่า รวมกันแล้วกลายเป็นจานที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติและเสน่ห์แบบฉงชิ่งแท้ๆ
8. หมาโผโต้วฝุ (Mapo Doufu)
ยังคงอยู่กับอาหารรสจัดจ้านอย่าง หมาโผโต้วฝุ หนึ่งในอาหารที่เป็นหน้าเป็นตาของมณฑลเสฉวน ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดแบบจัดหนักจัดเต็ม ใส่วัตถุดิบง่ายๆ อย่าง เต้าหู้อ่อนเนื้อเนียน, หมูหรือเนื้อบด, เต้าเจี้ยวพริกหมัก, น้ำมันพริก และพริกเสฉวน มาผัดรวมกันจนกลายเป็นเมนูเต้าหู้ที่เผ็ดร้อนจนลิ้นชา ซึมเข้าเนื้อเต้าหู้อย่างแนบเนียน กลิ่นหอมๆ จากเครื่องหมักและน้ำมันพริกจะตีขึ้นจมูก ใครคิดว่าเต้าหู้จืดชืด ต้องลองเมนูนี้ แล้วจะรู้ว่าเต้าหู้ก็แซ่บเป็น ส่วนใครไม่ใช่สายแซ่บ แต่อยากลองเมนูนี้ ก็สามารถลดปริมาณพริก และน้ำมันพริกลงได้นะ
9. โหยวชา (You Cha)
ถึงแม้ชื่อเมนูจะแปลตรงตัวว่า “น้ำชา” แต่ก็ไม่มีใบชาแม้แต่นิดเดียวกับ โหยวชา อาหารฉงชิ่ง ท้องถิ่นที่ตอนนี้หากินยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังมีร้านอาหารบางแห่งในย่านเก่าๆ ที่ยังเก็บสูตรดั้งเดิมไว้ เป็นอาหารเช้าหน้าตาคล้ายๆ โจ๊กเนื้อละเอียด ซึมซับรสเผ็ดเบาๆ จากน้ำมันพริก เครื่องเทศ และเครื่องปรุงรสจัดแบบฉบับเสฉวน จากนั้นจะโรยหน้าด้วยปาท่องโก๋แท่งเล็กกรุบกรอบ เมื่อคลุกทุกอย่างเข้าด้วยกันจะได้รสสัมผัสนอกกรอบในนุ่ม เป็นเมนูที่ให้พลังงานตอนเช้าแบบเบาๆ อุ่นๆ ซดง่าย แต่ก็มีรสชาติเข้มพอให้ตื่นจากความง่วง เหมาะสำหรับอากาศเย็นในฉงชิ่งมากเลยล่ะ
10. บัวลอยจีน (Tangyuan)
ปิดท้ายด้วยขนมหวาน ล้างปากจากรสเผ็ดจัดจ้านของเมนูก่อนๆ กับ บัวลอยจีน ขนมหวานดั้งเดิมของจีน ทำจากแป้งข้าวเหนียว ปั้นเป็นก้อนกลมๆ เนียนๆ แล้วนำไปต้มจนสุก เสิร์ฟในน้ำเชื่อมหรือซุปใสหวานเบาๆ ทำให้ได้รสชาติหวานหอมและเหนียวหนึบ ในยุคแรกๆ เป็นบัวลอยธรรมดา ไม่มีไส้ ต่อมาได้มีการปรับปรุงพัฒนาสูตรเป็นไส้แบบต่างๆ ได้แก่ ถั่วแดง ถั่วลิสง หรืองาดำ เป็นเมนูที่นิยมทำกินกันในโอกาสพิเศษอย่าง เทศกาลโคมไฟ วันตรุษจีน วันแต่งงาน หรืองานรวมญาติ เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะวันธรรมดา หรือเทศกาลไหนๆ แค่ได้ซดน้ำหวานร้อนๆ เย็นๆ กัดเจอไส้เยิ้มๆ ก็อร่อยไปทั้งวันแล้ว
อ่านมาถึงตรงนี้ พี่เห็ดเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเริ่มหิวแล้วแน่ๆ ถึงแม้ว่า อาหารฉงชิ่ง อาจจะขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดร้อนสะท้านลิ้น แต่นี่แหละคือเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากที่ไหน ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราววัฒนธรรม และหัวใจของคนท้องถิ่น ฉะนั้นถ้าใครมีโอกาสได้ไป ทัวร์ฉงชิ่ง ก็อย่าลืมเตรียมกระเพาะให้ว่าง เตรียมลิ้นให้พร้อม แล้วเปิดใจให้รสชาติที่อาจจะแสบลิ้นหน่อย แต่จะทำให้ทุกคนตกหลุมรักอย่างแน่นอน