ตลาดคริสต์มาส เป็นงานเทศกาลระดับโลกที่หลายคนตั้งตารอ เพราะเป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นเพียงปีละครั้งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนธันวาคม หลายประเทศทั้งในแถบเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ต่างก็มีจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ประดับไฟระยิบระยับ มีซุ้มขายอาหารและของน่ารักๆ พร้อมกิจกรรมสนุกๆ มากมาย ผู้คนก็ออกมาเที่ยวงานกันอย่างคึกคักเลยค่ะ แถมช่วงนี้ยังตรงกับฤดูหนาวในหลายประเทศ ทำให้บรรยากาศโรแมนติกขึ้นไปอีก วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยจะขอพาทุกคนไปเช็คลิสต์ 7 ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดเมื่อไป เที่ยวตลาดคริสต์มาส มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันได้เลย
1. เดินชมไฟประดับ
การประดับไฟถือเป็นของคู่ ตลาดคริสต์มาส เลยก็ว่าได้ แต่ละตลาดจะมีการตกแต่งอย่างสวยงาม ประดับไฟ LED ตามต้นไม้ ซุ้มประตู ทางเดิน ทำเป็นอุโมงค์ไฟ หรือรูปต่างๆ ให้คนที่มาเที่ยวได้ถ่ายรูปกัน รวมถึงต้นคริสต์มาสที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลก็จะมีการตกแต่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละที่ด้วยค่ะ เช่น Roppongi Hills Christmas Market ในย่านรปปงงิ ประเทศญี่ปุ่น มีการประดับไฟ LED กว่า 800,000 ดวง เป็นระยะทางกว่า 400 เมตร สว่างไสวไปทั้งถนนเลย หรือจะเป็น Yebisu Garden Place Illumination & Christmas Marche ในย่านเอบิสึ ที่มีไฮไลต์อย่าง โคมระย้าจากแบรนด์ Baccarat เป็นหนึ่งในโคมไฟระย้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยไฟกว่า 250 ดวง และชิ้นส่วนคริสตัล 8,472 ชิ้น พอเปิดไฟแล้วระยิบระยับตระการตาสุดๆ
2. เมนูคริสต์มาสแสนอร่อย
อีกหนึ่งไฮไลต์ของการมา เที่ยวตลาดคริสต์มาส ก็คือ อาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อย แค่เดินเข้างานก็เชื่อว่าทุกคนจะต้องได้กลิ่นหอมๆ ลอยมาเตะจมูกแล้ว เมนูในแต่ละที่จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน หากเป็นตลาดแถบยุโรปก็มักจะเป็นพวก เบอร์เกอร์ พิซซ่า ไส้กรอก พาย วาฟเฟิล คุกกี้ หรือขนมปังขิง ถ้าข้ามมาฝั่งเอเชียก็มักจะมีอาหารท้องถิ่นผสมกันไปด้วยค่ะ เมนูเด็ดที่อยากให้ทุกคนลองคือ ชีสราเคล็ตต์ (Raclette) ที่นำชีสก้อนใหญ่ๆ ไปอุ่นร้อนแล้วปาดลงบนขนมปัง มันฝรั่งต้ม แตงกวาดอง หรือวัตถุดิบอื่นๆ, ไส้กรอกเยอรมัน (Bratwurst) ย่างบนเตาหอมๆ เสิร์ฟพร้อมซอสมัสตาร์ด และ ไวน์ร้อน (Mulled Wine) ไวน์อุ่นๆ ผสมน้ำตาล ผลไม้ และเครื่องเทศ เช่น อบเชย กานพลู รสหวานหอมอร่อย ช่วยคลายหนาวได้ดีมาก หรือจะเป็นเมนู ช็อกโกแลตร้อน (Hot Chocolate) ก็อร่อยไม่แพ้กัน แม้จะเป็นเมนูเบสิกแต่บอกเลยว่าแต่ละที่เขาก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน อาจจะเป็นสูตรเข้มข้น ใส่มาร์ชแมลโลว์ ใส่วิปครีม หรือบางที่ก็มีขนมที่ทำเป็นรูปคุณลุงซานต้าให้ทานคู่กันด้วย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องลอง!
3. แก้วลายลิมิเต็ดน่าสะสม
เครื่องดื่มที่จำหน่ายใน ตลาดคริสต์มาส มักจะเสิร์ฟในแก้วมัคที่ออกแบบมาสำหรับปีนั้นโดยเฉพาะ จึงกลายเป็นของสะสมลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้อีก และบางตลาดยังมีหลากหลายลายให้สะสมด้วยค่ะ นอกจากนี้ตลาดทางฝั่งยุโรปก็มักจะมีระบบมัดจำแก้ว โดยใช้แก้วเซรามิกสวยๆ แทนแก้วพลาสติกหรือแก้วกระดาษ และเก็บค่ามัดจำแก้วเพิ่มนอกเหนือจากราคาเครื่องดื่ม เมื่อเราดื่มหมดก็สามารถนำแก้วไปรีฟิลได้ แถมยังได้ส่วนลดด้วย หรือนำแก้วไปคืนที่ซุ้มเพื่อรับเงินมัดจำคืน แต่หากใครอยากเก็บเป็นที่ระลึกก็สามารถเอากลับบ้านได้เลยค่ะ
4. ช้อปปิ้งสินค้าคริสต์มาส
ใครชอบช้อปปิ้ง หรือกำลังมองหาของขวัญคริสต์มาสเก๋ๆ มา เที่ยวตลาดคริสต์มาส ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะในงานจะมีร้านค้ามาออกบูธมากมาย ตลาดที่ใหญ่มากๆ จะมีจำนวนเป็นร้อยร้านเลยทีเดียวค่ะ บางแห่งก็จะตกแต่งเป็นซุ้มไม้ตามแบบ ตลาดคริสต์มาส ดั้งเดิมของเยอรมัน ทำให้บรรยากาศดูน่ารักอบอุ่น ของที่ขายก็หลากหลายมาก ตั้งแต่ของตกแต่งคริสต์มาส เทียนหอม เครื่องประดับ สินค้าแฮนด์เมด ของเล่น ตุ๊กตา พวงกุญแจ ของแต่งบ้าน ไปจนถึงขนมต่างๆ ในวันสุดท้ายบางร้านอาจมีการลดแลกแจกแถมด้วยนะ ซึ่งตลาดคริสต์มาสของบางประเทศก็อาจจะมีความพิเศษกว่าที่อื่น อย่างในอิตาลีที่มี ลาเบฟานา (La Befana) เป็นตัวละครแม่มดขี่ไม้กวาด คอยแจกของขวัญให้เด็กๆ ถือเป็นคาแรกเตอร์ประจำของที่นี่ ลายสินค้าต่างๆ จึงมีความพิเศษไม่เหมือนที่ไหนเลยค่ะ
5. การแสดงและกิจกรรม
เสียงเพลงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ใน ตลาดคริสต์มาส หลายๆ ที่จะมีโชว์หลากหลายให้ชมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรีสด วงดนตรีขับร้องประสานเสียง โชว์เต้นรำ มายากล หรือการแสดงพิเศษอื่นๆ เพิ่มสีสันให้บรรยากาศคึกคัก นอกจากนี้บางแห่งยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปให้ร่วมสนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เช่น ทำของตกแต่งคริสต์มาส ทำการ์ด สโนว์บอล ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละวัน แนะนำให้เช็กตารางกิจกรรมล่วงหน้าก่อนไป จะได้ไม่พลาดโชว์เด็ดหรือเวิร์กช็อปที่อยากลองกันนะคะ
6. สวนสนุก
พาเด็กๆ มา เที่ยวตลาดคริสต์มาส ไม่ต้องกลัวเบื่อเลยค่ะ เพราะหลายๆ ที่จะมีเครื่องเล่นสนุกๆ มาให้บริการด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ หรือซุ้มเกมต่างๆ แต่หากเป็นงานใหญ่ๆ อย่าง Hyde Park Winter Wonderland ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีเครื่องเล่นรวมกว่า 150 ชนิด เช่น Munich Looping รถไฟเหาะสุดหวาดเสียว หมุนตีลังกาถึง 5 รอบ และ Aeronaut Starflyer เครื่องเล่น Starflyer ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พาลอยขึ้นไปสูง 80 เมตร และหมุนวนไปรอบๆ ราวกับกำลังเหาะอยู่ในอากาศเลย
7. ลานสเกตน้ำแข็ง
นอกจากเครื่องเล่นแล้วบางจุดที่จัดงานใหญ่ๆ ก็จะมี ลานสเกตน้ำแข็ง พร้อมอุปกรณ์ให้เช่าด้วยค่ะ เช่น ตลาดคริสต์มาส Heinzels Wintermärchen ในเมืองโคโลญ (Cologne) ประเทศเยอรมนี มีลานสเก็ตน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ทอดยาวเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร พร้อมลานสำหรับเล่นเคอร์ลิ่งสไตล์บาวาเรีย ส่วน ตลาดคริสต์มาส ลา เดฟ็องส์ (La Défense Christmas Market) ในฝรั่งเศส ก็มีลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดใหญ่ถึง 540 ตารางเมตรเลยทีเดียว ใครอยากเล่นแนะนำให้สวมเสื้อผ้าอุ่นๆ เตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อม และอย่าลืมเตรียมถุงมือไปด้วยนะ เพราะเป็นข้อบังคับของที่นี่
ใครวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวช่วงปลายปี ต้องลองไป เที่ยวตลาดคริสต์มาส ของประเทศนั้นๆ ดูนะคะ เพราะบรรยากาศของแต่ละที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนกันเลย แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาวางแผนการเดินทางเอง กดจอง ทัวร์ต่างประเทศ ไปกับมัชรูมทราเวล พี่เห็ดก็มีโปรแกรมที่พาเที่ยวพร้อมเช็กอิน ตลาดคริสต์มาส ด้วยเช่นกัน รีบจองแล้วมาออกไปฉลองความสุขส่งท้ายปีด้วยกันนะ
