Mushroom Travel

Incredible India อินเดีย ไม่ลองก็ไม่รู้ : )

รีวิว เที่ยวอินเดีย

ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมา รีวิว เที่ยวอินเดีย บอกเล่าประสบการณ์เที่ยวอินเดียกับสถานที่สวยๆ ฮิตๆ ที่หลายคนอยากไปเยือนด้วยตัวเองสักครั้ง จะดีงามแค่ไหน ตามไปชมกันค่ะ


Incredible India อินเดีย ไม่ลองก็ไม่รู้ : )

ขอถอนคำพูด
ว่าอินเดียไม่ควรมารอบเดียวจริงๆ
26-29/4/2561
: )

ด้วยความที่อยู่ดีๆ ก็อยาก มาอินเดีย อยากมา Jaipur มากๆ เพราะเห็น รีวิว เที่ยวอินเดีย หลายอันออกมาสวยมาก
ถามว่ากลัวมั้ย ตอบได้ก็กลัวมาก 55
ด้วยความที่ปกติเวลาไปเที่ยว ก็มักจะไปไหนคนเดียวตลอดอยู่แล้ว แต่ มาอินเดีย เออ ไม่ไหวจริงๆ คือต้องมีเพื่อนมาด้วย ก็เลยชวนเพื่อนมาอีก 1 คน เอาทุกอย่างไปล่อลวงมันให้มาด้วย ล่อลวงด้วยสายตาและคำพูด 55 สุดท้ายก็ยอมมา

แต่ไหนๆ มาถึงอินเดีย มันก็ต้องมาเหยียบ Taj Mahal มั้ย ในฐานะที่เขาได้เป็น 7 wonders of the world หลังจากเปิดแมพดูก็พบว่า เมือง Agra ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Taj Mahal อยู่ห่างจาก Jaipur ประมาณ 4-5 ชม. ตอนแรกว่าจะนั่งรถไฟ แต่ก็ไม่กล้า เลยยอมจ้างคนขับรถซึ่งพ่วงค่าน้ำมันเรียบร้อยแล้ว ราคาก็ตกประมาณ คนละ 3,000 บาทนิดๆ เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ เรื่องอื่นทุ่มได้ เรื่องเที่ยวก็ทุ่มได้ 55 โดยติดต่อให้พี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนช่วยปรับเปลี่ยนแผนที่เราได้วางไว้ว่าเราอยากไปไหนบ้าง จัดระยะสถานที่เที่ยวที่เดินทางใกล้ๆ กันให้อยู่ในวันเดียวกัน

ส่วนตั๋วเครื่องบิน ก็บิน thai smile บินตรงมาลง Jaipur ด้วยความที่จองล่วงหน้าเกือบ 4 เดือน จึงได้ตั๋วไปกลับราคาประมาณ 6,000กว่าบาทเท่านั้น : )

มาถึง Jaipur เวลาเช้าตรู่ ประมาณหกโมงเช้า
คนขับรถก็มารับที่สนามบิน แล้วก็รีบตรงไปที่เมือง Agra ก่อนเนื่องจากเป้าหมายของเราในวันนี้คือ Taj mahal
ซึ่งเหตุผลที่ต้องมาวันนี้เนื่องจาก Taj Mahal จะปิดให้เข้าชมทุกวันศุกร์นะ

ขับมาได้สักระยะ คนขับก็พากินข้าวเช้าข้างทาง
Street และ local มากๆ ORS ในกระเป๋านี่สั่นคลอนไปหมด 55
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนขับรถในอินเดียคือ ใครบีบแตรดังกว่าคนนั้นชนะนะ 55 บีบกันเข้าไปเถอะ แตรของแต่ละคันเสียงก็ไม่เหมือนกันด้วยนะ มันเป็นสไตล์ : )

Local มั้ย 55 แต่จำชื่อเรียกไม่ได้แล้วอ่ะ

ที่แรกที่เราแวะคือ Chand Baori Stepwell
รีวิว เที่ยวอินเดีย นี้ประวัติศาสตร์เราจะไม่เน้น 55
ที่อยากมาก็เพราะ มันสวยมาก แล้วพอมาถึงก็คือ แม่มสวยจริงๆ ว่ะ
เหตุผลข้อสองที่ทำให้อยากมาก็คือ มันเป็นสถานที่ถ่ายทำ Batman นั่นเอง

Chand Baori Stepwell

และแล้วเราก้อมาถึง 7 Wonders
คือถือได้เลยว่า Taj Mahal เป็น 7 wonders ที่แรก ที่เราได้มา
การเข้าชมก็จะปิดซื้อตั๋วประมาณ 17.30 น.
ปิดทุกวันศุกร์ เน้นย้ำๆ
ถือ passport ไทย จะได้ลดราคาค่าเข้าชมเหลือ 530 รูปี
หลังจากนั้นก็จะได้ถุงคลุมรองเท้ากับน้ำเปล่าคนละ 1 ขวด

It’s a perfect symmetry

มาอินเดีย แล้วไม่ได้มาที่นี่ เหมือนมาไม่ถึงอินเดียนะ

Taj Mahal

แม่น้ำด้านหลัง คือแม่น้ำยุมนา
มองไปไกลๆ ลิบๆ จะเห็น Agra Fort ซึ่งเราจะไปกันในวันพรุ่งนี้

ตอนเย็นใกล้พระอาทิตย์ตก พวกเราได้ไปกันที่ Metah Bargh ซึ่งแปลว่า moonlike garden ซึ่งสามารถมองเห็น Taj Mahal ได้จากด้านหลัง ซึ่งในสมัยก่อน จะมีบ่อน้ำใหญ่ เวลากลางคืนจะสะท้อนเงาของ Taj Mahal

วันที่สองเราแวะมาที่ Agra Fort ก่อนเดินทางกลับ Jaipur ซึ่ง Agra Fort ที่ได้เข้าชมนั้น เป็นเพียง 15% จากทั้งหมดเท่านั้น ขนาดเพียง 15% ยังใช้เวลาเดินและถ่ายรูปเกือบสองชม.กว่าแน่ะ

ความยิ่งใหญ่ของ Agra Fort นี่แค่เพียงทางเข้าเท่านั้น

มีความเดินไปก็ร้องโอ่โหไปตลอดทาง

เหนื่อยแล้วอ่ะ ขอนั่งพักก่อนนะ : )

เล่นแสงเล่นเงา

Happy กับความยิ่งใหญ่นี้ 55 เหมือนคนบ้าเนอะ

รูปที่ Agra Fort ถ่ายมาได้หลายมุมมากๆ

ลาแล้วนะ Agra Fort ไว้พบกันใหม่ถ้ามีโอกาส : )
เรากลับมาที่ Jaipur ซึ่งคือจุดมุ่งหมายแรกของเรา
มาถึงก็ต้องตรงไปที่ Hawa Mahal หรือ พระราชวังสายลม ก่อนเลย คือมันเป็นความประทับใจที่ เออ สวยอ่ะ สวยจริงๆ

กลับมาที่ Jaipur นครสีชมพู
ที่แรกที่เรามาคือ Hawa mahal หรือพระราชวังสายลม
ซึ่งภายในสามารถเข้าชมได้ แต่เราตัดสินใจว่าไม่เข้าดีกว่า 55
โดยเวลาที่สวยที่สุดน่าจะเป็นช่วงเช้าเพราะแดดส่องเข้า Hawa mahal พอดี
โดยด้านหน้า Hawa mahal จะมี cafe 2 ร้าน คือ wind view cafe และ tattoo cafe ซึ่งสามารถขึ้นไปด้านบนและถ่ายรูปได้

ทางเดินขึ้นไปยัง Cafe ทั้งสองร้าน

Indian lifestyle

ระหว่างทางที่เดินจาก Hawa mahal ไปยัง pink square ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งใน Jaipur
โดยเมือง Jaipur เองจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ new city และ pink city ซึ่ง new city ก็จะเป็นเมืองใหม่ตามชื่อ ดูสะอาดและเรียบร้อยกว่า
ปล. ใครที่ มาอินเดีย เดินๆ ไปเลยนะตามถนน 55 รับรองไม่ชนแน่นอน เพราะพิสูจน์มาแล้ว เดินๆ ไปก็จะได้ยินเสียงบีบแตร ให้ทำใจร่มๆ ไว้ ห้ามหัวร้อนนะ

วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ได้เที่ยวเต็มวันใน Jaipur จริงๆ แล้วใน Jaipur เอง สถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆ วันเดียวเที่ยวไม่พอแน่นอน แต่เนื่องจากเวลาเรามีไม่มาก ก็ต้องเลือกๆ ทิ้งไปบ้าง เอาไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่

Panna Meena Ka Kund
อันนี้คือบ่อเก็บน้ำ คล้ายๆ Chand Baori
ความอลังการอาจจะน้อยกว่า แต่ว่าก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
ปล.จ่ายคนเฝ้าไปประมาณ 200 รูปี จึงจะลงไปวิ่งเล่นตรงบันไดได้นะ
หลังจากนี้เราจะขึ้นต่อไปที่ Amber Fort กัน

มาถึงที่ Amber fort จริงๆ แล้วสถานที่ท่องเที่ยวในอินเดียเวลาเปิดปิดจะใช้คำว่า open at sunrise , close at sunset ดังนั้นห้ามโดนคนขับรถหลอกนะ เพราะโดนหลอกมาละ เซ็งแม่ม แทนที่จะได้ไปเที่ยวถ่ายรูปตอนคนน้อยๆ
เป็นป้อมปราการที่สร้างบนผาหินที่มีทะเลสาบอยู่ด้านล่าง ที่นี่จะสามารถขึ้นไปชมได้ 3 แบบ คือ เดิน นั่งรถจี๊ป นั่งช้าง คือมีมุมสวยมากที่สามารถเก็บ amber fort สะท้อนผืนน้ำได้ แต่พลาด!! ลืมแวะ เศร้าแฮง

Top view of Amber Fort

บอกได้เลยว่า เดินไปเดินมามีหลง 55 ทางค่อนข้างซับซ้อนในระดับหนึ่ง

อันนี้คือ tiger fort ที่อยู่ด้านบนของ Amber fort รอบนี้ไม่ได้ไป เพราะว่าเวลาไม่พอ รอบหน้ากลับมาแน่นอน : )

Tiger Fort

This is pink city , Jaipur

มา รีวิว เที่ยวอินเดีย ต่อกันที่ City Palace

City Palace พระราชวังซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 1 ใน 7 ของใจกลางเมือง โดยมีกำแพงล้อมรอบสีชมพู ภายในแบ่งเป็นพิพิธภัณฑ์และส่วนรอบๆ ที่สามารถเข้าชมได้โดยเสียค่าเข้าชม 500 รูปี แต่ถ้าจะเข้าจะไปชมในส่วนพระราชวังจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 2,500 รูปีต่อคน โดยจะได้เดินเข้าไปในส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ king ปัจจุบันยังคงอาศัยอยู่ มีชุดน้ำชาให้ได้เข้าไปทำตัวเป็นมหาราชาและมหารานี เพราะระหว่างที่เข้าชมมีไกด์ส่วนตัวคอยประกบด้วย
ไหนๆ ก็ไหนๆ มาระดับนี้ ด้วยความที่ the must ของ city palace มันอยู่ใน zone พื้นที่ส่วนตัว 2,500 รูปีก็ปลิวไปอย่างง่ายๆ 55
ปล.เอาบัตรนักศึกษามาลดเหลือ 1,500 รูปีนะ
ปล2. ที่ Jaipur ไม่ค่อยมี campaign แบบ Agra ที่ว่ามีส่วนลดจาก passport นะ

เพลง Sticker ต้องมา “ให้มันเป็นสีชมพู” 55

ใน City Palace เอง มุมถ่ายรูปสวยๆ ก็เยอะมากเช่นกัน

มาต่อกันเลยกับ part ที่เหลือนะครับ

อันนี้คือในส่วนของ private zone คือแบบอันนี้คือเห็นแล้ว เออ กุต้องมาอ่ะ
นี่คือห้อง blue room ซึ่งสุดๆ ติดตาตรึงใจ
สีที่ทาเป็นสีฟ้า ไกด์บอกว่าสกัดมาจากธรรมชาติ เป็นสี indigo หรือครามนั่นเอง

อันนี้เป็นห้องที่ไกด์บอกว่า ครอบครัวของ king มักจะมาใช้ห้องนี้ในฤดูหนาว ห้องนี้ก็คือเพดานทั้งหมดเป็นกระจกที่แกะเป็นลวดลาย เวลาจุดเทียนก็จะสะท้อนไปมา คุณไกด์จุดเทียนให้ดูเป็นตัวอย่างด้วย สวยงามสุดๆ

อันนี้เป็นห้องที่ทาด้วยทองทั้งห้อง

ส่วนใหญ่ห้องนี้จะเอาไว้ใช้เทศกาลดิวาลี เทศกาลที่มีพลุ แล้วก็บูชาไฟแด่พระลักษมี

จากชั้นบนสุดของ City Palace

ประตูที่เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ ของ 4 ฤดู
สวยงามแตกต่างกัน
ประตูสุดท้าย ซึ่งเป็นประตูลายนกยูง รายละเอียดคือสวยมาก แต่ตอนเราไปคือเป็นช่วงที่แดดส่อง เลยถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

Jantra mantra
World heritage 2010
เป็นหอดาราศาสตร์กลางแจ้ง ซึ่งไปดูก็ยังงงๆ ว่ามันดูยังไงว้า แต่ก็คือต้องนับถือสติปัญญาของคนสมัยก่อนมากว่าคิดได้ไง

ที่สุดท้ายก่อนกลับไทย
คือ Patrika gate at Jawahar circle
จริงๆ แล้วอันนี้คือต้องมาช่วงแสงเช้า จะถ่ายรูปสวยมาก ด้านในนี่คือต้องไปถ่ายรูป ให้ประตูทะลุถึงกันเป็นชั้นๆ
ก็จบไปแล้วสำหรับการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวของเรา ซึ่งเป็นกระทู้แรก ไว้มีโอกาสจะมารีวิวใหม่เรื่อยๆนะครับ ขอบคุณนะครับ

ขอบคุณ Guest สุดพิเศษ สมาชิกหมายเลข 4516928 สังกัด Pantip จากกระทู้ “[CR] Incredible India อินเดีย ไม่ลองก็ไม่รู้ : )” ที่มา รีวิว เที่ยวอินเดีย พาเที่ยวสถานที่สวยๆ สุดฮิตที่ควรไปเยือนให้ได้แบบจัดเต็ม ได้รับเสียงปรบมือจากเราไปเลย!!
ระดับความน่าไป :
✩✩✩✩✩


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์อินเดีย ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

Incredible India อินเดีย ไม่ลองก็ไม่รู้ : ) was last modified: May 9th, 2019 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version