เตรียมตัวไปเที่ยวต่างประเทศอย่างดี ทุกอย่างพร้อม แต่ดันพลาดเรื่องอินเตอร์เน็ตซะอย่างนั้น พอถึงหน้างานถึงกับวิ่งวุ่น อย่างนี้ไม่เอานะ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว! ยิ่งถ้าเป็นประเทศจีนด้วยล่ะก็ ปวดหัวคูณสิบ เพราะจีนมีระบบที่บล็อกแอปและเว็บไซต์ต่างประเทศหลายอย่าง เช่น YouTube, Instagram, Facebook, LINE, TikTok หรือบริการของ Google ทั้งหมด ทำให้ถ้าเลือกอินเทอร์เน็ตผิดประเภท อาจใช้งานบางแอปไม่ได้ทันที บทความนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยจะพาไปดูว่า เที่ยวจีน ใช้เน็ตยังไง มัดรวมครบทุกวิธี เพื่อให้เที่ยวได้ลื่น ไม่โดนบล็อกแอป และใช้ชีวิตที่นั่นได้สบายๆ เหมือนคนท้องถิ่น จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกัน
1. การเปิดใช้งานโรมมิ่ง จากเครือข่ายมือถือที่ใช้อยู่
เที่ยวจีน ใช้เน็ตยังไง ? ต้องนี่เลย วิธีแรกเป็นการเปิด โรมมิ่ง (Roaming) ซึ่งเป็นการใช้เครือข่ายมือถือของไทยเองในต่างประเทศ โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิม ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่ไม่อยากวุ่นวายกับอะไรใหม่ๆ
การใช้งาน และข้อจำกัดสำคัญ
– สมัครแพ็คเกจโรมมิ่งจากค่ายมือถือ (AIS / True / Dtac) ล่วงหน้าก่อนเดินทาง
– ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi ท้องถิ่นในจีน หรือ ห้ามต่อ Wi-Fi สาธารณะเด็ดขาด เพราะจะทำให้มือถือเปลี่ยนไปใช้อินเทอร์เน็ตจีนแทน แล้วแอปต่างๆ จะถูกบล็อกทันที
– ปิดบริการที่ใช้ข้อมูลตำแหน่งของอุปกรณ์ (Location Service) บางค่ายแนะนำให้ปิดก่อนบิน เพื่อป้องกันการจับสัญญาณผิดพื้นที่
– เปิด Data Roaming เมื่อถึงจีน สัญญาณจะเชื่อมต่ออัตโนมัติ
ข้อดี
– สะดวกสุดๆ ไม่ต้องเปลี่ยนซิม
– มีแพ็กเกจให้เลือกที่เหมาะกับการใช้งานของเรา ไม่ต้องกลัวเน็ตไหล
– ใช้เบอร์เดิมรับ OTP หรือ SMS จากธนาคารได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องทำธุรกรรมสำคัญต่างๆ ทั้งยังสามารถรับสาย และโทรออกได้ตามปกติ แต่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
– บริการส่วนใหญ่ ไม่ถูกบล็อก เพราะวิ่งผ่าน Gateway ไทยหรือฮ่องกง
– เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความชัวร์ ไม่เสี่ยงโดนบล็อก
– หากเน็ตหมดสามารถซื้อเพิ่มได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตเยอะๆ
ข้อเสีย
– ราคาสูงกว่าวิธีการใช้งานอินเทอร์เน็ตวิธีอื่นๆ
– ถ้า ใช้เน็ตในจีน เยอะ มีโอกาสสปีดลดลงตามแพ็กเกจ
– อินเทอร์เน็ตบางค่ายช้า สัญญาณอาจไม่แรงเท่าซิมท้องถิ่น
– ถ้าลืมปิด Wi-Fi อาจถูกสลับเป็นเน็ตจีน ทำให้หลายแอปถูกบล็อก
วิธีการเปิดโรมมิ่ง IOS & Android
– สำหรับระบบ IOS : เลือก Settings > Cellular > Cellular Data Options > เปิด/ปิด Data Roaming
– สำหรับระบบ Android : เลือก Settings > Cellular > Cellular Plans > เปิด/ปิด Data Roaming
2. การซื้อ Travel Sim เล่นเน็ตต่างประเทศ
Travel Sim เป็นซิมสำหรับเล่นอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศ ซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่ที่ไทยก่อนออกเดินทาง เพื่อเอาไปใช้ในจีน แต่ใช้ Gateway จากประเทศอื่น เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นซิมโรมมิ่งต่างประเทศ ทำให้ไม่โดนบล็อกแอปพลิเคชันใดๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้ Google Maps เล่นโซเชียลมีเดีย ทำงาน หรือคนที่ไม่อยากปวดหัวเรื่อง VPN วิธีนี้นับเป็นวิธีที่สะดวก และมีคนใช้กันค่อนข้างเยอะ
การใช้งาน และข้อจำกัดสำคัญ
– ซื้อซิมตั้งแต่ในไทย มีให้เลือกหลายเครือข่าย หลายแพ็กเกจ สามารถหาซื้อได้ตามศูนย์เครือข่ายมือถือทั่วไป หรือจะซื้อในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee ก็ได้ โดยระบุว่าเดินทางไปประเทศจีน พร้อมบอกจำนวนวันเดินทาง ปริมาณอินเทอร์เน็ตที่ต้องการใช้ ทั้งนี้ต้องเลือกซื้อจากร้านที่มีรีวิว เชื่อถือได้
– สามารถตั้งค่าเพิ่มซิมก่อนบินหรือหลังจากลงเครื่องก็ได้
– เปิดโรมมิ่งตามที่ซิมกำหนด (บางยี่ห้อไม่ต้องเปิด)
– ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi ท้องถิ่นในจีน หรือ ห้ามต่อ Wi-Fi สาธารณะเด็ดขาด เนื่องจากแอปต่างๆ จะถูกบล็อกทันที
– ปิดบริการที่ใช้ข้อมูลตำแหน่งของอุปกรณ์ (Location Service) เพื่อป้องกันการจับสัญญาณผิดพื้นที่
– ต้องจำรายละเอียดของซิมให้ดีว่าใช้ได้ตั้งแต่วันไหน ปริมาณอินเทอร์เน็ตกี่ GB เพื่อป้องกันปัญหาใช้งานอินเทอร์เน็ตก่อนวันที่ออกเดินทาง และอินเทอร์เน็ตอาจจะหมดก่อนจบทริป
– ตั้งค่า APN (Access Point Name) ตามคู่มือ (ถ้ามี) ซึ่งเป็นการกำหนดค่าให้โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายผู้ให้บริการ
ข้อดี
– ใช้แอปต่างๆ อย่าง Google, YouTube, Instagram, LINE หรือ TikTok ได้หมด เพราะใช้ Gateway ฮ่องกงหรือสิงคโปร์
– ไม่ต้องเปิด VPN
– ราคามาตรฐาน ไม่แพงมาก
– หาซื้อง่ายมาก มีขายทางออนไลน์ในหลายแพลตฟอร์ม
ข้อเสีย
– สัญญาณอาจจะสู้ซิมจีนแท้ไม่ได้ 100% แต่ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
– บางซิมมี FUP (Fair Usage Policy) ทำให้ความเร็วลดลงหลังจากใช้ไปจำนวนหนึ่ง
– บางซิมไม่สามารถโทรออกได้ เพราะซื้อมาแต่แพ็กเกจการใช้งานอินเตอร์เน็ต
3. การซื้อซิมท้องถิ่นของจีน
เที่ยวจีน ใช้เน็ตยังไง วิธีนี้ใช้งานไม่ยาก เพราะเป็นการซื้อ ซิมจีน ของแท้ มีหลายค่ายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น China Mobile, China Unicom หรือ China Telecom ทำให้ได้สัญญาณครอบคลุม แข็งแกร่งที่สุด เหมาะกับคนที่เน้นความเสถียร และใช้ WeChat, Alipay, Baidu Map หรือแอปจีนต่าง ๆ
การใช้งาน และข้อจำกัดสำคัญ
– สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่สนามบินไปจนถึงร้านในเมือง โดยจะต้องใช้พาสปอร์ต เพื่อซื้อซิม
– เลือกแพ็กเกจที่ต้องการ
– เปิด VPN ก่อนบิน ถ้าลืมอาจเข้าเว็บไม่ได้ เมื่อถึงจีน
– ใส่ซิมแล้วเปิดโรมมิ่งภายในจีน (บางค่ายเชื่อมต่ออัตโนมัติ แต่บางค่ายอาจจะต้องเปิดเอง)
ข้อดี
– สัญญาณการ ใช้เน็ตในจีน ดีที่สุด เสถียรมาก ครอบคลุมทุกเมือง
– ราคาไม่แพง เน็ตคุ้มค่า ใช้ได้เยอะ
– ใช้งานทั่วไปลื่นไหลไม่สะดุด
ข้อเสีย
– แอปต่างชาติส่วนใหญ่จะถูกบล็อกหมด เช่น Google, YouTube, Instagram หรือ LINE
– ต้องโหลด VPN ล่วงหน้าก่อนบินไป
– ถ้ามือถือรองรับการใช้งานซิมเดียว ต้องถอดซิมที่ใช้ปัจจุบันออกก่อน
– ต้องใช้พาสปอร์ตลงทะเบียน
– Hotspot อาจถูกจำกัดในบางพื้นที่
4. eSIM Travel
eSIM Travel เป็นอีกหนึ่งประเภทของซิมที่สามารถเข้าถึงข้อมูลมือถือได้สะดวกและรวดเร็ว คล้ายกับซิมการ์ดทั่วไป เพียงแต่เราสามารถตั้งค่าไว้บนมือถือได้เลยแบบไม่ต้องใช้ซิมการ์ด ออกแบบมาเพื่อใช้ในการเดินทางต่างประเทศโดยเฉพาะ ทำให้สามารถดาวน์โหลดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตของจีนได้ทันที โดยไม่ต้องถอดซิมจริงออกหรือหาซื้อซิมท้องถิ่นที่สนามบิน เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่อยากถอดซิมจริง ไม่อยากพกซิมเพิ่ม
การใช้งาน และข้อจำกัดสำคัญ
– ซื้อ eSIM ออนไลน์จากเว็บหรือแอป เช่น Airalo, Holafly หรือ Nomad
– ตั้งค่าซิมในมือถือเพิ่มเติม ด้วยการสแกน QR Code จากนั้น เปิด Data Roaming (เฉพาะ eSIM) โดย QR Code ใช้ได้ 1 เครื่อง ต่อ 1 ครั้งเท่านั้น หากเกินจำนวนครั้งที่กำหนด eSIM จะใช้งานไม่ได้อีก
– ตั้งให้ eSIM เป็น Primary for Data
– ปิดการใช้ Data ของซิมหลัก เพื่อป้องกันเน็ตไทยรั่วไหล
– หากเป็น iPhone ตั้งค่า Default Line ให้ถูกซิม
– ต้องติดตั้งก่อนถึงจีน
– ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi ท้องถิ่นในจีน หรือ ห้ามต่อ Wi-Fi สาธารณะเด็ดขาด เนื่องจากแอปต่างๆ จะถูกบล็อกทันที
– ปิดบริการที่ใช้ข้อมูลตำแหน่งของอุปกรณ์ (Location Service) เพื่อป้องกันการจับสัญญาณผิดพื้นที่
ข้อดี
– สะดวก ไม่ต้องเปลี่ยนซิม
– ติดตั้งง่าย แค่สแกนก็ใช้งานได้
– เหมาะสำหรับคนที่ใช้เครื่องสองซิม หรือทำงานระหว่างเที่ยว
ข้อเสีย
– บาง eSIM เล่น TikTok ไม่ได้ หรือใช้งานบางแอปไม่ได้ แนะนำให้ดูรายละเอียดให้ดี
– สัญญาณอาจช้ากว่าซิมจริง
– บางแอปอาจต้องตั้งค่า APN เอง
– ไม่มีเบอร์ให้โทร หรือรับ SMS ส่วนใหญ่เป็นเน็ตล้วน
– มือถือรุ่นเก่าบางรุ่นไม่รองรับ eSIM
วิธีเปิดใช้งาน eSim
– สำหรับระบบ IOS : เลือก Settings > Cellular > Add eSIM > สแกน QR Code หรือ Enter Details Manually เพื่อกรอกข้อมูลของ eSIM ด้วยตนเอง > รอประมาณ 1 – 5 นาที eSIM จะถูกเพิ่มลงในเครื่อง (สามารถเปลี่ยนชื่อซิมได้) > Default Line, iMessage และ Cellular Data เลือก Primary > ที่ช่อง Allow Cellular Data Switching เลือกปิด
เมื่อถึงประเทศปลายทาง : เลือก Settings > Cellular > eSIM ที่เพิ่มลงในเครื่อง > เปิด Data Roaming > กลับไปหน้า Cellular > Cellular Data > เลือกใช้ eSIM ที่เพิ่มลงในเครื่อง
– สำหรับระบบ Android : เลือก Settings > Connections > SIM manager > Add eSIM > สแกน QR Code หรือ Enter activatiom code เพื่อกรอกข้อมูลของ eSIM ด้วยตนเอง > รอประมาณ 1 – 5 นาที eSIM จะถูกเพิ่มลงในเครื่อง (สามารถเปลี่ยนชื่อซิมได้) > Preferred SIM for calls, Preferred SIM for messages และ Preferred SIM for mobile data เลือก SIM 1 (ปิดใช้งาน mobile data ใน SIM 1 เมื่อต้องการใช้อินเทอร์เน็ตที่ต่างประเทศ)
เมื่อถึงประเทศปลายทาง : เลือก Settings > Connections > Mobile Networks > เปิด Data Roaming > Preferred SIM for mobile data เลือก eSIM ที่เพิ่มลงในเครื่อง > กลับไปที่หน้า Cellular > Cellular Plans > เปิด Data Roaming ของ eSIM
5. การเช่า Pocket WiFi
เที่ยวจีน ใช้เน็ตยังไง ตามมาดูวิธีสุดท้าย เป็นการเช่า Pocket WiFi หรือเครื่องปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการใช้เน็ต หลายอุปกรณ์พร้อมกัน
การใช้งาน และข้อจำกัดสำคัญ
– รับเครื่องที่สนามบิน หรือให้ส่งที่บ้านได้เลย
– เปิดเครื่องแล้วใช้ Wi-Fi จากตัว Pocket
– พกติดตัวตลอดเวลา ลักษณะคล้ายพาวเวอร์แบงก์ แต่ต้องระวัง หากทำหาย มีค่าปรับ
ข้อดี
– เหมาะกับการไปเป็นกลุ่ม ใช้หลายคน
– สัญญาณแรงกว่า Hotspot บางซิม
– คุ้มค่า เมื่อแชร์ค่าเช่ากันหลายคน
ข้อเสีย
– ต้องพกตลอดเวลา อาจทำให้มีน้ำหนัก
– แบตหมดง่าย ต้องชาร์จระหว่างวัน
– ถ้าคนในกลุ่มเดินแยกกัน สัญญาณเน็ตอาจจะไม่ถึง
– ใช้ในที่ไกลๆ หรือขึ้นเขา อาจสัญญาณอ่อน
– เครื่องเช่าบางเจ้าใช้ Gateway จีน หรือใช้ซิมจีน อาจโดนบล็อกแอปต่างๆ
– บางรุ่นไม่รองรับการใช้พร้อมกันหลายอุปกรณ์เท่าที่โฆษณาไว้
สุดท้ายแล้วการ เที่ยวจีน ใช้เน็ตยังไง ก็สามารถเลือกวิธีที่เข้ากับสไตล์เราได้เลย จะใช้โรมมิ่ง, ทราเวลซิม, ซิมจีน, eSIM หรือ เช่า Pocket WiFi ก็ได้หมด ขอแค่ตอบโจทย์ความสะดวกและงบของเพื่อนๆ ก็พอ แต่พี่เห็ดอยากฝากไว้นิดนึง ก่อนออกเดินทางอย่าลืม ศึกษาเงื่อนไขและข้อจำกัดของแต่ละวิธีให้ดี โดยเฉพาะเรื่องเว็บที่อาจโดนบล็อก หรือพวกแอปที่เข้าไม่ได้ จะได้ไม่งง ไม่หัวร้อนตอนอยู่ต่างแดนนะ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วตลอดทั้งทริปจะไม่ได้ต้องปวดหัว!
