Mushroom Travel

รถไฟทริป นั่ง รถไฟโนร็อคโกะ ทัวร์ฮอกไกโด!

รถไฟทริป นั่ง รถไฟโนร็อคโกะ ทัวร์ฮอกไกโด!

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวมัชรูมทราเวลทุกคนค่า วันนี้เราจะขอพาทุกคนไป ทัวร์ญี่ปุ่น กันโดยสถานที่ที่เราจะพาไปคราวนี้ก็ คือฮอกไกโด อีกหนึ่งเกาะยอดฮิตที่ชาวไทยที่เดินทางไป ทัวร์ญี่ปุ่น นิยมไปกันนั่นเอง!!

อย่างที่พวกเราทราบกันดีว่าเกาะฮอกไกโดเป็นเกาะที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองซัปโปโร ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของเกาะและยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้อีกด้วย ส่วนใหญ่พวกเรามักนิยมไปเที่ยวฮอกไกโดกันในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะมีเทศกาลหิมะและการเล่นสกีเป็นไฮไลท์สำคัญ แต่รู้หรือไม่คะว่าเกาะฮอกไกโดนั้นมีที่ให้เที่ยวตลอดทั้งปีเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นการชมดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้นานาพันธุ์ในช่วงฤดูร้อน ชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงการแช่ออนเซ็น ลิ้มลองราเมงต้นตำหรับ ชิมอาหารทะเล ผลไม้สดๆ และเบียร์ชื่อดังของฮอกไกโด!

ด้วยความสะดวกสบายในการเดินทางโดยรถไฟไปยังสถานที่ต่างๆนี้เอง วันนี้เราจะมาแนะนำสถานท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟและไฮไลท์สำคัญคือเจ้ารถไฟโนร็อคโกะ รถไฟสุดเก๋ที่ขอบอกว่าควรต้องมาลองนั่งให้ได้ซักครั้งค่ะ แต่ก่อนที่เราจะพาไปทำความรู้จักกับรถไฟโนร็อคโกะเราขอแนะนำเส้นทางเที่ยวรถไฟในฮอกไกโดกันซัก 2-3 ที่กันก่อนเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องค่ะ พร้อมแล้วตามมาเล้ย

1.ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ทำเนียบอิฐแดง) อาคารขนาดใหญ่ซึ่งทำจากอิฐสีแดงและเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของฮอกไกโด ตัวอาคารสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 มีการใช้งานมากว่า 80 ปีก่อนที่จะย้ายไปยังอาคารศาลาว่าการหลังใหม่ที่อยู่ด้านหลัง การเดินทางนั้นง่ายแสนง่ายเพียงแค่ลงรถไฟที่สถานี Sapporo Station และเดินอีกประมาณ 10 นาทีค่ะ

Cr: whiskywall.com

2. โรงกลั่นวิสกี้ Nikka Whisky Yoichi Distillery โรงกลั่นวิสกี้แห่งนี้ก่อตั้งโดย Masataka Taketsuru ชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ไปเรียนรู้เทคนิคการกลั่น Scotch Whisky ต้นตำรับที่สก๊อตแลนด์ อาคารต่างๆ และบรรยากาศดูคลาสสิคเหมือนอยู่ในประเทศสก๊อตแลนด์เลยทีเดียวค่ะ ที่สำคัญเค้ายังมีวิสกี้ให้ชิมฟรีอีกด้วย เพียงแค่นั่งรถไฟสาย JR Hakodate Line จากซัปโปโร หรือจากสถานี Otaru Station มาลงที่สถานี Yoichi Station คุณก็จะได้สัมผัสกับโรงกลั่นวิสกี้ด้วยตัวเองแล้ว

Cr: sapporo.travel

3. สวนโอโดริ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เปรียบเสมือนโอเอซิสและที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คน ในฤดูใบไม้ผลิจะมีการจัดเทศกาลดอกไลแล็ค ส่วนฤดูร้อนมีเทศกาล YOSAKOI โซรันและเบียร์การ์เด้น เป็นต้นค่ะ เพียงแค่นั่งรถไฟใต้ดินสถานีโอโดริ หรือรถไฟ JR ลงที่สถานีซัปโปโรเดินต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงแล้วว
ทีนี้มาพูดถึงพระเอกของเราคือ รถไฟโนร็อคโกะ กันบ้าง เรารับรองเลยว่าเจ้ารถไฟคันนี้ต้องถูกใจคนรักการชมวิวสองข้างทางแน่นอนค่ะ!

Cr: Le Petit King

รถไฟโนร็อคโกะสายฟูราโนะ-บิเอ (Furano-Biei Norokko Train) เป็นรถไฟบริการนักท่องเทียวที่จะเดินทางไปยังเมืองฟูราโนะ (Furano) และรถไฟโนร็อคโกะ นี้เป็นรถไฟเดียวที่จะจอดที่สถานี Lavender Tomita Farm โดยจากสถานีชั่วคราวดังกล่าวเรายังสามารถเดินไปยังฟาร์มดอกไม้ชื่อดังหรือ Tomita Farm ได้ภายในเวลาแค่เพียง 10 นาทีเท่านั้น

รถไฟโนร็อคโกะ จะวิ่งแบบช้าๆ ไปเรื่อยๆเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถดูวิวธรรมชาติที่สวยงามด้านนอกที่ผ่านไปค่ะ เสน่ห์ของ รถไฟโนร็อคโกะ คือที่นั่งโดยจะเป็นที่นั่งแบบชมวิวแล้ววิ่งเอื่อยๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวกันอย่างจุใจ เวลารถไฟเข้าใกล้จุดที่น่าสนใจ คนขับรถไฟเค้าจะชะลอรถลงและประกาศ(เป็นภาษาญี่ปุ่น)ให้ผู้โดยสารมองออกไปข้างนอกเพื่อดูทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งวิวส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งดอกไม้ที่บานสะพรั่งรวมไปถึงวิวภูเขาที่สวยงามสุดลูกหูลูกตาค่ะ โดยเฉพาะเมืองบิเอที่ได้รับฉายาว่า Town of Hills ตลอดสองข้างทางมีแต่ทุ่งข้าวบาร์เล่ย์เต็มไปหมด โดยบางโบกี้จะมีที่นั่งที่หันหน้าไปที่หน้าต่างเพื่อให้ผู้โดยสารดูทัศนียภาพอย่างสบาย และนอกจากนี้ยังมีโบกี้ที่เป็นรถช้อปปิ้ง เราสามารถซื้อของว่างง่ายๆ อาการกล่อง เครื่องดื่มและของที่ระลึกเอาไปฝากคนที่บ้านได้อีกด้วย

Cr: hokkaidox.com

รถไฟโนร็อคโกะ จะเปิดให้บริการในช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี ซึ่งในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่ดอกไม้เริ่มบานในฟูราโนะ ไม่ว่าจะเป็นดอกลาเวนเดอร์ ดอกทิวลิปและดอกทานตะวัน ความเด็ดของเมืองฟูราโนะคือ เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติสวยงามเป็นอันดับต้นๆของประเทศท่ามกลางการโอบล้อมของภูเขาสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อนที่จะสวยยยเป็นพิเศษ

Cr: hokkaidox.com

ส่วนเมืองบิเออยู่ติดกับฟูราโนะเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผัก ธัญพืชและดอกไม้ที่สำคัญ ทัศนียภาพโดยรอบจึงเป็นภาพของท้องทุ่งกว้างใหญ่สุดลกหูลูกตา เราจึงได้เห็นทิวทัศน์ของทุ่งมันฝรั่งและทุ่งข้าวสาลี นอกจากนี้ด้านหน้ายังสามารถมองเห็นเทือกเขา Tokachi Dake Renpo ได้อีกด้วยค่ะ

Cr: hokkaidox.com

ค่ารถ: อาซาฮิคาว่า-ฟูราโนะ (เที่ยวเดียว) ผู้ใหญ่ 1070 เยน, เด็ก 530 เยน
อาซาฮิคาว่า-บิเอ (เที่ยวเดียว) ผู้ใหญ่ 540 เยน, เด็ก 270 เยน
บิเอ-ฟูราโนะ (เที่ยวเดียว) ผู้ใหญ่ 640 เยน, เด็ก 320 เยน
เวลาที่ให้บริการ: วิ่งให้บริการวันละ 3 เที่ยว (ไป-กลับ) โดยช่วงเวลาในการให้บริการของแต่ละปีอาจเปลี่ยนแปลงไป ควรตรวจสอบกับเว็บไซต์ของทาง JR ก่อนนะจ๊ะ

Tomita Farm

ที่ฟาร์มโทมิตะถือเป็นจุดชมดอกลาเวนเดอร์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด นอกจากคุณจะได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วง ที่นี่ก็ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามโดยเราสามารถเห็นภูเขาโทกะชิเป็นฉากด้านหลังนอกจากนี้บริเวณรอบๆทุ่งดอกลาเวนเดอร์ยังมีร้านกาแฟ รวมถึงร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย โดยปกติแล้วทุ่งลาเวนเดอร์แห่งนี้จะเปิดให้เข้าชมในช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยดอกลาเวนเดอร์จะบานเต็มที่ตลอดเดือนกรกฏาคมค่ะ นอกจากนี้ยังมีดอกไม้อีกมากมายหลายชนิดในฤดูอื่น เช่น ดอกป๊อปปี้ และดอกลูปิน ในเดือนมิถุนายน ดอกลิลลี่ ในเดือนกรกฎาคม ดอกทานตะวัน ดอกซัลเวีย และคอสมอส ในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน และที่สำคัญนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมทุ่งลาเวนเดอร์ได้ฟรีอีกด้วย!

ในส่วนของร้านค้าต่างๆ ภายในฟาร์ม จะเปิดตั้งแต่เวลา 8.30-17.00 น. (ส่วนช่วงฤดูหนาวจะปิดเร็วกว่านี้ประมาณ 30 นาที) สำหรับการเข้าชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ โดยปกติจะไม่มีวันหยุด แต่ร้านค้าบางส่วนอาจจะปิดทำการในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนนะคะ
ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีการเดินทาง: ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนตุลาคม สามารถโดยสารรถไฟ JR Furano Line รวมถึง Furano-Biei Norokko trains ( รถไฟโนร็อคโกะ ) มาลงที่ Lavender Batake Station (จาก Furano ใช้เวลา 20 นาที 230 เยน หรือจาก Biei ใช้เวลา 35 นาที 450 เยน) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5-10 นาที

อื้อหือออ เห็น รถไฟโนร็อคโกะ ของเค้าแล้วอยากจะจองตั๋วไปทัวร์ญี่ปุ่นกันเดี๋ยวนี้เลยค่ะ ใครที่จะไป ทัวร์ญี่ปุ่น และตั้งใจไปชมทุ่งลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อนนี้ ต้องห้ามพลาดจองตั๋วนะจ๊ะ เดี๋ยวที่นั่งเต็มอดนั่งแล้วจะหาว่าเราไม่บอกน้า


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง

2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ห้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

รถไฟทริป นั่ง รถไฟโนร็อคโกะ ทัวร์ฮอกไกโด! was last modified: March 28th, 2023 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version