Mushroom Travel

โอกินาวา พาไปเที่ยวเมืองบนเกาะที่ญี่ปุ่น Okinawa 1st Trip 2016

โอกินาวา

ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ รีวิว เที่ยว โอกินาวา เมืองเกาะที่อยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งทริปสวยๆ ที่อยากให้ทุกคนออกไปเที่ยวกันค่ะ


โอกินาวา พาไปเที่ยวเมืองบนเกาะที่ญี่ปุ่น Okinawa 1st Trip 2016 

1st Trip 2016 : OKINAWA, JAPAN

ทำไมถึงไปเที่ยว ‘โอกินาวา (Okinawa)’

คำถามนี้ผมโดยถามเยอะ หลายคน มาญี่ปุ่น ไม่เคยได้ยินชื่อจังหวัดนี้ด้วยซ้ำ หลายคนเคยอ่านเจอว่าเป็นเกาะกลางทะเล หลายคนพูดไปว่าไม่ต่างกับภูเก็ต

ผมรู้จัก โอกินาวา จากหลาย ๆ สื่อมานาน ตั้งแต่สารคดีนำเที่ยวทางทีวี จากหนังสือท่องเที่ยวที่ชอบเอารูปฉลามวาฬในอควาเรียมมาลง จากหนังญี่ปุ่นที่ผมเคยดูเรื่อง nada sou sou (เรื่องนี้ซึ้งมาก ลองไปหามาดูนะครับ) แต่ผมก็ยังรู้จักจังหวัดนี้ผ่านสื่อเท่านั้น คิดไว้ว่าต้องมีโอกาส มาญี่ปุ่น และเยือนที่นี่ให้ได้

แล้วก็เป็นจริงเมื่อวันนึงโปรสายการบิน HongKong Airlines ผ่านเข้าตามาพอดี ในราคาที่ไม่จองวันนี้ก็คงไม่ได้ไปแน่ ๆ เลยจัดไป นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของทริปแบคแพค โอกินาวา

มีคนบอกว่า โอกินาวา เปรียบเหมือนฮาวายของญี่ปุ่น แต่ผมก็ไม่เคยไปฮาวายที่อเมริกามาก่อน เลยนึกภาพไม่ออก รู้แค่ว่าเป็นเมืองตากอากาศที่คนญี่ปุ่นและเกาหลีชอบมากัน เพราะด้วยทำเลที่อยู่กึ่ง ๆ กันระหว่าง 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี และ ใต้หวัน แถมอากาศที่นี่ก็เย็นสบายไม่ร้อนและไม่หนาวแบบจังหวัดอื่น ๆ

แม้เป็นเกาะกลางทะเล แต่ที่นี่คือส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น มีหรือที่ความเจริญจะเข้าไม่ถึง แม้จะไม่เท่าเมืองใหญ่ ๆ อย่างโตเกียว โอซาก้า หรือฟุกุโอกะ แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มาเพื่อพักผ่อนมากกว่าจะมาเพื่อช้อปปิ้ง

การเดินทางใน โอกินาวา เมืองหลวงอย่างนาฮะ (Naha) มีรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (monorail) สายเดียววิ่งผ่านที่สำคัญ ๆ เริ่มจากสนามบิน ที่อาคาร domestic terminal ยาวไปสิ้นสุดที่สถานีสุดท้าย ณ ปราสาทซูริ (Shuri Castle) ส่วนใครจะออกไปเที่ยวนอกเมืองอย่าง Okinawa World, American Village, หรือไปไกลถึง Churami Aquarium ที่อยู่บางตอนเหนือของเกาะก็สามารถไปได้ด้วยรถบัสประจำทาง มีเวลาเดินรถชัดเจนทั้งขาไปและกลับ ( โอกินาวา ไม่มีเส้นทางรถไฟนะครับ การเดินทางทำได้โดย เช่ารถขับ กับนั่งรถบัสไป)

ที่นี่ก็มีบัตร IC card ใช้แทนเงินสดเหมือนกับ Suica, Pasmo นะเรียกว่าบัตร Okica card ซื้อจากเครื่องขาย/ เติมเงินอัตโนมัติเหมือนกัน ใช้ขึ้นได้ทั้ง monorail และรถบัสข้ามเมืองได้ด้วย ดีอะไรเช่นนี้ขอแค่ให้มีเงินในบัตรพอละกัน

เรื่องที่พักในทริปนี้ ผมมาหลายวันก็เลยเลือกพัก business hotel ในเมืองนาฮะเพื่อความสะดวก และราคาไม่แรงเหมือนโรงแรมในเมืองใหญ่แถมทำเลดีด้วย หลาย ๆ ที่สามารถเดินไปได้ไม่ไกล ยิ่งอากาศดีดี บ้านเมืองสวย ๆ ไม่แออัด เดินไปก็เพลิน

แล้วอะไรล่ะที่โอกินาว่าไม่มี ???

ใครที่เคย มาญี่ปุ่น และไปเที่ยวโตเกียว โอซาก้า อาจชอบตรงที่แสงสียามค่ำคืน มีร้านให้ละลายเยนทั้งแบรนด์เนม หรือของเล่นพวกกล้อง กระเป๋า อย่างร้านดองกิหรือโยโดบาชิ แต่……….. ไม่มีสิ่งเหล่านี้ที่โอกินาว่า เท่าที่ผมเดินสำรวจร้านค้าบนถนนโคคุไซ (Kukusai) ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าขายของที่ระลึกตลอดทั้งสองฝั่งถนนที่ยาวมาก ตรงนี้อาจไม่โดนใจขาช้อป บอกไว้ก่อนเพราะโอกินาวา เน้นขายของที่ระลึกทางวัฒนธรรมของตัวเองมากกว่า ไม่ว่าของกินอย่างไอติม Blue Seal (บ้านเราคุ้นเคยกับยี่ห้อโฟโมส แต่ที่นี่คือไอติมไม่ใช่นม)

มันม่วงที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ ต้องลองให้ได้นะอร่อยจริง ๆ มังกร โอกินาวา สัญลักษณ์ของชาวริวกิวมาแต่ไหนแต่ไร จะพบเห็นได้ทุกที่ทั้งหน้าบ้าน บนหลังคา จนเป็นที่ระลึกที่ขาดไม่ได้ ไปร้านไหนก็เจอ หลากหลายดีไซด์น่ารักมากกว่าน่ากลัว เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้จริง ๆ

สำหรับคอเบียร์ ถ้ามาโอกินาว่าแล้วไม่ได้ลิ้มลองเบียร์โอไรอ้อน (Orion beer) นี่คือมาไม่ถึง เพราะเป็นเบียร์ที่ผลิตใน โอกินาวา ที่เดียวเท่านั้น และเขามีทัวร์โรงงานเบียร์ด้วย ถ้าสนใจก็ให้โรงแรมโทรจองรอบทัวร์ให้ แต่เราต้องเดินทางไปเองนะ อีกอย่างคือโรงงานเบียร์โอไรอ้อนไม่ได้อยู่ในเมืองนาฮะ แต่อยู่โน่น เมืองนาโงะ (Nago) ทางตอนเหนือของเกาะแน่ะ งานนี้ต้องเช่ารถขับไปเองแล้วล่ะ

ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุดในโอกินาว่าต้องยกให้ Lawson ไปครองแต่เพียงผู้เดียว เพราะสาขาเยอะจริง ๆ เดิน ๆ ไปเจออีกละ ที่สำคัญทุกสาขามีห้องน้ำให้ใช้ฟรีโดยไม่จำเป็นต้องซื้อของ ใจดีแบบนี้ต้องอุดหนุนอะไรบ้างละ และในร้านจะมีเคาเตอร์สำหรับซื้ออาหารมานั่งทานภายในร้านด้วย ผมก็ไปซื้อข้าวกล่องให้เขาเวฟให้มานั่งทานกะเบียร์ในร้านนี้แหละ การซื้อเบียร์เขาจะถามว่าเราอายุเกิน 20 รึยัง ถ้าเกินละก็ให้กดปุ่มยืนยันที่หน้าจอแคชเชียร์เป็นอันซื้อขายเบียร์ได้ละ

ร้านอาหารที่นี่ส่วนใหญ่สามารถสูบหรี่ภายในร้านได้ด้วย ใครที่แพ้ควันบุหรี่ก็มองๆ เข้าไปในร้านก่อนละกัน ไม่งั้นจะนั่งทรมานเปล่าๆย่านบันเทิงยามค่ำคืนอยู่ตรงไหนในนาฮะ หาไม่ยาก ถ้าไปเจอชายสูทดำแบบซารารี่แมนจับกลุ่มกันหลาย ๆ คน ป้วนเปี้ยนอยู่หน้าตึก นั่นแหละใช่เลย พวกนี้จะเชียร์แขกให้เข้าไปใช้บริการ แต่จะไม่เซ้าซี้อะไรนะ ดูเหมือนน่ากลัวแต่ไม่น่ากลัวอย่างที่เห็น
พวก outlet หรือ DFS (Duty Free Shop ร้านค้าปลอดภาษี) รอบนี้ผมไม่ได้ไปนะ อย่างที่บอกโอกินาว่าไม่ใช่สวรรค์ของนักช้อป (ผมก็ไม่ใช่นักช้อป) แต่ก็มี outlet เหมือนกัน อยู่ออกไปนอกเมืองนาฮะ

free wifi มีให้ใช้มั้ย ???

มี free wifi ให้ใช้ในสนามบินนาฮะ และมีเคาเตอร์บริการเช่า pocket wifi ที่สนามบินด้วยนะ แต่ผมก้ไม่ได้ถามรายละเอียดมา เพราะยังคงเช่า pocket wifi จากบ้านเรามาเหมือนเดิม สะดวกดี สัญญาณมีทุกที่ครอบคลุมจริง ๆ

เรื่องที่เที่ยวนอกเมือง สำหรับคนที่เช่ารถขับคงไม่มีต้องห่วง เพราะญี่ปุ่นพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา มี GPS มีประกันให้ซื้อ
สำหรับใครที่มีเวลาจำกัด และไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก็มี one day tour ขายในราคาไม่แพง มีหลายทริปให้เลือก วันนึงไปได้ถึง 4- 6 ที่ก็คุ้มนะ

วิธีซื้อแพคเกตทัวร์วันเดียว

ก็ทำได้โดยซื้อผ่านเวปไซด์ หรือจะ walk in ไปซื้อที่ออฟฟิส Sightseeing Tour Bus ก็ได้ แต่ต้องซื้อล่วงหน้า 1 วันนะ สิ่งที่ทำให้ชิลตลอดทริปคือ ทำนองเพลงของโอกินาว่า เสียงกีต้าร์สามสายที่บรรเลงนั้นเพราะจับใจจริง ๆ ร้านค้าต่างพร้อมใจกันเปิดเพลงทำนองโอกินว่าคลอกันทั้งเมือง สบายใจ

โอกินาว่า อาจไม่ใช่ที่ที่ทุกคนจะมาแล้วชอบ เพราะด้วยความเฉพาะตัวของที่นี่ที่เน้นในเรื่องวัฒนธรรม และจุดขายคือการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่นไปชมหมู่บ้านเก่าแก่ ไปชมไร่สัปปะรด ไปดูเขาทำแก้วในแบบโอกินาว่า ไปดูถ้ำหินงอกหินย้อย ไปดูผารูปช้างที่มันซาโม่ ไปดูซากกำแพงปราสาท หรือไปดูปราสาทเก่าที่สร้างใหม่ อะไรแบบนี้ แต่สำหรับคนที่มีเวลามาก ๆ มากกว่า 5 วันขึ้นไป อยากใช้ชีวิตแบบ slow life แนะนำว่าให้นั่งเรือไปเที่ยวเกาะบริวารดูนะ รับรองว่าจะชอบกับวิถีชาวบ้านที่นั่นก็ได้

เล่ามาจนเกือบครบแล้ว เริ่มทริปกันดีกว่าครับ

วันแรก กรุงเทพ-ฮ่องกง-โอกินาว่า
เราบินด้วยสานการบิน ฮ่องกงแอร์ไลน์ จองไว้สักพักใหญ่ๆ ได้ตั๋วไปกลับมาในราคา 7,8xx บาท

มาถึงสนามบินฮ่องกงละครับ อากาศข้างนอกตอนนี้หนาวเลย รอบนี้บินกับ HongKong Airlines มีเหตุนิดหน่อยเรื่องการ transit กับการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่สนามบิน แต่ก็เคลียร์กันเรียบร้อย ปลายทางที่ต้องไปอีก แต่ตอนนี้ง่วงมาก คงนอนรอที่เกตไปก่อนละครับมีดีเลย์นิดหน่อย ข้อมูลจาก tripcase คร้บ

และแล้วก็ถึง okinawa ครับ ตม. ทำงานเร็วดี ผ่านฉลุย ออกมาจากสนามบินก็เดินไปขึ้นรถโมโนเรลเพื่อเข้าเมือง
สถานีรถโมโนเรลจะอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารผู้โดยสารในประเทศ Domestic Terminal เท่านั้น หากใครบินมาจากต่างประเทศจะต้องเดินมามาที่อาคาร Domestic ก่อน สังเกตุไม่ยาก มีป้ายบอกตลอดทางครับ
เมื่อถึงโอกินาว่าอย่างงงๆ ครึ่งวันแรกเราเดินตามแผนที่เพื่อหาที่พักที่จองไว้ และเดินหาของกินที่ ถนนโคคุไซ (Kukusai)

คืนนี้ในฝกจั้กจั้กที่นาฮะ โอกินาวา ตามพยากรณ์อากาศเป้ะ (หนีฝนไม่พ้นจริง ๆ 3 ทริป 3 ประเทศละ) เลยหลบมาหาอะไรเย็น ๆ ดื่มซะหน่อย

Orion Beer เบียร์ขึ้นชื่อของโอกินาว่าครับ


วันที่ 2 ภาระกิจวันนี้คือ เดินทางจุดจอดรถนำเที่ยวเพื่อจะไป one day trip วันต่อไป
และนั่งรถบัสไป American Village ครับ

ทางไป NAHA Sightseeing bus อยู่ติดกับ สถานี Asahibashi


เราไปติดต่อถามเรื่อง one day trip ของพรุ่งนี้ เพื่อยืนยันใบสั่งทริปที่จองมาจากเว็ป เจ้าหน้าที่บอก ใช่แล้วๆ พรุ่งนี้มารับตั๋วตัวจริงที่นี่นะคะ ขึ้นรถตรงนี้ เวลา 08.45 นะตกลงกันเรียบร้อยผมก็ไปถามทางไป American village เจ้าหน้าที่ให้ใบน้อยๆนี่มา

รถบัสมา นั่งกันเกือบ ๆ ชั่วโมงเลยนะ แต่รถไม่ติดครับ โดยใช้บัตร Okica Ic card ตลอด ก็ใช้ ๆ จนไม่แน่ใจว่าเงินในบัตรหมดรึยัง

ค่ารถก็ขยับขึ้นตามจำนวนป้าย โดยดูจากเลขดิจิตอลข้างคนขับ ง่ายดีครับ สำหรับคนที่ใช้บัตร Okica ก็แต้ปตอนขึ้นรถก่อน ส่วนคนที่จ่ายเงินสดก็รับตั๋วที่บอกเลขป้ายไปถือไว้ตอนขึ้นรถ

มีเรื่องขำๆตอนขากลับ ตอนนั้นขากลับจาก American village ซะค่ำเลย ก็คิดอยู่ละว่าเงินในบัตรไม่พอแน่ ๆ อาจต้องจ่ายเงินสดไปนะ นั่งไปเรื่อย ๆ พอรถมาถึงนาฮะ ผมนี่ลงก่อนเลย แตะบัตรปุ้บ เงินไม่พอตามคาด ลุงคนขับก็ใจเย็นนะบอกเติมเงินลงในบัตรได้

เฮ้ย เพิ่งรู้ว่าทำได้ด้วย !!!! นึกว่าเติมเงินได้ที่ตู้หน้าสถานีโมโนเรลเท่านั้นเติมเงินใน Okica บนรถบัสได้ มีเครื่องสแกนพร้อม ความรู้ใหม่เลยนะ เจ๋งดี ผมก็เติมเงินไปนะ เครื่องก็ตัดเงินค่ารถไปเรียบร้อย แต่มันเสียเวลาไง เพราะผมลงคนแรก โดยมีคนอื่น ๆ ในรถลงด้วย คล้าย ๆ หมดระยะ ผมรอดละ! พอลงจากรถบัสพบว่า รถบัสอีก 5-6 คัน เข้าป้ายไม่ได้ จอดต่อแถวยาว ต้องรอจนว่าบัสที่ผมมาจะเคลื่อนออกไป ผมนี้ร้องเฮ้ย เราทำรถติดรึเนี่ย ฮ่าๆ

แต่ไม่มีเสียงบ่น หรือ ทำหน้าหงุดหงิดจากคนขับคันอื่น ๆ เลยนะ ทุกคันก็ไม่บีบแตรไล่ เขาคงรู้ว่ามีคนต่อแถวจ่ายเงินอยู่บนรถคันหน้า

ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เลยพูดขำขำว่า เราเป็นคนทำรถติดในโอกินาว่า คุณลุงแกใจเย็นมากครับ ขอชื่นชม

ปอลิง : การจ่ายค่าโดยสารรถบัสมี 2 วิธี คือ
1. เงินสด โดยดูเทียบราคากับตั๋วกระดาษที่ดึงมาตอนขึ้นรถ อันนี้ปกติ
2. โดยใช้ Okica Ic card คือแต้ปตอนขึ้นรถ เครื่องจะจำ พอตอนลงก็แต้ปจ่าย เงินในบัตรก็โดนหักไป อันนี้ปกติ

อ้าวแล้วถ้าเงินใบบัตร Okica ไม่พอล่ะ ทำไง ?

– เติมเงินในบัตรได้เลยโดยบนบัสจะมีเครื่องเติมเงิน มีพัน มีหมื่นก็เติมได้ แต่เติมแค่ที่จำเป็นก็พอ
– เติมเงินแค่ส่วนต่างที่ขาดไปจากในบัตร ให้เท่าราคาค่าโดยสารก็ทำได้ครับ มีเหรียญ มีแบงค์ย่อย ๆ ก็ใช้ ๆ ซะ บางคนมีแบงค์ใหญ่ใบหมื่นจะเติมก็คงไม่ดีนะ ใช้อะไรนักหนา เขาไม่มีทอนนะ

รูปจาก American village ครับ

วันที่สาม เริ่ม one day trip กันครับ

เราซื้อโปรแกรมทัวร์จาก www.japanican.com
โปรแกรม 2016 Northern Okinawa Bus Tour [Tour in Japanese, Audio Guide Avail.]
ราคา 6,000 เยน รวมอาหารเที่ยง ไม่รวมค่าบัตร Ryukyu Mura กับ Okinawa Churaumi Aquarium
________________________________________

Ryukyu Mura หมู่บ้านต้นตำรับของชาวริวกิว เป็นหมู่บ้านที่แสดงถึงวัฒนกรรม การแสดงของริวกิว เราไปทันการแสดง “ เออิสะ” พอดี ได้เจอคุณยายเต้นรำอย่างสนุกสนาน

Cape Manza เป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล ให้ทายกันว่าเหมือนสัตว์อะไรเอ่ย ด้วยที่เป็นลานกว้าง ลมแรง และหนาวมาก จุดนี้ปล่อยให้ถ่ายรูปแค่ 20 นาที ยังไม่ค่อยสะใจเท่าไหรเลย

ทัวร์มีอาหารเที่ยงให้ครับ ตามโปรแกรม

Lunch menu: Okinawan food with earthenware-grilled Okinawan pork


Okinawa Churaumi Aquarium

ประทับใจสุดๆ

และโปรแกรมสุดท้ายของวันนี้ครับ ฝนยังคงตกโปรยๆ
Okinawa Fruits Land

วันต่อมานั่งรถบัสออกมานอกเมืองอีกแล้วครับ ปลายทางอยู่ที่ Okinawa World ฟังชื่อแล้วคิดว่าเป็นสวนสนุกใช่มั้ย ??? ผิดครับ ที่นี่เป็น ถ้ำหินงอกหินย้อย ที่ใหญ่มาก ๆ ใหญ่ขนาดไหน ตอนแรกก็ไม่รู้คิดว่าคงงั้น ๆ

แต่ปรากฏพอเดินลงไปใต้ดิน ใช่ครับ ถ้ำนี้อยู่ลึกลงจากพื้นดินพอประมาณเลย อากาศในนั้นความชื้นสูงและมืดสลัว ๆ ตลอดทางเดินระยะทางกี่กิโลไม่รู้ แต่จากทางเข้าจนถึงทางออกเดินมาเรื่อย ๆ ก็ใช้เวลาในถ้ำนี้ประมาณชั่วโมงนิด ๆ มันเจ๋งมากครับธรรมชาติสรรสร้าง + ระบบจัดการดูแลแบบญี่ปุ่น

ในถ้ำนี้เงียบมาก เพราะชั้นหินที่งอกสลับไปมาทำหน้าที่ดูดซับเสียงไว้ชนิดที่สงัดเลยและที่ดีมากคือ ไม่มีใครมือบอนไปขีดเขียนอะไรไว้เลย
ปอลิง : ในภาพที่ลงปรับความสว่างให้เห็นชัด ๆ ส่วนในถ้ำจริง ๆ จะมืดกว่านี้เยอะ
การเดินทางไปขึ้นบัส ก็ยังคงไปขอข้อมูลที่ Okinawa Sightseeing Bus ที่เดิมที่เดียวครับ อยู่ใกล้ ๆ สถานี Asahibashi อยากไปไหน เข้าไปถามพนักงานสาวได้เลยครับ ที่นี่เขาใจดี และที่นี่ยังเป็นจุดขึ้นรถสำหรับใครที่ซื้อแพ็คเกจ one day tour ด้วยนะ
ป้ายรถบัสแต่ละสาย ที่ไปนอกเมืองเนี่ย ไม่ได้จอดที่เดียวกันนะ อย่างบัสที่ผมไป American Village วันก่อน ก็เป็นคนละป้ายกับ Okinawa World ที่ผมจะไปวันนี้ ดีที่แผนที่ที่ขอมาเขาบอกทางละเอียดดี เลยมารอไม่ผิดป้าย

เราอยู่ในโอกินาว่า จังหวัดหนึ่งในญี่ปุ่น ดังนั้นการตรงต่อเวลาจึงยังคงเป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่โมโนเรลเท่านั้น รถบัสเนี่ยก็ตรงเวลาอย่างเหลือเชื่อ เวลาในป้ายรถเมล์บอกไว้กี่โมงกี่นาที ก็ตามนั้นเลย มาช้าไปแค่วินาทีนี่ตกรถแน่นอน

สายที่จะพาเราไป Okinawa World มีเพียงสายเดียวคือ 83 ค่าโดยสารในใบตารางเดินรถที่หยิบมาจากออฟฟิศ บอกไว้ว่า 580 เยน แต่เราไม่รู้ว่า ต้องลงป้ายไหน ??? งานนี้เลยต้องบอกคุณลุงคนขับให้ชัดเจน ว่าจะไป Okinawa World นะลุง ถึงแล้วบอกด้วยนะ และเพื่อกันเหนียวไว้ เลยเปิด google map ให้ gps แสดงพิกัดอีกที

นั่งรถไปเรื่อย ๆ ก็เป็นคนละทางกับที่ไปนอกเมืองวันก่อน แต่คราวนี้ไกลกว่าเก่า ทั้งเลียบทะเล ทั้งผ่านทุ่งนา มันไกลจัง ก็มองจอราคาค่าโดยสารไปเรื่อย ๆ ถ้า 580 เยนนี่ต้องลง … คิดไปงั้นนะ จน gps บอกว่ามาถึงละ ตรงนี้แหละ !!! เราก็ชะเง้อมอง ไหน ๆๆๆ ไม่มีอะไรเลย มันใช่หรอออออ แต่พิกัดมันก็จบลงตรงนี้จริง ๆ นะ พร้อมกับราคาบนจอ 580 เยน !!??

เอาไงล่ะ จะลงมั้ย ถ้าลงแล้วไม่ใช่นี้เป็นเรื่องนะ เพราะมีสายเดียวผ่าน นอกจากจะไม่ทันเข้าชมถ้ำละยังหลงทางอีก รถไม่จอดครับ เพราะไม่มีคนขึ้นและเราก็ไม่ลง ก็ขับผ่านป้ายนั้นไปต่อละ ดูซิคุณลุงแกจะพาเราไปไหน ตอนนี้คนบนรถนับได้ 5 คนละ เขาจะไปไหนกัน ??? gps เดินหน้าไปเรื่อย ๆ พร้อมด้วยค่ารถที่ขยับเกินจุดที่บอกไว้ละจาก 580 เยนเป็น 630 เยน ตัดสินใจย่องไปนั่งข้าง ๆ แกแล้วถาม Okinawa World เลยมารึยังลุง ??

ลุงแกมองหน้าแล้วชี้โบ้ชี้เบ้ครับ ประมาณเอ็งนั่ง ๆ ไปก่อน เดี๋ยวรู้เองแหละ ผมเลยไม่ถามเซ้าซี้ละ นั่งมองทางต่อไปอยากรู้เหมือนกันว่าจะไปถึงไหน ค่ารถก็ขึ้นไปเรื่อย ๆ นั่งไปพักใหญ่นะ ก็เห็นป้ายอยู่ลิบ ๆ ว่า Okinawa World จากนั้นบัสก็เลี้ยวเข้าไปแล้วจอดเป็นอันถึงละ ทุกคนทะยอยลง โธ่ลุง Okinawa World อยู่สุดสายรถบัสก็ไม่บอก ปล่อยให้ลุ้นตั้งนาน ค่าโดยสารล่ะ ???? ใครอ่านมาถึงบรรทัดนี้คงสงสัย ใช่มะครับ จากที่ทะลุ 580 เยนไปเยอะละ ปรากฏพอมาถึงสุดสาย ตัวเลขตีกลับมาที่ 580 เยน !!!!
อัยยะ นี่มันราคาเหมาจ่ายใช่มั้ยยยยยย ต้นสาย – ปลายทาง ก่อนจากก็ถามคุณลุงอีก ขากลับขึ้นรถตรงไหนลุง แกก็ชี้โบ้ชี้เบ้เหมือนเดิมประมาณตรงนี้แหละเอ็ง รถมีสายเดียว รีบไปซื้อบัตรเที่ยวถ้ำอย่างไว เพราะใกล้จะถึง เวลาปิดละ ที่นี่ปิด 18:00 น.

ตัดกลับมาถึงขากลับกันละ ออกจากที่นี่เป็นคนสุดท้ายตามเคย ร้านค้าปิดกันหมดละ เดินมาถึงลานจอด เจอละบัสขากลับ มีคันเดียวแต่ปิดไฟประตูไม่เปิด ไม่มีคนรอ เพราะคนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวเขาขับรถกันมาเอง สักพักมีฝรั่งเดินตามมาด้วย ค่อยยังชั่วมีเพื่อนรอบัสละ เผลอแป๊บเดียวฝรั่งหาย อ้าวเฮ้ยยยย หายไปไหน !!???

แล้วบัสก็ติดเครื่องเปิดไฟ เปิดประตู คุณลุงมาตอนไหน !!!!! ก็ขึ้นรถอย่างไว พอ ๆ กะฝรั่งที่หายไปก็วิ่งขึ้นมาเหมือนกันบัสค่อย ๆ เคลื่อนออกจากลานจอด แล้วไปหยุดอยู่ที่ป้ายแรกหน้าทางเข้า Okinawa World พักนึง จอดรอไรลุง ลุงเป็นไรป่าว สงสัยครับ

มองตารางเวลาในมือ รอบรถ 18:35 น. แต่เวลาตอนนี้คือ 18:32 น. รออีก 3 นาทีดูซิ 18:35 น.เป้ะ คุณลุงติดเครื่องแล้วล้อหมุนทันทีเลยครับ โอ้วววววว เป้ะสุด ๆๆๆๆ เรื่องเวลาเนี่ยล้อกันเล่นไม่ได้เลยจริง ๆ จาก Okinawa World มาถึง Naha ด้วยความปลอดภัย
ด้วยความที่มาถึงซะบ่ายแก่ ๆ เลยตีตั๋วแค่เที่ยวถ้ำ กับเดินชมหมู่บ้านวัฒนธรรมเท่านั้น (Gyukusendo Cave & Kingdom Village) แต่โชว์การแสดงท้องถิ่นหมดรอบไปละ อดเข้าชมสวนงู (Habu Center) และไม่ได้ชิม ฮาบุ (Habushu (ハブ酒) หรือเหล้าดองงู ที่นี่เขามีให้ชิมและซื้อกลับไปด้วยนะ ตามร้านขายของที่ระลึกย่านโคคุไซ ไม่มีให้ชิมครับ

ถ้าใครมีเวลาและอยากมีของที่ระลึกติดมือกลับไป แนะนำว่าให้ลองไปทำแก้วโอกินาว่า เขามีโรงงานทำแก้วที่นี่และให้นักท่องเที่ยวได้ทำแก้วด้วยตัวเองทุกขั้นตอนด้วยครับ และไปที่ปราสาทซูริ เปลี่ยนการเดินชมปราสาทที่แสนน่าเบื่อที่แค่เดิน ๆ ดู ๆ ไม่รู้เรื่องอ่านไม่ออก มาเดินหา RC ตัวแสตมป์ตราประทับล่ารางวัลกันดีกว่า


ปราสาทซูริ เดินทางสะดวกครับ ขึ้นรถโมโนเรลไปสุดสาย ลงที่สถานี Shuri ได้เลย


ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการมาซื้อของฝากที่ถนนโคคุไซ (Kukusai)

ที่ย่าน โคคุไซโดริ เมืองนาฮะ โอกินาว่า มีร้าน 100 เยนกับร้านขายของที่ระทึกเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นผลิตภัณฑ์และขนมท้องถิ่น
งานนี้เลยเพลินกับการช้อปทิ้งท้ายก่อนกลับ ถ้าช้อปตามพิกัด 10,081 เยนขึ้นไปก็สามารถทำ tax free ได้เลยครับ ทางร้านจะแพ้คของให้อย่างเรียบร้อยเลย ต้องใช้พาสปอร์ตตัวจริงด้วยนะครับ ไม่รับสำเนา
Starwars Ep7 ที่กำลังฉายอยู่ทั่วโลกตอนนี้ฮิตมาก ถึงมากที่สุด หนังก็สนุก และได้อานิสงส์ ของค่าย Disney ด้วย เพราะการตลาดของเขานี้สุด ๆ เข้าถึงทุกสื่อ แทบทุกผลิตภัณฑ์ เข้าร่วมเป็น partnership ไปด้วย แต่บ้านเรานี้ถือว่าโปรโมทน้อยนะ คงเพราะหนังที่เข้าฉายบ้านเรา ไม่นานก็หมดโปรแกรมละ แต่เมืองนอกนี้ฉายทีนานกว่า เลยฮิตนานกระแสตอบรับดีกว่า (โรงหนังบ้านเราไม่ใช่น้อย ๆ นะ เอาแค่ใน กทม ก็มีเกือบทุกห้างละ แต่ต่างกันตรงที่บ้านเราโรงเยอะจริงแต่มีหนังฉายอยู่ไม่กี่เรื่อง เพราะเทให้หนังใหญ่ ๆ ไปเกือบหมด ตูมเดียวคนก็ดูกันหมดเมืองละ ก็ถอดโปรแกรมไว หนังทางเลือกแทบไม่มีที่ลงฉาย ความหลากหลายเลยไม่เคยมี เรียกว่า หนังเข้าปุ๊บต้องรีบไปดูไม่งั้นหนังออกซะก่อนสองทิตย์ถือว่ามากแล้ว สำหรับหนังที่ฉายบ้านเรา )

จากที่ไปสิงคโปร์ ฮ่องกง เห็นได้ว่าแฟนนานุแฟนของเหล่าสาวกด้านมืดและของเจไดให้การต้อนรับกันมากมายโอกินาว่าถึงจะเป็นเกาะที่ห่างไกล แต่กระแสสตาวอร์ก็ยังมาถึง แถมมาแรงด้วย พวกของกิน ขนม ของเล่น ของสะสม ของที่ระลึกเพียบ ไม่ซ้ำกับสองประเทศก่อนนี้ที่ผมแวะไปดูด้วยล่ะ พาทเนอร์ชิบเขาเยอะจริง ๆทั้งร้านขายของในย่านโคคุไซ ในนาฮะ หมู่บ้านอเมริกันอันนี้มีแน่นอน และในร้าน Lawson ก็มีขายแถมไม่ซ้ำแบบกันด้วย

คู่แข่งคนสำคัญของ icon โอซาก้า

โอกินาว่า ครั้งนี้บินกับ Hong Kong Airlines Thailand ก็เลยได้ออกไปเที่ยวฮ่องกงพอหอมปากหอมคอช่วงที่ทรานซิส ได้เวลาก็กลับเข้ามาที่สนามบินเพื่อรอบินกลับบ้าน ทัวร์ไทย ทัวร์จีน เยอะมาก เต็มเกตเลยครับ และฝนก็ตกด้วยล่ะ พอเจ้าหน้าที่พร้อมให้ขึ้นเครื่อง ก็เดินแจก ‘เสื้อกันฝน’ ให้ผู้โดยสารทุกคนเลยครับ เพิ่งเคยเจอบริการแบบนี้ ดีแฮะ เพราะเราเป็นบัสเกต ต้องเดินออกไปขึ้นลงรถบัสน่ะเอง ให้มาก็ใส่ครับ คนใส่กันเยอะ ไม่ต้องเขิล

เครื่องเที่ยวกลับเป็น A330 ขนาด 2-4-2 กว้างขวางดี ทั้งลำเห็นอยู่สองสัญชาติ ไทย กะ จีน คุณแอร์นี่เหนื่อยเลยครับ ยังกะจับปูใส่เข่ง พวกมากะทัวร์เนี่ย เรื่องมากนะอยากจะเปลี่ยนที่กะคนนั้น อยากจะนั่งกะคนนี้ ทำตัววุ่นวายมาก ผมเห็นแล้วละเหี่ยใจ
เพิ่มเติมนิดนุง สำหรับใครที่แวะทรานซิสเครื่องที่ฮ่องกง ให้ติดหัวปลั้กแปลงของที่นี่มาด้วยนะครับ เผื่อจำเป็นต้องชาร์ตแบตมือถือ, โน๊ตบุ๊ค ระหว่างรอขึ้นเครื่อง เขามีบริการทั้งช่องเสียบ USB กะ ปลั๊กไฟครับ
จบละครับ สำหรับทริปยาว ๆ ช่วงท้ายปี 2015 – ต้นปี 2016 เจอกันทริปต่อไปครับ

ขอบคุณรีวิวสวยๆ จาก Guest สุดพิเศษ คุณ ฟัง-ไจ สังกัด Pantip จากกระทู้ “[CR] 1st Trip 2016 พาไปเที่ยวเมืองบนเกาะที่ญี่ปุ่น Okinawa โอกินาว่า” ที่มามอบประสบการณ์จัดเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย !!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : FB/BackpackersProject


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

โอกินาวา พาไปเที่ยวเมืองบนเกาะที่ญี่ปุ่น Okinawa 1st Trip 2016 was last modified: May 16th, 2019 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version