หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ด่านสะเดา ตั้งอยู่ใกล้กับด่านศุลกากรสะเดา จังหวัดสงขลา ทางศุลกากรสะเดาได้ตัดสินใจเริ่มดำเนินการก่อสร้างด่านพรมแดนสะเดาในปี พ.ศ. 2534 เป็นอาคารทั้งหมด 2 หลัง ซึ่งใช้เป็นอาคารที่ทำการด่านพรมแดนขาเข้าและขาออก ต่อมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2536
เปิงกาลันฮูลู (Pengkalan Hulu) เป็นตำบลที่ตั้งอยู่ในรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนมาเลเซีย-ไทยประมาณ 7 กิโลเมตร และตั้งอยู่ใกล้กับอำเภอเบตง จังหวัดยะลาของประเทศไทย
เบตง มาจากภาษามลายู แปลว่า ไม้ไผ่ เป็นอำเภอที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย ห่างจากตัวเมืองยะลาเป็นระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร
บ่อน้ำร้อนเบตง ตั้งอยู่ในหมู่บ้านจะเราะปะไร ตำบลตาเนาะแมเราะ ก่อนถึงอำเภอเบตง 5 กิโลเมตร บ่อน้ำร้อนแห่งนี้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีน้ำพุเดือดขึ้นมาจากพื้นดิน ตรงจุดบริเวณที่น้ำเดือดนั้นสามารถต้มไข่ให้สุกได้ภายใน 7 นาที มีบริการห้องอาบน้ำแร่ ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อน สามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อยและรักษาโรคผิวหนังได้
สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง (Flower Garden Betong) เป็นโครงการนี้สร้างตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นการศึกษาทดลองปลูกไม้ดอกเมืองหนาวต่าง ๆ จากที่ในบริเวณแห่งนี้ไม่สามารถปลูกต้นยางพาราได้ เนื่องจากมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าพื้นที่อื่นๆ ในภาคใต้ มีความเย็นสบายตลอดทั้งปี ซึ่งสภาพอากาศเช่นนี้มีความเหมาะสมในการปลูกพืชเมืองหนาว โครงการนี้จึงได้ริเริ่มขึ้นเพื่อที่จะสามารถช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น
อุโมงค์ปิยะมิตร (Piyamit Tunnel) ตั้งอยู่ที่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ จังหวัดยะลา บริเวณนี้เป็นหมู่บ้านของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เดิมเคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์มลายาในเขตที่ 2 อุโมงค์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2519 เป็นอุโมงค์คดเคี้ยว มีทางเข้าออกหลายทาง ใช้เป็นที่หลบภัยทางอากาศและสะสมเสบียง บริเวณนี้ได้จัดให้มีนิทรรศการแสดงภาพประวัติศาสตร์ รวมทั้งวิถีการดำเนินชีวิตภายในป่า
ต้นไม้ยักษ์ 1,000 ปี ตั้งอยู่ใกล้กับอุโมงค์ปิยะมิตรบริเวณปากทางเข้า ที่ตั้งอยู่ที่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ เป็นหนึ่งในจุดหมายที่ควรจะแวะพักชมหลังจากชมอุโมงค์ปิยะมิตร ต้นไม้ยักษ์ 1,000 ปี ต้นนี้เป็นต้นไทรขนาดใหญ่ที่มีต้นไทรหลายต้นมารวมกัน
อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ตั้งอยู่บริเวณถนนอมรฤทธิ์ อุโมงค์แห่งนี้เป็นอุโมงค์ใต้ภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความยาวประมาณ 273 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตร ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2544 อุโมงค์แห่งนี้จะดูสวยงามในช่วงเวลายามค่ำคืน จะมีผู้คนสัญจรไปมาไม่ขาด และเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของอำเภอเบตง
หอนาฬิกาเบตง (Betong Clock Tower) หอนาฬิกานี้ตั้งอยู่กลางวงเวียนของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งประดับด้วยไฟฟ้าสว่างไสวตลอดคืน หอนาฬิกานี้จะมีนกนางนวลหนาแน่นเป็นพิเศษ ซึ่งได้กลายเป็นภาพที่น่าอัศจรรย์และเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของอำเภอเบตง นกนางแอ่นเหล่านี้บินหนีความหนาวมาจากไซบีเรีย ซึ่งเราจะพบเห็นได้เป็นจำนวนมาก ในช่วงเดือนกันยายนจนถึงเดือนมีนาคม
ยอดเขาไมโครเวฟ ตั้งอยู่ในตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา บนยอดเขาที่ในระดับความสูงจากน้ำทะเลกว่า 2,000 ฟุตนี้ มีเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ของทีโอทีตั้งอยู่ ยอกเขาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาไมโครเวฟ ถนนบนยอดเขาแห่งนี้เป็นถนนลาดยางและถนนคอนกรีต กิจกรรมยอดนิยมเมื่อมาเยือนยอดเขาแห่งนี้ก็คือ การชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เป็นทะเลหมอกที่ปรากฏอยู่บนภูเขาไมโครเวฟ ที่ตั้งอยู่ในตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ทะเลหมอกแห่งนี้เป็นทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดในภาคใต้ ด้วยมุมมองกว้างถึง 360 องศา และบรรยากาศที่สวยงามไม่แพ้ทะเลหมอกทางภาคเหนือ จนทำให้เรานึกว่ากำลังชมทะเลหมอกอยู่ที่ภาคเหนือกันเลยทีเดียว ทะเลหมอกแห่งนี้จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในอำเภอเบตง และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
วัดพุทธาธิวาส ตั้งตระหง่านโดดเด่นด้วยศิลปะศรีวิชัยอันสวยงามสมส่วน ภายในเจดีย์ชั้นบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และมีพระพุทธธรรมประกาศเป็นพระประทาน มีรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่อยู่ที่ชั้นล่าง ให้เราได้กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล
เชื่อว่าคนไทยคงคุ้นเคยกับ "เมืองปีนัง" มานานโดยเฉพาะคนทางภาคใต้ อดีตไทยกับมาเลเซียเคยทำมาค้าขายโดยทางเรือ สมัยที่มาเลเซียยังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เมืองนี้มีรายได้จากการท่องเที่ยว เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจหลากหลายเรื่องราว อากาศดี บ้านเมืองสะอาด มีระบบระเบียบ อาหารการกินหลากหลายและอร่อย ผู้คนเป็นมิตร รถไม่ติด การเดินทางสะดวก ค่าครองชีพไม่แพงมาก น่าท่องเที่ยว มีเสน่ห์เย้ายวนใจไม่น้อย..มีโอกาส ไปเที่ยวชม วิว ทิวทัศน์ริมหาดของเมืองนี้ ก็มีเสน่ห์เย้ายวนใจไม่น้อย
สะพานซึ่งเปรียบเหมือนโลโก้ของปีนัง เชื่อมระหว่างเกาะปีนังไปยังฝั่งแผ่นดินของมาเลเซียที่เมืองบัตเตอร์เวอร์ธ เป็นสะพานยาวยาวที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และยาวเป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นผลงานในสมัยของรัฐบาล ดร.มหาเธย์ โมหะหมัด เช่นเดียวกับตึกแฝด หรือ ตึกปิโตรนัส กลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ เฉพาะตัวสะพานที่อยู่เหนือพ้นน้ำยาว 8.5กม หากนับจากฐานทั้งสองฝั่งหรือทางลาดจะมีความยาว 13.5 กม. ด้วยงบก่อสร้างกว่า 9,000 ล้านบาท ใช้เวลาข้าม 15 นาที ตามความเร็วที่กำหนดราว 70 กม./ชม.
เชื่อว่าคนไทยคงคุ้นเคยกับ "เมืองปีนัง" มานานโดยเฉพาะคนทางภาคใต้ อดีตไทยกับมาเลเซียเคยทำมาค้าขายโดยทางเรือ สมัยที่มาเลเซียยังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เมืองนี้มีรายได้จากการท่องเที่ยว เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจหลากหลายเรื่องราว อากาศดี บ้านเมืองสะอาด มีระบบระเบียบ อาหารการกินหลากหลายและอร่อย ผู้คนเป็นมิตร รถไม่ติด การเดินทางสะดวก ค่าครองชีพไม่แพงมาก น่าท่องเที่ยว มีเสน่ห์เย้ายวนใจไม่น้อย..มีโอกาส ไปเที่ยวชม วิว ทิวทัศน์ริมหาดของเมืองนี้ ก็มีเสน่ห์เย้ายวนใจไม่น้อย
ป้อมปืนควอโนลิส ป้อมปราการเก่าแก่ตั้งแต่สมัยนายพลเฟรนซิส ไรท์ เดินทางสำรวจและค้นพบจอร์จ ทาวน์ ป้อมปราการแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1786 ในครั้งแรกนั้นสร้างด้วยไม้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1808-1810 จึงได้เปลี่ยนมาใช้โครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น และยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน มีการจัดแสดงทั้งปีนใหญ่ และสรรพาวุธต่างๆที่ใช้ในสมัยก่อนในการสงครามรวมไปถึงการป้องกันอาณาเขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรัฐสยาม
Penang Street Art เป็นภาพวาดศิลปะบนกำแพงตามถนนสายต่าง ๆ ในเมืองจอร์จทาว์น ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตในหลาย ๆ ด้าน ที่วาดโดยศิลปินต่าง ๆ ภาพศิลปะเหล่านี้เป็นภาพวาดแบบ interactive ที่นำสิ่งแวดล้อมรอบด้านเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาพ ภาพศิลปะเหล่านี้ได้มีการวาดไปทั่วทั้งเมือง ซึ่งเชิญชวนให้เราไปตามล่าถ่ายรูปให้ครบ
ห้างเกอร์นีย์ พลาซ่า (Gurney Plaza) ตั้งอยู่ในเมืองจอร์จทาวน์ เมืองหลักของปีนัง ประเทศมาเลเซีย ห้างนี้เปิดบริการเมื่อปี 2001 ห้างสรรพสินค้านี้มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ มากมาย
วัดไทยที่มีชื่อเสียงมานานบนเกาะปีนัง มีศิลปะผสมผสานระหว่างศิลปะไทย พม่าและจีน เข้าด้วยกัน สีสันสะดุดตา เน้นศิลปะที่อ่อนช้อยแบบเรียบ ไม่มีการแกะสลัก ลวดลายให้ดูวิจิตร ภายในอุโบสถมีพระนอนยาวที่สุดในประเทศมาเลเซีย มีความยาว 108 ฟุตและยาวเป็นอันดับ3 ของโลกสร้างเมื่อปี พ.ศ.2500 มีชื่อว่าพระพุทธชัยมงคล ซึ่งรัชกาลที่9 ได้พระราชทานนามให้ในคราวเสด็จประพาสเมื่อ วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2505 สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2388 มีอายุกว่า 160 ปี สร้างโดย East India Company ซึ่งเป็นบริษัทการค้าของอังกฤษ
คฤหาสน์ตระกูลใหญ่เปรานากัน (Peranakan Mansion) เป็นคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกของเมืองปีนัง คฤหาสน์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 โดยคนที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นนามว่า Hai Kee Chan แม้ว่าเขาจะไม่ใช่บ้าบ๋า ญ่าหยา คฤหาสน์แห่งนี้ก็เหมือนกับเป็นแบบของบ้านบ้าบ๋า ญ่าหยา ด้วยการตกแต่งในสไตล์ที่ล้ำเลิศและผสมผลานระหว่างจีนและยุโรป