หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเชียงคาน จ.เลย และเป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ประกอบด้วยหินก้อนใหญ่ๆ เป็นจำนวนมากอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสันต่างๆ ตัวแก่งกว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง ในช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดี กระแสน้ำไหลผ่านไปเพียงช่องแคบๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง ซึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกรากไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ที่สุด มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน คือ ช่วงเดือนกพ-พค เชิญชมจุดชมวิวสวยงาม และมีร้านอาหารท้องถิ่นจำหน่ายมากมาย
วัดศรีคุณเมือง วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้าง ศิลปวัตุที่สำคัญมีหลายชิ้น เช่นพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้าง พระพุทธรูปดังกล่าวมีพระเกศาเป็นปุ่มแหลมเล็ก พระกรรณค่อนข้างแหลมและยาว สันนิษฐานว่ามีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 24-25 นอกจากนี้ในวัดยังมีธรรมาสน์ไม้แกะสลักลงรักปิดทองทุกด้านที่พนักหลังมียอดคล้ายปราสาท ด้านหน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่เต็มหน้าบัน ภาพทั้งหมดเป็นภาพนทานชาดกชุดพระเจ้าสิบชาติซึ่งวาดขึ้นใหม่แทนของเดิม
เดินเล่น "ถนนคนเดินเชียงคานยาม" เชิญเลือกรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัยกับอาหารหลากหลาย ให้ได้เพลิดเพลินกับการเขียนโปสการ์ด และเลือกซื้อของที่ระลึกมากมาย กับ ร้านค้าสุด Hip เช่น ร้านสะบายดีเชียงคาน ไอเดียดีดี สองผัวเมีย ภูฝ้าย เพลินเพลิน กาแฟเจริญ ร้านกระป๋อง Under+Over รักเลย ลมรำเพย คิดถึง ณ เชียงคาน
จุดชมวิวภูทอก จ.เลย ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเชียงคาน เป็นเพียงภูเขาลูกเล็กๆ แต่ภูทอกแห่งนี้ก็มีเสน่ห์ที่เป็นจุดชมวิว ชมความงามของแม่น้ำโขง เมืองสานะคาม และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน และเสน่ห์ยิ่งกว่านั้นของภูทอก ในฤดูฝนและฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยผ้าห่มหมอก หากได้มองจากยอดภูทอกจะเห็นเป็นทะเลหมอกได้แบบรอบทิศเลยทีเดียว
วัดพระธาตุศรีสองรัก สร้างขึ้นเพื่อ เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจและมีการรุกรานดินแดนต่างๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลัง เพื่อต่อสู้กับพม่าจึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่า จะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกันและเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร
วัดป่าห้วยลาด ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ได้จาริกธุดงค์มาภูคลั่ง ซึ่งอยู่ติดกับบ้านห้วยลาด ชาวบ้านห้วยลาดจึงมีความศรัทธาเลื่อมใส จึงได้อาราธนานิมนต์องค์หลวงปู่ชอบมาตั้ง สำนักสงฆ์ห้วยลาด เมื่อปี 2483 เป็นต้นมา เมื่อตั้งขึ้นเป็นสำนักสงฆ์แล้ว หลวงปู่ชอบได้พักอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เพื่ออบรมสั่งสอนชาวบ้านห้วยลาด และหมู่บ้านใกล้เคียงระยะหนึ่ง ท่านจึงได้เดินทางจาริกธุดงค์ต่อไป หลังจากนั้นก็มีพระภิกษุ สามเณร มาพักจำพรรษามิได้ขาด แต่ก็เป็นการอยู่เพียงชั่วเวลาหนึ่ง เสนาสนะที่อาศัยก็ได้ทำพียงชั่
อุทยานแห่งชาติภูเรือ รูปพรรณสันฐานของภูเรือมีรูปร่างลักษณะเหมือนเรือใหญ่บนยอดดอยสูงเป็นภูผา สีสันสะดุดตาหินบางก้อนมีลักษณะเหมือนถูกปั้นแต่งไว้ ชาวบ้านเรียกว่า “กว้านสมอ” โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ใกล้เคียงเป็นฝ้าขาวด้วยละอองน้ำ หมอก ปกคลุมไว้ท่ามกลางป่าอันอุดมสมบูรณ์ ประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2522 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศ