หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
เมืองเมลเบิร์น (Melbourne) เมืองหลักของประเทศออสเตรเลีย ที่ได้รับคัดเลือกจาก The Economist Intelligence Unit ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกมาตั้งแต่ปี 2011 ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 7 ซึ่งเมืองนี้ได้คะแนนมากถึง 97.5 จาก 100 คะแนน ด้วยความพิเศษของเมืองนี้ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่ก็ยังคงความเป็นเมลเบิร์น ผู้คนที่เป็นมิตร กาแฟและอาหารเครื่องดื่มชั้นยอด แหล่งช็อปปิ้งและแฟชั่น จึงไม่น่าแปลกใจถ้าเมืองนี้จะกลายเป็นเมืองขวัญใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก
รถไฟจักรไอน้ำโบราณ (PUFFING BILLY STEAM TRAIN) เดิมเคยใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางระหว่างเมืองและขนส่งสินค้าเปิดให้บริการในปี ค.ศ.1900 เป็นรถไฟสายเก่าที่วิ่งระยะสั้น ๆ ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงนำมาใช้ในการท่องเที่ยวชมป่า ชมทัศนียภาพอันสวยงามตามแนวเขาตลอดเส้นทางวิ่งของรถไฟ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟห้อยขาผ่อนคลายอารมณ์ พร้อมชมทัศนียภาพตลอดทางที่เต็มไปด้วยหุบเขาและป่าสูงที่ยังคงความสมบูรณ์
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ เกาะฟิลลิป (Phillip Island Nature Park) ตั้งอยู่ในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ภายในเกาะฟิลลิป มีเกาะเล็กๆ อยู่คือ Churchill Island - Heritage Farm เป็นฟาร์มแกะและฟาร์มวัว ถัดมาจะเป็น ศูนย์อนุรักษ์โคอาล่า เป็นแหล่งวิจัยและอนุรักษ์โคอาล่า นอกจากโคอาล่าแล้วยังมีตัววอลลาบี้ Wallaby อยู่ภายในศูนย์อีกด้วย และไฮไลท์ของที่นี่คือ Penguin parade บรรดาฝูงเพนกวินขึ้นจากทะเลเพื่อกลับเข้ารังตอนหัวค่ำ โดยทางอุทยานจะมีที่นั่งให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมเพนกวินกันอย่างใกล้ชิดเลย
เกรทโอเชี่ยนโรด (The Great Ocean Road) เป็นถนนตามแนวชายฝั่งทะเลที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองเมลเบิร์น รัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย มาที่นี่แล้วก็ต้องไปชมจุดท่องเที่ยวหลักอย่าง เสาหินสาวกทั้งสิบสอง (Twelve Apostles) ชายหาดเบลส์ (Bells Beach) สะพานลอนดอน (London Bridge) และอื่น ๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในเกรทโอเชี่ยนโรดเหมาะกับการท่องเที่ยวสายชมวิวธรรมชาติและสายทำกิจกรรมทางชายทะเล มาชมอ่าวอันมีเสน่ห์ ชายหาดทรายขาวละเอียด ผาหินที่ผุกร่อนไปตามแรงน้ำ แรงลมธรรมชาติที่มีรูปร่างแปลกตากันได้ที่นี่
พอร์ตแคมเบลล์ หมู่บ้านชาวประมงของประเทศออสเตรเลีย เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่เป็นทางผ่านในเส้นทางสาย Great Ocean Road มีจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาและต้องการชมประติมากรรมทางธรรมชาติที่เรียกว่า "Twelve Apostles" ซึ่งเป็นรูปหินแกะสลักที่ดูน่าเกรงขาม 12 แนวโขดหินเหนือน้ำทะเล มีอายุประมาณล้านปี มีนักท่องเที่ยวมาแวะเที่ยวมาก เพราะที่นี่มีความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้ได้ดื่มด่ำหลงใหลไปกับเสน่ห์ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากในรัฐวิคตอเรี
The Twelve Apostles กลุ่มเสาหินปูนขนาดยักษ์ที่เรียงรายอยู่บริเวณชายฝั่งเมืองเมลเบิร์น รัฐวิคตอเรีย ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย จัดว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของที่นี่ที่ใครมาถึงแล้วต้องหาโอกาสไปชม เสาหินนี้ตั้งเรียงรายกันเป็นกลุ่มอยู่ในทะเล สันนิษฐานว่าเกิดจากการกัดกร่อนของลมและน้ำนับร้อยนับพันปีจนเขาหินปูนชายฝั่งกลายเป็นโพรง เกิดเป็นถ้ำ แล้วถ้ำก็ยุบตัวลงเหลือแต่โครงเสาหินในเวลาต่อมา
เมืองเมลเบิร์น (Melbourne) เมืองหลักของประเทศออสเตรเลีย ที่ได้รับคัดเลือกจาก The Economist Intelligence Unit ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกมาตั้งแต่ปี 2011 ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 7 ซึ่งเมืองนี้ได้คะแนนมากถึง 97.5 จาก 100 คะแนน ด้วยความพิเศษของเมืองนี้ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่ก็ยังคงความเป็นเมลเบิร์น ผู้คนที่เป็นมิตร กาแฟและอาหารเครื่องดื่มชั้นยอด แหล่งช็อปปิ้งและแฟชั่น จึงไม่น่าแปลกใจถ้าเมืองนี้จะกลายเป็นเมืองขวัญใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก
หาดบอนได (Bondi Beach) ชายหาดสีขาวยอดนิยมของเมือง ที่หนุ่มสาวชาวออสเตรเลียนิยมมาพักผ่อนอาบแดดและทำกิจกรรมท่ามกลาง สายลม แสงแดด เสียงคลื่นและกลิ่นอันสดชื่นของทะเล กับทิวทัศน์ของอ่าวซิดนีย์ และท้องทะเลสีครามของมหาสมุทรแปซิฟิคที่เดอะแก็ป The Gap และชมม้าหินของมิสซิสแม็คควอรี่ ม้าหินตัวโปรดของภรรยาของผู้สำเร็จราชการคนแรกของรัฐนิวเซ้าท์เวลส์
โอเปร่าเฮาส์ (Opera House) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกว่าเป็นจุดหมายหลักอันดับหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย โดยในแต่ละปีโรงอุปรากรสีขาวแห่งนี้ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมากกว่า 8 ล้านคน ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเยี่ยมชมความงดงามและสร้างสรรค์ของสถาปัตยกรรมแห่งศตวรรษที่ 20 แห่งนี้ เรียกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมที่นี่ มีมากเป็นเท่าตัวของประชากรที่อาศัยอยู่ในซิดนีย์เลยทีเดียว
ม้าหินมิสซิสแม็คควอรี่ มุมถ่ายภาพมุมแรกนี้ถือเป็นมุมยอดฮิตของบรรดาช่างภาพและนักท่องเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนพฤกษศาสตร์ Royal Botanic Gardens มีลักษณะเป็นแหลมโค้งที่ยื่นออกไปยังอ่าวซิดนีย์ และมีพื้นหินตะปุ่มตะป่ำริมชายฝั่งดูสวยงามแปลกตา ที่เราสามารถเดินลงไปถ่ายภาพ และใช้ก้อนหินเหล่านั้นเป็นฉากหน้าในการถ่ายซิดนีย์ โอเปร่าเฮ้าส์ซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปได้เป็นอย่างดี หรือจะใช้กิ่งก้านสาขาของต้นไม้ใหญ่ในบริเวณนั้นมาเป็นฉากหน้าในอีกสไตล์หนึ่งก็ได้เช่นกัน
ย่านดาร์ลิ่ง ฮาร์เบอร์ (Darling Harbour, Sydney) ย่านที่มีกิจกรรมหลากหลายทั้งกลางวันและกลางคืน ถือเป็นย่านยอดฮิตของเมืองซิดนีย์ ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม เพราะเป็นท่าเรือสวยงาม เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งร้านอาหารบรรยากาศริมทะเล ภัตตาคารบรรยากาศสบายๆ และที่นี่ยังเป็นเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวยามราตรี เพราะมีผับและบาร์เปิดเรียงรายริวอ่าว ให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาเพลิดเพลินได้ทุกช่วงเวลา
ล่องเรือ กัปตัน คุ๊ก ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามแสนโรแมนติกของอ่าวซิดนีย์ติดอันดับ 1ใน10 อ่าวสวยที่สุดในโลกและสอดแทรกด้วยธงทิวของเรือใบต่างสีสัน ผ่านชมสถานที่ต่างๆรอบอ่าวที่สวยงาม ผ่านชมย่านเดอะร็อกส์ จุดที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของคนออสเตรเลีย ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ต้นศตวรรษที่19 โรงอุปรากรซิดนีย์ ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แปลกตาสถาปัตยกรรมร่วมสมัยโดดเด่น ด้วยหลังคารูปเรือซ้อนเล่นลมอันเป็นเอกลักษณ์ ออกแบบโดย ยอร์น อูซอง สถาปนิกชาวเดนมาร์ก ชมความงามของสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์
เมืองคาทุมบา (Katoomba) เมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของ"บลูเมาน์เท่" ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองซิดนีย์ไปทางตะวันตกประมาณ 65 กม.มีเนื้อที่เกือบ 247,000 เฮกเตอร์ เคยได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ถูกปกคลุมด้วยไอระเหยของน้ำมันยูคาลิปตัสจากต้นยูคาฯที่มีมากมาย ทำให้เกิดเป็นหมอกสีฟ้าจางๆปกคลุมไปทั่วบริเวณ จึงเป็นที่มาของชื่อ "หุบเขาบลูเมาเทนท์"ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงไหลความงามสีฟ้าสลัวของ มีป่าสูง หน้าผาหินทราย หุบเขาลึก น้ำตก
สถานที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการนั่งชมความงามพระอาทิตย์และวนอุทยานแห่งชาติที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ต้นกำเนิดตำนานรักของสามสาวพี่น้องชาวอะบอริจิ้น ณ เทือกเขาทรี ซีสเตอร์ ร็อกส์ หรือ เขาสามอนงค์ เป็นยอดเขา3ลูกเรียงติดกัน โดยมีตำนานเก่าแก่ความรักอันแสนเศร้าของหญิงสาวอะบอริจิ้น ผู้ที่เคยครอบครองดินแดนแห่งนี้ เป็นรักต้องห้ามของหนุ่มสาวต่างเผ่ากันโดยทั้ง2ครอบครัวต่างเป็นศัตรูกัน จึงให้หมอผีสาปให้หญิงสาวกลายเป็นก้อนหินส่วน ฝ่ายชายหนุ่มเมื่อรู้เรื่องก็เศร้าโศกร้องไห้จนกลายเป็นสายน้ำตกคาทูมบาที่เห็นกันทุกวันนี้
เมืองซิดนีย์ (Sydney) มหานครสุดยอดเมืองนานาชาติในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีประชากรมากที่สุดของประเทศกว่า 4 ล้านคน เนื่องจากเป็นเมืองอากาศดี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไปนัก ส่งผลให้ซิดนีย์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสมบูรณ์แบบ นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนที่นี่ตลอดทั้งปี และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมายรอบเมือง เช่น หาดบอนได,อุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์,ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์, สะพานซิดนีย์ฮาเบอร์,โอเปร่าเฮาส์,พอร์ตสตีเฟ่น,เซ็นเตอร์พอยต์,ไชน่าทาวน์,แพดดี้มาร์เก็ต,อาคาร QVB เป็นต้น
เดวิดโจนส์ เป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์ชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดย Mr. David Jones เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นในปี 1838 ในประเทศออสเตรเลีย และมีสาขามากมายในรัฐ New South Wales,Victoria,Queensland, South and Western Australia สำหรับเมืองซิดนีย์ ร้าน เดวิดโจนส์ อยู่ที่ Elizabeth Street, Market Street,Bondi Junction เดวิดโจนส์ได้รับการยอมรับมากที่สุดแบรนด์หนึ่งของแดนจิงโจ้ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จักกันดี มีสินค้าขายทุกชนิด เช่น เสื้อผ้าเด็กและผู้ใหญ่ รองเท้า กระเป๋า ครีมบำรุงผิว
ตึกควีนวิคตอเรีย ซิดนีย์ (Queen Victoria Building หรือ QVB) เป็นตึกเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ที่เพื่อนๆ สามารถช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมสุดหรูได้ ซึ่งตึกแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่อลังการและงดงามเป็นอย่างมาก หรูอย่างกับพระราชวังเลยก็ว่าได้ ดังนั้นถ้าไม่ได้ช็อปของแบรนด์เนมก็สามารถแวะไปถ่ายรูปเริ่ดๆ ทานไวน์ นั่งจิบกาแฟ หรือทานเบเกอรี่เก๋ๆ กันได้
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553