Mushroom Travel
รหัสทัวร์MUSH151732

ทัวร์ออสเตรียวันสงกรานต์ สโลเวเนีย โครเอเชีย มอนเตเนโกร 9วัน 6คืน บินAustrian Airlines

SOLD OUT

ทัวร์นี้ได้ปิดกรุ๊ปแล้ว

หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com

ดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์
แชร์เลย !

วันที่เดินทาง

ไฮไลท์โปรแกรมทัวร์

  • เที่ยว: กราซ (ออสเตรีย) – ล่องเรือในทะเลสาบเบลด (สโลเวเนีย) – ถ้ำโพสทอยน่า  ซาเกรบ (โครเอเชีย)– อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ – ซาดาร์ – ชิบินิค  โทรเกียร์ – สปลิท – พระราชวังโบราณ – นีอุม (บอสเนีย)มาลีสตอน – ดูบรอฟนิค – ชมเมืองเก่ามรดกโลก – ขึ้นกำแพงเมืองโบราณ  กระเช้าไฟฟ้า –  กอเตอร์ (มอนเตเนโกร) – บุดวา – พอดกอริซ่า 
  • ช้อป: เอาท์เลทพาร์นดอร์ฟ (ออสเตรีย)
  • กิน: เมนูพิเศษ กุ้ง LOBSTER ย่าง เสิร์ฟพร้อมสปาเก็ตตี้ 
  • พิเศษ: ชมโชว์ “ ลาโด้ “ ระบำพื้นเมืองโครเอเชี่ยน

โปรแกรมทัวร์

  • Day 1
  • 21:00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินสุวรรณภูมิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

  • 23.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 026

  • Day 2
  • 05.35 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (แวะเปลี่ยนเครื่อง) กรุงเวียนนา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    กรุงเวียนนา (Vienna | Wien) เมืองหลวงแห่งประเทศออสเตรีย เมืองที่ได้ชื่อว่าคุณภาพดีที่สุดของโลก เพราะที่นี่อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เป็นเมืองที่คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกพิเศษและสุดแสนจะโรแมนติก เส้นทางเต็มไปด้วยความร่มรื่น รายล้อมด้วยสถานที่สวยงาม เช่น ปราสาทในเทพนิยาย สวนดอกไม้และสวนสาธารณะ ตึกรามบ้านช่อง โบสถ์ โรงโอเปร่า โรงละคร และพิพิธภัณฑ์

  • ออกเดินทางสู่: เมือง กราซ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    กราซ...เมืองในประเทศออสเตรีย มีประชากรอยู่ 291,574 คน ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรียเป็นอันดับ 2 รองจากเมืองเวียนนา และยังเป็นเมืองหลวงของรัฐสติเรีย เชิญเที่ยวชม เขตเมืองเก่า ผ่านชมอาคารรัฐสภา,โบสถ์ประจำเมือง,โรงละครโอเปร่า ซึ่งเป็นโรงละครที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของออสเตรีย ชมสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง คือ “KUNSTHAUS GRAZ” หรือเรียกอีกชื่อว่า “A FRIENDLY ALIEN”

  • เที่ยง อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • เดินทางสู่: เมือง เบลด

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองเบลด..ตั้งอยู่เขตสาธารณรัฐสโลเวเนียเป็นประเทศเล็กๆ ที่เพิ่งจะประกาศตนเป็นอิสระเมื่อ ค.ศ.1991 โดยแยกตัวมาจาก ประเทศยูโกสลาเวีย ดินแดนแห่งนี้มีประเทศขนาดใหญ่ล้อมรอบอยู่ คือ ออสเตรีย ฮังการี โครเอเชีย และอิตาลี เมืองนี้ถือเป็นเมืองตากอากาศ เคยได้รับรางวัลชนะเลิศรีสอร์ทของโลก ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเบลดที่งดงามแวดล้อมด้วยธรรมชาติของขุนเขาแอลป์ที่เรียกว่าJulian Alps Mountain ถูกขนานนามว่า"ไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์" ทะเลสาบเบลดแห่งนี้โดดเด่นด้วยเกาะกลางทะเลสาบ ที่น้ำทะเลสาบโดยรอบ สีเขียวมรกตสวยงาม

  • นำท่าน ล่องเรือ “เพลทน่า” : ทะเลสาบเบลด

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ทะเลสาบเบลด ตั้งอยู่ริมเทือกเขาแอลป์จูเลียน เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสโลเวเนีย เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งโบฮินจ์ ในยุคน้ำแข็ง แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือน้ำในทะเลสาบ ไม่ได้มาจากการละลายของธารน้ำแข็ง แต่มาจากบ่อน้ำร้อนใต้ดินหลายแห่ง น้ำในทะเลสาบนี้จึงใสบริสุทธิ์ และไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว ทะเลสาบถูกล้อมรอบไปด้วยป่าทึบ ทำให้ทะเลสาบนี้งดงามยิ่ง

  • ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

  • พักโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • Day 3
  • เช้า อาหารเช้า ณ โรงแรม

  • เดินทางสู่: ถ้ำโพสทอยน่า

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ถ้ำโพสทอยน่า อยู่ในประเทศสโลเวเนีย เป็นถ้ำสวยที่สุดในยุโรปแห่งหนึ่ง อายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี มีความยาว ภายในถ้ำถึง 27 ก.ม. เชิญเยี่ยมชมภายในถ้ำโดยขบวนรถรางไฟฟ้า วิ่งผ่านลำธาร เขื่อนเก็บน้ำใต้ดินภายในถ้ำตลอดระยะทาง 5 ก.ม.ภายในถ้ำมีหินอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่างๆ มากมายภายในถ้ำลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ราวกับวิมานเนรมิต

  • เที่ยง อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารถ้ำโพสทอยน่า

  • เดินทางสู่: เมืองซาเกร็บ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองซาเกร็บเป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบแพนโนเนีย ซึ่งเชื่อมโยงกับเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาไดนาริกแอลป์ ทะเลเอเดรียติก นี่จึงทำให้ซาเกร็บเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่สำคัญกับภูมิภาคยุโรปกลางและทางทะเลเอเดรียติก นอกจากนี้ซาเกร็บยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการศึกษาของประเทศอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ซาเกร็บยังโดดเด่นทางด้านการท่องเที่ยวด้วยเสน่ห์ของความเป็นเมืองเก่าที่มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมอีกด้วย

  • เดินทางสู่: มหาวิหารเซนต์สตีเฟน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St Stephens Cathedral) ตั้งอยู่ในเมืองซาเกร็บ เป็นวิหารอันมีอายุเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1093 ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ในสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิค หลังจากที่ถูกกองทัพมองโกลทำลายในปี ค.ศ. 1242 โดยมีลักษณะเป็นหอคอยแฝดปลายแหลมสีทอง ที่มีความแปลกตรงที่มีขนาดความสูงที่ไม่เท่ากัน ส่วนภายในวิหารนั้นประดิษฐานรูปปั้นนักบุญที่สำคัญ ทั้งเซนต์ปีเตอร์และเซนต์ปอล นอกจากนั้นยังมีความโดดเด่นอีกอย่างคือ หลังคาวิหารที่ปูกระเบื้องเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของกองกำลังทหารในยุคกลางนั่นเอง

  • เดินทางสู่: จัตุรัสเยลาซิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    จัตุรัสเยลาซิคตั้งอยู่บริเวณจุดศูนย์กลางเมืองซาเกร็บ โดยตั้งอยู่ด้านล่างของเขตเมืองเก่าซาเกร็บ และอยู่ทางทิศใต้ของตลาดโดแลค ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางที่แท้จริงของซาเกร็บเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเต็มไปด้วยคาเฟ่ แหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารมากมาย ดังนั้นทั้งชาวโครแอตเองและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจึงมักมารวมตัวกันอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นสิ่งที่ยิ่งเสริมให้ที่นี่มีจุดเด่นมากยิ่งขึ้นก็คือคืออนุสาวรีย์เยลาซิคที่นั่งอยู่บนหลังม้าอันเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชาตินิยมอย่างสมบูรณ์แบบ

  • ผ่านชม: โบสถ์เซนต์มาร์ค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โบสถ์เซนต์มาร์ค ตั้งอยู่ในเขตที่ทำการรัฐบาล มีหลังคาสีสันสวยงาม ไม่เหมือนใคร โดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องที่ปูเป็น รูปตราของกองทหารแห่งยุคกลาง เช่น ตราหมากรุกสีแดง-ขาว หมายถึง โครเอเชีย ส่วนหัวลีโอพาร์ด 3 ตัว แทนแคว้นดัลเมเทีย แถบสีแดง ฟ้า ขาว หมายถึง สโลวาเนีย และตราฝั่งขวามือ คือ ตราของกองกำลังแห่งซาเกร็บรอบๆ จัตุรัส กำแพงหินโบราณ ยุคศตวรรษที่ 13 ที่สร้างรายล้อมเมืองเก่า ซึ่งยังคงความอัศจรรย์ของภาพพระแม่มารีที่ไม่ถูกเผาทำลายเมื่อไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1731

  • ผ่านชม: ประตูเมืองเก่าสโตนเกท

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ประตูเมืองเก่าสโตนเกท สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เป็นประตูเมืองที่ยังหลงเหลืออยู่มีรูปพระแม่มารีรอดพ้นจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1731 เชื่อกันว่าเกิดจากปาฏิหาริย์อันศักดิ์สิทธิ์ โดยไม่เสียหายจากไฟไหม้ เพื่อป้องกันภาพวาด จึงมีการสร้างโบสถ์เพิ่มเติมและภาพวาดที่ยังคงอยู่ด้านหลังตะแกรงโลหะ ปัจจุบัน มีผู้เข้าไปชมภาพวาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเข้ามามาสวดมนต์และให้ของขวัญแด่โบสถ์นี้

  • ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • พักโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • Day 4
  • เช้า อาหารเช้า ณ โรงแรม

  • เดินทางสู่: อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า (Plitvice Lakes National Park) อุทยานแห่งนี้มีต้นกำเนิดมาจากน้ำในภูเขามาลา คาเปลา ที่กัดเซาะชั้นหินปูนและก้อนหินโดโลไมท์ มาเป็นระยะเวลานานหลายพันปี จนก่อเกิดเป็นน้ำตกที่ไหลลงสู่ทะเลสาบสีเขียวมรกต และสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แวววาวภายในอุทยานถึง 16 แห่ง โดยเป็นสีที่เกิดจากการผสมผสานกันของแร่ธาตุต่าง ๆ และน้ำพุร้อนใต้ผืนดินแห่งนี้ ซึ่งแต่ละแห่งเชื่อมต่อกันด้วยสะพานไม้ ที่ลัดเลาะผ่านผืนน้ำ ต้นไม้ใหญ่ที่เขียวชอุ่ม และเนินเขาน้อยใหญ่ที่รายล้อมอุทยาน

  • แวะถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑ์สงครามกลางแจ้ง: เมือง คาร์โลวัตส์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    คาร์โลวัตส์ เป็นเมืองและเทศบาลในภาคกลาง ส่วนภูมิภาคเซนทรัลโคเอเซีย ของสาธารณโครเอเชียของโครเอเชีย มีประชากรประมาณ 49,082 คน ในขณะที่เขตเทศบาลทั้งหมดมีประชากร 59,395 คน (ปี ค.ศ.2001) คาร์โลวัตส์ ถือเป็นศูนย์กลางการปกครองของ Karlovac County ตั้งอยู่บนถนนทางหลวง the Zagreb-Rijeka Highway และมีทางรถไฟ Railway Line ที่มีระยะทางประมาณ 56 กม.อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซาเกร็บ และ ห่างจาก เมือง Rijeka ประมาณ 130 กิโลเมตร นอกจากนี้ เมืองนี้มีชื่อเสียงในการผลิตเบียร์ชื่อดังของสาธารณโครเอเชียด้วย

  • เที่ยง อาหารกลางวัน ณ อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่

  • นำท่าน ล่องเรือข้ามทะเลสาบ: ทะเลสาบคอสจัค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ทะเลสาบคอสจัค (Lake Kozjak) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดและลึกที่สุดในบรรดา 16 ทะเสาบ ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า ประเทศโครเอเชีย นั่นคือมีความกว้างถึง 81.5 เอเคอร์ และลึกกว่า 46 เมตร อีกทั้งยังเป็นทะเสาบที่ตั้งอยู่ด้านบนของเทือกเขา โดยมีน้ำตกมิลาโน่วัคซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 20 เมตร นำพาน้ำจากทะเลสาบคอสจัค ไหลลงมาสู่ทะเลสาบที่อยู่ชั้นล่างลงมา ซึ่งนั่นก็คือทะเลสาบมิลาโน่วัค

  • เดินทางสู่: เมืองซาดาร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองซาดาร์ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย ซึ่งในอดีตนั้นที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชียมาก่อน และมีบทบาทเป็นเมืองท่าที่สำคัญของคาบสมุทรเอเดรียติคมาตั้งแต่ในช่วงสมัยอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน และในปัจจุบันซาร์ดาร์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่และยาวนานมากกว่า 3,000 ปี ซึ่งสามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมในแบบโรมาเนสก์และโกธิค ให้แพ็กกระเป๋าเดินทางมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย

  • ค่ำ อาหารค่ำ ณ ณ โรงแรมที่พัก

  • พักโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • Day 5
  • เช้า อาหารเช้า ณ โรงแรม

  • นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่: เมืองซีเบนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองซีเบนิคคือเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของโครเอเชีย ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โดยทอดตัวยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ซึ่งหากมองจากระยะไกลก็จะเห็นถึงความคลาสสิกของเมืองแห่งนี้ด้วยอาคารบ้านเรือนที่มุงหลังคากระเบื้องสีส้มสไตล์เรเนซองส์ทอดยาวริมฝั่งทะเล นอกจากนั้นซีเบนิคยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยภูมิทัศน์อันงดงาม รวมทั้งอนุสาวรีย์ทางวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของมลรัฐหมู่เกาะชีเบนิค-คนีนอีกด้วย

  • นำท่านชม: มหาวิหารเซนต์เจมส์หรือมหาวิหารเซนต์จาคอบ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    มหาวิหารเซนต์เจมส์หรือมหาวิหารเซนต์จาคอบคืออีกหนึ่งมรดกโลกของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ที่เมืองซีเบนิคบนชายฝั่งดัลเมเชียน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมการส่อสร้างในแบบผสมระหว่างศิลปะทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ดัลเมเชีย และทัสคานี เนื่องจากใช้สถาปนิกในการออกแบบถึง 3 คน และมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน โดยสร้างเสร็จในปี 1535 ด้วยโครงสร้างที่มาจากหินปูนสีขาวล้วนๆ ไม่มีวัสดุอื่นปลอมปน ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นนักบุญเจมส์หรือจาคอบตามภาษาโครแอต ซึ่งเป็น 1 ใน 12 สาวกของพระเยซู

  • เดินทางสู่: เมืองโทรเกียร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โทรเกียร์คือเมืองเล็กๆ บนเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากแผ่นดินใหญ่มากนัก ทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคกรีกและโรมัน และผ่านการปกครองจากเชื้อชาติต่างๆ มาหลายยุคหลายสมัย นั่นจึงทำให้โทรเกีย์กลายเป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย ด้วยสิ่งก่อสร้างต่างๆ อันเป็นผลิตผลจากการปกครองของอาณาจักรเวนิสในยุคเวนิเชียน ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ หรืออาคารบ้านเรือนในสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองก์และบาโร้ก และนี่เองที่ส่งเสริมให้โทรเกียร์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าจนได้รับการรับรองให้เป็นอีกหนึ่งมรดกของโลก

  • เที่ยง อาหารกลางวัน ณ ภัตคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชม: เขตเมืองเก่าโทรเกียร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เขตเมืองเก่าโทรเกียร์ (trogir old town) มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมืองที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชมมหาวิหารเซ็นต์ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลัก ที่มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญองค์สำคัญ

  • เดินทางสู่: เมืองสปลิต

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองสปลิตเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโครเอเชีย รวมทั้งยังเป็นอีกหนึ่งเมืองท่าที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวของประเทศ เนื่องจากในแต่ละปีนั้นนักเดินทางจากทั่วโลกต่างมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่นี่ไม่น้อยกว่าล้านคน ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเสน่ห์อันล้นเหลือของสปลิต ไม่ว่าจะเป็นในฐานะของเมืองโบราณอันเก่าแก่และเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและการบริหารในศตวรรษที่ 15 และก่อเกิดสิ่งก่อสร้างอันทรงคุณค่าต่างๆ ตามมา อย่างเช่นพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน หนึ่งในพระราชวังที่ถูกการรับรองให้เป็นมรดกของโลก

  • นำท่านชม: พระราชวังไดโอคลีเชียน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พระราชวังไดโอคลีเชียนตั้งอยู่ที่เมืองสปลิทประเทศโครเอเชีย โดยพระราชวังแห่งนี้สร้างโดยพระราชประสงค์ของจักรพรรดิไดโอคลีเชียนแห่งจักรวรรดิโรมัน เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับในบั้นปลายชีวิต เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4ลักษณะภายนอกเป็นพระราชวังขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆ หลายส่วนนับตั้งแต่ทางเข้าหลัก อย่างเช่นมหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์ โบสถ์แห่งเทพวีนัส และวิหารโดมนิอุส เป็นต้น จึงทำให้พระราชวังแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่อันทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1979

  • ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • พักโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • Day 6
  • เช้า อาหารเช้า ณ โรงแรม

  • เดินทางสู่: เมืองมาลี สตอน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ชมฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยงแล้วให้ท่านได้ชิมหอยนางรมและหอยแมลงภู่สดๆจากทะเลอาเดรียติก พร้อมด้วยไวน์สดและวอดก้าท้องถิ่นท่านกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก

  • ก่อนเดินทางถึงเมืองมาลี สตอน ท่านจะได้ข้ามพรมแดน (แวะถ่ายรูป) : เมือง นีอุม

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองนีอุม ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชีย ประเทศบอสเนีย โดยประชาการส่วนใหญ่ก็เป็นชาวโครเอเชีย สินค้าที่เนอุม ส่วนใหญ่คล้ายๆกับโครเอเทีย แต่ลูกฟิกส์อบแห้ง เป็นสินค้ายอดฮิต เพราะคือ "ไวอากร้าโรมัน" ถุงดูสะอาด ไม่ได้แพงมาก ถ้าเทียบกับขายที่ท๊อปซุเปอร์บ้านเรา ที่เนอุม รับเงินได้สามสกุลเลย ยูโร ,คูน่า ของโครแอต และสกุลท้องถิ่น ของบอสเนีย

  • เที่ยง อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง มาลีสตอน

  • เดินทางสู่: เมืองดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองดูบรอฟนิคเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย และมีพรมแดนติดกับประเทศบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า ในอดีตในช่วงศตวรรษที่ 13 เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจทางทะเล โดยครอบคลุมพื้นที่ทะเลเอเดรียติคและทะเลเมดิเตอเรเนียนทั้งหมด และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในยุคนั้นจนก่อให้เกิดปัญหาตามมา แต่ในปัจจุบันดูบรอฟนิคกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโครเอเชีย และได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองเก่าที่สวยที่สุดในทวีปยุโรป จนทำให้ได้รับฉายาว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค

  • นำท่านชม: เขตเมืองเก่าดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เขตเมืองเก่าดูบรอฟนิคเป็นเขตเมืองซึ่งถูกโอบล้อมด้วยกำแพงโบราณสูงตระหง่านถึง 25 เมตร ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้ป้องกันการรุกรานของศัตรู โดยประตูเมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ส่วนภายในกำแพงหินนั้นเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเก่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก-บาโร้ก รวมทั้งถนนการค้าเส้นสำคัญที่ปูพื้นด้วยหินด้วยความยาว 292 เมตร ซึ่งเกือบทั้งหมดภายในเขตเมืองเก่านี้คือสิ่งที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่จากความเสียหายเพราะเหตุการณ์การต่อสู้แบ่งแยกดินแดนจากยูโกสลาเวีย

  • นำท่านชม: กำแพงเมืองโบราณดูบลอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    กำแพงเมืองโบราณดูบลอฟนิคคือชุดกำแพงหินสำหรับป้องกันเมืองที่มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร โดยสร้างขึ้นเพื่อล้อมรอบและป้องกันชาวเมืองจากช่วงเวลาที่อันตรายและยากลำบาก เมื่อกองทัพจากประเทศต่างๆ บุกเข้าโจมตีดูบรอฟนิค ภายหลังจากที่โครเอเชียถูกแบ่งแยกดินแดน และเมืองดูบลอฟนิคถูกประกาศให้เป็นรัฐอิสระทางชายฝั่งทะเล ณ ปัจจุบันกำแพงแห่งนี้ยังได้รับการรักษาเป็นอย่างดี และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองแห่งนี้ อีกทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นป้อมปราการอันยิ่งใหญ่ของยุคกลางที่ไม่เคยถูกล่วงล้ำจากกองทัพศัตรูได้

  • นำท่านชม: ประตูหลักเมืองดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    หรือ ประตูปิเล เป็นทางเข้าหลักของเมือง ที่เชื่อมอยู่กับสะพานหินที่มีอายุย้อนถึงปีค.ศ.1537 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของย่านเขตเมืองเก่าดูบรอฟนิค เพื่อปกป้องเมืองภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียนและเซิร์บ ซึ่งต้องเดินทางผ่านทางสะพานไม้ อันเป็นสะพานที่สามารถยกขึ้นทุกเย็น แล้วประตูเมืองจึงจะปิดล็อคเอง เหนือประตูปิเล มีรูปปั้นของนักบุญเบลส ซึ่งเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของเมือง ซึ่งฝังตัวอยู่ในโค้งของประตูเมือง ออกแบบโดย Ivan Mestrovic นักประติมากรในศตวรรษ 20

  • ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • พร้อมชมการแสดงระบำลาโด้ ศิลปะการแสดงท้องถิ่นที่พิเศษจัดให้ชมเฉพาะท่านเท่านั้น!!!

  • พักโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • Day 7
  • เช้า อาหารเช้า ณ โรงแรม

  • อิสระช้อปปิ้ง: ซุปเปอร์คอนซูม

  • เที่ยง อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองริมทะเล เมนูพิเศษ กุ้ง LOBSTER ย่าง เสิร์ฟพร้อมสปาเก็ตตี้ ริมทะเลอาเดรียติค

  • นำท่านข้ามพรมแดนสู่ ประเทศมอนเตเนโกร :

  • เดินทางสู่: เมืองกอเตอร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองชายฝั่งทะเลที่มีมนต์เสน่ห์ด้วยความงดงามของทัศนียภาพริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกเมืองหนึ่งของมอนเตเนโกร อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้อีกด้วย ตัวเมืองถูกสร้างขึ้นภายในกำแพงสูงที่แบ่งเมืองออกเป็น 2 โซน คือ โซนเมืองเก่า และโซนเมืองใหม่ โดยกำแพงเมืองแห่งนี้สร้างโดยชาวเวนิส ในช่วงที่เข้ามายึครองระหว่างปี 1420 และ 1797 ยิ่งไปกว่านั้นงานสถาปัตยกรรมในเมืองส่วนใหญ่ก็ยังได้รับอิทธิพลจากชาวเวนิสด้วยเช่นเดียวกัน

  • นำท่านชม: โบสถ์เซ็นต์ไทรฟอน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    อีกหนึ่งโบสถ์สำคัญและมีชื่อเสียงของเมืองกอเตอร์ ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยใช้ศิลปะแบบโรมัน ต่อมาในศตวรรษที่ 17 เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงทำให้ตัวโบสถ์ทางด้านทิศตะวันตกได้รับความเสียหาย จึงมีการสร้างหอระฆังสไตล์บาร๊อคจำนวน 2 หอขึ้นมาแทนที่ ภายในโบสถ์มีการตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังมากมายซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณค่าทางศิลปะรวมทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ด้วย

  • นำท่านชม: อนุสาวรีย์กษัตริย์นิโคลา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    กษัตริย์นิโคลา คือ กษัตริย์องค์สุดท้ายของมอนเตเนโกร พระองค์ทรงมีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านการเมืองการปกครอง และทางด้านการประพันธ์บทกวีอันแสนไพเราะ อนุสาวรีย์ของพระองค์ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะตรงข้ามกับอาคารรัฐสภา รูปปั้นของพระองค์มีความสูงถึง 4 เมตรอยู่ในอิริยาบทนั่งบนหลังม้าอย่างสง่างาม ซึ่งยืนอยู่บนแท่นหินอ่อนสีแดง

  • เดินทางสู่: เมืองบุดวา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองโบราณริมชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ทางตอนใต้ของมอนเตเนโก ซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 5 เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ อันน่าหลงใหลด้วยธรรมชาติอันงดงาม ทั้งหาดทรายขาว อ่าวน้อยใหญ่ที่มีน้ำทะเลใสเหมือนกระจก รวมทั้งเกาะต่างๆอีกมากมาย นอกจากนี้ เมืองบุดวา ยังเป็นเมืองที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และอารยธรรมสไตล์เวนิส เนื่องจากบุดวาเคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาวเวนิสนานถึง 400 ปี ในเมืองจึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเวนิสที่ยังคงหลงเหลืออยู่

  • ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • พักโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

  • Day 8
  • เช้า อาหารเช้า ณ โรงแรม

  • นำท่านเที่ยวชม เมืองเก่า “บุดว่า” (Budva) :

  • นำท่านชม: โบสถ์เซ็นต์จอห์น

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของบุดวา ถือเป็นหนึ่งในโบสถ์คาทอลิคที่มีชื่อเสียงและมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน แต่ก็ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ระบุแน่ชัดว่าโบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อใด ตัวโบสถ์ถูกสร้างโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบนีโอ - โกธิค ซึ่งเป็นรูปแบบงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในช่วงศตวรรษที่ 19 บริเวณหน้าต่างมีการใช้ศิลปะแบบโกธิค คือ มีการใช้กระจกชิ้นเล็กหลากสีสันในการประดับตกแต่งซึ่งมีความงดงาม และมีมนต์เสน่ห์ นอกจากนี้ภายในโบสถ์ยังมีงานประติมากรรมที่น่าสนใจอีกด้วยซึ่งก็คือภาพของพระแม่มารี

  • เดินทางสู่: เมือง พอดกอรีตซา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศซึ่งมีภูมิประเทศทั้งแบบชายฝั่งทะเล และเทือกเขาสูง ทำให้เมือง พอดกอรีตซา มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งทะเล ชายหาด ภูเขา ลานสกี และในเมืองก็ยังมีน้ำหลายสายไหลผ่านทำให้มีสภาพอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว เมืองพอดกอรีตซา ยังเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่างๆที่สะท้อนให้เห็นถึงงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์ตั้งแต่อดีตของชาวเมืองพอดกอรีตซาด้วย

  • เที่ยง อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน พอดกอรีซา

  • 15.00 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยเที่ยวบิน OS 728

  • 23.20 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน OS025

  • นำท่านทางออกนอกสนามบิน เพื่อช้อปปิ้ง: เอาท์เลทพาร์นดอร์ฟ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เอาท์เลทแห่งแรกของประเทศออสเตรีย และเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ ตั้งอยู่กรุงเวียนนา มีร้านค้ามากกว่า 120 ร้าน สินค้าแบรนด์ชื่อดังต่างๆ จากทุกมุมโลก มีให้เลือกมากมายอย่างจุใจ เช่น รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน สินค้าแบรนด์เนมมากมาย แหล่งเลือกซื้อสินค้านี้อยู่นอกเมือง ห่างจากกรุงเวียนนา 47 กิโลเมตร แต่เดินทางสะดวกสบาย มีรถประจำจากใจกลางเมืองฝั่งตรงข้าม Opern Haus ออกเดินทางทุกชั่วโมง

  • ค่ำ อิสระอาหารค่ำ:

  • นำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินเวียนนา

  • Day 9
  • 14.20 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ สนามบินสุวรรณภูมิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

คำถามที่พบบ่อย

 ซื้อทัวร์กับมัชรูมทราเวล มั่นใจได้แค่ไหน? จะได้เดินทางตามใบนัดหมายหรือเปล่า?

บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด ทำงานด้านการท่องเที่ยวมานาน ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียในเรื่องนี้ เพราะเราซื่อสัตย์ จริงใจ และที่สำคัญเรามีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/09294 ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเภท Outbound คือบริษัททัวร์ที่สามารถจัดทัวร์นำเที่ยวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

มัชรูมทราเวล เป็นผู้จัดทำแพ็กเกจทัวร์เองหรือส่งต่อให้กับบริษัททัวร์อื่น?

มัชรูมทราเวล มีทั้งจัดแพ็กเกจทัวร์เองในนาม มัชรูมทราเวล และจัดทัวร์ร่วมกับกลุ่มบริษัทพันธมิตร (Partner) เพื่อให้ลูกค้าได้มีโปรแกรมท่องเที่ยวตามความต้องการและเหมาะสมกับลูกค้ามากที่สุด

สามารถติดต่อขอจองแพ็กเกจทัวร์ต่างๆ ได้อย่างไร?

สามารถแจ้งจองแพ็กเกจทัวร์ที่ต้องการได้หลายช่องทาง เช่น จองทาง เช่น website, Call Center, email, สื่อ Social media ต่างๆ  ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อท่านเพื่อยืนยันที่นั่งพร้อมแจ้งชำระเงินค่าจองทัวร์

มัชรูมทราเวล มีช่องทางการชำระเงินใดบ้าง?

ช่องทางการชำระเงิน มีหลายช่องทาง ดังนี้
  • 1. ชำระด้วยเงินสด หรือ เช็คเงินสด ที่ บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด  คลิกดูแผนที่บริษัท 
  • ชำระด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร ชื่อบัญชี บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด   คลิกดูรายชื่อธนาคาร
  • 3. ชำระด้วยบัตรเครดิต ชำระโดยตรงได้ที่บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด หรือแจ้งพนักงานขายของท่าน (โดยมีค่าธรรมเนียมการใช้บัตรจ่ายธนาคาร 3.5% ของมูลค่าสินค้า)

เมื่อใดจึงจะทราบว่าจองทัวร์สำเร็จ ได้รับที่นั่งเรียบร้อย?

หลังจากลูกค้าแจ้งชำระเงินมัดจำค่าทัวร์ และการบริการอื่นๆ เรียบร้อยแล้ว พนักงานขายจะติดต่อกลับเพื่อยืนยันที่นั่งอีกครั้ง พร้อมส่งเอกสารการยืนยันสำรองที่นั่ง

เมื่อชำระเงินค่าทัวร์เรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องแจ้งกับพนักงานขายหรือไม่?

จำเป็น!  เพื่อให้พนักงานขายรับทราบและตัดสำรองที่นั่งให้ท่านได้อย่างรวดเร็ว ท่านสามารถแจ้งผ่านทาง e-mail ของพนักงานขาย , Line ของพนักงานขาย หรือทางแฟกซ์หมายเลข 02 745 6258  โดยส่งหลักฐานการโอนเงินแนบประกอบมาด้วย

สามารถขอยกเลิกการเดินทาง และขอเงินคืนมัดจำหรือเงินค่าทัวร์เต็มจำนวนได้ไหม?

สามารถขอยกเลิกการเดินทาง และขอเงินคืนได้ไหมนั้น ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการจอง ขอให้สอบถามกับพนักงานขายที่บริการท่านหรือดูรายละเอียดในเอกสารรายการทัวร์  แต่โดยส่วนใหญ่จะไม่สามารถขอยกเลิกหรือขอคืนเงินได้หลังจากได้ทำการจ่ายเงินแล้ว

กรณีจองทัวร์แล้วแต่กรุ๊ปทัวร์ที่จอง มีผู้เดินทางไม่ถึงตามที่กำหนด ทัวร์ยังจะออกเดินทางหรือไม่?

เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 7 วันหากมีผู้เดินทางไม่ครบตามกำหนด และบริษัท ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนให้ท่าน

เงื่อนไขทัวร์

อัตราค่าบริการนี้รวม:

  • ตั๋วเครื่องบินสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ ไป – กลับ (ชั้น ECONOMY) ตามรายการที่ระบุไว้
  • ภาษีสนามบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและปลายทางต่างประเทศ
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทางตามที่ระบุ
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าพาหนะในระหว่างนำเที่ยวทั้งหมดตามที่ระบุ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ที่ระบุ
  • มัคคุเทศก์บริการอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ประกันการเดินทาง ความคุ้มครอง 1,500,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าออสเตรียและวีซ่าโครเอเชีย
  • ค่าธรรมเนียมทิปคนขับรถ 14 ยูโร

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม:

  • ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % กรณีออกใบกำกับภาษี
  • ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ / ค่าซักรีด / ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
  • คน และหัวหน้าทัวร์ คนละ 1,000 บาท / คน

หมายเหตุ:

  • กรณีกรุ๊ปทัวร์ไม่ออกเดินทาง Mushroom Travel ยินดีคืนเงินให้ท่านภายใน 10 วันทำการ
  • กรณีต้องยื่นวีซ่า เราบริการ รับ-ส่ง เอกสารครั้งแรกฟรี เฉพาะในกรุงเทพฯ ยกเว้นเขตหนองจอก
  • กรุณาชำระมัดจำท่านละ 20,000 บาท ภายใน 3 วัน จากวันจอง และชำระส่วนที่เหลือก่อนเดินทาง 10 วัน หรือ เมื่อทางสายการบินมีการเรียกออกตั๋ว โดยทางบริษัททัวร์ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าก่อนจะมีการเรียกเก็บเงิน
  • เงื่อนไขการยกเลิก
  • ยกเลิกหลังการจอง ปรับเงินทันที 1,000 บาท (คิดเป็นค่าบริการบริการของพนักงาน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน หักค่ามัดจำ 5,000 บาท
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15 วัน หักค่าใช้จ่าย 50% ของราคาทัวร์ + ค่าวีซ่าโครเอเชีย
  • ยกเลิกการเดินทาง 1-3 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของราคาทัวร์
  • หากมีการออกตั๋วเครื่องบินหรือจองโรงแรมไปแล้ว ทางบริษัทฯ จะคิดค่าบริการตามจริง
โทรหาเรา
ไปด้านบนสุด