หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต หรือ ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Airport) หรือชื่อเต็มคือ ท่าอากาศยานฟรังค์ฟวร์ทอัมไมน์ ตัวย่อสนามบิน: FRA เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครแฟรงก์เฟิร์ต เมืองศูนย์กลางทางการเงินของยุโรป
เมืองคาร์โลวี วารี ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาที่อุดมสมบูรณ์และมีแม่น้ำเทปลาได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดของเช็กตามตำนานบอกว่าพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ทรงพบแหล่งน้ำแร่ที่เมืองนี้ในปีค.ศ. 1358 เมื่อครั้งเสด็จฯ ออกล่าสัตว์แล้วสุนัขล่าเนื้อตัวหนึ่งตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อน นับแต่นั้นเมืองนี้ก็มีชื่อเสียงของบ่อน้ำแร่ที่ใช้สำหรับรักษาร่างกายและบำบัดโรคร้ายต่างๆ เป็นต้นมาจนถึงเดี๋ยวนี้ เป็นทั้งเมืองมีน้ำพุร้อนและน้ำแร่อุณหภูมิตั้งแต่ 42-72 องศาเซลเซียส ทั้งหมด 12 แห่ง
"ปราก" (Prague) เมืองสุดสวยและแสนโรแมนติกจนเป็นที่นิยมของคู่รักและนักเดินทางทั่วโลก ปรากเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลายสไตล์ ทั้งโรมันเนสก์ โกธิค เรเนซองส บารอค และองค์การยูเนสโกได้เลือกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี 1992 เชิญเที่ยวชมสถานสำคัญ ๆ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามต่าง ๆ ในทุกยุคสมัย เช่น จัตุรัสฮราดคานีย์ ปราสาทแห่งกรุงปราก มหาวิหารเซนต์วิตัส สะพานชาร์ล และอีกหลากหลายสถานที่ที่น่าไปเที่ยวชมให้ได้เมื่อมาเยือน "ปราก"
ย่านจัตุรัสเมืองเก่า ปราก (Prague Old Town Square) ตั้งอยู่บริเวณเขตเมืองเก่าของกรุงปราก ซึ่งอยู่ใกล้กับจตุรัสเวนเซลัส และสะพานชาร์ลส จัตุรัสนี้ถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของกรุงปราก เคยเป็นตลาดค้าขายตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 12 โดยบ้านเรือนล้อมรอบจตุรัสที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และอาคารบ้านเรือนเหล่านั้นก็มีรูปแบบศิลปะทั้งสไตล์โรมาเนสก์ บารอค และกอธิค เช่น วิหารทิน โบสถ์เซนต์นิโกลาส เป็นต้น
สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คอีกเเห่งหนึ่งของกรุงปราก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กที่ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออก ตัวสะพานนั้นจะทอดยาวข้ามเเม่น้ำวิตาร่า เพื่อเชื่อมพื้นที่ทั้งสองฝั่งของกรุงปราก ซึ่งนั่นก็คือ Lesser Town ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตก และ Old Town ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเเม่น้ำ เข้าด้วยกัน
ปราสาทปราก (Prague Castle) ปราสาทใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก สร้างขึ้นในปี 885 โดยเจ้าชายบริโวจเคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่งเช็กในอดีต ปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งปราสาทปรากถือเป็นเสมือนสัญลักษณ์ และเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศ ปาสาทได้รับการบูรณะในสมัยของพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ในสไตล์แบบกอธิค ได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊กว่า เป็นปราสาทโบราณใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาวประมาณ 570 เมตร และความกว้างประมาณ 130 เมตร
มหาวิหารเซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral) ตั้งอยู่ในปราสาทปราก (Prague Castle) ในเขต Castle District ทางด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำ Vltava จากใจกลางเมืองปราก สาธารณรัฐเชค มหาวิหารนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิค ที่สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-16 และเป็นรูปแบบสถาปัตย์ ที่ช่วยให้สถาปนิกบรรลุวัตถุประสงค์เชิงศรัทธาทางศาสนา ซึ่งเป็นตัวอย่างของมหาวิหารแบบกอธิคที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะ “การเพิ่มพื้นที่ว่างอันศักดิ์สิทธิ์” ได้อย่างชัดเจน
กรุงเวียนนา (Vienna | Wien) เมืองหลวงแห่งประเทศออสเตรีย เมืองที่ได้ชื่อว่าคุณภาพดีที่สุดของโลก เพราะที่นี่อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เป็นเมืองที่คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกพิเศษและสุดแสนจะโรแมนติก เส้นทางเต็มไปด้วยความร่มรื่น รายล้อมด้วยสถานที่สวยงาม เช่น ปราสาทในเทพนิยาย สวนดอกไม้และสวนสาธารณะ ตึกรามบ้านช่อง โบสถ์ โรงโอเปร่า โรงละคร และพิพิธภัณฑ์
โครงการถนนวงแหวนรอบกรุงเวียนนา โดยขนาดของโครงการนี้จูงใจสถาปนิกจากทั่วยุโรป มีการก่อสร้างอาคารที่ทำการของราชสำนักและของรัฐ รวมไปถึงที่พักอาศัยของชนชั้นสูงในยุคของริงสตราเซ่ การค้า,ศิลปะ,ละครร้อง,กวีนิพนธ์ และภาพเขียน ได้รับความสนใจจากประชาชน ทำให้อาคารสถานที่ ต่างๆ ที่รายล้อมรอบดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จัดวางได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่พระราชวังฮอฟบรูก์ กลุ่มอาคารพระราชวังของจักรพรรดิ อิมพิเรียลอพาร์ตเมนท์ หอศิลป์แห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติ
พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) เป็นพระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1275 แต่เดิมคือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ชั้นยอดในบริเวณที่พำนักอันเก่าแก่ของราชวงศ์ที่ทรงอำนาจแห่งออสเตรีย
พระราชวังเชินบรุนน์ พระราชวังสีเลืองตั้งตระหง่านกับสวนดอกไม้ที่ไกลสุดลูกตา ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ในอดีตเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 จนถึง พ.ศ. 2461 ออกแบบโดย Johann Bernhard Fischer von Erlach และ Nicolaus Pacassi เป็นสถานที่รวบรวมผลงานทางศิลปะการตกแต่งชั้นเยี่ยมจำนวนมาก ภายในอุทยานเคยเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์แห่งแรกของโลกเมื่อ พ.ศ. 2295 ปัจจุบันได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในกรุงเวียนนา
สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน ในย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา
ย่านถนนการค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ มากมาย สามารถใช้เวลาเดินชมสินค้านานาชนิด หรือ ชมความงามของโบสถ์เซนต์สตีเฟ่น ในศิลปะแบบโกธิค ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา เชิญเลือกซื้อหาของฝากจากออสเตรีย อาทิเช่น เครื่องแก้วเจียระไน, คริสตัล ของที่ระลึกต่างๆ นั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ ชมชีวิตผู้คนของชาวเวียนนาตามอัธยาศัย หรืออาจใช้เวลาว่างทดลองชิมเวียนนาคอฟฟี่ พร้อมเค็กที่มีชื่อเสียง
บูดาเปสต์ (Budapest) นครสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า ริมสองฝั่งแม่น้ำดานูป สมญานามว่า “ราชินีแห่งลุ่มน้ำดานูป” แม่น้ำสายโรแมนติกอย่างแม่น้ำดานูบที่แบ่งเมืองออกเป็น 2 เมืองคือ เมืองบูดและเมืองเปสต์ อันเป็นที่มาของชื่อเมืองนี้ เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการีและศูนย์กลางการปกครอง อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการคมนาคมขนส่ง มีประชากรมากกว่า1.7ล้านคน และได้กลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยวของยุโรปกลางมาตั้งแต่ราวทศวรรศ1990 เชิญสัมผัสความงดงามของปราสาทบูดา,หอศิลป,โบสถ์แมทเทียส,อาคารรัฐสภาฮังการี และซิตี้ พาร์ค
แม่น้ำดานูบ ฮังการี (Danube River, Hungary) เป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของยุโรป มีต้นกำเนิดที่แถบป่าดำในเยอรมนี เกิดจากแม่น้ำ 2 สายคือ Brigach และ Breg ซึ่งไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำดานูบที่เมือง Donaueschingen รัฐบาเดิน ประเทศเยอรมนีถือเป็นเม่น้ำสายโรแมนติกสายหนึ่งของยุโรปที่ไหลผ่านเมืองต่างๆ รวมทั้งประเทศฮังการี กิจกรรมหลักที่มาถึงบูดาเปสต์คือ การสัมผัสกับบรรยากาศแห่งการล่องเรือดานูบ ชมความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมแบบกอธิค เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำ มนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย
บูดาเปสต์ คาสเซิลฮิลล์ (Budapest Castle Hill) ตั้งอยู่บนเนินสูงตระหง่าน ทางทิศเหนือของริมแม่น้ำดานูบ ฝั่งเมืองเก่าบูดา ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ สถาปัตยกรรมสมัยยุคกลางให้ชมได้อย่างดี เช่น พระราชวังเก่า ป้อมปราการชาวประมง วิหารมาเธียส และสถานที่เก่าแก่ทางประวัติศาสตร์มากมาย จากเบื้องบนกำแพงสามารถถ่ายรูป มองวิวทิวทัศน์ของเมืองบูดาอีกฝั่งของแม่น้ำดานูบ เรียงรายด้วยอาคารสถานที่ราชการเก่าแก่สวยงาม ถือเป็นมรดกโลกทางสถาปัตยกรรมในสมัยยุคกลางได้ถูกอนุรักษ์ป้องกันไม่ให้ถูกทำลายมาก
โบสถ์เเมตเทียส โบสถ์ในศิลปะแบบกอธิค สร้างในราวศตวรรษที่ 13 หลังคาของโบสถ์ปูด้วยกระเบื้องสีลวดลายสวยงาม เชิญถ่ายรูปกับโบสถ์ม็อทยอช ที่สร้างมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ต่อมาบูรณะให้เป็นแบบนีโอกอธิค และบาร็อค อนุสาวรรีย์นักบุญสตีเฟ่นที่เปลี่ยนชาวฮังกาเรียนให้มานับถือศาสนาคริสต์ ถัดลงมาเป็นป้อมซิตสเดลลา ที่ออสเตรียสร้างไว้เพื่อรำลึกถึงการรบที่ได้รับชัยชนะเหนือชาวฮังการี ได้เห็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ เป็นรูปปั่น เทพธิดา กิ่งปาล์มไว้เหนือศีรษะขนาดความสูง 40 เมตร
ป้อมชาวประมง บูดาเปสต์ ป้อมปราการใหญ่โตที่ทิ้งร่องรอยแห่งอดีต สร้างในปีค.ศ.1895 อยู่บนเนินเขาสูงริมแม่น้ำดานูบ เดิมเป็นตลาดขายปลาตั้งแต่สมัยยุคกลาง มีป้อมปราการดูแลโดยชาวประมง ปัจจุบันบูรณะใหม่ให้มีทางเดินบางส่วนมีหลังคาคลุม มีลาน Holy Trinity square เป็นจุดศูนย์กลางของบริเวณเมืองเก่า ตรงกลางมีอนุเสาวรีย์สร้างไว้เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ในอดีต และมีรูปปั้นบนเสานี้ คือ Saint Stephen
จัตุรัสวีรบุรุษ มีรูปปั้นของบรรพบุรุษชาวแมกยาร์ทั้ง 7 เผ่ารวมตัวกันก่อร่างสร้างเมืองกันขึ้นมา บริวเณนนั้นมีสวนสัตว์และสวนสาธารณะใจกลางเมือง,โรงอาบน้ำแบบ เตอร์กิชที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตั้งแต่เมื่อ 500 ปีก่อน ข้ามแม่น้ำดานูปสู่ คาสเซิลฮิลล์ บนฝั่งบูดา ดินแดนทั้งสองฟากคือ บูดาเปสต์ มารวมตัวกันในปี ค.ศ.1873 ดินแดนแห่งนี้เคยถูกผู้รุกรานจากมองโกลเมื่อพันปีก่อน แล้วชาวเติร์กถึงเข้ามาปกครองต่อในระหว่างปีค.ศ.1526-1626
เมืองบราติสลาวา (Bratislava) เมืองหลวงของสาธารณรัฐสโลวาเกีย และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ เมืองนี้ตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ ตรงบริเวณพรมแดนของสโลวาเกียกับออสเตรียและฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็กด้วย เมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเวียนนาเพียง 50 กิโลเมตร ที่นี่...มีทัศนียภาพของอาคารบ้านเรือนริมสองฝั่งแม่น้ำ และมีปราสาทแห่งกรุงบราติสลาวาที่สวยงาม ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาคาร์เบเธียน และอยู่เหนือลุ่มแม่น้ำดานูบอีกด้วย โดยปราสาทแสนสวยแห่งนี้ได้สร้างขึ้นโดยการผสมผสานของศิลปะแบบกอธิค
ย่านเมืองเก่าบราติสลาวา (Old Town, Bratislava) โดยเมืองเก่าของบราติสลาวานั้นถือว่าเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่เป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างสำคัญๆมากมาย ผ่านชมอาคารศาลากลางเก่า (Old Town Hall) อาคารเก่าแก่จากศตวรรษที่ 14 ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของย่านเมืองเก่า เป็นหนึ่งในอาคารศาลากลางที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ โดยอาคารถูกสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ.1370
ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองบราติศลาวาซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย ซึ่งปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาคาร์เบเธียนเหนือแม่น้ำดานูบกลางบราติสลาวา ลักษณะปราสาทเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ที่มีหอคอยอยู่สี่มุม ผสมผสานด้วยศิลปะแบบโกธิค เรอเนซองส์ และบารอค ภายในอาคารมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสโลวัก นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสภาแห่งชาติของสาธารณรัฐสโลวักอีกด้วย
เมืองมรดกโลกอีกเมืองหนึ่งของสาธารณรัฐเช็ก ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางด้านการปกครองการพิพากษาคดีและการจัดเก็บภาษี ต่อมาในปี ค.ศ.1993 ได้รับการประกาศว่าเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์และภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของประเทศ ในตอนปลายปีค.ศ.1989 ได้มีการบูรณะอาคารและปราสาทครั้งใหญ่โดยยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้อย่างน่าชื่นชม จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความสำคัญและโดดเด่นใน การอนุรักษ์สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ทำให้องค์การยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนเมืองครุมลอฟให้เป็นเมืองมรดกโลกในปีค.ศ.1992
ปราสาทครุมลอฟ หรือ เชสกี้ครุมลอฟ เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาและริมฝั่งแม่น้ำวัลตาวา ตรงบริเวณคุ้งน้ำพอดี ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิก Senete Square และโบสถ์เก่ากลางเมือง ภายในเขตพระราชฐาน มีห้องหับต่างๆ เช่น ห้องเสวย ห้องบรรทม ห้องบอลรูม และโบสถ์ในปราสาท ห้องเหล่านี้เคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนคร ตกแต่งด้วยศิลปอันงดงามทั้งเรอเนสซองส์และบารอค
เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) ประเทศออสเตรีย เมืองริมทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก หลายคนอาจเคยเห็นภาพของหมู่บ้านสไตล์ยุโรปที่มีเทือกเขาเป็นองค์ประกอบอยู่ด้านหลังและมีทะเลสาบอยูด้านหน้าที่งดงามราวกับภาพวาด คือ ภาพจำที่ถูกเผยแพร่ไปมากที่สุดของประเทศออสเตรีย
ถนนซีสตราซ ถนนเลียบทะเลสาบระยะทางประมาณ 300 เมตร อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสาย บ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วนประดับประดาด้วยของเก่า ดอกไม้หลากสีสันสวยงามปลายสุดของถนนซี สตราซ
เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองเล็กๆ ในอ้อมกอดของภูเขาที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ มีแม่น้ำซาลส์ซักค์ สีเขียวมรกตสวยงามไหลผ่าน สองข้างทางมีบรรยากาศที่ร่มรื่นมีอาคารบ้านเรือนสไตล์บารอกที่สวยงาม โดยเมืองนี้มีอดีตที่เติบโตมาจากการผลิตเกลือและการค้าเกลือซึ่งในยุคนั้นมีค่าประดุจทองคำขาว ดังนั้น“เกลือ”จึงเป็นที่มาของทั้งชื่อแคว้นและเมือง วิวที่เป็นไฮไลต์สำคัญคือ ป้อมปราการโฮเอินซัลทซ์บวร์คที่ตั้งอยู่บนยอดเขาใจกลางเมืองแห่งนี้
หรือ ป้อมปราการโฮเฮนซาลส์บูร์ก ตั้งอยู่เมืองซาลส์บูร์ก ประเทศออสเตรีย เป็นป้อมปราการสูงโดดเด่นบนยอดเขาเป็นฉากหลังของซาลส์บวร์ สร้างขึ้นเมื่อปีคศ1077 และมีการสร้างต่อเติมมาเรื่อยๆจนถึงศตวรรษที่17 เพื่อเป็นที่พำนักของอาร์ชบิชอปผู้ครองนคร ไว้ป้องกันข้าศึกศัตรูจากความขัดแย้งระหว่างจักรพรรดิที่เป็นประมุขทางโลกกับอาร์ชบิชอปประมุขทางธรรม เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงพลังอำนาจทางโลก ที่นี่ สร้างอยู่บนเนินเขา มีจุดชมวิวทิวทัศน์จากป้อมปราการมองลงมายังทั้งเมือง มหาวิหารและแม่น้ำซาลส์ซักค์เบื้องล่างสวยงามมาก
ย่านถนนเกไทรเด มีร้านค้าต่างๆมากมาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านขายเค๊กขายกาแฟ ขายไข่อิสเตอร์ รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของบ้านโมซาร์ทด้วย ป้ายร้านค้าเป็นรูปบ่งบอกถึงสินค้าที่ขายกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีป้ายเหล็กที่แสดงสัญลักษณ์ของร้านแต่ละร้าน เหตุผลในการมีป้ายสัญลักษณ์ของแต่ละร้านก็เพราะว่าในสมัยยุคกลาง ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้หนังสือ แต่ละร้านจึงทำสัญลักษณ์ของร้านเพื่อให้ลูกค้าจำได้ว่าร้านไหนเป็นร้านไหน ปัจจุบัน ร้านค้ายังคงป้ายร้านกันไว้อยู่เพื่อความสวยงาม
เมืองมิวนิค (Munich) ประเทศเยอรมนี คือเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย แคว้นตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิซาร์ เป็นศูนย์กลางความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเงิน การธนาคาร และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมัน มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีอาร์ตแกลเลอรี่ดีที่สุดด้วย เชิญเที่ยวชมมหานครแห่งนี้ ก่อตั้งในคศ1158 มีบรรยากาศรื่นรมย์ เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามจากยุคสมัยอันรุ่งเรือง แหล่งรวมห้างสรรพสินค้าอันทันสมัยมากมาย
เมืองนูเรมเบิร์ก เป็นเมืองใหญ่อันดับ2ของแคว้นบาวาเรีย มีประชากรประมาณ 5แสนคน เป็นเมืองโบราณที่ยังคงมีกำแพงเมืองที่มีความยาวระดับ 5กม.ล้อมรอบตัวเมืองและมีหอคอยหรือป้อมต่างๆอยู่ถึง 80 ป้อมด้วยกันซึ่งมีอายุมากว่า 500 ปีสร้างในช่วง ศตวรรษที่16 ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองนี้เป็นศูนย์ประชุมหลักของพรรคนาซี และในอดีต ปี คศ.1050 ยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ เป็นอดีตเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์แห่งชาติเยอรมัน มีร่องรอยของอาคาร ทางเดินแบบชาวโรมัน
เม้าท์ฮาล์ โรงเก็บส่วยภาษีอากรในอดีตที่ถือเป็นอาคารประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของเมืองนูเรมเบิร์ก
บ้านนัสเซา หนึ่งในตัวอย่างบ้านขุนนางชั้นสูงสมัยยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีที่สุดหลังหนึ่ง การก่อสร้างภายนอกตกแต่งให้ดูเป็นป้อมปราการซึ่งคาดว่าเป็นที่พำนักของขุนนางชนชั้นปกครองแต่ไม่มีบันทึกหลักฐานใดๆว่าเกี่ยวข้องในราชวงศ์นัสเซา
จัตุรัสกลางใจเมืองนูเรมเบิร์ก มีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง อันถือเป็นตลาดนัดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ด้านตะวันออกของตลาดมี โบสถ์พระแม่มาเรีย (FRAUENKIRCHE) จุดเด่นคือ มีนาฬิกาตุ๊กตาไขลานที่หน้าจั่วของโบสถ์พระแม่มาเรีย ตัวนาฬิกาและตุ๊กตาประดับนี้ถูกสร้างเพิ่มเติมภายหลังในปีค.ศ 1509 เพื่อเป็นการรำลึกถึง “พระราชกฤษฎีกาทองคำปี 1356” ที่ตราขึ้นตามพระราชบัญชาของจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
โบสถ์เฟราเอนเคียร์เช หลังคาทรงหัวหอมในสถาปัตยกรรมแบบโกธิค อันเป็นสัญลักษณ์ของมิวนิค ที่ร่องรอยของการทำลายล้างสมัยสงครามโลกที่กำลังได้รับการบูรณะอย่างเร่งด่วน บริเวณนี้คือฐานรากของเมืองที่วางไว้ตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 11 จนถึงยุคของพระเจ้าออกัสตัสผู้แข็งแกร่ง ทรงโปรดให้สร้างเมืองในสไตล์แบบบาร็อคขึ้นเซมเพอร์โอเปร่าที่เมืองนี้มีความโดดเด่นอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและดนตรี
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เพราะน้ำพุเชินเนอร์บรุนเนนมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยรูปทรงปิรามิดยาว 19 เมตร คล้ายยอดหอคอยสไตล์โกธิค โดยน้ำพุแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ 1389 – 1396 ในแต่ละชั้นมีรูปปั้นประดับอยู่รวมทั้งหมด 40 ตัว โดยรูปชั้นบนสุดเป็นรูปปั้นโมเสส และ 7 นักพยากรณ์
ตั้งอยู่ที่มิวนิคในแคว้นบาวาเรียในประเทศเยอรมนี นิมเฟนเบิร์กเป็นวังฤดูร้อนของพระราชวงศ์ผู้ปกครองบาวาเรีย ผู้ริเริ่มสร้างปราสาทคือเฟอร์ดินานด์ มาเรีย เจ้าชายอีเล็คเตอร์แห่งบาวาเรีย และ เฮ็นเรียตตา อเดลเลดแห่งซาวอยตามแบบของสถาปนิกอากอสติโน บาเรลลิในปี ค.ศ. 1664 หลังจากทรงมีพระโอรสองค์แรก, แม็กซิมิลเลียน ที่ 2 เอ็มมานูเอลเจ้าชายอีเล็คเตอร์แห่งบาวาเรีย ส่วนกลางของวังสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1675
มาเรียนพลัทซ์ จตุรัสมาเรีย หรือ จตุรัสแมรี่ (Marienplatz | Mary's Square) แหล่งรวมห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย ตั้งอยู่เขตเมืองเก่าใจกลางเมืองมิวนิคประเทศเยอรมนี บริเวณนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในการชมวิถีชีวิตของคนมิวนิคในยามเย็น ตามร้านอาหารกลางจัตุรัส ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างพากันมาชุมนุมดื่มเบียร์ พบปะสนทนา พลาดไม่ได้เลือกชมตุ๊กตาเต้นรำที่ประดับอยู่บนอาคารเทศบาลเมืองเก่าเวลา 11.00 น. ทุกวัน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
วิหารมาเรียนดอม (MARIENDOM) ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 742 ชมกลอริโอซา (GLORIOSA) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในระฆังโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และวอล์ฟราม (WOLFRAM) เชิงเทียนที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 12
โบสถ์เฟราเอนเคียร์เช หลังคาทรงหัวหอมในสถาปัตยกรรมแบบโกธิค อันเป็นสัญลักษณ์ของมิวนิค ที่ร่องรอยของการทำลายล้างสมัยสงครามโลกที่กำลังได้รับการบูรณะอย่างเร่งด่วน บริเวณนี้คือฐานรากของเมืองที่วางไว้ตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 11 จนถึงยุคของพระเจ้าออกัสตัสผู้แข็งแกร่ง ทรงโปรดให้สร้างเมืองในสไตล์แบบบาร็อคขึ้นเซมเพอร์โอเปร่าที่เมืองนี้มีความโดดเด่นอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและดนตรี