หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
บูดาเปสต์ (Budapest) นครสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า ริมสองฝั่งแม่น้ำดานูป สมญานามว่า “ราชินีแห่งลุ่มน้ำดานูป” แม่น้ำสายโรแมนติกอย่างแม่น้ำดานูบที่แบ่งเมืองออกเป็น 2 เมืองคือ เมืองบูดและเมืองเปสต์ อันเป็นที่มาของชื่อเมืองนี้ เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการีและศูนย์กลางการปกครอง อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการคมนาคมขนส่ง มีประชากรมากกว่า1.7ล้านคน และได้กลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยวของยุโรปกลางมาตั้งแต่ราวทศวรรศ1990 เชิญสัมผัสความงดงามของปราสาทบูดา,หอศิลป,โบสถ์แมทเทียส,อาคารรัฐสภาฮังการี และซิตี้ พาร์ค
จัตุรัสวีรบุรุษ มีรูปปั้นของบรรพบุรุษชาวแมกยาร์ทั้ง 7 เผ่ารวมตัวกันก่อร่างสร้างเมืองกันขึ้นมา บริวเณนนั้นมีสวนสัตว์และสวนสาธารณะใจกลางเมือง,โรงอาบน้ำแบบ เตอร์กิชที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตั้งแต่เมื่อ 500 ปีก่อน ข้ามแม่น้ำดานูปสู่ คาสเซิลฮิลล์ บนฝั่งบูดา ดินแดนทั้งสองฟากคือ บูดาเปสต์ มารวมตัวกันในปี ค.ศ.1873 ดินแดนแห่งนี้เคยถูกผู้รุกรานจากมองโกลเมื่อพันปีก่อน แล้วชาวเติร์กถึงเข้ามาปกครองต่อในระหว่างปีค.ศ.1526-1626
อาคารรัฐสภาฮังการี หรือที่รู้จักกันในชื่อ รัฐสภาของบูดาเปสต์ เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1885 ใช้เวลาสร้างจนแล้วเสร็จถึง 20 ปี โดยรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน ภายในประกอบด้วยห้องมากมายถึง 700 ห้อง มีประตูทางเข้า 27 แห่ง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อและเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศฮังการี ตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบบนฝั่งเปสต์ เป็นอาคารรัฐสภาที่ชาวฮังกาเรี่ยนภูมิใจว่าสวยที่สุดในโลก ด้วยสภาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิค มีหลังคายอดแหลมสีแดง สวยงามคลาสสิคตามสไตล์โกธิค
ป้อมชาวประมง บูดาเปสต์ ป้อมปราการใหญ่โตที่ทิ้งร่องรอยแห่งอดีต สร้างในปีค.ศ.1895 อยู่บนเนินเขาสูงริมแม่น้ำดานูบ เดิมเป็นตลาดขายปลาตั้งแต่สมัยยุคกลาง มีป้อมปราการดูแลโดยชาวประมง ปัจจุบันบูรณะใหม่ให้มีทางเดินบางส่วนมีหลังคาคลุม มีลาน Holy Trinity square เป็นจุดศูนย์กลางของบริเวณเมืองเก่า ตรงกลางมีอนุเสาวรีย์สร้างไว้เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ในอดีต และมีรูปปั้นบนเสานี้ คือ Saint Stephen
โบสถ์เเมตเทียส โบสถ์ในศิลปะแบบกอธิค สร้างในราวศตวรรษที่ 13 หลังคาของโบสถ์ปูด้วยกระเบื้องสีลวดลายสวยงาม เชิญถ่ายรูปกับโบสถ์ม็อทยอช ที่สร้างมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ต่อมาบูรณะให้เป็นแบบนีโอกอธิค และบาร็อค อนุสาวรรีย์นักบุญสตีเฟ่นที่เปลี่ยนชาวฮังกาเรียนให้มานับถือศาสนาคริสต์ ถัดลงมาเป็นป้อมซิตสเดลลา ที่ออสเตรียสร้างไว้เพื่อรำลึกถึงการรบที่ได้รับชัยชนะเหนือชาวฮังการี ได้เห็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ เป็นรูปปั่น เทพธิดา กิ่งปาล์มไว้เหนือศีรษะขนาดความสูง 40 เมตร
บูดาเปสต์ คาสเซิลฮิลล์ (Budapest Castle Hill) ตั้งอยู่บนเนินสูงตระหง่าน ทางทิศเหนือของริมแม่น้ำดานูบ ฝั่งเมืองเก่าบูดา ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ สถาปัตยกรรมสมัยยุคกลางให้ชมได้อย่างดี เช่น พระราชวังเก่า ป้อมปราการชาวประมง วิหารมาเธียส และสถานที่เก่าแก่ทางประวัติศาสตร์มากมาย จากเบื้องบนกำแพงสามารถถ่ายรูป มองวิวทิวทัศน์ของเมืองบูดาอีกฝั่งของแม่น้ำดานูบ เรียงรายด้วยอาคารสถานที่ราชการเก่าแก่สวยงาม ถือเป็นมรดกโลกทางสถาปัตยกรรมในสมัยยุคกลางได้ถูกอนุรักษ์ป้องกันไม่ให้ถูกทำลายมาก
แม่น้ำดานูบ ฮังการี (Danube River, Hungary) เป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของยุโรป มีต้นกำเนิดที่แถบป่าดำในเยอรมนี เกิดจากแม่น้ำ 2 สายคือ Brigach และ Breg ซึ่งไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำดานูบที่เมือง Donaueschingen รัฐบาเดิน ประเทศเยอรมนีถือเป็นเม่น้ำสายโรแมนติกสายหนึ่งของยุโรปที่ไหลผ่านเมืองต่างๆ รวมทั้งประเทศฮังการี กิจกรรมหลักที่มาถึงบูดาเปสต์คือ การสัมผัสกับบรรยากาศแห่งการล่องเรือดานูบ ชมความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมแบบกอธิค เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำ มนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย
บริเวณที่แม่น้ำดานูปหักโค้ง เรียกว่า ดานูป เบลน หรือ โค้งแม่น้ำดานูบ เป็นโค้งน้ำสุดสวยทางตอนเหนือ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบริเวณลุ่มแม่น้ำและจุดชมวิวแม่น้ำดานูปที่สวยสุดของประเทศฮังการี มีภูเขาเรียงรายอย่างสวยงาม ให้อารมณ์มากกว่าความเป็นเมืองหลวง ประกอบไปด้วยเมือง 3 เมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำดานูบ ได้แก่ เมืองเซนเท็นเดร เมืองวีเซอกราด และเมืองเอสเตอกอม
เมืองท่องเที่ยวเล็กๆริมฝั่งแม่น้ำดานูบ โดยตัวเมืองนั้นอยู่ในมณฑลเปสต์ทางตอนกลางของประเทศฮังการี อยู่ห่างจากกรุงบูดาเปสต์ ทางตอนเหนือประมาณ 19กม ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหน้าด่านของจักรวรรดิโรมัน ผลจากการรุกรานของพวกมองโกลและเติร์ก ทำให้เมืองถูกทำลายลง ต่อมาได้มีการบูรณะและสร้างขึ้นใหม่ในศต18 ที่นี่ สามารถพบเห็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อกได้ทั่วเมือง และมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น จัตุรัสหลักของเมือง,อนุสาวรีย์ไม้กางเขน,โบสถ์ต่างๆ เช่น โบสถ์ Blagovestenska,โบสถ์เซนต์ เฮเลน และโบสถ์เซนต์ คอนสแตน เป็นต้น
เมืองวีเซอกราด (Visegrad) เมืองเล็กๆ ของประเทศฮังการี ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำดานูบ มีประชากรเพียง1,800 คน เมืองนี้มีความงดงามประดุจหนึ่งภาพวาด ตั้งอยู่ในโค้งของแม่น้ำดานูบเหมาะกับการท่องเที่ยว คำว่า 'วีเซอกราด'มีความหมายว่า'ปราสาทในม่านเมฆ' เนื่องจากมีพระราชวังเก่าที่ประทับของกษัตริย์ฮังการี ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มายังเมืองแห่งนี้ เชิญเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำดานูบได้จากป้อมในสมัยกลาง
หรือ เรียกว่า 'ราชินีแห่งดานู้บ' เป็นเมืองชายแดนเล็กๆสวยงามอยู่ทางเหนือ ริมแม่น้ำดานูปของฮังการี และเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ฮังการีร่วม300ปี มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งประเทศมากกว่า1,000ปี เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันน่าสนใจ และเป็นที่ตั้งของศาสนสถานหลายแห่ง มีพรมแดนเพียงแม่น้ำกั้นฝั่งตรงข้ามเป็นเมืองสตูโรโวของสาธารณรัฐสโลวัก มีสะพานมาเรียวาเลเรียเชื่อมสองฝั่งดั่งบ้านพี่เมืองน้อง สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมและธรรมชาติของสายน้ำ ปัจจุบัน เป็นที่ประทับของสังฆราชาแห่งฮังการี
โบสถ์แห่งเอสเตอร์กอม โบสถ์ใหญ่ที่สุดในประเทศฮังการี ตั้งอยู่เมืองเอสเตอร์กอม สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 โดยพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 อุทิศให้ St. Adalbert เดิมที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองค์ แต่หลังจากที่มีสงครามกับพวกเติร์ก ตัวโบสถ์ได้ถูกทำลายเป็นจำนวนมาก ภายหลังจึงได้มีการบูรณะใหม่เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-คลาสสิคที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน โดดเด่น เป็นสง่า อยู่บนหน้าผาเหนือแม่น้ำดานู้บ เชิญถ่ายรูปรอบๆ โบสถ์และชมวิวทิวทัศน์ของสายน้ำดานู้บที่เริ่มต้นไหลเข้าสู่ประเทศฮังการี
เมืองคราคูฟ (Krakow) เมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศโปแลนด์ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางวัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์สำคัญที่สุดแห่งประเทศ และมีอารยธรรมรุ่งเรืองมากๆ เห็นได้จากอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมทุกยุคทุกสมัย มีจุดนัดพบที่สำคัญในเมือง รายล้อมด้วยร้านกาแฟ, ผับ, ร้านอาหารต่างๆ อาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีตลาดนัดรีเน็ค โกลนี่ และห้างเนสซองส์ศูนย์การช็อป และที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหลอีกด้วย
เมืองท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และแหล่งมรดกโลกที่มีชื่อเสียงมากสุดของประเทศโปแลนด์ และเป็นที่ตั้งค่ายกักกันและพิพิธภัณฑ์สงคราม ได้พบกับภาพสะท้อนให้เห็นถึงการทารุณกรรมและความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ชาวนาซีนำเอานักโทษชาวยิวขึ้นรถไฟสู่ค่ายกักกันแห่งนี้และใช้เป็นที่ประหารด้วยแก๊สพิษรมควันกว่า 1.5 ล้านคน เชิญเยี่ยมชมเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ กับ เอาส์ชวิตซ์-เบอร์กเนา ที่มีเรื่องราวน่าสนใจมากมายกับความเป็นจริงอันโหดร้ายในยุคนาซีของยุโรปตะวันออก
พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาซ์วิทช์ (Auschwitz Concentration Camp) ย้อนรอยประวัติศาสตร์กับพิพิธภัณฑ์สงครามมีชื่อเสียงในเมืองคราคูฟ ซึ่งได้จัดแสดงภาพและเรื่องราวต่าง ๆ ที่เหล่าบรรดานักโทษถูกทารุณกรรม และได้รับความโหดร้ายในสถานที่ต่าง ๆ ของค่ายกักกัน เช่น ห้องขังนักโทษ ห้องรมแก๊สพิษ และเตาเผาศพ ซึ่งสะท้อนความน่าสยดสยอง และความทารุณโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2
เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปแลนด์มานานหลายศตวรรษ เป็นผลงานแบบเรอเนสซองส์ที่งดงามแห่งหนึ่งของยุโรป เข้าชมในส่วนที่เป็นรอยัลอพาร์ตเมนต์ จัดแสดงภาพเขียน ศิลปะและงานประติมากรรม พระตำหนักด้านในเก็บสิ่งล้ำค่าอันได้แก่ ผ้าปักทาเปสตรี้ 142 ผืน และชมท้องพระคลังหลวง ห้องอาวุธยุทธปกรณ์ในสมัยโบราณ ใกล้กันเป็นมหาวิหารวาเวล มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ใช้เป็นที่ราชาภิเษกกษัตริย์ทุกพระองค์
เหมืองเกลือวิลิชก้า ตั้งอยู่ที่เมืองวิลิชก้า ทางภาคใต้ของโปแลนด์ และอยู่ห่างจากเมืองคราครูฟไปประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นเหมืองเกลือใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ เส้นทางสู่เหมืองใต้ดิน มีห้องที่จัดแสดงและถ้ำขนาดใหญ่ที่แกะสลักจากหินเกลือ ในถ้ำยังมีโบสถ์ขนาดเล็ก เซนต์คิงก้า ที่อยู่ลึกลงไป 101 เมตร จัดเป็นห้องที่สวยงามที่สุด ประดับตกแต่งด้วยโคมไฟที่ทำมาจากหินเกลือคริสตัล และยังมีการแกะสลักหินเกลือสีเทาแบบนูนต่ำตามแบบผลงานของศิลปินดัง ลีโอนาโด ดาวินชี
จตุรัสกลางเมือง ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปกลางหัวใจของการเที่ยวชมเมือง จตุรัสแห่งนี้เพียบพร้อมไปด้วยบรรยากาศของบ้านเมืองในยุคกลางมากที่สุด ถนนคนเดินเรียงรายไปด้วยร้านค้า, ร้านกาแฟ ที่ได้รับการบรูณะให้อยู่ในสภาพเดิมมากที่สุด ย่านโอลด์ทาวน์ UNESCO ประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม สภาพบ้านเรือนได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
กรุงวอร์ซอ (Warsaw) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปแลนด์ มีอายุเกือบ 700 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำวิสทูลา เป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมหนัก เช่น เหล็กกล้า,รถยนต์,เครื่องจักรอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษามีสถาบันการศึกษามากกว่า 66 แห่ง เมืองนี้เป็นที่รู้จักของนานาชาติจากสนธิสัญญาวอร์ซอ ซึ่งตั้งชื่อตามกรุงวอร์ซอ มีพื้นที่สีเขียวคิดเป็นร้อยละ21ของตัวเมือง และมีสถานที่สวยงามและดึงดูดใจ รวมทั้งมีภัตตาคารอาหารพื้นเมือง และนานาชาติบริการมากมาย
จัตุรัสเมืองเก่าแห่งกรุงวอร์ซอ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมากจุดหนึ่งของประเทศโปแลนด์ ด้วยสีสันของตึกและอาคารสไตล์ยุโรปตะวันออกแท้ๆ และเป็นที่ตั้งของร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ บริเวณรอบๆยังมีรถม้าคอยอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยว และยังมี จิตรกรริมทางที่รับจ้างวาดภาพเหมือนอีกด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่สนใจ แวะเข้ามาใช้บริการ
พระราชวังลาเซียนสกี้ ได้รับการยกย่องว่ามีความงามเทียบเคียงได้กับพระราชวังแวร์ซายส์แห่งฝรั่งเศส พระราชวังนี้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และเป็นพระราชวังทางประวัติศาสตร์ พระราชวังนี้สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 และยังเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ของไทย เมื่อครั้งเสด็จประพาสวอร์ซอในปี ค.ศ. 1897
วรอตซวาฟ เมืองหลวงของจังหวัดโลว์เออร์ไซลีเชีย ประเทศโปแลนด์ เป็นเมืองที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะ วัฒนธรรม งานสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่กว่า 7 ศตวรรษ กับ งานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นเมืองสำคัญทางด้านธุรกิจอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว โดย วรอตซวาฟ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย นำท่านชมย่านเมืองเก่า Ostrow Tumski ชมมหาวิหารประจำเมือง เดินเล่นที่มาร์เกต สแควร์ และชมงานสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ณ ศาลาว่าการเมือง
"ปราก" (Prague) เมืองสุดสวยและแสนโรแมนติกจนเป็นที่นิยมของคู่รักและนักเดินทางทั่วโลก ปรากเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลายสไตล์ ทั้งโรมันเนสก์ โกธิค เรเนซองส บารอค และองค์การยูเนสโกได้เลือกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี 1992 เชิญเที่ยวชมสถานสำคัญ ๆ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามต่าง ๆ ในทุกยุคสมัย เช่น จัตุรัสฮราดคานีย์ ปราสาทแห่งกรุงปราก มหาวิหารเซนต์วิตัส สะพานชาร์ล และอีกหลากหลายสถานที่ที่น่าไปเที่ยวชมให้ได้เมื่อมาเยือน "ปราก"
ปราสาทปราก (Prague Castle) ปราสาทใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก สร้างขึ้นในปี 885 โดยเจ้าชายบริโวจเคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่งเช็กในอดีต ปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งปราสาทปรากถือเป็นเสมือนสัญลักษณ์ และเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศ ปาสาทได้รับการบูรณะในสมัยของพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ในสไตล์แบบกอธิค ได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊กว่า เป็นปราสาทโบราณใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาวประมาณ 570 เมตร และความกว้างประมาณ 130 เมตร
มหาวิหารเซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral) ตั้งอยู่ในปราสาทปราก (Prague Castle) ในเขต Castle District ทางด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำ Vltava จากใจกลางเมืองปราก สาธารณรัฐเชค มหาวิหารนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิค ที่สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-16 และเป็นรูปแบบสถาปัตย์ ที่ช่วยให้สถาปนิกบรรลุวัตถุประสงค์เชิงศรัทธาทางศาสนา ซึ่งเป็นตัวอย่างของมหาวิหารแบบกอธิคที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะ “การเพิ่มพื้นที่ว่างอันศักดิ์สิทธิ์” ได้อย่างชัดเจน
สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คอีกเเห่งหนึ่งของกรุงปราก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กที่ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออก ตัวสะพานนั้นจะทอดยาวข้ามเเม่น้ำวิตาร่า เพื่อเชื่อมพื้นที่ทั้งสองฝั่งของกรุงปราก ซึ่งนั่นก็คือ Lesser Town ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตก และ Old Town ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเเม่น้ำ เข้าด้วยกัน
ย่านจัตุรัสเมืองเก่า ปราก (Prague Old Town Square) ตั้งอยู่บริเวณเขตเมืองเก่าของกรุงปราก ซึ่งอยู่ใกล้กับจตุรัสเวนเซลัส และสะพานชาร์ลส จัตุรัสนี้ถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของกรุงปราก เคยเป็นตลาดค้าขายตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 12 โดยบ้านเรือนล้อมรอบจตุรัสที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และอาคารบ้านเรือนเหล่านั้นก็มีรูปแบบศิลปะทั้งสไตล์โรมาเนสก์ บารอค และกอธิค เช่น วิหารทิน โบสถ์เซนต์นิโกลาส เป็นต้น
กรุงเวียนนา (Vienna | Wien) เมืองหลวงแห่งประเทศออสเตรีย เมืองที่ได้ชื่อว่าคุณภาพดีที่สุดของโลก เพราะที่นี่อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เป็นเมืองที่คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกพิเศษและสุดแสนจะโรแมนติก เส้นทางเต็มไปด้วยความร่มรื่น รายล้อมด้วยสถานที่สวยงาม เช่น ปราสาทในเทพนิยาย สวนดอกไม้และสวนสาธารณะ ตึกรามบ้านช่อง โบสถ์ โรงโอเปร่า โรงละคร และพิพิธภัณฑ์
พระราชวังเชินบรุนน์ พระราชวังสีเลืองตั้งตระหง่านกับสวนดอกไม้ที่ไกลสุดลูกตา ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ในอดีตเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 จนถึง พ.ศ. 2461 ออกแบบโดย Johann Bernhard Fischer von Erlach และ Nicolaus Pacassi เป็นสถานที่รวบรวมผลงานทางศิลปะการตกแต่งชั้นเยี่ยมจำนวนมาก ภายในอุทยานเคยเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์แห่งแรกของโลกเมื่อ พ.ศ. 2295 ปัจจุบันได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในกรุงเวียนนา
แม่น้ำดานูบเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในทวีปยุโรป โดยมีสถิติยาวเป็นอันดับสองของทวีป มีต้นกำเนิดอยู่ที่แถบป่าดำในประเทศเยอรมนี ซึ่งเกิดจากแม่น้ำเล็กๆ 2 สาย ได้แก่ Brigach และ Breg ซึ่งไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำดานูบที่เมืองโดเนาเอส์ชิงเก้น จากนั้นจึงไหลไปทางทิศตะวันออกผ่านเมืองหลวงและเมืองสำคัญมากมายกว่า 10 ประเทศ ทั้งในยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี โปแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ เชค สโลวีเนีย บอสเนีย เป็นต้น
ถนนคาร์ทเนอร์ (Kaerntner Street) เป็นแหล่งถนนคนเดินและชอปปิ้ง สำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่นิยมในการนั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ และซัคเกอร์เค้กที่มีชื่อเสียงของกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นศูนย์กลางของถนนสายชอปปิ้งแยกออกไปอีก 8 แฉก แยกออกไปตามซอยน้อยๆ แต่แน่นไปด้วยร้านค้า
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553