หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินเลโอนาร์โด ดา วินชี ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci International Airport) ตั้งอยู่ในเมืองฟีอูมีชีโน ซึ่งห่างจากศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของโรม 35 กิโลเมตร สนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ด้วยจำนวนผู้โดยสาร 35,226,351 คน ในปี พ.ศ. 2551
โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ โดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร ออกแบบโดย Francesco Salvi เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ซึ่งเทพเจ้าเนปจูนนี้จะทรงประทับมาบนรถม้ามีปีก ซึ่งซ่อนความหมายเอาไว้ว่าจะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงโรมแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญหนึ่งเหรียญลงในสระน้ำพุเทรวี่ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้หนึ่งข้อ
บันไดสเปน (Spanish Steps) ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1723 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามโปรดระวังกระเป๋าเงินและสิ่งของมีค่าด้วย เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุกชุมของมิจฉาชีพทั้งหลาย
นครวาติกัน (Vatican) ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ถือเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ผู้เป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครวาติกันนี้เป็นรัฐอิสระ จัดว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชม เช่น พิพิธภัณฑ์วาติกัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล เป็นต้น
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) เป็นมหาวิหาร 1 ใน 4 มหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และ สำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่น สามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน
เมืองปิซา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ)ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร เชิญเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 6 มรดกโลก เช่น จตุรัสดูโอโมแห่งปิซา,มหาวิหารปิซา,หอศีลจุ่มเมืองปิซา,หอเอนเมืองปิซา,สุสานนักบุญ,พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา
จตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี แปลว่า "จตุรัสอัศจรรย์" หรือ ที่ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ จตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า คือ บริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพงใจกลางเมืองปิซ่า ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างได้แก่ มหาวิหารปิซ่า หอเอน หอศีลจุ่ม เริ่มสร้างปีคศ.1173 แล้วเสร็จในปีคศ.1372 ปัจจุบันยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมในปีคศ.1987
หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) หอคอยหินอ่อนซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ประเทศอิตาลี และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ของศาสนสถานของชาวคริสต์ ใช้เวลาสร้างนานกว่า 176 ปี แต่เกิดการทรุดตัวลงเมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 จึงหยุดก่อสร้างไป จนอีกประมาณ 100 ปีต่อมาถึงมีผู้สร้างต่อได้จนครบ 8 ชั้น และได้นำระฆังไปติดในอีกร่วม 100 ปีต่อมา จนเสร็จสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน กาลิเลโอได้เคยมาพิสูจน์ทฤษฏีการตกของวัตถุที่ยอดของหอเอนแห่งนี้
เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองแห่งแหล่งกำเนิดศิลปะของโลก เป็นจุดกำเนิดของยุคเรอเนซองส์หรือยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่วยุโรป เชิญเที่ยวชมมหาวิหารใหญ่ซึ่งเป็นมหาวิหารที่เรียกว่าดูโอโม หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ปราสาท แกลอรี่ บาร์ ร้านอาหาร รวมทั้งคลับ และดิสโก้ ทุกสถานที่ๆจะได้พบกับความทันสมัยและความสวยงามตลอดเวลา มีแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆมากมายเพราะเป็นศูนย์กลางของผู้นำแฟชั่น เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย
เปียซซาเดลซิญญอเรีย จุดศูนย์กลางเเห่งอำนาจของเมืองฟลอเรนซ์ ที่มีความเก่าเเก่เเละประวัติศาสตร์เรื่องราวให้เล่าขานอย่างมากมาย จนคักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวฟลอเรนซ์ ต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมซักครั้ง นับว่าเป็นพื้นของจัตุรัสใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ ที่มีความเก่าเเก่สวยงาม เเละเต็มไปด้วยประติมากรรมชั้นยอด ของศิลปินเอกชาวอิตาเลี่ยนมากมายมาตั้งรวมกันอยู่ จนมีคนกล่าวว่ามันเหมือนกับเเกลลอรี่กลางเเจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เเละเต็มไปด้วยงานประติมากรรมที่ทรงคุณค่าเเละประเมินค่าไม่ได้มากมายหลายต่อหลายชิ้นเลยทีเดียว
มหาวิหารซานตามาเรีย เดลฟิออเร ชื่อเต็มคือ อาสนวิหารซันตามาเรียแห่งฟลอเรนซ์(Cathedral Of Santa Maria Del Fiore)หรือที่ชาวฟลอเรนซ์นั้นจะเรียกว่า“เซนต์แมรีแห่งบุปผา”ตั้งอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ มณฑลฟลอเรนซ์ แคว้นตอสคานา ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่13 แต่สร้างเสร็จ ออกแบบใหม่ใน คศ.1436โดย สถาปนิกมากมายหลายคนที่มีชื่อเสียง สำหรับโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น ออกเเบบโดย“ฟิลิปโป บรูเนลเลสชี”ซึ่งมันมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 45.5 เมตร โดยมีบันไดในการขึ้นไปชมด้านบนถึง 463 ชั้นด้วยกัน
เวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับฉายาทั้ง ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกัน มีคลองเล็กๆ กว่า 150 คลอง เต็มไปด้วยสะพานกว่า 400 สะพานเชื่อมถึงกัน มีเรือกอนโดล่าเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันดีของนักท่องเทีี่ยว รวมทั้งบ้านเรือนสีสันสดใสอายุเก่าแก่เรียงรายกันอยู่ เวนิสเป็นเมืองมรดกโลกและถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าสุดแสนโรแมนติกของอิตาลีด้วย
ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto Pier) อยู่ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นจุดจอดรับ-ส่ง เป็นท่าล่องเรือที่มีเรือบริการในการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ของเมือง มีการบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งคลองโดยทางเรือ นับเป็นเมืองที่คลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือเพื่อผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใครโดยใช้เรือแทนรถใช้คลองแทนถนน
เกาะเวนิส (Venice Island) หรือเวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก สมญานามว่าเป็น ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เพราะในเกาะแห่งนี้มีคลองมากมายหลายสาย แล้วยังมีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ มีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง บริเวณซานมาร์โคนั้นเป็นศูนย์กลางของเกาะเวนิสแห่งนี้ ไฮไลต์สำคัญของที่แห่งนี้ คือ การนั่งเรือกอนโดล่าชมบรรยากาศของเมือง และการไปชมความงดงามของมหาวิหารซันมาร์โก
สะพานสะอื้น หรือบางคนเรียกว่า "สะพานแห่งการทอดถอนใจ” ซึ่งทอดข้ามด้านหลังวังของผู้ปกครองเวนิสในอดีต ไปยังคุกที่อยู่อีกฟากฝั่งคลอง ว่ากันว่าสะพานแห่งนี้คือจุดหายใจเฮือกสุดท้ายแห่งอิสรภาพของเหล่านักโทษ และคุกแห่งนี้เองเป็นที่คุมขังนักรักกระเดื่องนาม “คาสโนว่า” ซึ่งเขาเป็นนักโทษเพียงคนเดียวที่สามารถแหกคุกนี้หนีออกมาได้ปัจจุบันวังแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษาไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญของเมือง
จัตุรัสเซนต์มาร์ก หรือ จตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco | Saint Mark Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิส ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก เป็นจุดเด่นของลานกว้าง บริเวณรอบๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ไว้คอยบริการมากมาย และรอบๆ จัตุรัสยังมีอาคารที่สำคัญสองแห่งคือ หอระฆัง และ หอนาฬิกา อีกด้วย
เมืองมิลาน หรือ มิลาโน่ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก มิลานเป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ 1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า “ปาเนตโตเน” อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน มีแกลอรี่ชื่อดัง โบสถ์ที่สวยงาม และโรงละครโอเปร่า
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าและห้างเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมที่ทันสมัย มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อิสระให้สำรวจสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของอิตาลีตามอัธยาศัย
เมืองลูเซิร์น (Lucerne City) เป็นเมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทยและชาวเอเชีย โดยเฉพาะประติมากรรมที่งดงามแกะสลักสิงโตหินบนหน้าผา หรือสะพานไม้คาเปลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ความงามที่แท้จริงของลูเซิร์น นอกจากนี้ การได้ล่องเรือไปตามทะเลสาบที่แลดูโรแมนติกมาก ๆ และท่องเที่ยวในเมืองเล็กสวยงามบนฝั่งทะเลสาบเวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ ที่อยากให้มาเชยชม
อนุสาวรีย์สิงโต หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน (Lion Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ของทหารองครักษ์ชาวสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น อนุสาวรีย์นี้แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่คศ. 1819-1821
สะพานไม้ชาเปล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
เมืองอินเทอร์ลาเคิน หนึ่งในเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ถูกขนาบข้างด้วย 2 ทะเลสาบ คือทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออินเทอร์ลาเคนที่มีความหมายว่า ‘เมืองระหว่างสองทะเลสาบ เป็นเมืองที่มีทางผ่านไปสู่ยอดเขาจุงเฟรา ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาแอลป์ฉายา Top of Europe เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อน เพราะบรรยากาศของเมืองที่สวยงาม ธรรชาติและอากาศบริสุทธิ์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลสาบและสวนผลไม้ จนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่
กรินเดลวาลด์ (Grindelwald) เมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงของรัฐเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนเทือกเขากรุงเบิร์น-แอลป์ (Bernese-Alps) อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร เมืองเล็กๆ แห่งนี้คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก เนื่องจากกรินเดลวาลด์เป็นเมืองแห่งรีสอร์ทกีฬาฤดูหนาวและมียังหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) อีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ฉายา Top of Europe และ ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007 โดยมีสถานีรถไฟจุงเฟรายอค (Jungfraujoch) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปตั้งอยู่ด้านบน
สถานีรถไฟจุงเฟรายอค (Jungfraujoch Railway Station) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ด้านบนของเขาจุงเฟรายอค ที่สถานีปลายทาง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การสร้างทางรถไฟสายนี้ ที่จัดแสดงในอุโมงค์ยาว พร้อมทั้งมีถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่มีรูปปั้นแกะสลัก และอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็งให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย ซึ่งจุดนี้เป็นอีกจุดที่พลาดไม่ได้เลย เนื่องจาก Ice Palace เป็นถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย และภายในมีการแกะสลักน้ำแข็งอยู่ตามจุดต่างๆ ให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย
พบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่รังสรรค์ผลงานศิลปะที่งดงามอลังการได้ที่ถ้ำน้ำแข็ง Eisriesenwelt ( Eisriesenwelt Ice Caves) ที่ตั้งอยู่ภายในภูเขา Hochkogel ใน Werfen ห่างจากเมืองซาลซบวร์กไปทางใต้ราว 40 กิโลเมตร Eisriesenwelt คือถ้ำหินปูนธรรมชาติที่บางส่วนปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เรียกได้ว่าเป็นถ้ำน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หินงอกหินย้อยและแท่งน้ำแข็งภายในถ้ำนั้นให้ความรู้สึกที่ทั้งเย็นเยือกและน่าอัศจรรย์กับฝีมือการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้ค้นพบเป็นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1879 และได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของภูมิภาคนี้นับแต่นั้นเป็นต้นมา การที่จะเข้าไปชมภายในถ้ำนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปยังความสูงที่ 1,574 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและสามารถเดินจากจุดจอดเคเบิลคาร์ไปยังถ้ำได้ ควรสวมใส่เครื่องแต่งกายกันหนาวเนื่องจากภายในถ้ำน้ำแข็งนั้นมีอุณหภูมิต่ำมากแม้ในฤดูร้อนก็ยังมีอุณหภูมิต่ำถึง 0 องศาเซลเซียส
ธารน้ำแข็งอาเล็ทช์ (Aletsch Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่มีความงดงาม กินพื้นที่กว้างถึง 22 กม. ซึ่งยาวที่สุดในบรรดาทุ่งน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์ทั้งยุโรป สามารถมองเห็นได้จากบริเวณจุดชมวิวสฟิงซ์ ในวันที่อากาศปลอดโปร่ง และเห็นธารน้ำแข็งทอดยาวเป็นเวิ้งไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่ผิดไกลนักจากคำว่าสวรรค์บนดิน ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
เมืองชวาล์ฟเกา (SCHWANGAU ชวังเกา) เป็นเมืองชนบทในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เมืองชวังเกาตั้งอยู่ติดกับชายแดนประเทศออสเตรีย ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบฟอร์เกิน เมืองนี้เป็นที่ตั้งของปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของเยอรมัน เช่น ปราสาทโฮเฮนชวาล์ฟเกา(Hohen Schwangau) เป็นเมืองที่น่าอยู่มาก อากาศสดชื่น บ้านเมืองสวยงาม เป็นเมืองที่มีภูเขาของบาราเวีย(Tegelberg)ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์ของนักปีนเขาหรือเดินเขากันเลยทีเดียว
ปราสาทนอยส์ชวาสไตน์ ปราสาทแสนสวยตั้งตระหง่านบนยอดเขา งดงามดั่งเทพนิยาย ทิวทัศน์โดดเด่นรอบล้อมด้วยทะเลสาบและธารน้ำ ภายในตัวปราสาทตกแต่งไว้อย่างอลังการ สร้างในปี ค.ศ. 18-19 ในรัชสมัยของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 เชิญเยี่ยมชมห้องทรงงาน ห้องบรรทม ห้องฮอลล์ที่ใช้ในการแสดงโอเปร่าและคอนเสิร์ต พร้อมสัมผัสความงดงามของปราสาทที่ยากเกินกว่าจะบรรยาย แม้กระทั่งราชาการ์ตูนวอล์ทดิสนีย์ยังได้จำลองแบบไปเป็นปราสาทในเทพนิยาย อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์
เมืองอินส์บรูค เป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำอินน์ อยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมรอบตัวเมือง เป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นทีโรล เจ้าของดินแดนออสเตรียนแอลป์ อยู่ทางตะวันตกในประเทศออสเตรีย เป็นเมืองขนาดเล็กริมแม่น้ำอินน์ ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ เมื่อซัมเมอร์มาเยือนจะกลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง อุณหภูมิกำลังเย็นสบายที่ 17 องศาเซลเซียส ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของคนที่รักธรรมชาติ รวมทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง
หลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินน์สบรูก ประเทศออสเตรีย สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกผสมบาโร้ก และได้ทรงตกแต่งส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านหน้าที่ประทับ ปัจจุบันโกลเด้นรูฟกลายเป็นสำนักงานการประชุมอัลไพน์นานาชาติ
เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) ประเทศออสเตรีย เมืองริมทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก หลายคนอาจเคยเห็นภาพของหมู่บ้านสไตล์ยุโรปที่มีเทือกเขาเป็นองค์ประกอบอยู่ด้านหลังและมีทะเลสาบอยูด้านหน้าที่งดงามราวกับภาพวาด คือ ภาพจำที่ถูกเผยแพร่ไปมากที่สุดของประเทศออสเตรีย
กรุงเวียนนา (Vienna | Wien) เมืองหลวงแห่งประเทศออสเตรีย เมืองที่ได้ชื่อว่าคุณภาพดีที่สุดของโลก เพราะที่นี่อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เป็นเมืองที่คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกพิเศษและสุดแสนจะโรแมนติก เส้นทางเต็มไปด้วยความร่มรื่น รายล้อมด้วยสถานที่สวยงาม เช่น ปราสาทในเทพนิยาย สวนดอกไม้และสวนสาธารณะ ตึกรามบ้านช่อง โบสถ์ โรงโอเปร่า โรงละคร และพิพิธภัณฑ์
ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก หรือ สนามบินมิวนิก (Munich International Airport) ตัวย่อสนามบิน: MUC ชื่อเต็มคือ ท่าอากาศยานมิวนิก "ฟรันทซ์ โยเซ็ฟ ชเตราส์"ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติต่อฟรัให้บริการในเขตมิวนิคและภูมิภาคบาวาเรีย และเป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รองจากสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีเส้นทางบินสู่ 248 จุดหมายปลายทางทั่วโลก โดยสนามบินแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่เพื่อทดแทนสนามบินเดิมที่มีขนาดเล็ก และเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553