หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
จัตุรัสเทียนอันเหมิน ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญยิ่งของประวัติศาสตร์ชาติจีน จากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมากมายบนพื้นที่แห่งนี้ นอกจากนั้นจัตุรัสเทียนอันเหมินยังได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีความยาว 880 และมีพื้นที่ทั้งหมดถึง 440,000 ตารางเมตร โดยสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1417 ในสมัยราชวงศ์หมิง โดยมีชื่อเดิมว่า"เฉิงเทียนเหมิน ต่อมาในสมัยจักรพรรดิซุ่นจื้อแห่งราชวงศ์ชิง ได้มีการบูรณะซ่อมแซมพร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่ว่าเทียนอันเหมิน จนถึงปัจจุบัน
พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง ทางทิศเหนือจัตุรัสเทียนอันเหมิน เมืองหลวงของประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันได้ปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวัง (The Palace Museum) โดยครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 720,000 ตารางเมตร ภายในประกอบด้วยอาคารมากถึง 800 หลัง และมีห้องทั้งสิ้น 9,999 ห้อง มีพระที่นั่ง 75 องค์ รวมทั้งยังมีหอสมุดและห้องต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 14 ปี ปัจจุบันยูเนสโกได้ประกาศให้ที่นี่เป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย
การนวดฝ่าเท้าแบบจีนแท้ๆ โดยแช่เท้าด้วยยาสมุนไพรจีน และนวดผ่อนคลายที่ ศูนย์วิจัยทางการแพทย์แผนโบราณ เพื่อ รับฟังเรื่องราวเกี่ยวกับ การแพทย์โบราณตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันการส่งเสริม การใช้สมุนไพรจีน ที่มีมานานนับพันปีพร้อมรับฟังกาวินิจฉัยโรคโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ชาวจีนเชื่อว่า การนวดฝ่าเท้า ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง มีความต้านทานโรคเพิ่มขึ้น สามารถรักษาการปวดเท้า ขาไม่มีแรง ขาชา ปวดส้นเท้า เส้นเลือดขอด เป็นตะคริว แก้ปัญหาเหล่านี้ได้
หอฟ้าเทียนถาน หรือ หอบูชาฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังอีกแห่งหนึ่งภายในเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน สถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในฐานะของสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมการวางผัง และด้านวัฒนธรรม ซึ่งปัจจุบันที่นี่นอกจากจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงของจีนแล้ว ยังได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี 1998 อีกด้วย
กายกรรมปักกิ่งเป็นการแสดงความสามารถของนักแสดงในการโชว์หวาดเสียวและความยืดหยุ่นของร่างกาย มีการแสดงหลากหลายชุด ซึ่งแต่ละการแสดงจะแตกต่างกันไปหลายๆ ด้าน เช่น โชว์หมุนจาน โชว์ควงของ เป็นต้น ดังนั้นจึงทำให้กายกรรมปักกิ่งกลายเป็นโชว์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
หยกคืออัญมณีที่ชาวจีนยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม 5 ประการ นั่นก็คือ ความใจบุญ สมถะ กล้าหาญ ยุติธรรม และความมีสติปัญญา ซึ่งชาวจีนนั้นถือว่าเป็นชนชาติที่มีความผูกพันกับหยกตั้งแต่เกิดจนตาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าหยกเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความมีโชคและทำให้อายุยืน ดังนั้น ชาวจีนจึงนิยมใช้หยกเป็นเครื่องประดับและเครื่องใช้ต่างๆ และมักพกหยกติดตัวไว้เสมอ โดยถ้าเป็นเด็กหญิงจะสวมกำไลหยก ส่วนเด็กชายจะพกจี้หยก
กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) หรือ กำแพงหมื่นลี้ มีความยาวทั้งสิ้น 21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดถึง 15 มณฑล จนทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง พร้อมควบตำแหน่งสิ่งก่อสร้างจากน้ำมือของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย กำแพงเมืองจีนส่วนใหญ่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน ในช่วงศตวรรษที่ 9 เพื่อใช้ป้องกันการรุกรานจากพวกฮั่น และพวกเติร์กจากทางเหนือ โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างนานที่สุดในโลก คือนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 จนถึง ศตวรรษที่ 221 ก่อนคริสตกาล
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง เป็นการแสดงหุ่นที่เล่าเรื่องแต่ละราชวงศ์ที่ปกครอง ในการขึ้นครองราชของกษัตริย์แต่ละราชวงศ์นั้น อยู่ในอาคารชั้นเดียว จัดแสดงประวัติความเป็นมา ตั้งยุคร้อยปีที่ผ่านมาจนถึงยุคสงคราม ฝิ่น เรื่อยมา จนถึงปักกิ่งยุคใหม่ ที่มีแต่ความเจริญก้าวหน้า โดยแต่ละฉากมีขนาดสมจริง มีคำบรรยายให้ทราบความเป็นมา ถือเป็นแหล่งความรู้ทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างดี มีศิลปะ มีความโหดร้าย การแย่งชิงอำนาจให้ได้ศึกษา ในด้านที่ดีก็มีมากมาย
ถนนหวังฟู่จิ่ง ย่านช้อปปิ้งยอดนิยมในกรุงปักกิ่ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจตุจัสเทียนอันเหมิน มีความยาว 180 เมตร เป็นถนนสายเก่าแก่มีประวัติกว่า 700 ปี ในอดีตเป็นย่านธุระกิจตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง เริ่มมีชาวต่างชาติมาเปิดธนาคารและร้านค้าในปลายราชวงศ์ชิง ทำให้ที่นี่คึกคักจนทำให้เป็นย่านธุระกิจที่โด่งดังของกรุงปักกิ่ง เป็นศูนย์รวมของร้านค้าเบรนด์เนมและแฟ่ชั่นสมัยใหม่ แผงขายอาหารกินเล่นและอาหารภัตตาคาร ร้านกาแฟ
พระราชวังฤดูร้อน หรือ อวี้เหอหยวน (Yíhé Yuán) สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่พลาดไม่ได้เมื่อมาปักกิ่ง ประเทศจีน หนึ่งในพระราชวังสำคัญของจีนโบราณที่ยังคงเหลือเป็นหลักฐานความยิ่งใหญ่จากอดีต ซึ่งนอกจากตัวอาคารที่สวยงามแล้ว ภายในวังยังเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างและงานศิลปะที่ทรงคุณค่า และบริเวณโดยรอบโอบล้อมด้วยทะเลสาบคุนหมิงอันโด่งดัง ซึ่งเกิดจากการใช้แรงงานคนสร้าง ปัจจุบันพระราชวังฤดูร้อนพร้อมด้วยอุทยานอี๋เหอหยวน เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง" เมื่อปี พ.ศ. 2541
สนามกีฬาแห่งชาติกรุงปักกิ่ง หรือ ปักกิ่งสเตเดี้ยม (Beijing National Stadium) สถาปัตยกรรมสุดยิ่งใหญ่อันทันสมัยที่เคยใช้จัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2008 สนามแห่งนี้ถูกออกแบบให้คล้ายรังนก เห็นได้จากโครงเหล็กที่นำมาสานต่อกันเป็นวงกลม 3 รอบ สาเหตุที่สเตเดี้ยมแห่งนี้เป็นรังนกก็เพราะรังนกเป็นอาหารยอดฮิตของคนจีน ที่นี่สามารถจุคนได้มากถึง 91,000 ที่นั่ง นอกจากความยิ่งใหญ่ที่เราสามารถไปถ่ายรูปเล่นในตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนที่นี่ก็จะมีการเปิดไฟสีสันสวยงามอีกด้วย
เดอะ เพลส (The Place) หรือ ซื่อ เม่า เทียน เจีย ศูนย์การค้าและแหล่งช็อปปิ้งที่ทันสมัยใจกลางกรุงปักกิ่ง ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง ไฮไลท์ของที่นี่คือหน้าจอ LED บนหลังคาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจีน โดยนักท่องเที่ยวสามารถส่งข้อความให้ไปปรากฏบนหน้าจอได้ นอกจากนั้น The Place ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ทั้งอาหารจีนและตะวันตก ร้านหนังสือ ร้านเสื้อผ้า และมีสถานบันเทิงยามค่ำคืนให้ได้ผ่อนคลายกันด้วย
ปี่เซียะ (Bixie) เป็นสัตว์มงคลที่มีอานุภาพในทางกำจัดปีศาจและสิ่งชั่วร้าย รวมทั้งปกป้องผู้ครอบครองจากคุณไสยต่าง ๆ ซึ่งคนจีนสมัยก่อนมักจะเขียนภาพหรือตั้งรูปปั้นปี่เซียะไว้ตามประตูบ้าน เพื่อช่วยขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลายไม่ให้เข้ามากล้ำกราย โดยเชื่อว่าปี่เซียะเป็นลูกตัวที่ 9 ของมังกร ทั้งยังกินเก่งและไม่มีรูทวาร ดังนั้นปี่เซียะจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการพิทักษ์ และคุ้มครองทรัพย์สมบัติอีกด้วย ซึ่งหมายถึงการเก็บเงินทองไม่ให้รั่วไหล ดั่งปี่เซียะที่กินอย่างเดียวโดยไม่ขับถ่ายนั่นเอง
ตลาดรัสเซียหรือซิ่วสุ่ยเจียคือแหล่งสินค้าลอกเลียนแบบแบรนด์เนมชื่อดังที่มีมากมายทุกยี่ห้อจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ฯลฯ ซึ่งที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักช้อปจากทั่วโลกที่ไม่นิยมซื้อหาของแท้ก็ว่าได้ โดยตลาดรัสเซียตั้งอยู่บนฉางอันใจกลางกรุงปักกิ่ง ซึ่งในอดีตที่นี่เป็นเพียงตรอกเล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางแจ้งเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์และรูปลักษณ์ใหม่ จนกลายเป็นอาคารติดแอร์ 8 ชั้น อย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่เสื่อมคลาย
โรงงานผ้าไหมปักกิ่ง..จีนเป็นประเทศแรกที่รู้จักการเลี้ยงไหมและพัฒนาคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เชิญชมโรงงานไหมของปักกิ่ง ซึ่งแตกต่างจากของไทยมาก ที่นี่..เป็นของรัฐบาลจีน ภายในโรงงานแห่งนี้ ได้ชมวิธีการนำเส้นไหมออกมาผลิตเป็นสินค้าทั้งใช้เครื่องจักร และแรงงานคน ชมการดึงใยไหมรังแฝด เพื่อมาทำใส้นวมผ้าห่มไหม และชมชุดเครื่องนอน ผ้าปู ปลอกหมอน ผ้าห่มพร้อมปลอก แต่ละผืนนิ่ม ลื่นมาก เนียน และยังมีเสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้าไหม การจัดเย็บสวยมาก ซึ่งเหมาะกับการซื้อเป็นทั้งของฝากและใช้เอง