หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
อุโมงค์เลเซอร์ (The Bund Sightseeing Tunnel) เชื่อมต่อระหว่างเดอะบันด์และหอคอยไข่มุก เป็น 1 ใน 5 จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวคนไหนก็ตามมาเยือนเมืองเซี่ยงไฮ้ ต้องไม่พลาดแวะชมเป็นอันขาด เพราะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ไปแล้ว ที่นี่เป็นอุโมงค์ที่ลอดแม่น้ำสายแรกในประเทศจีน ภายในอุโมงค์ตกแต่งด้วยเเสงเลเซอร์เป็นรูปต่างๆ น่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งแสง สี เสียง ภายในอุโมงค์เปลี่ยนแปลงตลอดระยะทาง บางช่วงทำให้รู้สึกเหมือนเดินทางอยู่ในห้วงอวกาศเลยทีเดียว
หาดไว่ทัน หาดไว่ทาน (Waitan) หรือ เดอะบันด์ The Bund แม้จะถูกเรียกว่าหาด แต่ไว่ทานเป็นพื้นที่ริมน้ำในใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ มีความยาว 1.5 กม. เลียบริมแม่น้ำหวงผู่ฝั่งตะวันตก เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ทำให้หาดนี้เป็นที่รู้จักอีกชือคือ "หาดเจ้าพ่อเซียงไฮ้" บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของตึกที่ทำการบริษัทและสถานกงสุลประเทศต่างๆ ทั่วโลก ลักษณะของอาคารเป็นสไตล์ยุโรปโบราณ บางแห่งดัดแปลงเป็นออฟฟิศและร้านอาหารหรูๆ ถือเป็นจุดไฮไลท์ของการมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาชม
ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ให้ท่านได้ชมขั้นตอนการเลี้ยงไหมและสาธิตการทอผ้าไหม ให้ท่านได้สามารถเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าไหมซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสินค้าส่งออกที่ขึ้นชื่อของจีน
ถนนนานกิง (Nanjing Road) คือช้อปปิ้งสตรีทที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ โดยในบริเวณสองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยร้านค้าและห้างสรรพสินค้ามากมาย ทั้งสินค้าแบกะดินจนถึงสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากหาดไว่ทานมากนัก นักท่องเที่ยวที่มาช้อปปิ้งยังถนนแห่งนี้จึงสามารถเดินเล่นชมความงดงามของหอไข่มุกที่ตั้งอยู่ในบริเวณหาดไว่ทานได้อย่างสบายใจ ส่วนในช่วงเช้าที่นี่ก็จะกลายสภาพเป็นสถานที่ออกกำลังกายของบรรดาผู้สูงอายุที่รักสุขภาพทั้งหลาย เรียกได้ว่าเป็นถนนอเนกประสงค์อย่างแท้จริง
สตาร์บัคส์ (Starbucks Reserve Roastery) พลาดไม่ได้กับสตาร์บัคส์สาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลกเปิดให้บริารในเซี่ยงไฮ้ มีบาร์จิบกาแฟที่ยาวที่สุดในโลกถึง88ฟุตและป็นสาขาแรกที่นำเทคโนโลยี AR มาเสริมประสบการณ์ให้กับลูกค้า มีเครื่องดื่มต่างๆมากกว่า 100 เมนูให้ได้ลิ้มลอง
ร้านยาบัวหิมะ (Bao Fu Ling Shop) ร้านยาที่จำหน่ายบัวหิมะที่มีสรรพคุณรักษาแผลไฟไหม้ บำรุงผิว ซึ่งเป็นยาสมุนไพร ผลิตตามตำรับยาจีนแผนโบราณของราชวงศ์ชิง และเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์แผนโบราณและแผนปัจจุบัน อีกทั้งรัฐบาลจีนยังเข้ามาควบคุมคุณภาพและปริมาณ ที่สำคัญไม่มีวางจำหน่ายสินค้าตามท้องตลาดทั่วไป มาเลือกชมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์พร้อมรับฟังการวินิจฉัยโรคโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และยังได้ชมการสาธิตการนวดเท้า ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเคลียด และบำรุงการไหลเวียนของโลหิตด้วยวิธีธรรมชาติ
เซี่ยงไฮ้หงเฉียวเป็นหนึ่งในสี่สถานีรถไฟหลักในเซี่ยงไฮ้จีนสถานีอื่น ๆ ได้แก่ สถานีรถไฟเซี่ยงไฮ้สถานีรถไฟเซี่ยงไฮ้ใต้และสถานีรถไฟเซี่ยงไฮ้ตะวันตก ด้วยพื้นที่ทั้งหมด 1.3 ล้านตารางเมตรจึงเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
กรุงปักกิ่ง (Beijing) เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง การศึกษา การขนส่ง และวัฒนธรรมของจีน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของที่ราบหวาเป่ นอกจากนั้นยังถูกยกสถานะให้เป็นเมืองสำคัญต่อการค้าการลงทุนในระดับโลก โดยในแต่ละปีจะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาลงทุนและท่องเที่ยวในปักกิ่งมากมายหลายล้านคน ทั้งนี้ปักกิ่งถือว่าเป็นเมืองที่มีพัฒนาการเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมโบราณอันเป็นรากฐานสำคัญของชนชาติจีนมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
จัตุรัสเทียนอันเหมิน ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญยิ่งของประวัติศาสตร์ชาติจีน จากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมากมายบนพื้นที่แห่งนี้ นอกจากนั้นจัตุรัสเทียนอันเหมินยังได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีความยาว 880 และมีพื้นที่ทั้งหมดถึง 440,000 ตารางเมตร โดยสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1417 ในสมัยราชวงศ์หมิง โดยมีชื่อเดิมว่า"เฉิงเทียนเหมิน ต่อมาในสมัยจักรพรรดิซุ่นจื้อแห่งราชวงศ์ชิง ได้มีการบูรณะซ่อมแซมพร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่ว่าเทียนอันเหมิน จนถึงปัจจุบัน
พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง ทางทิศเหนือจัตุรัสเทียนอันเหมิน เมืองหลวงของประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันได้ปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวัง (The Palace Museum) โดยครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 720,000 ตารางเมตร ภายในประกอบด้วยอาคารมากถึง 800 หลัง และมีห้องทั้งสิ้น 9,999 ห้อง มีพระที่นั่ง 75 องค์ รวมทั้งยังมีหอสมุดและห้องต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 14 ปี ปัจจุบันยูเนสโกได้ประกาศให้ที่นี่เป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย
ไข่มุกเป็นอัญมณีจากสิ่งมีชีวิต ที่ประกอบด้วยผลึกของสารประกอบ CaCO3 ที่เรียกว่า Aragonite อินทรียสารจำพวกโปรตีนที่เรียกว่า Conchiolin และน้ำ มีสีขาว เงินยวง ชมพูและสีทอง ซึ่งนอกจากจะนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับแล้ว ยังนิยมนำมาทำเป็นเครื่องสำอางด้วย นอกจากนั้นคนจีนยังเชื่อด้วยว่า ไข่มุกเป็นอัญมณีแห่งสายน้ำ ที่ช่วยเสริมสง่าราศีให้กับผู้สวมใส่ อีกทั้งหากเป็นผู้หญิง ก็จะก่อให้เกิดความนุ่มนวล อ่อนหวาน สามารถแก้ปัญหาทางด้านอารมณ์ได้
หอฟ้าเทียนถาน หรือ หอบูชาฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังอีกแห่งหนึ่งภายในเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน สถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในฐานะของสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมการวางผัง และด้านวัฒนธรรม ซึ่งปัจจุบันที่นี่นอกจากจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงของจีนแล้ว ยังได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี 1998 อีกด้วย
กายกรรมปักกิ่งเป็นการแสดงความสามารถของนักแสดงในการโชว์หวาดเสียวและความยืดหยุ่นของร่างกาย มีการแสดงหลากหลายชุด ซึ่งแต่ละการแสดงจะแตกต่างกันไปหลายๆ ด้าน เช่น โชว์หมุนจาน โชว์ควงของ เป็นต้น ดังนั้นจึงทำให้กายกรรมปักกิ่งกลายเป็นโชว์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
หยกคืออัญมณีที่ชาวจีนยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม 5 ประการ นั่นก็คือ ความใจบุญ สมถะ กล้าหาญ ยุติธรรม และความมีสติปัญญา ซึ่งชาวจีนนั้นถือว่าเป็นชนชาติที่มีความผูกพันกับหยกตั้งแต่เกิดจนตาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าหยกเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความมีโชคและทำให้อายุยืน ดังนั้น ชาวจีนจึงนิยมใช้หยกเป็นเครื่องประดับและเครื่องใช้ต่างๆ และมักพกหยกติดตัวไว้เสมอ โดยถ้าเป็นเด็กหญิงจะสวมกำไลหยก ส่วนเด็กชายจะพกจี้หยก
กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) หรือ กำแพงหมื่นลี้ มีความยาวทั้งสิ้น 21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดถึง 15 มณฑล จนทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง พร้อมควบตำแหน่งสิ่งก่อสร้างจากน้ำมือของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย กำแพงเมืองจีนส่วนใหญ่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน ในช่วงศตวรรษที่ 9 เพื่อใช้ป้องกันการรุกรานจากพวกฮั่น และพวกเติร์กจากทางเหนือ โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างนานที่สุดในโลก คือนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 จนถึง ศตวรรษที่ 221 ก่อนคริสตกาล
ร้านผลิตภัณฑ์จากยางพารา (Rubber Product Shop) ให้เราได้เลือกชมสินค้า และผลิตภัณฑ์เครื่องนอนเพื่อสุขภาพต่าง ๆ ที่ผลิตจากยางพารา
พระราชวังฤดูร้อน หรือ อวี้เหอหยวน (Yíhé Yuán) สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่พลาดไม่ได้เมื่อมาปักกิ่ง ประเทศจีน หนึ่งในพระราชวังสำคัญของจีนโบราณที่ยังคงเหลือเป็นหลักฐานความยิ่งใหญ่จากอดีต ซึ่งนอกจากตัวอาคารที่สวยงามแล้ว ภายในวังยังเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างและงานศิลปะที่ทรงคุณค่า และบริเวณโดยรอบโอบล้อมด้วยทะเลสาบคุนหมิงอันโด่งดัง ซึ่งเกิดจากการใช้แรงงานคนสร้าง ปัจจุบันพระราชวังฤดูร้อนพร้อมด้วยอุทยานอี๋เหอหยวน เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง" เมื่อปี พ.ศ. 2541
เทียนสิน เป็นเมืองเอกเทศ 1 ใน 4 ของจีนรวมทั้งปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ฉงชิ่ง ตั้งอยู่ทิศตะวันตา ห่างออกไปจากปักกิ่งประมาณ 160 ก.ม. เป็นด่านปราการทางตะวันออกที่สำคัญทางทะเลของนครปักกิ่ง เป็นเมืองอุตสาหกรรม การพาณิชย์ เมืองท่าและชุมทางการคมนาคมที่สำคัญทางภาคเหนือระหว่างปักกิ่งสู่ 2 มณฑลอีสานของจีน
ถนนสายวัฒนธรรมโบราณเทียนจิน (Ancient Culture Street, Gu Wenhua Jie) อยู่เทศบาลนครเทียนจิน ประเทศจีน ที่นี่เป็นศูนย์กลางที่สำคัญ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับประเพณีพื้นบ้านจีนเกือบทุกรูปแบบตั้งอยู่ในย่าน Nankai และมีร้านค้ากว่าร้อยแห่ง โดยมีวัง Tianhou เป็นศูนย์กลาง ร้านอาหาร จำลองแบบราชวงศ์ชิง หน้าต่างและประตูได้รับการตกแต่งด้วยภาพวาดที่มีสีสัน มีเฟอร์นิเจอร์ศิลปะเก่า หยกโบราณ จำหน่ายของที่ระลึกประเภทฝีมือแฮนด์เมดแบบดั้งเดิมในช่วง 300 ปี และมีวัดโบราณให้สักการะมากมาย
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก