Mushroom Travel
รหัสทัวร์MUSH196152

ทัวร์แกรนด์โครเอเชีย ซาเกรบ พูล่า อารีน่า อุทยานพริตวิเซ่ ออร์แกนทะเล นั่งกระเช้าชมวิวดูบรอฟนิค

SOLD OUT

ทัวร์นี้ได้ปิดกรุ๊ปแล้ว

หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com

ดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์
แชร์เลย !

วันที่เดินทาง

ไฮไลท์โปรแกรมทัวร์

  • เที่ยว:มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น-ประตูหิน-โบสถ์นักบุญมาร์ค-โอพาเทีย-รูปปั้นนางแห่งนกนางนวล-พูล่า อารีน่า-โรวินจ์-โบสถ์เซนต์อาเฟเหมี่ย-อุทยานแห่งชาติพริตวิเซ่-ล่องเรือทะเลสาบ Kozjak-ซาดาร์-มหาวิหารเซนต์อนาตาเซีย-ออร์แกนทะเล-ซีบีนิค-มหาวิหาร เซนต์จาคอป-โทรเกียร์-มหาวิหารเซนต์ลอเรนซ์-สปลิท-พระราชวังดิโอคลีเธียน-สตอน-ฟาร์มหอยนางรม-ดูบรอฟนิก-หอนาฬิกาโบราณ-พระราชวังเรคเตอร์-เมืองเก่าดูบรอฟนิก-นั่งกระเช้าชมวิวดูบรอฟนิค
  • ช้อป:ตลาดกลางเมือง
  • พัก:พัก 4 ดาว

โปรแกรมทัวร์

  • Day 1
  • 21.00 น. สนามบินสุวรรณภูมิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

  • 23.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียด้วยเที่ยวบิน OS026

  • Day 2
  • 05.35 น. เดินทางถึงกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

  • 07.00 น. ออกเดินทางสู่ กรุงซาเกรบ (Zagreb) ประเทศโครเอเชีย เที่ยวบินที่ OS681

  • 07.50 น. สนามบิน Franjo Tudjman Airport

  • อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic (Ban Josip Jelacic Monument) อนุสาวรีย์แห่งนี้มีที่ใจกลางจัตุรัสหลักของ Jelacic ในกรุงซาเกร็บ ตั้งอยู่บนฐานสูงที่น่าภาคภูมิใจ สำหรับคนท้องถิ่นเป็นรูปปั้นของประวัติศาสตร์ของนายพลผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อเป็นอิสระจากชาวฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1848 อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในจัตุรัสหลักในเมือง ซึ่งประกอบไปด้วยร้านค้าและย่านช้อปปิ้ง ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งด้านหลังและด้านหน้าของอนุสาวรีย์แห่งนี้เลยทีเดียว

  • มหาวิหารเซนต์สตีเฟน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St Stephens Cathedral) ตั้งอยู่ในเมืองซาเกร็บ เป็นวิหารอันมีอายุเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1093 ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ในสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิค หลังจากที่ถูกกองทัพมองโกลทำลายในปี ค.ศ. 1242 โดยมีลักษณะเป็นหอคอยแฝดปลายแหลมสีทอง ที่มีความแปลกตรงที่มีขนาดความสูงที่ไม่เท่ากัน ส่วนภายในวิหารนั้นประดิษฐานรูปปั้นนักบุญที่สำคัญ ทั้งเซนต์ปีเตอร์และเซนต์ปอล นอกจากนั้นยังมีความโดดเด่นอีกอย่างคือ หลังคาวิหารที่ปูกระเบื้องเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของกองกำลังทหารในยุคกลางนั่นเอง

  • ตลาดโดเเลค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ตลาดโดแลคเป็นตลาดเกษตรกรที่ตั้งอยู่ในเมืองซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย และอยู่ไม่ไกลจากจัสตุรัสกลางเมืองมากนัก ซึ่งตลาดโดแลคถือว่าเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากมันเป็นตลาดเก่าแก่ในการซื้อขายสินค้าทางด้านการเกษตรมาตั้งแต่ปี 1926 โดยในอดีตชาวเกษตรกรที่อยู่หมู่บ้านรอบๆ บริเวณนี้จะนำผลผลิตของพวกเขาออกมาวางขาย ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้สดๆ รวมถึงอาหารในสไตล์โฮมเมด แต่ในปัจจุบันสินค้าของที่นี่ยังครอบคลุมไปถึงสินค้าประเภทอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสินค้าทางเกษตร

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • ประตูเมืองเก่าสโตนเกท

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ประตูเมืองเก่าสโตนเกท สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เป็นประตูเมืองที่ยังหลงเหลืออยู่มีรูปพระแม่มารีรอดพ้นจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1731 เชื่อกันว่าเกิดจากปาฏิหาริย์อันศักดิ์สิทธิ์ โดยไม่เสียหายจากไฟไหม้ เพื่อป้องกันภาพวาด จึงมีการสร้างโบสถ์เพิ่มเติมและภาพวาดที่ยังคงอยู่ด้านหลังตะแกรงโลหะ ปัจจุบัน มีผู้เข้าไปชมภาพวาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเข้ามามาสวดมนต์และให้ของขวัญแด่โบสถ์นี้

  • โบสถ์นักบุญเซนต์มาร์ค

  • เมือง โอบาเทีย

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองโอบาเทีย..เมืองตากอากาศสุดหรูของเศรษฐียุโรปและขุนนางในอดีต เมืองที่ได้รับสมญานามว่า 'ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติค' เมืองพักผ่อนตากอากาศริมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย แบบริเวียร่าที่มีอากาศดีตลอดทั้งปี ตัวเมืองลดหลั่นไปตามไหล่เขาเป็นทั้งวิลล่าตากอากาศ,โรงแรมชั้นนำ แหล่งบันเทิงและร้านอาหาร,จัตุรัสกลางเมืองมีรูปปั้นสตรีและนกนางนวล อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง อิสระให้พักผ่อนกับบรรยากาศชั้นเลิศ

  • นางแห่งนกนางนวล

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    นางแห่งนกนางนวล (Maiden with the Seagull) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่แกะโดย Zvonko Car นักประติมากรที่มีชื่อเสียง นางแห่งนกนางนวลนี้เป็นรูปปั้นสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง และมักจะมีนกนางนวลจริง ๆ บินมาเกาะที่รูปปั้นนี้เป็นประจำ

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

  • พัก Hotel Grand Ariatic **** หรือเทียบเท่า

  • Day 3
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • เมืองพูลา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พูลาเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตมณฑลอีสเตรีย ประเทศโครเอเชีย โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้านใต้ของคาบสมุทรอิสเตรีย และเช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ พูลามีชื่อเสียงว่ามีสภาพอากาศที่อบอุ่น ทะเลสงบ และมีธรรมชาติที่สวยงาม อีกทั้งเมืองแห่งนี้ยังมีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ยาวนานในเรื่องการผลิตไวน์ การตกปลา การต่อเรือและการท่องเที่ยว นอกจากนี้เมืองพูลายังเคยตกเป็นอาณานิคมของโรมันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนั้นผู้คนที่นี่จึงใช้ภาษาอิตาเลี่ยนกันอย่างแพร่หลาย ไม่เว้นแม้กระทั่งป้ายจราจร

  • พูล่า อารีน่า

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พูล่า อารีน่า (Pula Arena) สนามกีฬากลางแจ้งที่สร้างขึ้นในสมัยโรมัน และเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ในยุคอาณาจักรโรมัน ปัจจุบันมักใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมกลางแจ้ง เทศกาลดนตรี รวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานภาพยนตร์ประจำปี (International Film Festival) อีกด้วย

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

  • เมืองโรวินจ์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองริมชายทะเลที่ตั้งอยู่ทางเหนือของทะเลอาเดรียติก ภายในเขตชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรอีสเตรียที่มีประชากรอาศัยอยู่แค่ 14,294 คน และด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของโรมันมาก่อน ดังนั้นจึงทำให้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของเมืองนี้ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับประเทศอิตาลี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เพราะเต็มไปด้วยรีสอร์ท อาคารบ้านเรือน และมีตรอกซอกซอยที่ปูพื้นด้วยก้อนหินดูแปลกตา มีร้านกาแฟ ร้านอาหารมากมาย รวมทั้งยังมีสะพานปลาที่คึกคักด้วย

  • โบสถ์นักบุญยูฟีเมีย

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โบสถ์นักบุญยูฟีเมีย (Church of St. Euphemia) ตุังอยู่บนเนินสูงสุดของเขตเมืองเก่า เป็นโบสถ์สไตล์บาร็อคที่มียอดโบสถ์สูงถึง 61 เมตร ซึ่งถ้ามองมองลงไปเบื้องหน้าจะเป็นผืนน้ำสีเขียวใสของทะเลเอเดรียติกกว้างไกลออกไปสุดหูสุดตา และถือได้ว่าเป็นยอดโบสถ์ ทีสูงที่สุดของแคว้น เลยทีเดียว

  • พลิตวิเซ่

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองพลิตวิเซ่ แห่งแคว้น Istria&Kvarner ระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติ และความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับทุ่งหญ้า ฟาร์มการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ มีอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า ที่มีน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบสวยงามมาก โดยเฉพาะทะเลสาบคอสจัค เป็นทะเลสาบที่มีบรรยากาศของสายน้ำอันชื่นฉ่ำ บนพื้นน้ำสีคราม และเกาะแก่งในทะเลสาบ ตลอดจนไม้ป่าจำพวกสนและเฟอร์ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

  • พัก Hotel Jezero **** หรือเทียบเท่า

  • Day 4
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า (Plitvice Lakes National Park) อุทยานแห่งนี้มีต้นกำเนิดมาจากน้ำในภูเขามาลา คาเปลา ที่กัดเซาะชั้นหินปูนและก้อนหินโดโลไมท์ มาเป็นระยะเวลานานหลายพันปี จนก่อเกิดเป็นน้ำตกที่ไหลลงสู่ทะเลสาบสีเขียวมรกต และสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แวววาวภายในอุทยานถึง 16 แห่ง โดยเป็นสีที่เกิดจากการผสมผสานกันของแร่ธาตุต่าง ๆ และน้ำพุร้อนใต้ผืนดินแห่งนี้ ซึ่งแต่ละแห่งเชื่อมต่อกันด้วยสะพานไม้ ที่ลัดเลาะผ่านผืนน้ำ ต้นไม้ใหญ่ที่เขียวชอุ่ม และเนินเขาน้อยใหญ่ที่รายล้อมอุทยาน

  • ล่องเรือ ทะเลสาบคอสจัค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ทะเลสาบคอสจัค (Lake Kozjak) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดและลึกที่สุดในบรรดา 16 ทะเสาบ ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า ประเทศโครเอเชีย นั่นคือมีความกว้างถึง 81.5 เอเคอร์ และลึกกว่า 46 เมตร อีกทั้งยังเป็นทะเสาบที่ตั้งอยู่ด้านบนของเทือกเขา โดยมีน้ำตกมิลาโน่วัคซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 20 เมตร นำพาน้ำจากทะเลสาบคอสจัค ไหลลงมาสู่ทะเลสาบที่อยู่ชั้นล่างลงมา ซึ่งนั่นก็คือทะเลสาบมิลาโน่วัค

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

  • เมืองซาดาร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองซาดาร์ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย ซึ่งในอดีตนั้นที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชียมาก่อน และมีบทบาทเป็นเมืองท่าที่สำคัญของคาบสมุทรเอเดรียติคมาตั้งแต่ในช่วงสมัยอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน และในปัจจุบันซาร์ดาร์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่และยาวนานมากกว่า 3,000 ปี ซึ่งสามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมในแบบโรมาเนสก์และโกธิค ให้แพ็กกระเป๋าเดินทางมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย

  • โบสถ์อนาสตาเชีย

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โบสถ์โรมันคาทอลิกประจำเมืองซาดาร์ และถือว่าเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคดัลมัลเชียซึ่งเป็นภูมิภาคทางชายฝั่งทะเลของโครเอเชีย โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 5-6 โดยใช้ศิลปะแบบโรมัน และได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดในศตวรรษที่ 13 เนื่องจากได้รับความเสียหายจากการโจมตีของชาวเวนิสในช่วงสงครามศาสนา นอกจากนี้ โบสถ์อนาสตาเชียยังมีความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์เพราะเคยเป็นสถานที่ที่พระสันตปาปา ถึง 2 พระองค์คือ พระสันตปาปาอเล็กซานพระสันตปาปาจอห์นพอลที่ 2 เคยเสด็จมาเยือน

  • ออร์แกนทะเล

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ออร์แกนทะเล (Morske Orgulje) ซึ่งออกแบบโดย Nikola Basic สถาปนิกชาวซาดาร์ เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมให้เป็นสีสันและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมือง แทนที่โบราณสถานที่ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตามจุดประสงค์ของเทศบาลเมืองซาดาร์ ออร์แกนทะเลนี้สามารถสร้างเสียงอันรื่นรมย์โดยให้น้ำทะเลไหลเข้าไปในโพรงท่อ แล้วอากาศข้างในจะดันออกมาตรงโพรงท่อที่อยู่สูงกว่า ซึ่งทำให้เกิดเป็นเสียงในโทนต่าง ๆ ที่เราได้ยินอยู่นั่นเอง

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

  • พัก Hotel Kolovare **** หรือเทียบเท่า

  • Day 5
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • เมืองซีเบนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองซีเบนิคคือเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของโครเอเชีย ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โดยทอดตัวยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ซึ่งหากมองจากระยะไกลก็จะเห็นถึงความคลาสสิกของเมืองแห่งนี้ด้วยอาคารบ้านเรือนที่มุงหลังคากระเบื้องสีส้มสไตล์เรเนซองส์ทอดยาวริมฝั่งทะเล นอกจากนั้นซีเบนิคยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยภูมิทัศน์อันงดงาม รวมทั้งอนุสาวรีย์ทางวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของมลรัฐหมู่เกาะชีเบนิค-คนีนอีกด้วย

  • มหาวิหาร เซนต์จาคอป

  • เมืองโทรเกียร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โทรเกียร์คือเมืองเล็กๆ บนเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากแผ่นดินใหญ่มากนัก ทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคกรีกและโรมัน และผ่านการปกครองจากเชื้อชาติต่างๆ มาหลายยุคหลายสมัย นั่นจึงทำให้โทรเกีย์กลายเป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย ด้วยสิ่งก่อสร้างต่างๆ อันเป็นผลิตผลจากการปกครองของอาณาจักรเวนิสในยุคเวนิเชียน ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ หรืออาคารบ้านเรือนในสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองก์และบาโร้ก และนี่เองที่ส่งเสริมให้โทรเกียร์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าจนได้รับการรับรองให้เป็นอีกหนึ่งมรดกของโลก

  • มหาวิหารซานลอเรนโซ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    มหาวิหารซานลอเรนโซ หรือ โบสถ์ซานลอเรนโซ สร้างขึ้นในแบบโรมันเนสค์และโกธิค ราวศตวรรษที่ 14 เป็นโบสถ์ประจำตระกูลเมดิซิ ตระกูลผู้ทรงอำนาจในอดีต แบ่งเป็นมี 3 ส่วนให้ชมคือ โบสถ์,ห้องสมุด,สุสานประจำตระกูล ตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยหินสีต่างๆสวยงาม ภายในมียอดโดมเป็นภาพวาดการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้าที่วาดขึ้นตั้งแต่คริสตศวรรษที่16,หอคิลป์จัดแสดงภาพวาดและงานประติมากรรมในสมัยคริสตศวรรษที่15–16 อันเป็นช่วงเวลาแห่งการพื้นฟูศิลปะวิทยาการ,ห้องโถงภายในมีสุสาน ตั้งของหลุมศพบุคคลสำคัญในตระกูลเมดิซิตกแต่งสวยงาม

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

  • เมืองสปลิต

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองสปลิตเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโครเอเชีย รวมทั้งยังเป็นอีกหนึ่งเมืองท่าที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวของประเทศ เนื่องจากในแต่ละปีนั้นนักเดินทางจากทั่วโลกต่างมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่นี่ไม่น้อยกว่าล้านคน ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเสน่ห์อันล้นเหลือของสปลิต ไม่ว่าจะเป็นในฐานะของเมืองโบราณอันเก่าแก่และเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและการบริหารในศตวรรษที่ 15 และก่อเกิดสิ่งก่อสร้างอันทรงคุณค่าต่างๆ ตามมา อย่างเช่นพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน หนึ่งในพระราชวังที่ถูกการรับรองให้เป็นมรดกของโลก

  • พระราชวังไดโอคลีเชียน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พระราชวังไดโอคลีเชียนตั้งอยู่ที่เมืองสปลิทประเทศโครเอเชีย โดยพระราชวังแห่งนี้สร้างโดยพระราชประสงค์ของจักรพรรดิไดโอคลีเชียนแห่งจักรวรรดิโรมัน เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับในบั้นปลายชีวิต เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4ลักษณะภายนอกเป็นพระราชวังขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆ หลายส่วนนับตั้งแต่ทางเข้าหลัก อย่างเช่นมหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์ โบสถ์แห่งเทพวีนัส และวิหารโดมนิอุส เป็นต้น จึงทำให้พระราชวังแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่อันทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1979

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • พัก Atrium **** หรือเทียบเท่า

  • Day 6
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • สตอน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองสตอน เมืองเล็กๆที่มีความสงบเงียบริมโค้งอ่าวกว้าง เดิมเป็นเหมือนเมืองหน้าด่านของดูบรอฟนิค มีความเจริญรุ่งเรืองการค้าเกลือ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ตัวเมืองถูกโอบล้อมเมืองด้วยกำแพงที่ทอดยาวราว 5กม มองเห็นได้จากระยะไกล ปัจจุบันเมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเลรสเลิศ เนื่องจากมีชื่อเสียงเรื่องฟาร์มเลี้ยงหอย โดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมมีอยู่มากมาย นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ได้ชมขั้นตอนต่างๆของการเลี้ยงและอาจได้ชิมหอยนางรมสดๆจากทะเลอเดรียติค พร้อมด้วยไวน์สดที่คล่องคอแบบสุดๆ

  • ฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

  • เมืองดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองดูบรอฟนิคเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย และมีพรมแดนติดกับประเทศบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า ในอดีตในช่วงศตวรรษที่ 13 เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจทางทะเล โดยครอบคลุมพื้นที่ทะเลเอเดรียติคและทะเลเมดิเตอเรเนียนทั้งหมด และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในยุคนั้นจนก่อให้เกิดปัญหาตามมา แต่ในปัจจุบันดูบรอฟนิคกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโครเอเชีย และได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองเก่าที่สวยที่สุดในทวีปยุโรป จนทำให้ได้รับฉายาว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค

  • ประตูหลักเมืองดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    หรือ ประตูปิเล เป็นทางเข้าหลักของเมือง ที่เชื่อมอยู่กับสะพานหินที่มีอายุย้อนถึงปีค.ศ.1537 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของย่านเขตเมืองเก่าดูบรอฟนิค เพื่อปกป้องเมืองภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียนและเซิร์บ ซึ่งต้องเดินทางผ่านทางสะพานไม้ อันเป็นสะพานที่สามารถยกขึ้นทุกเย็น แล้วประตูเมืองจึงจะปิดล็อคเอง เหนือประตูปิเล มีรูปปั้นของนักบุญเบลส ซึ่งเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของเมือง ซึ่งฝังตัวอยู่ในโค้งของประตูเมือง ออกแบบโดย Ivan Mestrovic นักประติมากรในศตวรรษ 20

  • น้ำพุโอโนฟริโอ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    หรือ น้ำพุโบราณทรงกลม เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญมีชื่อเสียงของเมืองดูบรอฟนิค สร้างโดย โอโนฟริโอ้ เดลลา คาว่า ในปีคศ.1438 เพื่อใช้หล่อเลี้ยงประชากรในยามมีศึกสงคราม และเป็นส่วนหนึ่งของระบบน้ำประปาห่างจากบ่อ12กม ประดับด้วยรูปปั้นนักบุญต่างๆ แต่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวในคศ.1667 เหลือน้ำพุงเพียง16แห่งเท่านั้นไหลลงไปในสระว่ายน้ำเพื่อระบายน้ำ รอบๆน้ำพุ มีงานปูนปั้นสวยงามแสดงเป็นรูปหน้าของสัตว์ต่างๆ,หอระฆัง,น้ำพุขนาดเล็กๆตั้งอยู่ในจตุรัสลูซ่า ที่นี่..ท่านสามารถดื่มน้ำได้ด้วย

  • หอนาฬิกาโบราณ

  • พระราชวังเรคเตอร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พระราชวังเร็กซ์เตอร์ (Rector's Palace) พระราชวังที่มีประตูโค้งพร้อมด้วยบัวหัวเสาแกะสลักสวยงาม สถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเนสซองส์และบารอค อดีตเป็นที่ทำการรัฐบาล ในศตวรรษที่ 15 ตัวตึกถูกทำลายโดยระเบิดและได้สร้างใหม่โดย โอโนฟริโอ้ เดลลา คาวา ในรูปแบบโกธิค ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของเมือง ที่รวบรวมสมบัติล้ำค่าไว้มากมาย และยังใช้เป็นที่แสดงคอนเสิร์ตด้วย

  • ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • พัก Kompas Hotel Dubrovnik **** หรือเทียบเท่า

  • Day 7
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • เขตเมืองเก่าดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เขตเมืองเก่าดูบรอฟนิคเป็นเขตเมืองซึ่งถูกโอบล้อมด้วยกำแพงโบราณสูงตระหง่านถึง 25 เมตร ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้ป้องกันการรุกรานของศัตรู โดยประตูเมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ส่วนภายในกำแพงหินนั้นเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเก่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก-บาโร้ก รวมทั้งถนนการค้าเส้นสำคัญที่ปูพื้นด้วยหินด้วยความยาว 292 เมตร ซึ่งเกือบทั้งหมดภายในเขตเมืองเก่านี้คือสิ่งที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่จากความเสียหายเพราะเหตุการณ์การต่อสู้แบ่งแยกดินแดนจากยูโกสลาเวีย

  • นั่งกระเช้าไฟฟ้าชมเมืองดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    นั่งกระเช้าไฟฟ้ามีความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์สวยงามของเมืองดูบรอฟนิค ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลอะเดรียติค เห็นมีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสด สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ เมืองดูบรอฟนิคได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองเก่าสวยสุดในยุโรป จนได้รับสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” อันมีทิวทัศน์เอกลักษณ์เฉพาะตัว บ้านเมืองหลังคาสีส้ม และความงดงามทะเล

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

  • 12.00 น. สนามบินนานาชาติดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินนานาชาติดูบรอฟนิค (Dubrovnik Airport) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองดูบรอฟนิคประมาณ 15.5 กิโลเมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารหนาแน่นเป็นลำดับ 3 ของประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นรองจากสนามบิน Zagreb Airport และ Split Airport มีรันเวย์ที่ยาวที่สุดในประเทศ และมีอาคารผู้โดยสารทั้งหมด 3 หลัง ในปัจจุบันอาคารผู้โดยสาร A ใช้สำหรับการลำเลียงกระเป๋าเดินทางเท่านั้น

  • 14.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยเที่ยวบิน OS678

  • 16.25 น. เดินทางถึงกรุงเวียนนา แวะเปลี่ยนเครื่อง

  • 23.20 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ OS25

  • Day 8
  • 14.20 น. สนามบินสุวรรณภูมิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

คำถามที่พบบ่อย

 ซื้อทัวร์กับมัชรูมทราเวล มั่นใจได้แค่ไหน? จะได้เดินทางตามใบนัดหมายหรือเปล่า?

บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด ทำงานด้านการท่องเที่ยวมานาน ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียในเรื่องนี้ เพราะเราซื่อสัตย์ จริงใจ และที่สำคัญเรามีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/09294 ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเภท Outbound คือบริษัททัวร์ที่สามารถจัดทัวร์นำเที่ยวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

มัชรูมทราเวล เป็นผู้จัดทำแพ็กเกจทัวร์เองหรือส่งต่อให้กับบริษัททัวร์อื่น?

มัชรูมทราเวล มีทั้งจัดแพ็กเกจทัวร์เองในนาม มัชรูมทราเวล และจัดทัวร์ร่วมกับกลุ่มบริษัทพันธมิตร (Partner) เพื่อให้ลูกค้าได้มีโปรแกรมท่องเที่ยวตามความต้องการและเหมาะสมกับลูกค้ามากที่สุด

สามารถติดต่อขอจองแพ็กเกจทัวร์ต่างๆ ได้อย่างไร?

สามารถแจ้งจองแพ็กเกจทัวร์ที่ต้องการได้หลายช่องทาง เช่น จองทาง เช่น website, Call Center, email, สื่อ Social media ต่างๆ  ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อท่านเพื่อยืนยันที่นั่งพร้อมแจ้งชำระเงินค่าจองทัวร์

มัชรูมทราเวล มีช่องทางการชำระเงินใดบ้าง?

ช่องทางการชำระเงิน มีหลายช่องทาง ดังนี้
  • 1. ชำระด้วยเงินสด หรือ เช็คเงินสด ที่ บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด  คลิกดูแผนที่บริษัท 
  • ชำระด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร ชื่อบัญชี บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด   คลิกดูรายชื่อธนาคาร
  • 3. ชำระด้วยบัตรเครดิต ชำระโดยตรงได้ที่บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด หรือแจ้งพนักงานขายของท่าน (โดยมีค่าธรรมเนียมการใช้บัตรจ่ายธนาคาร 3.5% ของมูลค่าสินค้า)

เมื่อใดจึงจะทราบว่าจองทัวร์สำเร็จ ได้รับที่นั่งเรียบร้อย?

หลังจากลูกค้าแจ้งชำระเงินมัดจำค่าทัวร์ และการบริการอื่นๆ เรียบร้อยแล้ว พนักงานขายจะติดต่อกลับเพื่อยืนยันที่นั่งอีกครั้ง พร้อมส่งเอกสารการยืนยันสำรองที่นั่ง

เมื่อชำระเงินค่าทัวร์เรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องแจ้งกับพนักงานขายหรือไม่?

จำเป็น!  เพื่อให้พนักงานขายรับทราบและตัดสำรองที่นั่งให้ท่านได้อย่างรวดเร็ว ท่านสามารถแจ้งผ่านทาง e-mail ของพนักงานขาย , Line ของพนักงานขาย หรือทางแฟกซ์หมายเลข 02 745 6258  โดยส่งหลักฐานการโอนเงินแนบประกอบมาด้วย

สามารถขอยกเลิกการเดินทาง และขอเงินคืนมัดจำหรือเงินค่าทัวร์เต็มจำนวนได้ไหม?

สามารถขอยกเลิกการเดินทาง และขอเงินคืนได้ไหมนั้น ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการจอง ขอให้สอบถามกับพนักงานขายที่บริการท่านหรือดูรายละเอียดในเอกสารรายการทัวร์  แต่โดยส่วนใหญ่จะไม่สามารถขอยกเลิกหรือขอคืนเงินได้หลังจากได้ทำการจ่ายเงินแล้ว

กรณีจองทัวร์แล้วแต่กรุ๊ปทัวร์ที่จอง มีผู้เดินทางไม่ถึงตามที่กำหนด ทัวร์ยังจะออกเดินทางหรือไม่?

เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 7 วันหากมีผู้เดินทางไม่ครบตามกำหนด และบริษัท ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนให้ท่าน

เงื่อนไขทัวร์

อัตราค่าบริการนี้รวม:

  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบินออสเตรียนแอร์ (OS) (กระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ และมีน้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม/ท่าน )
  • ค่าภาษีสนามบิน,ค่าภาษีน้ำมัน,ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท กรมธรรม์นั้นคลอบคลุมถึงสุขภาพที่ไม่ได้เกิดจากโรคประจำตัว (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)หมายเหตุ: หากท่านต้องการซื้อประกันเพื่อเพิ่มความคุ้มครองสัมภาระในการเดินทาง ในกรณีสูญหายหรือเกิดความล่าช้าของสัมภาระและเที่ยวบิน กรุณาสอบถามและโปรดศึกษาจากรายละเอียดของกรมธรรม์ตามเอกสารที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายได้จัดส่งให้
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2ท่าน หรือ 3 ท่าน
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว (หมายเหตุ *รถใช้ได้ 12 ชั่วโมง/วัน), ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามที่ระบุในรายการ
  • เจ้าหน้าที่ (ผู้นำเที่ยวไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าวีซ่าประเทศโครเอเชีย

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม:

  • ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าเดินทางและสัมภาระประจำโรงแรม (เพื่อป้องกันการสูญหาย ควรดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง)
  • น้ำดื่มบนรถ
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ ค่าเครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าทิปคนพนักงานขับรถวันละ 2 ยูโร (6 วัน 12 ยูโร)
  • ค่าทิปผู้นำเที่ยวไทยวันละ 3 ยูโร (8 วัน 24 ยูโร)

หมายเหตุ:

  • กรณีกรุ๊ปทัวร์ไม่ออกเดินทาง Mushroom Travel ยินดีคืนเงินให้ท่านภายใน 10 วันทำการ
  • กรณีต้องยื่นวีซ่า เราบริการ รับ-ส่ง เอกสารครั้งแรกฟรี เฉพาะในกรุงเทพฯ ยกเว้นเขตหนองจอก
  • ทัวร์นี้สำหรับผู้มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น
  • ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบเหมา หากท่านไม่ได้ร่วมเดินทางหรือใช้บริการตามที่ระบุไว้ในรายการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด หรือถูกการปฏิเสธการเข้า – ออกเมืองด้วยเหตุผลใดๆ ทางบริษัทจะไม่คืนเงินค่าบริการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่าน
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางน้อยกว่า 20 ท่าน โดยจะแจ้งให้กับนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ก่อนการเดินทาง แต่หากทางนักท่องเที่ยวทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มจากการที่มีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางน้อยกว่าที่กำหนดเพื่อให้คณะเดินทางได้ทางเรายินดีที่จะให้บริการต่อไป
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายจากความผิดพลาดในการสะกดชื่อ นามสกุล คำ นำหน้า ชื่อ เลขที่หนังสือเดินทางและอื่นๆ เพื่อใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน ในกรณีที่นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ มิได้ส่งหน้าหนังสือเดินทางให้กับทางบริษัทพร้อมการชำระเงินมัดจำ หรือกรณีที่นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่เป็นฝ่ายส่งข้อมูลมาผิดพลาดเองให้กับทางบริษัทเรา
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการการเดินทางตามความเหมาะสมเพื่อให้สอดคล้อง กับ สถานการณ์ ภูมิอากาศ และเวลา ณ วันที่เดินทางจริงของประเทศที่เดินทาง ทั้งนี้บริษัทจะคำนึงถึง ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว ที่มิได้เกิดจากความผิดของบริษัท เช่นภัยธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหาย หรือความเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการเปลี่ยนแปลงของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น
  • อัตราค่าบริการนี้คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ทางบริษัทเสนอราคา ดังนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาค่าบริการเพิ่มขึ้น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าภาษีเชื้อเพลิง ค่าประกันภัยสายการบิน การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน ฯลฯ
  • มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้น แต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
โทรหาเรา
ไปด้านบนสุด