หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
"ปราก" (Prague) เมืองสุดสวยและแสนโรแมนติกจนเป็นที่นิยมของคู่รักและนักเดินทางทั่วโลก ปรากเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลายสไตล์ ทั้งโรมันเนสก์ โกธิค เรเนซองส บารอค และองค์การยูเนสโกได้เลือกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี 1992 เชิญเที่ยวชมสถานสำคัญ ๆ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามต่าง ๆ ในทุกยุคสมัย เช่น จัตุรัสฮราดคานีย์ ปราสาทแห่งกรุงปราก มหาวิหารเซนต์วิตัส สะพานชาร์ล และอีกหลากหลายสถานที่ที่น่าไปเที่ยวชมให้ได้เมื่อมาเยือน "ปราก"
ย่านจัตุรัสเมืองเก่า ปราก (Prague Old Town Square) ตั้งอยู่บริเวณเขตเมืองเก่าของกรุงปราก ซึ่งอยู่ใกล้กับจตุรัสเวนเซลัส และสะพานชาร์ลส จัตุรัสนี้ถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของกรุงปราก เคยเป็นตลาดค้าขายตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 12 โดยบ้านเรือนล้อมรอบจตุรัสที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และอาคารบ้านเรือนเหล่านั้นก็มีรูปแบบศิลปะทั้งสไตล์โรมาเนสก์ บารอค และกอธิค เช่น วิหารทิน โบสถ์เซนต์นิโกลาส เป็นต้น
นาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสเมืองเก่า ซึ่งจะแสดงวิถีการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ด้านล่างของนาฬิกาดาราศาสตร์จะมีหน้าปัดแสดงเดือนในปัจจุบัน และด้านบนสุดมีรูปปั้นสาวกของพระเยซู โดยเป็นหอนาฬิกาโบราณที่ยังใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน มีอาคารเทศบาลเมืองที่สร้างเมื่อปี ค.ศ.1338 ที่ทุกๆ ต้นชั่วโมงนาฬิกาจะตีบอกเวลา และมีหุ่นสาวกของพระคริสต์ออกมาจากช่องหน้าต่างเล็กๆ ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และยังมีซื้อเครื่องแก้วโบฮีเมียโมเซอร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกให้เลือกซื้อชม
ปราสาทปราก (Prague Castle) ปราสาทใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก สร้างขึ้นในปี 885 โดยเจ้าชายบริโวจเคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่งเช็กในอดีต ปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งปราสาทปรากถือเป็นเสมือนสัญลักษณ์ และเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศ ปาสาทได้รับการบูรณะในสมัยของพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ในสไตล์แบบกอธิค ได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊กว่า เป็นปราสาทโบราณใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาวประมาณ 570 เมตร และความกว้างประมาณ 130 เมตร
มหาวิหารเซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral) ตั้งอยู่ในปราสาทปราก (Prague Castle) ในเขต Castle District ทางด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำ Vltava จากใจกลางเมืองปราก สาธารณรัฐเชค มหาวิหารนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิค ที่สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-16 และเป็นรูปแบบสถาปัตย์ ที่ช่วยให้สถาปนิกบรรลุวัตถุประสงค์เชิงศรัทธาทางศาสนา ซึ่งเป็นตัวอย่างของมหาวิหารแบบกอธิคที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะ “การเพิ่มพื้นที่ว่างอันศักดิ์สิทธิ์” ได้อย่างชัดเจน
สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คอีกเเห่งหนึ่งของกรุงปราก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กที่ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออก ตัวสะพานนั้นจะทอดยาวข้ามเเม่น้ำวิตาร่า เพื่อเชื่อมพื้นที่ทั้งสองฝั่งของกรุงปราก ซึ่งนั่นก็คือ Lesser Town ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตก และ Old Town ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเเม่น้ำ เข้าด้วยกัน
เมืองคาร์โลวี วารี ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาที่อุดมสมบูรณ์และมีแม่น้ำเทปลาได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดของเช็กตามตำนานบอกว่าพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ทรงพบแหล่งน้ำแร่ที่เมืองนี้ในปีค.ศ. 1358 เมื่อครั้งเสด็จฯ ออกล่าสัตว์แล้วสุนัขล่าเนื้อตัวหนึ่งตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อน นับแต่นั้นเมืองนี้ก็มีชื่อเสียงของบ่อน้ำแร่ที่ใช้สำหรับรักษาร่างกายและบำบัดโรคร้ายต่างๆ เป็นต้นมาจนถึงเดี๋ยวนี้ เป็นทั้งเมืองมีน้ำพุร้อนและน้ำแร่อุณหภูมิตั้งแต่ 42-72 องศาเซลเซียส ทั้งหมด 12 แห่ง
เมืองเดรสเดน (Dresden City) ประเทศเยอรมนี เมืองเก่าอายุ 810 ปี ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำเอลเบอทางตอนใต้ของกรุงเบอร์ลินค่ะ ซึ่งแต่เดิมที่นี่เคยเป็นเมืองที่มีความสวยงามมาก แต่ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกทำลายลงบางส่วนจากการทิ้งระเบิดโดยฝ่ายพันธมิตร แต่ปัจจุบันก็ได้มีการบูรณะเมืองและซ่อมแซมสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่แล้ว นอกจากนั้นยังเป็นเมืองซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย มีระบบการขนส่งนักท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ จึงทำให้เดรสเดนคืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของเยอรมนีที่ไม่ควรมองข้าม
เซมเพอร์โอเปร่าเฮ้าส์ (semperoper) สถานที่อันโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม และดนตรี ตั้งอยู่ ณ บริเวณจัตุรัสเธียเตอร์ใกล้กับพระราชวังสวิงเกอร์ เป็นโรงโอเปร่าที่ออกแบบในสไตล์อิตาเลี่ยนบารอค บริเวณอาคารหลังใหม่ด้านหน้าโรงโอเปร่าจะมีรูปปั้นของกษัตริย์โจฮานทรงอยู่บนหลังม้า และอนุสาวรีย์ที่สร้างอุทิศให้แก่นักแต่งเพลง คาร์ล มาเรีย เวเบอร์ ผู้อำนวยการดนตรีของเดรสเดน
พระราชวังสวิงเกอร์ “ZwingerPalace” ผลงานชิ้นเอกใบรูปแบบศิลปะแบบบาร็อคที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ เอลเบ้อ ที่สร้างขึ้นมาโดย ฝีมือของสถาปนิกหลวง มาธฮอยส์ ดาเนียล เปปเปอมาน และช่างแกะสลัก บาลธาซาร์ เพอร์โมเซอร์ จากแบบดั้งเดิมจากเรือนกระจกในพระราชวังแวร์ซายส์ในปี ค.ศ. 1710 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1732
โบสถ์เฟราเอนเคียร์เช หลังคาทรงหัวหอมในสถาปัตยกรรมแบบโกธิค อันเป็นสัญลักษณ์ของมิวนิค ที่ร่องรอยของการทำลายล้างสมัยสงครามโลกที่กำลังได้รับการบูรณะอย่างเร่งด่วน บริเวณนี้คือฐานรากของเมืองที่วางไว้ตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 11 จนถึงยุคของพระเจ้าออกัสตัสผู้แข็งแกร่ง ทรงโปรดให้สร้างเมืองในสไตล์แบบบาร็อคขึ้นเซมเพอร์โอเปร่าที่เมืองนี้มีความโดดเด่นอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและดนตรี
เมืองที่รู้จักกันดีสำหรับประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเมืองหลวงของประเทศเยอรมนี และพรั่งพร้อมด้วยมรดกทางด้านศิลปวัฒนธรรมจากทั้งสองภาค ศูนย์กลางการอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุด อีกทั้ง มีความทันสมัยด้านเทคโนโลยีมีชีวิตชีวาและสีสันมาก ซึ่งแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น โพทส์ดามเมอร์ พลัทส์,ประตูชัยบรันเดิ่นบวร์กเกอร์,อเล้กซานเดอร์ พลัทส์ เป็นต้น มีแหล่งช้อปปิ้งมากมาย รวมทั้งมีทรายสีทองจากทะเลบอลติกสวยงาม เชิญเที่ยวชมเมืองสุดฮิปอีกแห่งหนึ่งของโลกที่น่าสนใจ
เมืองหลวงของสหพันธรัฐแบรนเดนเบิร์กในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮาเวลทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเบอร์ลิน เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่ตั้งของพระราชวังปรัสเซียนหลายพระองค์ อีกทั้งยังได้รับการคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1990 ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมเพราะความมีคุณค่าในความกลมกลืนของภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์
พระราชวังตามประวัติศาสตร์เล่ากันว่า พระเจ้าเฟดเดอริคที่2 ไม่อยากเป็นกษัตริย์ อยากเป็นศิลปิน นักดนตรี คิดหนีพระบิดาไปอยู่อังกฤษกับพระสหาย แต่โดนจับได้ก่อนและถูกพระบิดาแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ปกครองปรัสเซีย แต่พระองค์ก็สามารถปกครองเมืองได้อย่างดีเยี่ยม พระองค์เป็นผู้สร้าง 'พระราชวังซองซูซี' ซึ่งเดิมมีเพียงแค่กระท่อมที่พักยามออกล่าสัตว์เท่านั้น ภายหลังได้ปรับปรุงและสร้างเป็นปราสาทเพื่อไว้ใช้เป็นพักผ่อนในหน้าร้อน เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค สร้างอยู่บนยอดเนิน คล้ายกับว่าปราสาทปลูกอยู่บนไร่องุ่นสวยงามมาก
สร้างขึ้นเมื่อปีคศ1961 เพื่อเป็นป้อมปราการ โดยเยอรมันตะวันตกเป็นผู้ก่อกำแพงขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 และแบ่งเบอร์ลินออกเป็น 2ส่วน คือเยอรมันตะวันตกและเยอรมันตะวันออก ช่วงนั้นได้มีความพยายามหลบหนีข้ามเขตแดน จึงเปลี่ยนเป็นคอนกรีตที่แน่นหนา ตั้งอยู่เป็นระยะเวลา 28ปี ก่อนจะทลายลงปีคศ1989 ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของสงครามเย็น เมื่อเยอรมันตะวันออกล่มสลาย มีความยาวอยู่เพียง 1.3กม เหลือทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์โดยฝั่งที่หันหน้าสู่ด้านตะวันออกให้ศิลปินจากทั่วโลกมาวาดภาพบนกำแพงหลังการรวมเยอรมันเข้าด้วยใหม่ๆ
ด่านที่เป็นจุดผ่านแดนในยุคสงครามเย็นระหว่างค่ายโลกเสรีกับคอมมิวนิสต์ เยอรมันตะวันตกและตะวันออก มีกำแพงเบอร์ลินกั้น เช็คพอยต์ชาลีเป็นด่านที่นักการฑูต สายลับและผู้ที่ได้รับอนุญาตพิเศษเดินข้ามไปมา2ดินแดน หลังจากที่ได้ทุบกำแพงเบอร์ลิน รวมตัวของเยอรมนีตะวันตกและออกเป็นประเทศเดียวกัน ที่นี่ กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งเป็นเขตพรมแดนการปกครองระหว่างอเมริกันและรัสเซีย ที่จัดแสดงเรื่องราวของความสูญเสีย ความพลัดพราก จากครอบครัวและคนที่รักเพียงเพราะการแตกต่างในด้านการปกครอง
เบอร์ลินโดมมหาวิหาร “The Reichstag” เป็นมหาวิหารที่ใหญ่สุดในเบอร์ลิน เป็นศูนย์กลางโปรเตสแตนท์ในเยอรมัน เป็นที่ฝังศพของราชวงศ์โฮเฮนโซเลน เสียดายไม่เห็นเสาโทรคมนาคม สร้างในระหว่างปี 1894-1905 ในรูปแบบสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เคยใช้เป็นอาคารรัฐสภาเยอรมันแห่งระบอบประชาธิปไตย และภายหลังเป็นกองบัญชาการทหารบก
สัญลักษณ์ของของกรุงเบอร์ลิน ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ฝั่งตะวันออก บนใจกลางของเบอร์ลินตะวันตกเดิม เป็นประตูเมืองเก่าแก่ก่อสร้างระหว่างค.ศ.1788-1791 ตามศิลปะแบบโรมัน โดยฝีมือของ C.G.Langhans เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเอกภาพของประเทศเยอรมนี และเป็นเครื่องหมายความสงบสุข ที่นี่..มีถนน Ku'damm เป็นถนนที่หรูหรามีห้างและศูนย์การค้ามากมายพลุกพล่าน ห้างสรรพสินค้าที่ครั้งหนึ่งได้ชื่อว่าเป็นห้างที่ใหญ่สุดในยุโรป KaDeWe หรือ Kaufhaus des Westens คล้ายแฮร์รอดส์ในลอนดอน
อาคารที่ใช้เป็นรัฐสภาแห่งเยอรมนี สร้างขึ้นด้วยศิลปะอิตาเลียนเรอเนสซองส์ในปีค.ศ.1884-1894 อาคารรัฐสภาแห่งนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ครั้งสาธารณะรัฐไวมาร์ จนหลังสงครามโลกได้มีการสร้างโดมแก้วครอบตัวอาคาร โดยสถาปนิกชื่อก้องโลกชาวอังกฤษเซอร์นอร์แมน-ฟอสเตอร์
เมืองเบรเมน (Bremen) เมืองนี้เป็นอีกเมืองเล็กๆที่ น่ารักน่าอยู่มาก บริเวณ “Market square” ที่นี่มีไฮไลท์ที่ต้องมาต่อ คิวถ่ายรูปกัน “Bremen Town Musicians” หรือ "สี่สหายนักดนตรีเเห่งเบรเมน" เดินออกจากบริเวณสี่สหาย ไป Town Hall (Rathaus) บริเวณ Town Hall จะเป็นจัตุรัสโล่ง ด้านหน้ามีรูปปั้น “Roland statue” สัญลักษณ์เเห่งเสรีย์ภาพซึ่งใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ในบริเวณเดียวกันยังมีมีโบสถ์ขนาดใหญ่ “St. Peter’s Cathedral” บริเวณนี้ถือเป็นมรดกโลก World Heritage ขององค์การ UNESCO รอบๆมีร้านอาหารเอาเก้าอี้ออกม
เมืองฮัมบูร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี มีทะเลสาปขนาดยักษ์อยู่ใจกลางเมือง สภาพแวดล้อมร่มรื่นที่ทุกคนภูมิใจในเมืองของเขามาก มีระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัย ทำให้การพัฒนาเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็ว และที่ตั้งของเมืองบนแม่น้ำ Elbe ทอดยาวไปสู่แม่น้ำ Alster และ Bille ได้ดึงดูดนักอุตสาหกรรมมาลงทุนในบริเวณนี้ ทั้งๆ ที่ท่าเรือ Hamburg มีกระแสน้ำที่ไหลแรง และพื้นดินอ่อนระหว่างปากแม่น้ำ Elbe กว่า 100 กิโลเมตร ท่าเรือใหญ่ๆ และเรือเดินสมุทรได้ถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนมาก
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553