หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
โคเปนเฮเกน (Copenhagen) เมืองหลวงประเทศเดนมาร์ก เมืองที่มีบรรยากาศสวยซึ้งและสง่างามดังเมืองแห่งเทพนิยาย โคเปนเฮเกนเป็นทั้งเมืองหลวง และเมืองชายฝั่งทะเลของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของเกาะซีแลนด์ และเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ เนื่องจากมีการทำประมงและเป็นเมืองท่าของการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม โคเปนเฮเกนยังเป็นเมืองใหญ่ที่สวยงามและน่าสนใจด้วยมีลักษณะของการผสมผสานวิถีชีวิตที่หลากหลาย และเมืองนี้ยังได้จัดอันเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอีกด้วย
รูปปั้นเงือกน้อยเป็นรูปปั้นสำริดรูปเงือกนั่งอยู่บนก้อนหิน ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกน ซึ่งที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์และจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองโคเปนเฮเกน โดยต้นกำเนิดของรูปปั้นเงือกน้อยเกิดจากความประทับใจของคาร์ล จาค็อบเซน บุตรชายของผู้ก่อตั้งบริษัทเบียร์คาร์ลสเบิร์กต่อละครบัลต์เรื่อง The Little Mermaid อันเป็นนิทานสุดคลาสสิกของนักเล่านิทานชื่อดังอย่างคริสเตียน ฮันส์ แอนเดอร์สัน จากนั้นเขาจึงสร้างรูปปั้นนี้ขึ้นโดยใช้แบบใบหน้าจากนักเต้นบัลเลต์ชื่อเอลเลน ไพรซ์
น้ำพุแห่งมราชินีเกฟิออนเป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในรูปทรงที่แปลกตา มองดูคล้ายกับเป็นธารน้ำตกจำลอง ตั้งอยู่ในบริเวณหน้าท่าเรือเมืองโคเปนเฮเกน ซึ่งที่มาของน้ำพุแห่งนี้มีตำนานเล่าขานว่า นานมาแล้วมีพระราชินีนามว่าเกฟิออนได้รับมอบหมายจากเทพเจ้าให้สร้างชาติบ้านเมืองขึ้น นางจึงรับสั่งให้พระโอรสทั้ง 4 แปลงกายเป็นพระโค เพื่อช่วยกันไถเกลี่ยพื้นดินจนกลายเป็นประเทศเดนมาร์กดังในปัจจุบัน ดังนั้นชาวเมืองจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ของนางขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระองค์และพระราชโอรสนั่นเอง
พระราชวังอามาเลียนบอร์กหรือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวโรกาสครบรอบ 300 ปีของราชวงศ์โอลเดนบวร์ก ที่เหล่าพระราชวงศ์ยังใช้เป็นที่ประทับจนถึงปัจจุบัน บริเวณโดยรอบประกอบด้วยพระราชวังจำนวน 4 หลัง และโบสถ์อีก 1 หลัง ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นในศิลปะสไตล์เดนมาร์กโรโคโค ส่วนด้านหน้ามีพระรูปทรงม้าของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 4 ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า จนทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่งดงามที่สุดของทวีปยุโรป
สนุกกับเครื่องเล่น การแสดงสุดคลาสสิก สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองโคเปนเฮเก้น เปิดในปี 1843 เป็นสวนสนุกที่นับว่าเก่าแก่ที่สุดของยุโรป และเก่าแก่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสวนสนุก Dyrehavsbakken ซึ่งอยู่ใกล้ๆเพียงนอกเมืองโคเปนเฮเก้นนี่เอง สวนทิโวลีจะเปิดให้บริการเพียงปีละ 5 เดือน และจะปิดให้บริการในช่วงหน้าหนาว
ถนนคนเดินสตรอยก์ หรือ Stroget Street ซึ่งแปลว่า “การเดินเล่น” ประกาศให้เป็นเขตปลอดรถยนต์ตั้งแต่ปี 1962 ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งทางเท้า และ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน ถนนคนเดินมีความยาวที่สุดในโลก ครอบคลุม ถนน 4 สายด้วยกันคือ Frederiksberggade, Nygade, Vimmelskaftet และ stergade โดยมีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตร ระหว่างสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ยังคงความงดงามจนถึงปัจจุบัน ส่วนย่าน Nygade นั้น เป็นอดีตเขตโคมแดงและถิ่นที่อยู่อาศัยของเหล่ากะลาสีเรือ
เรือสำราญ DFDS อันโอ่อ่าขนาดใหญ่ ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น ผับ บาร์ ห้องซาวน์น่า ร้านค้าปลอดภาษี ห้องเล่มเกมส์ เป็นต้น เชิญพักผ่อนเดินเล่นบนเรือ ก่อนขึ้นชมวิวสวยยามเมื่อเรือถอนสมอ และรับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ในเรือ พร้อมพักค้างคืนบนเรือสำราญนี้ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือชมทัศนียภาพอันสวยงามบนดาดฟ้าเรือ หรือช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี
ออสโล (Oslo) นครหลวงของประเทศนอร์เวย์ เมืองสวยงามในเขตชายฝั่งทะเลแบบฟยอร์ดของยุโรปเหนือ ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmoya แน่นอนว่าแต่ละเกาะมีสถานที่เที่ยวสวยงาม และมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ มีอากาศหนาวเย็น 6 เดือน อุณหภูมิ 0 - 40 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนเพียง 3 เดือน อุณหภูมิ20-25องศาเซลเซียส ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เช่น สวนวิกเกอร์ลันด์ วัดไทยนอร์เวย์ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง เป็นต้น
เมืองเกียโล (Geilo) ประเทศนอร์เวย์ (Norway) เมืองสกีรีสอร์ทอันงดงามของนอร์เวย์ ตามเส้นทางหิมะขนาดใหญ่ที่ไว้ท้าทายความสามารถของนักสกีทุกระดับ เป็นประตูสู่ดินแดนแถบฟยอร์ด มหัศจรรย์แดนเหนือและมนต์เสน่ห์แห่งสแกนดิเนเวียที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกไม่ควรพลาด
เมืองฟลอม หรือ ฟลัม (Flam city) เป็นเมืองเล็กๆ ของประเทศนอร์เวย์ในเขตภูมิภาคซองก์ฟยอร์ด หรือเป็นศูนย์กลางแห่งฟยอร์ดนอร์เวย์ ได้สัมผัสบรรยากาศใกล้ชิดของฟยอร์ด “Sognefjord” ที่มีความยาวและลึกที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวนิยมมาเพื่อนั่งรถไฟขึ้นไปชมวิวบนภูเขา และผ่านหมู่บ้านชนบทที่มีความสำคัญในด้านศูนย์กีฬาฤดูหนาวของยุโรปเหนือ หมู่บ้านชนบทที่โดดเด่นไปด้วยสีแดง เหลือง เขียวสดๆ ตัดกันอย่างสวยงามและชมเส้นทางรถไฟสาย “Flambana” ทิวทัศน์งดงามเรียงรายไปด้วยน้ำตกใหญ่น้อยที่เกิดจากการละลายของหิมะ
รถไฟสายโรแมนติค ฟลัม บาเนน เป็นรถไฟสายโด่งดังที่สุดของนอรเวย์ ขบวนรถรูปแบบคลาสสิคโบราณ แต่สภาพใหม่และสะอาด เส้นทางนำเที่ยวทางรถไฟสายโรแมนติคนี้ มีระยะทาง 20.20 กิโลเมตร ใช้เวลาสร้างถึง 20 ปี โดยการเจาะอุโมงค์ทะลุภูเขามากถึง 20 แห่ง ผ่านเส้นทางสายลาดชัน ท่านจะได้ชมความงามของหุบเขา ทะเลสาบ ฟยอร์ด และผ่านเมืองฟลัม หมู่บ้านที่ทาสีแดง เหลือง เขียวสดๆ ตัดกันอย่างสวยงาม น้ำตกสูงที่สวยงาม รถไฟจะมีการจอดให้ท่านบันทึกภาพสวยประทับใจ
รถไฟสายโรแมนติกฟลัมสบานา (Flåmsbana railway) หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สูงและสวยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองฟลัม ประเทศนอร์เวย์ ขบวนรถไฟฟลัมสบานาใช้หัวรถจักรแบบโบราณ หน้าต่างขนาดใหญ่ให้ได้ซึมซับความสวยงามของวิวสองข้างทางอย่างเต็มที่ รถไฟจะจอดให้ผู้โดยสารขึ้น-ลงแค่ที่สถานีต้นทางฟลัมและสถานีปลายทางไมร์ดัลเท่านั้น โดยระหว่างทางจะมีจุดจอดพักชมวิวที่สถานีน้ำตกจอสฟอสเซ่น (Kjosfossen) ถึงสถานีไมร์ดัลเพื่อนๆ สามารถแวะทานอาหารหรือช้อปปิ้งของที่ระลึกได้ มีร้านอาหาร ร้านค้า และคาเฟ่มากมาย
เมืองฟลอม หรือ ฟลัม (Flam city) เป็นเมืองเล็กๆ ของประเทศนอร์เวย์ในเขตภูมิภาคซองก์ฟยอร์ด หรือเป็นศูนย์กลางแห่งฟยอร์ดนอร์เวย์ ได้สัมผัสบรรยากาศใกล้ชิดของฟยอร์ด “Sognefjord” ที่มีความยาวและลึกที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวนิยมมาเพื่อนั่งรถไฟขึ้นไปชมวิวบนภูเขา และผ่านหมู่บ้านชนบทที่มีความสำคัญในด้านศูนย์กีฬาฤดูหนาวของยุโรปเหนือ หมู่บ้านชนบทที่โดดเด่นไปด้วยสีแดง เหลือง เขียวสดๆ ตัดกันอย่างสวยงามและชมเส้นทางรถไฟสาย “Flambana” ทิวทัศน์งดงามเรียงรายไปด้วยน้ำตกใหญ่น้อยที่เกิดจากการละลายของหิมะ
เมืองกุ๊ดแวนเก้น (Gudvangen) เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเขตซองน์อ็อกฟยอร์ดาเน ถึงแม้ว่ากุ๊ดแวนเก้นจะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่กลับมีอดีตความเป็นมาที่แสนยิ่งใหญ่ ความเข้มข้นของประวัติศาสตร์ ความงดงามของสถานที่ ความเงียบสงบของธรรมชาติ ล้วนเป็นสิ่งแต่งเติมให้หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ควรค่าแก่การเดินทางมาเยือนให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต กุ๊ดแวนเก้น สวรรค์ที่ซ่อนตัวอยู่บนดิน
ล่องเรือสําราญฟยอร์ด ชมความงามซองน์ฟยอร์ด ที่ได้ชื่อว่า เป็น King of Fjord ที่สวยงามที่สุดในนอร์เวย์ มีภูมิประเทศที่งดงาม มหัศจรรย์ ของธรรมชาติ รังสรรค์สร้าง อันเกิดจากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ำแข็งปีแล้วปีเล่า เป็นเวลาหลายล้านปีก่อน ลำน้ำคดเคี้ยวไหลซอกซอนอยู่บนชายฝั่ง เต็มไปด้วยขุนเขาสูงสลับซับซ้อน มีความยาวถึง 204กม จากทะเลเข้ามาในแผ่นดิน ชมธารน้ำตกและธารน้ำแข็งกลาเซียร์ที่ยังปรากฏเป็นผืนแผ่นขาวบนทิวโตรกเขา 2ฟากฝั่ง
เมืองเบอร์เกน หรือ แบร์เกน (Bergen) เมืองเล็กๆ แสนน่ารักและเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศนอร์เวย์ มาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 13 เมืองนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาถึงเจ็ดลูก มีท่าเรือที่ยาวถึง 10 กิโลเมตร เที่ยวชมเขตเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของ Fish Market และ Bryggen ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารไม้ที่มีอายุเกือบ 300 ปี ซึ่งเป็นตัวอย่างการก่อสร้างที่โดดเด่น จนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
ขึ้นรถรางไฟฟ้า Floibanen Funicular เพื่อชมความสวยงามของเมืองเบอร์เกน ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่งดงามดุจภาพวาดของเมืองแห่งนี้ นำท่านเดินทางสู่ ย่านเมืองเก่า ซึ่งในอดีตเป็นโกดังสินค้าต่างๆ ปัจจุบันถูกดัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร โรงแรม อาร์ตแกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ ร้านค้าต่างๆมากมาย ให้ท่านได้พักผ่อนกับบรรยากาศแสนสบาย ผ่านชมบริเวณท่าเรือ และBrygge อาคารเก่าแก่อายุราว 300 ปี ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
เมืองเบอร์เกน หรือ แบร์เกน (Bergen) เมืองเล็กๆ แสนน่ารักและเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศนอร์เวย์ มาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 13 เมืองนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาถึงเจ็ดลูก มีท่าเรือที่ยาวถึง 10 กิโลเมตร เที่ยวชมเขตเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของ Fish Market และ Bryggen ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารไม้ที่มีอายุเกือบ 300 ปี ซึ่งเป็นตัวอย่างการก่อสร้างที่โดดเด่น จนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
ท่าเรือบรีเก็น (Bryggen) ตั้งอยู่ในเมืองบรีเก็น เมืองแห่งสีสันที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1979 ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 900 ปีก่อนในยุคกลางและเป็นท่าเรือสำคัญสำหรับการค้าระหว่างประเทศ จุดเด่นของท่าเรือแห่งนี้คือ มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนที่มีลักษณะเป็นไม้ 3 ชั้น มีหน้าจั่ว มีสีสันสดใส โดดเด่นสะดุดตา เรียงรายตามถนนซึ่งขนานไปกับท่าเรือ
เมืองฮอนนิงส์แวก เป็นดินแดนที่อยู่เหนือสุดของโลก ทางภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นแคว้นกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นบริเวณแห่งทะเลน้ำแข็ง รวมทั้งเป็นดินแดนแห่ง “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” มีประชากรอาศัยอยู่บนเขตยุโรปเหนือ เห็นทิวท้ศน์ธรรมชาติในเขตหนาวสวยงามแปลกตา มีผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมืองที่ผลิตเอง รวมทั้งเขากวาง และหนังกวางเรนเดียร์ ออกมาขายต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนในฤดูการท่องเที่ยวอันแสนสั้น เชิญสำรวจความงดงามธรรมชาติของเมืองที่น่าประทับใจ
ศูนย์นิทรรศการนอร์ธเคป (North Cape Exhibition Center) พิพิธภัณฑ์ไทยที่ตั้งอยู่บนปลายแหลมนอร์ธเคป ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงกระทำพิธีเปิดเมื่อกลางปี พ.ศ.2532 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสของล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อปี พ.ศ.2450 นับเป็นพิพิธภัณฑ์ไทยที่อยู่เหนือสุดของโลก รับฟังและชมเรื่องราวของปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนในห้อง Auditorium ก่อนชมปรากฏการณ์จริงด้านนอก
เมืองแฮมเมอร์เฟสต์ เป็นเมืองท่าและอุตาสาหกรรมอันทันสมัย สวยงามของประเทศนอร์เวย์ อยู่เหนือเส้นอาร์คติกเซอร์เคิ้ล ระหว่างที่เดินทางจาก ฮอนนิ่งสแวก มายังอิวาโล และเป็นเกทเวย์สู่ทะเล Barents ด้วย มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 9,200 คน
เสาหลักเมอริเดียน เป็นอนุสรณ์ถึงการวัดเส้นรอบวงของโลก และสัญลักษณ์ของเมืองแฮมเมอร์เฟสต์ สร้างขึ้นโดย กษัตริย์ออสก้าที่2 ในปีค.ศ.1854 ดำเนินการจัดตั้งโดย โครงการวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติ เพื่อวัดขนาดรูปร่างและรูปร่างของโลก เป็นโครงการวิทยาศาสตร์แรกที่ได้รับความร่วมมือจากนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย นำโดย Friedrich Georg Wilhelm Struve รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์จากประเทศสวีเดนและนอร์เวย์ด้วย แล้วเสร็จโครงการในเมืองแฮมเมอร์เฟสต์ ปีค.ศ.1852 เสาหลักนี้ ถูกจารึกไว้ในมรดกโลกของยูเนสโกในปี 2005
เมืองอัลต้า..เมืองใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นศูนย์การบริหารงานของเทศบาล ก่อตั้งขึ้นเป็นเทศบาลเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.1838 ปัจจุบัน เมืองอัลต้า กลายเป็นเมืองศูนย์กลางทางการศึกษาที่สำคัญของนอร์เวย์ มีความสวยงามทางทัศนียภาพ สามารถชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ เพราะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลด้วย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฟินน์มาร์กและเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวประมงว่า มีแหล่งแม่น้ำที่มีปลาแซลมอนที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
อุทยานฟร็อกเนอร์ หรือ สวนฟร็อกเนอร์ ตั้งอยู่ย่านถนนคนเดิน คาร์ล โจฮัน เกท กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นสวนที่ใหญ่สุดในกรุงออสโล สวนนี้เป็นที่ตั้งแสดงผลงานของปฏิมากรเอกชาวนอร์เวย์ "กุสตาฟ วิกเกแลนด์" จำนวนกว่า 212 ผลงาน ใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี ในการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด กลางแจ้ง ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ สวนนี้ยังมีสะพาน น้ำพุ สระน้ำ สนามกีฬา และพื้นที่จัดกิจกรรมปิคนิค-อาบแดด-เล่นเกมส์ และผ่อนคลายในช่วงฤดูร้อน
ท่าเรือเอเคอร์บรูค เคยเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ ปัจจุบันมีการปรับปรุงเป็นแหล่งรวมความบันเทิง รวมทั้งเป็นย่านที่อยู่อาศัย ของชาวไฮโซออสโล มีบ้านเรือนหรู และร้านค้ามากมาย เป็นแหล่งรวมผับบาร์ ร้านอาหาร คาเฟ่ นอกจากนี้ยังมีโรงหนัง โรงละครและห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมสวย เหมาะสำหรับการพักผ่อนเพลิดเพลินกับมื้อค่ำในบรรยากาศที่แสนรื่นรมย์
ย่านถนนคนเดินคาร์ลโจฮันเกท (Karl Johangen Gate) เป็นแหล่ง Shopping ที่เลื่องชื่อของเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ สินค้าของฝากที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าและของที่ระลึกต่างๆ ที่ขายกันในประเทศนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่าประเทศนอร์เวย์จะมีสินค้าที่แพง แต่ก็ยังมีช่วงลดราคาสินค้า คือ ปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553