หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
โคเปนเฮเกน (Copenhagen) เมืองหลวงประเทศเดนมาร์ก เมืองที่มีบรรยากาศสวยซึ้งและสง่างามดังเมืองแห่งเทพนิยาย โคเปนเฮเกนเป็นทั้งเมืองหลวง และเมืองชายฝั่งทะเลของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของเกาะซีแลนด์ และเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ เนื่องจากมีการทำประมงและเป็นเมืองท่าของการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม โคเปนเฮเกนยังเป็นเมืองใหญ่ที่สวยงามและน่าสนใจด้วยมีลักษณะของการผสมผสานวิถีชีวิตที่หลากหลาย และเมืองนี้ยังได้จัดอันเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอีกด้วย
ถนนคนเดินสตรอยก์ หรือ Stroget Street ซึ่งแปลว่า “การเดินเล่น” ประกาศให้เป็นเขตปลอดรถยนต์ตั้งแต่ปี 1962 ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งทางเท้า และ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน ถนนคนเดินมีความยาวที่สุดในโลก ครอบคลุม ถนน 4 สายด้วยกันคือ Frederiksberggade, Nygade, Vimmelskaftet และ stergade โดยมีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตร ระหว่างสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ยังคงความงดงามจนถึงปัจจุบัน ส่วนย่าน Nygade นั้น เป็นอดีตเขตโคมแดงและถิ่นที่อยู่อาศัยของเหล่ากะลาสีเรือ
กรุงเรคยาวิค เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลมากนัก
โบสถ์ Hallgr?mskirkja โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ โบสถ์ดังกล่าวมีความสำคัญในฐานะเป็นศาสนสถานที่สำคัญ เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์รวมทั้งเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญของประเทศ
เพอร์แลน (PERLAN) หรือในภาษาไอซ์แลนด์จะตรงกับคำว่า (THE PEARL) แปลว่า อ่าว ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง เป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเรคยาวิค ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดเขา Oskjuhlio ลักษณะเป็นอาคารขนาดใหญ่ ภายในอาคารถูกจัดสรรเป็นส่วนต่างๆมากมายเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว มีทั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้งให้ได้ชม มีสวนน้ำให้เล่น มีร้านอาหารให้เลือกอิ่มหนำ มีจุดชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเรคยาวิคอย่างเต็มที่แบบ 360 องศาที่สามารถเดินได้รอบเป็นวงกลมคล้ายบนดาดฟ้าเรือ อีกด้วย
อ่าวฟาซาฟรอย (Bay of Faxafloi) อ่าวขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ระหว่างแหลมสแนเฟลเนส และ เรคยาเนส บริเวณนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาวาฬ หลากหลายชนิดทั้ง วาฬหลังค่อม, วาฬมิ้งค์ และบริเวณโตรกผา ริมฝั่งทะเลยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกแถบโซนอาร์คติกต่างๆมากมาย ระหว่างทางล่องเรือไปสเนลเฟลเนส มีโอกาสสูงในการพบเห็นปลาวาฬในบริเวณนี้
เวสต์ฟยอร์ด (Westfjord) เป็นแนวฝั่งฟยอร์ดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ เป็นฟยอร์ด ลึกที่มีแนวทอดของภูเขาสลับสวยงามมาก เป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพทางธรรมชาติที่รังสรรค์ได้อย่างงดงามยิ่ง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเก็บภาพความสวยงามของแนวฟยอร์ดตะวันตกแห่งนี้ อย่างมากเลยทีเดียว
สแนเฟลเนส (Snaefellsnes) แหลมอันเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟสแนเฟลโจกุน และภูเขาเคิกจูเฟล อันเป็นทัศนียภาพที่สวยงามยิ่ง และ ภูเขาเคิกจูเฟล (Kirkjufell) ยังเป็นภูเขาที่พบเห็นในโปสการ์ดโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวของไอซ์แลนด์อีกด้วย แต่เนื่องด้วยแหลมสแนเฟลเนส อยู่ติดฝั่งตะวันตก จึงทำให้ทัวร์ทั่วไปไม่ได้จัดมาเยือนที่นี่ นอกจากนี้บริเวณแหลมสแนเฟลเนส ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง ที่มีประวัติยาวนาน
เกาะแฟลทเทย์ (Flatey Island) สันนิษฐานว่าเป็นเกาะที่เคยเป็นแหล่งศูนย์กลางประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมและศิลปะของไอซ์แลนด์ ในช่วงหน้าร้อนเกาะนี้จะมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นมากพอควร แต่พอหน้าหนาวส่วนใหญ่จะมีการย้ายไปอยู่ที่อื่น เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการดูนกพัฟฟิน เนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่หลักของนกชนิดนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความน่ารักของนักพัฟฟินอย่างใกล้ชิด เลยทีเดียว
ลัททาบาร์จ (Latrabjarg) เป็นหน้าผารังนกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป และเป็นหน้าผาอันเป็นที่อยู่ของนกนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น นกพัพฟิน, นกแกนแนทเหนือ, gulliemots, razorbills เป็นผาที่มีความสูง 440 เมตรและยาวถึง 14 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความสวยงามของฝารังนก ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งไอซ์แลนด์ กันเลยทีเดียว
ไดยาลดิ (Dynjandi) ตั้งอยู่ในเวสต์ ฟยอร์ด อันเป็นที่ตั้งของน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งของไอซ์แลนด์ คือ “น้ำตกจอลล์ฟอลส์ (Fjallfoss)” ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 100 เมตร และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้อย่างใกล้ชิด กันเลยทีเดียว
ซิกกลู ฟยอร์ดดอร์ (Siglufjordur) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแนวช่องแคบฟยอร์ด บริเวณแหลมโทรล (Troll Peninsular) เป็นเมืองที่เงียบสงบแต่สวยงามด้วยหมู่บ้านชาวประมงหลากสี ที่ทำให้เมืองนี้มีสีสันน่ามาสัมผัสอีกเมืองในประเทศไอซ์แลนด์ เมืองนี้มีพิพิธภัณฑ์ปลาแฮร์ริ่ง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมือง เนื่องจากเมืองนี้มีช่วงยุครุ่งเรือในการทำประมงระหว่างปี 1940 – 1950
เมืองกริมซีย์ (Grimsey) ตั้งอยู่บนเกาะกริมซีย์ ซึ่งหากจากแผ่นดินใหญ่ประมาณ 40 กิโลเมตร และเป็นเกาะที่มีเส้นอาร์คติคตัดผ่าน บนเกาะยังเป็นที่ตั้งของประภาคารเก่าแก่ และโบสถ์เก่าแก่ซึ่งทำจากไม้ ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 นอกจากนี้บริเวณโตรกผาแนวชายฝั่งยังเป็นที่อยู่ของนกนานาชนิดอีกด้วย นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความสวยงามของเกาะอันมีแนวเส้นอาร์คติค เซอร์เคิล ตัดผ่าน และเก็บภาพความงามทางธรรมชาติของเกาะแห่งนี้ กันอย่างเพลิดเพลินกันเลยทีเดียว
อุทยานแห่งชาติซอฟเฟลทเลท สวาติเซน (Saltfjellet-Svartisen National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ และเป็นที่ตั้งของเองกาบีน กลาเซียร์ ซึ่งเป็นผืนน้ำแข็งกลาเซียร์ช่วงต่อของสวาติเซนกลาเซียร์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศและความสวยงามของกลาเซียร์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของนอร์เวย์
เกาะลอฟโฟเตน (Lofoten Islands) ได้ชื่อว่าเป็น เกาะสวรรค์แห่งนอร์เวย์ ติดอันดับเกาะสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีหมู่บ้านชาวประมงสีสันสวยงามตั้งอยู่บนเกาะแห่งนี้ และยังเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ระหว่างโทรลฟยอร์ด (Trollfjord), นัสฟยอร์ด (Nusfjord) และ เลคเนส (Leknes) ทำให้ที่นี่มีธรรมชาติที่สวยพิสุทธิ์ยิ่ง นักท่องเที่ยวจะได้ขึ้นชมความงามและสัมผัสธรรมชาติที่รังสรรค์ขึ้น บริเวณหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยฟยอร์ดแห่งนอร์เวย์
เมืองทรอมโซ (Tromso) อีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างเดินทางเข้ามาที่ทรอมโซเพื่อหวังจะมาชื่นชมแสงเหนือใจกลางของวงแหวนออโรร่า (Aurora Oval) ที่สามารถเห็นแสงเหนือได้เกือบทุกคืนที่ท้องฟ้าโล่ง นอกจากมาชมแสงเหนือแล้ว บรรยากาศความสโลว์ไลฟ์วิถีชีวิตอันสงบสุข ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างติดใจในเมืองทรอมโซ
พิพิธภัณฑ์ขั้วโลก (Polar Museum) อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในอาคารไม้สีแดง มีลักษณะคล้ายกับโกดังเก็บของ ตั้งอยู่บนท่าเทียบเรือเมืองทรอมโซ (Tromso) เป็นอีกหนึ่งอาคารแห่งประวัติศาสตร์ของนอร์เวย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1830 ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภูมิภาค การสำรวจขั้วโลก รวมไปถึงพื้นที่ในแถบอาร์คติก นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในเขตอาร์คติก ซึ่งได้แก่ ปลาวาฬ หมีขั้วโลก และสิงโตทะเล
มหาวิหารทรอมโซ (Tromso Cathedral) เป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยไม้ ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์ ได้รับการยอมรับว่ามีความเก่าแก่ที่สุด และเป็นหนึ่งในโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ โดยมหาวิหารสร้างขึ้นในช่วงปี 1861 ในแบบสไตล์โกธิคที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่ง
เมืองแฮมเมอร์เฟสต์ (Hammerfest) เป็นศูนย์กลางการบริหารของ Hammerfest Municipality ใน Finnmark county ประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ Kvaløya ทางตอนเหนือของหมู่บ้าน Rypefjord และทางตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่บ้าน Forsøl เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ชาวซามิ (Sami Culture) เป็นเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานของชาวซามิ หรือ เอสกิโม มายาวนาน
แหลมนอร์ธเคปป์ เป็นจุดที่มีหน้าผาสูงสุดของทวีปยุโรป สูงถึง 307 เมตร สู่ทะเลอาร์กติก ทะเลแห่งขั้วโลกเหนือ หากโชคดี อาจได้ชมความงดงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่ชัดเจนสุด ซึ่งในบางครั้งไม่เยือนไม่สามารถมองเห็นได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจนั่นเอง ที่นี่..เป็นจุดชมมิดไนท์ซัน หรือ พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้สะดวกที่สุดในนอรเวย์ที่โด่งดังที่สุดของยุโรป ได้ชื่อว่าเป็นแดนสวรรค์แห่งขั้วโลกเหนือ
Bear Island หรือเกาะหมี (Bjornoya) ถูกค้นพบโดยนักเดินเรือชาวดัชช์ วิลเลี่ยม แบเร้นท์ ในปี 1596 ซึ่งเป็นหมู่เกาะเล็กๆตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะสวาลบาร์ด โดยวิลเลียม ได้พบเห็นหมีขั้วโลก (Polar Bear) กำลังว่ายน้ำในบริเวณหมู่เกาะดังกล่าว Bear Island หรือเกาะหมี ที่เมื่อก่อนมีแต่หมีขาวครอบครองอาศัยอยู่ จนกระทั่งมุนษย์เดินทางเข้าไปถึงและฆ่าหมีขาวจนหมด นอกจากนี้ที่นี่ ยังเป็นแหล่งรวบรวม อารยธรรมโบราณรวมไปถึงเรื่องราวที่น่าสนใจของชาวทรมเซอ อีกด้วย
สปิทสเบอร์เกน (Spitsbergen) เป็นเกาะใหญ่ที่สุดและเกาะเดียวที่มีคนอาศัยอยู่ในหมู่เกาะสฟาลบาร์ ประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของหมู่เกาะ ติดกับมหาสมุทรอาร์กติก ทะเลนอร์วีเจียน และทะเลกรีนแลนด์ เกาะนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่พวกไวกิง แต่ได้รับการค้นพบในสมัยใหม่โดยวิลเลิม บาเรินตส์ นักเดินเรือชาวดัตช์ ใน ค.ศ. 1596 ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ และใหญ่เป็นอันดับ 36 ของโลก
ป้อมปราการอาเคร์สฮูส หรือ ปราสาทอาเคร์สฮูส (Akershus Castle | Akershus Festning) เป็นปราสาทยุคกลางที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมืองออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ได้รับการสนับสนุนจากขุนนางนอร์เวย์ เอิร์ล แอลฟ์ เอลลิงสัน แห่งแซพบวร์ก และยังเคยเป็นที่คุมขังของเหล่านักโทษ โดยเริ่มก่อสร้างปลายปี ค.ศ.1290 โดยกษัตริย์ฮะคูนที่ 4 ปัจจุปัน ปราสาทอาเคร์สฮูสใช้เป็นที่รับรองแขกวีไอพีของรัฐบาล
วิกเกอร์แลนด์ พาร์ค หรือ สวนประติมากรรมวิกเกอร์แลนด์ (Vigeland Sculpture Park) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะฟรอกเนอร์ เมืองออสโล สำหรับความพิเศษของสวนแห่งนี้อยู่ที่ผลงานศิลปะประติมากรรม การแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชาวนอร์เวย์ชื่อดัง อีกทั้งสวนนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553