หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
โคเปนเฮเกน (Copenhagen) เมืองหลวงประเทศเดนมาร์ก เมืองที่มีบรรยากาศสวยซึ้งและสง่างามดังเมืองแห่งเทพนิยาย โคเปนเฮเกนเป็นทั้งเมืองหลวง และเมืองชายฝั่งทะเลของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของเกาะซีแลนด์ และเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ เนื่องจากมีการทำประมงและเป็นเมืองท่าของการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม โคเปนเฮเกนยังเป็นเมืองใหญ่ที่สวยงามและน่าสนใจด้วยมีลักษณะของการผสมผสานวิถีชีวิตที่หลากหลาย และเมืองนี้ยังได้จัดอันเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอีกด้วย
รูปปั้นเงือกน้อยเป็นรูปปั้นสำริดรูปเงือกนั่งอยู่บนก้อนหิน ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกน ซึ่งที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์และจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองโคเปนเฮเกน โดยต้นกำเนิดของรูปปั้นเงือกน้อยเกิดจากความประทับใจของคาร์ล จาค็อบเซน บุตรชายของผู้ก่อตั้งบริษัทเบียร์คาร์ลสเบิร์กต่อละครบัลต์เรื่อง The Little Mermaid อันเป็นนิทานสุดคลาสสิกของนักเล่านิทานชื่อดังอย่างคริสเตียน ฮันส์ แอนเดอร์สัน จากนั้นเขาจึงสร้างรูปปั้นนี้ขึ้นโดยใช้แบบใบหน้าจากนักเต้นบัลเลต์ชื่อเอลเลน ไพรซ์
น้ำพุแห่งมราชินีเกฟิออนเป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในรูปทรงที่แปลกตา มองดูคล้ายกับเป็นธารน้ำตกจำลอง ตั้งอยู่ในบริเวณหน้าท่าเรือเมืองโคเปนเฮเกน ซึ่งที่มาของน้ำพุแห่งนี้มีตำนานเล่าขานว่า นานมาแล้วมีพระราชินีนามว่าเกฟิออนได้รับมอบหมายจากเทพเจ้าให้สร้างชาติบ้านเมืองขึ้น นางจึงรับสั่งให้พระโอรสทั้ง 4 แปลงกายเป็นพระโค เพื่อช่วยกันไถเกลี่ยพื้นดินจนกลายเป็นประเทศเดนมาร์กดังในปัจจุบัน ดังนั้นชาวเมืองจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ของนางขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระองค์และพระราชโอรสนั่นเอง
พระราชวังอามาเลียนบอร์กหรือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวโรกาสครบรอบ 300 ปีของราชวงศ์โอลเดนบวร์ก ที่เหล่าพระราชวงศ์ยังใช้เป็นที่ประทับจนถึงปัจจุบัน บริเวณโดยรอบประกอบด้วยพระราชวังจำนวน 4 หลัง และโบสถ์อีก 1 หลัง ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นในศิลปะสไตล์เดนมาร์กโรโคโค ส่วนด้านหน้ามีพระรูปทรงม้าของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 4 ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า จนทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่งดงามที่สุดของทวีปยุโรป
ถนนคนเดินสตรอยก์ หรือ Stroget Street ซึ่งแปลว่า “การเดินเล่น” ประกาศให้เป็นเขตปลอดรถยนต์ตั้งแต่ปี 1962 ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งทางเท้า และ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน ถนนคนเดินมีความยาวที่สุดในโลก ครอบคลุม ถนน 4 สายด้วยกันคือ Frederiksberggade, Nygade, Vimmelskaftet และ stergade โดยมีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตร ระหว่างสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ยังคงความงดงามจนถึงปัจจุบัน ส่วนย่าน Nygade นั้น เป็นอดีตเขตโคมแดงและถิ่นที่อยู่อาศัยของเหล่ากะลาสีเรือ
เรือสำราญ DFDS อันโอ่อ่าขนาดใหญ่ ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น ผับ บาร์ ห้องซาวน์น่า ร้านค้าปลอดภาษี ห้องเล่มเกมส์ เป็นต้น เชิญพักผ่อนเดินเล่นบนเรือ ก่อนขึ้นชมวิวสวยยามเมื่อเรือถอนสมอ และรับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ในเรือ พร้อมพักค้างคืนบนเรือสำราญนี้ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือชมทัศนียภาพอันสวยงามบนดาดฟ้าเรือ หรือช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี
ออสโล (Oslo) นครหลวงของประเทศนอร์เวย์ เมืองสวยงามในเขตชายฝั่งทะเลแบบฟยอร์ดของยุโรปเหนือ ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmoya แน่นอนว่าแต่ละเกาะมีสถานที่เที่ยวสวยงาม และมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ มีอากาศหนาวเย็น 6 เดือน อุณหภูมิ 0 - 40 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนเพียง 3 เดือน อุณหภูมิ20-25องศาเซลเซียส ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เช่น สวนวิกเกอร์ลันด์ วัดไทยนอร์เวย์ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง (The Viking Ship Museum) สถานที่จัดแสดงเรือไวกิ้งโบราณไว้ทั้งหมด 3 ลำ โดยมีการขุดพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1867 ถึงปี ค.ศ.1903 ประมาณ 150 ปี และมีข้อสันนิษฐานว่าเป็นเรือที่แตกต่างยุคกันไป โดยลำแรกมีชื่อว่า “The Oseberg Ship” เรือที่สร้างด้วยไม้โอ๊กและมีขนาดความยาวถึง 22 เมตร มีส่วนกว้างของลำเรือ 5 เมตร เรือลำที่ 2 “The Gokstad Ship” ซึ่งยาวกว่าลำแรกเพราะวัดความยาวได้ 23 เมตรในขณะที่มีความกว้างเท่ากัน สร้างขึ้นในปี 900 พร้อมกับเรือที่พบเป็นลำที่ 3 “The Tune Ship”
อุทยานฟร็อกเนอร์ หรือ สวนฟร็อกเนอร์ ตั้งอยู่ย่านถนนคนเดิน คาร์ล โจฮัน เกท กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นสวนที่ใหญ่สุดในกรุงออสโล สวนนี้เป็นที่ตั้งแสดงผลงานของปฏิมากรเอกชาวนอร์เวย์ "กุสตาฟ วิกเกแลนด์" จำนวนกว่า 212 ผลงาน ใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี ในการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด กลางแจ้ง ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ สวนนี้ยังมีสะพาน น้ำพุ สระน้ำ สนามกีฬา และพื้นที่จัดกิจกรรมปิคนิค-อาบแดด-เล่นเกมส์ และผ่อนคลายในช่วงฤดูร้อน
โรงละครโอเปร่าเอ้าส์ ออสโล เป็นโรงละครแห่งชาติสำหรับจัดแสดงโอเปร่า บัลเลต์ และการแสดงอื่นๆ โรงละครนี้มีความโดดเด่นมากเนื่องจากเป็นสิ่งปลูกสร้างแนวโมเดิร์นท่ามกลางอาคารบ้านเรือนในบริเวณท่าเรือที่ยังคงเป็นแบบดั้งเดิม โรงละครโปเปร่านี้ถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนผุดขึ้นมาจากน้ำ เป็นอาคารกระจก พื้นผิวนอกของอาคารตกแต่งด้วยหินอ่อนและหินแกรนิตขาว โรงละครหลักมีที่นั่ง 1,364 ที่ และยังมีห้องจัดแสดงต่างๆ ถึง 1,100 ห้อง
ลานกระโดดสกีโฮเมนโคเลน (Holmenkollen National Ski Arena) เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ลานสกีแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของการเล่นสกีในประเทศนอร์เวย์มามากกว่า 100 ปี โดยการแข่งขันสกีกระโดดไกลครั้งแรกได้ถูกจัดขึ้นวันที่ 31 เดือนมกราคม ปี ค.ศ.1892 เป็นลานสกีที่โด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนได้รับนามว่าเป็นสัญลักษณ์ของการแข่งกีฬาสกีและสกีกระโดดไกลในระดับนานาชาติ
รถไฟสายโรแมนติค ฟลัม บาเนน เป็นรถไฟสายโด่งดังที่สุดของนอรเวย์ ขบวนรถรูปแบบคลาสสิคโบราณ แต่สภาพใหม่และสะอาด เส้นทางนำเที่ยวทางรถไฟสายโรแมนติคนี้ มีระยะทาง 20.20 กิโลเมตร ใช้เวลาสร้างถึง 20 ปี โดยการเจาะอุโมงค์ทะลุภูเขามากถึง 20 แห่ง ผ่านเส้นทางสายลาดชัน ท่านจะได้ชมความงามของหุบเขา ทะเลสาบ ฟยอร์ด และผ่านเมืองฟลัม หมู่บ้านที่ทาสีแดง เหลือง เขียวสดๆ ตัดกันอย่างสวยงาม น้ำตกสูงที่สวยงาม รถไฟจะมีการจอดให้ท่านบันทึกภาพสวยประทับใจ
ล่องเรือสําราญฟยอร์ด ชมความงามซองน์ฟยอร์ด ที่ได้ชื่อว่า เป็น King of Fjord ที่สวยงามที่สุดในนอร์เวย์ มีภูมิประเทศที่งดงาม มหัศจรรย์ ของธรรมชาติ รังสรรค์สร้าง อันเกิดจากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ำแข็งปีแล้วปีเล่า เป็นเวลาหลายล้านปีก่อน ลำน้ำคดเคี้ยวไหลซอกซอนอยู่บนชายฝั่ง เต็มไปด้วยขุนเขาสูงสลับซับซ้อน มีความยาวถึง 204กม จากทะเลเข้ามาในแผ่นดิน ชมธารน้ำตกและธารน้ำแข็งกลาเซียร์ที่ยังปรากฏเป็นผืนแผ่นขาวบนทิวโตรกเขา 2ฟากฝั่ง
เมืองเบอร์เกน หรือ แบร์เกน (Bergen) เมืองเล็กๆ แสนน่ารักและเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศนอร์เวย์ มาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 13 เมืองนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาถึงเจ็ดลูก มีท่าเรือที่ยาวถึง 10 กิโลเมตร เที่ยวชมเขตเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของ Fish Market และ Bryggen ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารไม้ที่มีอายุเกือบ 300 ปี ซึ่งเป็นตัวอย่างการก่อสร้างที่โดดเด่น จนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
เมืองเบอร์เกน หรือ แบร์เกน (Bergen) เมืองเล็กๆ แสนน่ารักและเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศนอร์เวย์ มาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 13 เมืองนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาถึงเจ็ดลูก มีท่าเรือที่ยาวถึง 10 กิโลเมตร เที่ยวชมเขตเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของ Fish Market และ Bryggen ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารไม้ที่มีอายุเกือบ 300 ปี ซึ่งเป็นตัวอย่างการก่อสร้างที่โดดเด่น จนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
สต็อกโฮล์ม เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกของประเทศสวีเดน มีประชากรในเขตเทศบาลสต็อกโฮล์ม 909,000 คน ถ้านับเขตที่อยู่อาศัยโดยรอบทั้งหมดจะมีประชากรประมาณ 2.2 ล้านคนสต็อกโฮล์มเป็นที่ตั้งของรัฐบาลสวีเดน และที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของสวีเดน
ศาลาว่าการเมืองสต็อคโฮลม์..สัญลักษณ์ของกรุงสต๊อกโฮลม์ สร้างเสร็จปี1923 และเป็นโครงการก่อสร้างใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดนในศตวรรษที่20 เป็นที่ทำการของศาลาว่าการเมือง และสถานที่สำหรับจัดงานรับรางวัลโนเบล ในทุกๆปี(ยกเว้นสาขาสันติภาพที่มีขึ้นในออสโล นอร์เวย์)ตัวตึกที่ก่อสร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8ล้านก้อน และตกแต่งผนังใน Golden Hall หรือห้องเต้นรำที่มีลวดลายฝังหินโมเสกกว่า 19ล้านชิ้น ขัดผิวหน้าเรียบแล้วเคลือบด้วยทอง ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิก Ragner Ostberg และศิลปินชั้นนำในเวลานั้น
เป็นเรือสำราญหรูหราเหมือนโรงแรม และได้ชื่อว่าเป็นเรือที่สวยงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย เส้นทางจากนอร์เวย์เดินทางข้ามทะเลบอลติคสู่กรุงสต็อคโฮลม์ ประเทศสวีเดน ภายในเรือ มีห้องพักแบบโรงแรมทุกอย่าง นอกจากนั้นยังมี ภัตตาคาร ไนต์คลับ ซาวน่า คาสิโน ห้องชมภาพยนตร์ ห้องเล่นเกมของเด็ก และร้านค้าปลอดภาษี สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามยามเรือถอนสมออกจากเมืองเฮลซิงกิ
เมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” เนื่องจากความงดงามและโดดเด่นของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันได้รับอิทธิพลจากทั้งทางฝั่งยุโรปและรัสเซีย เมืองเฮลซิงกิถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1550 โดยกษัตริย์กุสตาฟ วาชา แห่งสวีเดน ต่อมาในสมัยที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย เฮลซิงกิได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์แทนที่เมืองตรูกู เฮลซิงกิจึงมีความโดดเด่นท่ามกลางหมู่เกาะมากมายในทะเลบอลติก
มหาวิหารอุสเพนสเก้ หรือ มหาวิหารอุสเปนกี้ (Uspenski Cathedra) เป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายออร์ธอดอกซ์ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ งดงามแปลกตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากการใช้เป็นสถานที่ถ่ายทําภาพยนตร์รางวัลออสการ์เรื่อง เรดส์ วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1864 ออกแบบและก่อสร้างโดย Aleksey Gornostayev โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปีเศษ ด้านนอกวิหารมีสีสันแปลกตาซึ่งหาดูได้ยาก โดยตัววิหารเป็นสีน้ำตาลอิฐ โดมสีฟ้าอ่อน และยอดโดมเป็นสีทอง ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสีทองและอัญมณี
ตั้งอยู่ในสวนซิเบลิอุส สร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย ลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า แปลกตา ทันสมัย ผลงานของศิลปิน Eila Hiltunen สร้างโดยนำเอาแท่งเหล็ก600แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม กว้าง10.5ม ลึก 6.5ม หนัก 24 ตัน ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า
หมู่บ้านซานต้า โรวาเนีย (Santa Claus Village) 'บ้านซานตาคลอสแห่งขั้วโลกเหนือ' ดินแดนแห่งความสุขแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อให้เด็ก ๆ ทั่วโลกมีโอกาสมาเยี่ยมซานต้า ที่นี่ตั้งอยู่ในเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลจำลองพาดผ่าน เมื่อใครเดินก้าวข้ามเส้นนี้ เสมือนการก้าวเข้าสู่วงกลมอาร์กติกอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้มีออฟฟิศของซานต้า ที่ทำการไปรษณีย์ของซานต้า ร้านขายของขวัญ งานหัตถกรรม และของที่ระลึกต่าง ๆ เราสามารถมาถ่ายรูปกับซานต้าคลอสตัวจริง หรือส่งโปสการ์ดและของขวัญไปยังคนที่รักและคิดถึง
เมืองอิวาโล่ ดินแดนแห่งศูนย์กลางชาวแลปป์ (Lapland) และเป็นดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืนของประเทศฟินแลนด์
เมืองคาราสจ๊อก เป็นชุมชนสำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาวแลปป์ หรือชาวซามิ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองที่อยู่ในแถบนี้มานานนับศตวรรษ และมีหลายชนเผ่า ในบริเวณทางเหนือเส้นอาร์คติกในเขตประเทศนอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และรัสเซีย
ศูนย์นิทรรศการนอร์ธเคป (North Cape Exhibition Center) พิพิธภัณฑ์ไทยที่ตั้งอยู่บนปลายแหลมนอร์ธเคป ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงกระทำพิธีเปิดเมื่อกลางปี พ.ศ.2532 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสของล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อปี พ.ศ.2450 นับเป็นพิพิธภัณฑ์ไทยที่อยู่เหนือสุดของโลก รับฟังและชมเรื่องราวของปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนในห้อง Auditorium ก่อนชมปรากฏการณ์จริงด้านนอก
เมืองแฮมเมอร์เฟสต์ (Hammerfest) เป็นศูนย์กลางการบริหารของ Hammerfest Municipality ใน Finnmark county ประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ Kvaløya ทางตอนเหนือของหมู่บ้าน Rypefjord และทางตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่บ้าน Forsøl เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ชาวซามิ (Sami Culture) เป็นเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานของชาวซามิ หรือ เอสกิโม มายาวนาน
เสาหลักเมอริเดียน เป็นอนุสรณ์ถึงการวัดเส้นรอบวงของโลก และสัญลักษณ์ของเมืองแฮมเมอร์เฟสต์ สร้างขึ้นโดย กษัตริย์ออสก้าที่2 ในปีค.ศ.1854 ดำเนินการจัดตั้งโดย โครงการวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติ เพื่อวัดขนาดรูปร่างและรูปร่างของโลก เป็นโครงการวิทยาศาสตร์แรกที่ได้รับความร่วมมือจากนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย นำโดย Friedrich Georg Wilhelm Struve รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์จากประเทศสวีเดนและนอร์เวย์ด้วย แล้วเสร็จโครงการในเมืองแฮมเมอร์เฟสต์ ปีค.ศ.1852 เสาหลักนี้ ถูกจารึกไว้ในมรดกโลกของยูเนสโกในปี 2005
อาร์ติโก ไอซ์ บาร์ (Artico Ice Bar) ตั้งอยู่ในเมืองฮอนนิงสโวก เป็นร้านบาร์น้ำแข็งที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือที่สุดในโลก เฟอร์นิเจอร์และของใช้ส่วนใหญ่สร้างจากน้ำแข็งทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเรามาถึงแล้วก็จะต้องมาลองชิมเครื่องดื่ม ที่ใส่ลงในแก้วที่ทำมาจากน้ำแข็ง ร้านบาร์แห่งนี้มีเครื่องดื่มที่ไร้แอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงสามารถเข้าได้ทุกเพศทุกวัย แต่เด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี จะต้องมากับผู้ปกครองด้วยเท่านั้น
เมืองอิวาโล่ ดินแดนแห่งศูนย์กลางชาวแลปป์ (Lapland) และเป็นดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืนของประเทศฟินแลนด์
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553