หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สต็อกโฮล์ม เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกของประเทศสวีเดน มีประชากรในเขตเทศบาลสต็อกโฮล์ม 909,000 คน ถ้านับเขตที่อยู่อาศัยโดยรอบทั้งหมดจะมีประชากรประมาณ 2.2 ล้านคนสต็อกโฮล์มเป็นที่ตั้งของรัฐบาลสวีเดน และที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของสวีเดน
จุดชมวิวบนเนินเขาถนน FJALLGATAN ท่านจะได้ชมความสวยงามจากบนมุมสูงของกรุงสต็อกโฮล์ม ที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนได้รับการขนานนามว่า “ความงาม บนผิวน้ำ”(Beauty on Water)หรือ“ราชินีแห่งทะเลบอลติก” เมืองแห่งประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ครั้งศตวรรษที่ 13 ศิลปะและสถาปัตยกรรมผสมผสานด้วยความสะดวกสบาย และทันสมัยของบ้านเมือง ตึกรามบ้านช่อง รวมทั้งปราสาทราชวังตั้งอยู่ริมน้ำและตามเนินสูงต่ำ เกาะใหญ่น้อย 14 เกาะ ที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติกและทะเลสาบมาลาเร็น ทำให้สต็อกโฮล์มเป็นเมืองที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ศาลาว่าการเมืองสต็อคโฮลม์..สัญลักษณ์ของกรุงสต๊อกโฮลม์ สร้างเสร็จปี1923 และเป็นโครงการก่อสร้างใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดนในศตวรรษที่20 เป็นที่ทำการของศาลาว่าการเมือง และสถานที่สำหรับจัดงานรับรางวัลโนเบล ในทุกๆปี(ยกเว้นสาขาสันติภาพที่มีขึ้นในออสโล นอร์เวย์)ตัวตึกที่ก่อสร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8ล้านก้อน และตกแต่งผนังใน Golden Hall หรือห้องเต้นรำที่มีลวดลายฝังหินโมเสกกว่า 19ล้านชิ้น ขัดผิวหน้าเรียบแล้วเคลือบด้วยทอง ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิก Ragner Ostberg และศิลปินชั้นนำในเวลานั้น
เป็นเรือสำราญหรูหราเหมือนโรงแรม และได้ชื่อว่าเป็นเรือที่สวยงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย เส้นทางจากนอร์เวย์เดินทางข้ามทะเลบอลติคสู่กรุงสต็อคโฮลม์ ประเทศสวีเดน ภายในเรือ มีห้องพักแบบโรงแรมทุกอย่าง นอกจากนั้นยังมี ภัตตาคาร ไนต์คลับ ซาวน่า คาสิโน ห้องชมภาพยนตร์ ห้องเล่นเกมของเด็ก และร้านค้าปลอดภาษี สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามยามเรือถอนสมออกจากเมืองเฮลซิงกิ
เมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” เนื่องจากความงดงามและโดดเด่นของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันได้รับอิทธิพลจากทั้งทางฝั่งยุโรปและรัสเซีย เมืองเฮลซิงกิถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1550 โดยกษัตริย์กุสตาฟ วาชา แห่งสวีเดน ต่อมาในสมัยที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย เฮลซิงกิได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์แทนที่เมืองตรูกู เฮลซิงกิจึงมีความโดดเด่นท่ามกลางหมู่เกาะมากมายในทะเลบอลติก
จตุรัสซีเนเตอร์ หรือ เซเนทสแควร์ (Senate Square) รายล้อมไปด้วยอาคารสำคัญๆ ที่สร้างในยุคที่อยู่ใต้การปกครองของรัสเซีย จตุรัสกลางเมืองแห่งนี้เป็นที่ใช้จัดกิจกรรมใหญ่ ๆ สำคัญของเมือง มีขนาดใหญ่รองรับคนได้หลายหมื่นคน และเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ โดยใจกลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ประดิษฐานอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า
ตั้งอยู่ในสวนซิเบลิอุส สร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย ลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า แปลกตา ทันสมัย ผลงานของศิลปิน Eila Hiltunen สร้างโดยนำเอาแท่งเหล็ก600แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม กว้าง10.5ม ลึก 6.5ม หนัก 24 ตัน ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า
หมู่บ้านซานต้า โรวาเนีย (Santa Claus Village) 'บ้านซานตาคลอสแห่งขั้วโลกเหนือ' ดินแดนแห่งความสุขแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อให้เด็ก ๆ ทั่วโลกมีโอกาสมาเยี่ยมซานต้า ที่นี่ตั้งอยู่ในเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลจำลองพาดผ่าน เมื่อใครเดินก้าวข้ามเส้นนี้ เสมือนการก้าวเข้าสู่วงกลมอาร์กติกอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้มีออฟฟิศของซานต้า ที่ทำการไปรษณีย์ของซานต้า ร้านขายของขวัญ งานหัตถกรรม และของที่ระลึกต่าง ๆ เราสามารถมาถ่ายรูปกับซานต้าคลอสตัวจริง หรือส่งโปสการ์ดและของขวัญไปยังคนที่รักและคิดถึง
ฟาร์มกวางเรนเดียร์ (Reindeer Farm) เที่ยวชม "ฟาร์มกวางเรนเดียร์" สัตว์แสนรู้น่ารัก อันเป็นพาหนะของซานตาคลอส สัตว์ขึ้นชื่อของฟินแลนด์ โดยเฉพาะชาวแลปป์ ชนพื้นเมืองที่มักเลี้ยงไว้ใช้งานในเขตหนาว และมีปริมาณนับหลายล้านตัว 'กวางเรนเดียร์' เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ มีลักษณะคล้ายคลึงกับกวางเอลก์ จัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่และมีเขาใหญ่ยาวด้วย เชิญสัมผัสกับการนั่งรถเลื่อนเทียมกวางเรนเดียร์ ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นกับความเร็วในรูปแบบใหม่ และถ่ายรูปกับกวางแสนรู้
เมืองทรอมโซ (Tromso) อีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างเดินทางเข้ามาที่ทรอมโซเพื่อหวังจะมาชื่นชมแสงเหนือใจกลางของวงแหวนออโรร่า (Aurora Oval) ที่สามารถเห็นแสงเหนือได้เกือบทุกคืนที่ท้องฟ้าโล่ง นอกจากมาชมแสงเหนือแล้ว บรรยากาศความสโลว์ไลฟ์วิถีชีวิตอันสงบสุข ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างติดใจในเมืองทรอมโซ
เมืองฮอนนิงส์แวก เป็นดินแดนที่อยู่เหนือสุดของโลก ทางภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นแคว้นกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นบริเวณแห่งทะเลน้ำแข็ง รวมทั้งเป็นดินแดนแห่ง “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” มีประชากรอาศัยอยู่บนเขตยุโรปเหนือ เห็นทิวท้ศน์ธรรมชาติในเขตหนาวสวยงามแปลกตา มีผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมืองที่ผลิตเอง รวมทั้งเขากวาง และหนังกวางเรนเดียร์ ออกมาขายต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนในฤดูการท่องเที่ยวอันแสนสั้น เชิญสำรวจความงดงามธรรมชาติของเมืองที่น่าประทับใจ
ศูนย์นิทรรศการนอร์ธเคป (North Cape Exhibition Center) พิพิธภัณฑ์ไทยที่ตั้งอยู่บนปลายแหลมนอร์ธเคป ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงกระทำพิธีเปิดเมื่อกลางปี พ.ศ.2532 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสของล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อปี พ.ศ.2450 นับเป็นพิพิธภัณฑ์ไทยที่อยู่เหนือสุดของโลก รับฟังและชมเรื่องราวของปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนในห้อง Auditorium ก่อนชมปรากฏการณ์จริงด้านนอก
เมืองทรอมโซ (Tromso) อีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างเดินทางเข้ามาที่ทรอมโซเพื่อหวังจะมาชื่นชมแสงเหนือใจกลางของวงแหวนออโรร่า (Aurora Oval) ที่สามารถเห็นแสงเหนือได้เกือบทุกคืนที่ท้องฟ้าโล่ง นอกจากมาชมแสงเหนือแล้ว บรรยากาศความสโลว์ไลฟ์วิถีชีวิตอันสงบสุข ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างติดใจในเมืองทรอมโซ
มหาวิหารทรอมโซ (Tromso Cathedral) เป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยไม้ ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์ ได้รับการยอมรับว่ามีความเก่าแก่ที่สุด และเป็นหนึ่งในโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ โดยมหาวิหารสร้างขึ้นในช่วงปี 1861 ในแบบสไตล์โกธิคที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่ง
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) วิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1965 มีภาพประดับกระจกใหญ่ที่สุดในยุโรป อีกทั้งยังมีโครงสร้างที่โดดเด่น ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์มหาวิหารอาร์กติก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในทรอมโซ และยัง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถชมความงดงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
ยอดเขาสโตรสไตเนิน (Mt Storsteinen, Tromso) ยอดเขาชื่อดังของเมืองทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 420 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้ชมและสัมผัสกับทัศนียภาพทั่วเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางฟยอร์ด มีเกาะใหญ่รายล้อมสวยงาม ด้านทิศตะวันออกมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศสวีเดนและฟินแลนด์อีกด้วย
เมืองเบอร์เกน หรือ แบร์เกน (Bergen) เมืองเล็กๆ แสนน่ารักและเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศนอร์เวย์ มาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 13 เมืองนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาถึงเจ็ดลูก มีท่าเรือที่ยาวถึง 10 กิโลเมตร เที่ยวชมเขตเมืองเก่าอันเป็นที่ตั้งของ Fish Market และ Bryggen ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารไม้ที่มีอายุเกือบ 300 ปี ซึ่งเป็นตัวอย่างการก่อสร้างที่โดดเด่น จนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
ขึ้นรถรางไฟฟ้า Floibanen Funicular เพื่อชมความสวยงามของเมืองเบอร์เกน ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่งดงามดุจภาพวาดของเมืองแห่งนี้ นำท่านเดินทางสู่ ย่านเมืองเก่า ซึ่งในอดีตเป็นโกดังสินค้าต่างๆ ปัจจุบันถูกดัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร โรงแรม อาร์ตแกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ ร้านค้าต่างๆมากมาย ให้ท่านได้พักผ่อนกับบรรยากาศแสนสบาย ผ่านชมบริเวณท่าเรือ และBrygge อาคารเก่าแก่อายุราว 300 ปี ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
ยอดเขาฟลอยเอน (Mount Floyen) จุดชมวิวในเมืองเบอร์เกน ประเทศนอร์เวย์ ยอดเขาฟลอยเอ่น สูง 320 เมตร จากระดับน้ำทะเล หากต้องการชมวิวเมืองในมุมสูง จะต้องซื้อตั๋วเพื่อนั่งรถรางไฟฟ้า Fløibanen ไปชมวิวที่ยอดเขาแห่งนี้ สถานีต้นทางอยู่ใจกลางเมือง Bergen เดินทางประมาณ 10 นาที เพื่อขึ้นไปยังสถานีด้านบนสุด ซึ่งเป็นจุดชมวิวบนเขา ด้านบนนี้ยังเป็นจุดแวะพัก มีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของฝาก รวมไปถึงจุดถ่ายรูปต่างๆ กิจกรรมอื่นๆบนยอดเขาก็มี Hiking, Mountain Bike, พายเรือ Canoe และกิจกรรมสำหรับครอบครัว
ล่องเรือสําราญฟยอร์ด ชมความงามซองน์ฟยอร์ด ที่ได้ชื่อว่า เป็น King of Fjord ที่สวยงามที่สุดในนอร์เวย์ มีภูมิประเทศที่งดงาม มหัศจรรย์ ของธรรมชาติ รังสรรค์สร้าง อันเกิดจากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ำแข็งปีแล้วปีเล่า เป็นเวลาหลายล้านปีก่อน ลำน้ำคดเคี้ยวไหลซอกซอนอยู่บนชายฝั่ง เต็มไปด้วยขุนเขาสูงสลับซับซ้อน มีความยาวถึง 204กม จากทะเลเข้ามาในแผ่นดิน ชมธารน้ำตกและธารน้ำแข็งกลาเซียร์ที่ยังปรากฏเป็นผืนแผ่นขาวบนทิวโตรกเขา 2ฟากฝั่ง
รถไฟสายโรแมนติค ฟลัม บาเนน เป็นรถไฟสายโด่งดังที่สุดของนอรเวย์ ขบวนรถรูปแบบคลาสสิคโบราณ แต่สภาพใหม่และสะอาด เส้นทางนำเที่ยวทางรถไฟสายโรแมนติคนี้ มีระยะทาง 20.20 กิโลเมตร ใช้เวลาสร้างถึง 20 ปี โดยการเจาะอุโมงค์ทะลุภูเขามากถึง 20 แห่ง ผ่านเส้นทางสายลาดชัน ท่านจะได้ชมความงามของหุบเขา ทะเลสาบ ฟยอร์ด และผ่านเมืองฟลัม หมู่บ้านที่ทาสีแดง เหลือง เขียวสดๆ ตัดกันอย่างสวยงาม น้ำตกสูงที่สวยงาม รถไฟจะมีการจอดให้ท่านบันทึกภาพสวยประทับใจ
ออสโล (Oslo) นครหลวงของประเทศนอร์เวย์ เมืองสวยงามในเขตชายฝั่งทะเลแบบฟยอร์ดของยุโรปเหนือ ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmoya แน่นอนว่าแต่ละเกาะมีสถานที่เที่ยวสวยงาม และมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ มีอากาศหนาวเย็น 6 เดือน อุณหภูมิ 0 - 40 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนเพียง 3 เดือน อุณหภูมิ20-25องศาเซลเซียส ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เช่น สวนวิกเกอร์ลันด์ วัดไทยนอร์เวย์ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง เป็นต้น
อุทยานฟร็อกเนอร์ หรือ สวนฟร็อกเนอร์ ตั้งอยู่ย่านถนนคนเดิน คาร์ล โจฮัน เกท กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นสวนที่ใหญ่สุดในกรุงออสโล สวนนี้เป็นที่ตั้งแสดงผลงานของปฏิมากรเอกชาวนอร์เวย์ "กุสตาฟ วิกเกแลนด์" จำนวนกว่า 212 ผลงาน ใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี ในการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด กลางแจ้ง ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ สวนนี้ยังมีสะพาน น้ำพุ สระน้ำ สนามกีฬา และพื้นที่จัดกิจกรรมปิคนิค-อาบแดด-เล่นเกมส์ และผ่อนคลายในช่วงฤดูร้อน
ย่านถนนคนเดินคาร์ลโจฮันเกท (Karl Johangen Gate) เป็นแหล่ง Shopping ที่เลื่องชื่อของเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ สินค้าของฝากที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าและของที่ระลึกต่างๆ ที่ขายกันในประเทศนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่าประเทศนอร์เวย์จะมีสินค้าที่แพง แต่ก็ยังมีช่วงลดราคาสินค้า คือ ปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
เรือสำราญ DFDS อันโอ่อ่าขนาดใหญ่ ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น ผับ บาร์ ห้องซาวน์น่า ร้านค้าปลอดภาษี ห้องเล่มเกมส์ เป็นต้น เชิญพักผ่อนเดินเล่นบนเรือ ก่อนขึ้นชมวิวสวยยามเมื่อเรือถอนสมอ และรับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ในเรือ พร้อมพักค้างคืนบนเรือสำราญนี้ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือชมทัศนียภาพอันสวยงามบนดาดฟ้าเรือ หรือช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี
โคเปนเฮเกน (Copenhagen) เมืองหลวงประเทศเดนมาร์ก เมืองที่มีบรรยากาศสวยซึ้งและสง่างามดังเมืองแห่งเทพนิยาย โคเปนเฮเกนเป็นทั้งเมืองหลวง และเมืองชายฝั่งทะเลของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของเกาะซีแลนด์ และเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ เนื่องจากมีการทำประมงและเป็นเมืองท่าของการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม โคเปนเฮเกนยังเป็นเมืองใหญ่ที่สวยงามและน่าสนใจด้วยมีลักษณะของการผสมผสานวิถีชีวิตที่หลากหลาย และเมืองนี้ยังได้จัดอันเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอีกด้วย
รูปปั้นเงือกน้อยเป็นรูปปั้นสำริดรูปเงือกนั่งอยู่บนก้อนหิน ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกน ซึ่งที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์และจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองโคเปนเฮเกน โดยต้นกำเนิดของรูปปั้นเงือกน้อยเกิดจากความประทับใจของคาร์ล จาค็อบเซน บุตรชายของผู้ก่อตั้งบริษัทเบียร์คาร์ลสเบิร์กต่อละครบัลต์เรื่อง The Little Mermaid อันเป็นนิทานสุดคลาสสิกของนักเล่านิทานชื่อดังอย่างคริสเตียน ฮันส์ แอนเดอร์สัน จากนั้นเขาจึงสร้างรูปปั้นนี้ขึ้นโดยใช้แบบใบหน้าจากนักเต้นบัลเลต์ชื่อเอลเลน ไพรซ์
น้ำพุแห่งมราชินีเกฟิออนเป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในรูปทรงที่แปลกตา มองดูคล้ายกับเป็นธารน้ำตกจำลอง ตั้งอยู่ในบริเวณหน้าท่าเรือเมืองโคเปนเฮเกน ซึ่งที่มาของน้ำพุแห่งนี้มีตำนานเล่าขานว่า นานมาแล้วมีพระราชินีนามว่าเกฟิออนได้รับมอบหมายจากเทพเจ้าให้สร้างชาติบ้านเมืองขึ้น นางจึงรับสั่งให้พระโอรสทั้ง 4 แปลงกายเป็นพระโค เพื่อช่วยกันไถเกลี่ยพื้นดินจนกลายเป็นประเทศเดนมาร์กดังในปัจจุบัน ดังนั้นชาวเมืองจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ของนางขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระองค์และพระราชโอรสนั่นเอง
พระราชวังอามาเลียนบอร์กหรือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวโรกาสครบรอบ 300 ปีของราชวงศ์โอลเดนบวร์ก ที่เหล่าพระราชวงศ์ยังใช้เป็นที่ประทับจนถึงปัจจุบัน บริเวณโดยรอบประกอบด้วยพระราชวังจำนวน 4 หลัง และโบสถ์อีก 1 หลัง ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นในศิลปะสไตล์เดนมาร์กโรโคโค ส่วนด้านหน้ามีพระรูปทรงม้าของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 4 ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า จนทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่งดงามที่สุดของทวีปยุโรป
ย่านนูฮาวน์ (Nyhavn) ตั้งอยู่ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งนูฮาวน์ แปลว่า ท่าเรือใหม่ แต่เดิมเป็นท่าเรือพาณิชย์ที่ไว้สำหรับเรือจากทั่วทุกมุมโลกมาเทียบท่า บริเวณนี้จึงรายล้อมไปด้วยร้านอาหารและตึกรามบ้านช่องที่มีสีสันสดใส ในช่วงฤดูร้อน นูฮาวน์เป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่นชาวเดนมาร์กที่นิยมมานั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ ยังเป็นที่สำหรับล่องเรือชมวิวและสถานที่ต่างๆ รอบกรุงโคเปนเฮเกนได้อีกด้วย
ถนนคนเดินสตรอยก์ หรือ Stroget Street ซึ่งแปลว่า “การเดินเล่น” ประกาศให้เป็นเขตปลอดรถยนต์ตั้งแต่ปี 1962 ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งทางเท้า และ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน ถนนคนเดินมีความยาวที่สุดในโลก ครอบคลุม ถนน 4 สายด้วยกันคือ Frederiksberggade, Nygade, Vimmelskaftet และ stergade โดยมีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตร ระหว่างสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ยังคงความงดงามจนถึงปัจจุบัน ส่วนย่าน Nygade นั้น เป็นอดีตเขตโคมแดงและถิ่นที่อยู่อาศัยของเหล่ากะลาสีเรือ
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553