หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ตั้งอยู่ในเมืองเมมเฟส ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอาณาจักรอียิปต์โบราณ พิพิธภัณฑ์เป็นอาคารกึ่งเปิด และส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง สิ่งที่เป็นไฮไลท์ คือ รูปปั้นแกะสลักขนาดใหญ่ของ ฟาโรห์รามเซสที่สอง ( Rameses II ) ฟาโรห์องค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อียิปต์ ตัวรูปปั้นไม่สมบูรณ์เต็มองค์แต่ดูยิ่งใหญ่ และมีพระพักตร์ที่งดงาม อีกสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรพลาด คือ สฟิงค์ขนาดใหญ่ ที่สลักจากหินมีค่าอย่างอลาบาสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดแสดงวัตถุโบราณในยุคของ ฟาโรห์รามเซสที่สอง อีกด้วย
ซัคคาราsaqqarahเมืองโบราณฝั่งซ้ายของแม่น้ำไนล์ทางใต้เมืองกีซ่าและอยู่ไม่ไกลจากกรุงไคโรสมัยเมมฟีสรุ่งเรืองเป็นเมืองหลวงซัคคาราคือที่ตั้งสุสานของกษัตริย์และบรรดาขุนนางทั้งหลายได้ชื่อว่าเมืองปีศาจของอียิปต์
พีระมิดแห่งโจเซอร์ หรือ พีระมิดขั้นบันได (Step Pyramid) เป็นโบราณสถานที่ยังคงอยู่ในสุสานในเมืองซัคคาร่าทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของเมืองเมมฟิส มันถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 27 ก่อนคริสตกาล สำหรับการฝังศพของฟาโรห์โจเซอร์ นับว่าเป็นพีระมิดแห่งแรกของอียิปต์ ที่ฟาโรห์โจเซอร์ (Djoser หรือ Zoser) เป็นผู้สร้างขึ้น โดยมี อิมโฮเทป ที่ปรึกษาประจำองค์ฟาโรห์เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ
เมืองกีซ่า เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศอียิปต์ ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของใจกลางเมืองไคโร เป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองของวัฒนธรรมของอียิปต์และมีประชากรค่อนข้างมาก กับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า สิ่งมหัศจรรย์ของชาวอียิปต์โบราณ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น สวนสัตว์กิซ่า, สวนสาธารณะ Park Orman เป็นต้น
สฟิงค์และหมู่มหาปีรามิดแห่งเมืองกีซ่า เป็น1ใน7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มีชื่อเสียงหมู่มหาปีรามิด มี 3องค์ ถูกสร้างมานานกว่า4,500ปี เพื่อเป็นสุสานของฟาโรห์3องค์ คือฟาโรห์ คีออปส์ ฟาโรห์เคฟเรน และฟาโรห์ไมเครานุส ชมสฟิงค์ที่แกะสลักจากเนินหินธรรมชาติ มีส่วนศีรษะเป็นพระพักตร์ขององค์ฟาโรห์ แต่ลำตัวเป็นสิงห์โต มีหน้าที่เฝ้าวิหารและสุสานของกษัตริย์ ลำตัวเป็นสิงห์โตหมอบเพศผู้แสดงถึงอำนาจ ที่บริเวณที่ราบสูงกีซ่านี้ มีเพียงตัวเดียวเท่านั้น ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยาว 73ม สูง 20ม แกะสลักจากหินปูนเพียงก้อนเดียว
มหาวิหารอาบูซิมเบล วิหารของอียิปต์โบราณที่ยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์ เป็นสถาปัตยกรรมหินทรายอายุกว่า 3,000 ปี สร้างขึ้นในสมัยองค์ฟาโรห์รามเสสที่2 เพื่อบูชาเทพอามุน-รา วิหารแห่งนี้เจาะภูเขาเข้าไป ประกอบขึ้นจากหินขนาดใหญ่ 2 ก้อน มีลักษณะเป็นรูปปั้นองค์ฟาโรห์ทั้ง 4 ส่วนองค์ที่ 2 ถล่มลงเนื่องจากแผ่นดินไหว ตั้งอยู่ทางใต้ของอียิปต์ บนริมฝั่งตะวันตกของทะเลสาบนักซอร์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากและโด่งดังแห่งหนึ่งของอียิปต์
เขื่อนกั้นน้ำขนาดยักษ์กลางทะเลทรายอันแห้งแล้งของประเทศอียิปต์ สูงถึง365ฟุต ยาว3,280ฟุต ขวางกั้นแม่น้ำไนล์ทั้งสาย ทำให้เกิดทะเลสาบ Nasser ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดี Gamal Abdel Nasser เป็นทะเลสาบใหญ่มาก ยาวถึง200ไมล์ กว้าง10ไมล์ เรียกว่าในกระบวนทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นแล้ว ใหญ่เป็นที่2ของโลก สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มผลผลิตทางเกษตร และได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย เพื่อป้องกันอุทกภัยและแก้ปัญหาภัยแล้ง สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึงหมื่นล้านกิโลวัตต์ต่อปี ใช้เงินร่วมพันล้านเหรียญ
วิหารฟิเล (Philae Temple หรือ Temple of Isis) ตั้งอยู่เมืองอัสวาน ประเทศอียิปต์ เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีไอซิส เป็นวิหารที่มีความสําคัญและงดงามมาก ในอดีตวิหารนี้เคยถูกสร้างขึ้นบนเกาะฟิเลกลางแม่น้ำไนล์ แต่เมื่อเขื่อนอัสวานสร้างเสร็จ วิหารทั้งวิหารก็จมอยู่ใต้ระดับน้ำ นานาชาติจึงเข้ามาช่วยเหลือโดยการทำทำนบกั้นน้ำ และค่อยๆย้ายหินทีละก้อน ขึ้นมาสร้างวิหารแห่งใหม่ที่เกาะอากิลเกียแทนที่วิหารเดิมแห่งนี้
ออกแบบโดยสถาปนิกเซเนมุท เมื่อกว่า3,500ปีมาแล้ว เพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐานพระศพของฟารห์หญิงฮัทเชปซุท หรือ รู้จักในนามของ ราชินีหนวด ซึ่งเป็นฟาโรห์หญิงพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์อันยาวนานของอียิปต์โบราณ ในสมัยของพระนาง ประเทศอียิปต์เจริญรุ่งเรืองมาก เชิญเยี่ยมชมซากปรักหักพังของที่ประกอบพิธีศพฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ ปัจจุบัน มีเพียงรูปแกะสลักของฟาโรห์นั่งบนบัลลังก์ขนาดมหึมา2รูป สูงถึง41ม หนัก1,200ตัน ถือเป็นอนุสาวรีย์ชนิดหนึ่งของอียิปต์โบราณ ที่สร้างเพื่อบูชาแด่เทพ อามุน-รา หรือ สุริยะเทพ
ชุมชนโบราณที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอียิปต์ตอนบน ติดริมแม่น้ำไนล์ ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์ ได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งทอง" เนื่องจากเคยเป็นจุดพักค้าขายทองคำและสินค้าที่สำคัญของกองคาราวานที่มาจากนูเบีย,ทะเลทรายตะวันออกและทะเลแดงเมื่อครั้งอดีต ปัจจุบันเป็นเมืองแห่งการเกษตรกรรมที่โดดเด่น เนื่องจากมีการจัดการทางด้านระบบชลประทานที่ดีเยี่ยม บ้านเรือนส่วนใหญ่สูงเพียง1หรือ2ชั้น ระหว่างทางผ่านแหล่งเพาะปลูกสำคัญริมแม่น้ำไนล์ และยังเป็นที่ตั้งของวิหารคอมออมโบที่มีความซับซ้อนสวยงามมาก
วิหาร คอม ออมโบ (Temple of Kom Ombo) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองอัสวาน วิหารนี้สร้างเพื่อถวายแด่เทพเจ้า 2 องค์ คือ เทพโซเบ็ก เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์หรือเทพผู้สร้างโลก รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ซึ่งมีเศียรเป็นจระเข้ และเทพฮอรัส ผู้มีเศียรเป็นเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้
เมืองเอ็ดฟู (Edfu) เป็นเมืองโบราณของอียิปต์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ระหว่างเมือง ISNA และเมืองอัสวาน มีประชากรประมาณ 60,000คน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นศูนย์กลางทางศาสนาและการพาณิชย์ และเมืองผลิตน้ำตาลและเครื่องปั้นดินเผา สถานที่น่าสนใจคือ วิหารเอ็ดฟู สไตล์อิยิปต์โบราณ ที่มีความงามสมบูรณ์แบบทั้งหัวเสาและภาพสลักนูนสูงทั้งหลาย
วิหารเอ็ดฟู (Temple of Edfu) ได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด เป็นวิหารใหญ่สวยงาม ตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส มีเศียรเป็นเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ มองได้ไกลเหมือนตาเหยี่ยว อดีตวิหารนี้ถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบถึงยอดตัวเสาและหัวเสาเป็นเวลานาน ปีคศ1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังแข็งแรง แน่นหนา
เมืองลักซอร์ เดิมชื่อว่า เมืองธีบส์ (Thebes) เป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศอียิปต์ ปกครองโดยราชวงศ์ที่ 18 และ 19 ห่างจากกรุงไคโร 675 กม.ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำไนล์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่แห้งแล้ง เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโบราณสถาน มีประวัติมากว่า 3,000 ปี มีวิหารสำคัญ 2 แห่ง คือวิหารลักซอร์ และวิหารคาร์นัค บริเวณตรงข้ามแม่น้ำไนล์ และโบราณสถานที่เป็นสุสานสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง หุบเขากษัตริย์
วิหารลักซอร์ สร้างถวายแก่เทพอมอน-รา กษัตริย์แห่งเทพ และได้รับการบูรณะในปีคศ. 1883 ภายในบริเวณวิหารประกอบด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่และรูปสลักหินแกรนิตขนาดมหึมา สลักเป็นรูปฟาโรห์รามเซสที่2 และมหาราชินีเนเฟอตารี เชิญชมเสาโอบิลิสก์ เสาหินแกรนิตขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักด้วยอักษรอียิปต์โบราณ (เฮโรกริฟฟิค) เพื่อสรรเสริญเทพเจ้าอมอนรา
มหาวิหารคาร์นัค แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองลักซอร์ ประเทศอียิปต์ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในอียิปต์ ทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวอียิปต์โบราณได้เป็นอย่างดี มหาวิหารแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในสมัยฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 ความโดดเด่นของวิหารคาร์นัคนั้นอยู่ที่ รูปปั้นสฟิงซ์หัวแกะ หมอบนั่งเฝ้าอยู่ด้านหน้าวิหารเรียงรายจนเข้าไปถึงด้านใน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของเทพเจ้า มหาวิหารคาร์นัค ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวอียิปต์ที่สวยงาม และยังคงความยิ่งใหญ่จนถึงปัจจุบัน
วิหารลักซอร์ สร้างถวายแก่เทพอมอน-รา กษัตริย์แห่งเทพ และได้รับการบูรณะในปีคศ. 1883 ภายในบริเวณวิหารประกอบด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่และรูปสลักหินแกรนิตขนาดมหึมา สลักเป็นรูปฟาโรห์รามเซสที่2 และมหาราชินีเนเฟอตารี เชิญชมเสาโอบิลิสก์ เสาหินแกรนิตขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักด้วยอักษรอียิปต์โบราณ (เฮโรกริฟฟิค) เพื่อสรรเสริญเทพเจ้าอมอนรา
ถนนสฟิงซ์หน้าแพะ (Sphinx Avenue at Karnak Temple & Luxor Temple) ตั้งอยู่เมืองลักซอร์ ทางภาคกลางของอียิปต์เป็นถนนยาว 2.8 กิโลเมตร ที่เชื่อมระหว่างวัดลุกซอร์และ Karnak ถนนสายนี้เป็นถนนขบวนของเทศกาล Opet จากวัด Karnak ไปยังวิหาร Luxor และแม่น้ำไนล์ ถนนสฟิงซ์ตรงนี้สร้างขึ้นในสมัยฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 1 แห่งราชวงศ์ที่ 30 ส่วนถ้ามองไปทางซ้ายจะเจอกับซุ้มประตูวิหารของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ซึ่งจะเป็นทางเข้าไปยังวิหารลักซอร์ด้านใน
หุบผากษัตริย์ (The Valley of the Kings) ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ที่เทือกเขาทีบัน เป็นที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 63 พระองค์ สุสานแห่งนี้มีทั้งบรรพกษัตริย์ เหล่าราชวงศ์และขุนนาง ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของอียิปต์ที่มีการขุดค้นทางโบราณคดีเกือบศตวรรษ มีอายุกว่า 3,000 ปี ภายในวิหารเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมงดงาม สีของภาพยังคงดูสดใส มีชีวิตชีวาอยู่ และมีสุสานของฟาโรห์ตุตันคาแมนและสุสานของพระนางฮัตเซบสุด สุสานเหล่านี้เป็นสุสานที่ถูกเลือกให้เป็นสุสานที่เก็บ มัมมี่และสมบัติของกษัตริย์
ฟาโรห์ตุตันคาเมน หรือ ตุตันคามุน (Tutankhamun) โลงศพทองคำแท้พร้อมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมนอันดังก้องโลก และสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ อาทิเช่น เตียงบรรทม พัด ของเล่นต่างๆ รถศึก และเก้าอี้บรรลังก์ทองคำที่สลักภาพบนพนักอย่างโรแมนติก โดยเป็นภาพของฟาโรห์ตุตันคาเมนประทับอยู่บนเก้าอี้ และมีพระมเหสีของพระองค์กำลังทาน้ำมันหอมให้ ซึ่งทั้งคู่ใส่รองเท้าแตะคนละข้าง อันเป็นการแสดงถึงความรักความเผื่อแผ่อันลึกซึ้งที่มีต่อกัน
วิหารฮัตเชฟซุต (Mortuary Temple of Hatshepsut) วิหารอายุเก่าแก่กว่า 3,500 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระศพของฟาโรห์หญิง "ฮัตเชฟซุต" หรือที่รู้จักในนาม “ราชินีหนวด” ฟาโรห์หญิงองค์เดียวในประวัติศาสตร์อียิปต์ ที่รุ่งเรืองมากในสมัยของพระองค์ ฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุต เป็นสตรีที่ทรงอำนาจที่สุดในโลกยุคนั้น และทรงความสามารถด้านการปกครองยิ่งกว่าฟาโรห์บุรุษส่วนมาก ทรงเชี่ยวชาญด้านการปกครองและแสดงความเป็นผู้นำจนข้าราชสำนักต่างประจักษ์ในความสามารถ
เมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เดิมทีเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่า'ราคอนดาห์' เมื่อ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล จนเมื่อ 332ปีก่อนคริสตกาลหรือประมาณ 2,300กว่าปี ก่อนพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชมาพบ จึงให้มีการปรับปรุงขยายเมืองเพื่อเป็นเมืองหลวงและตั้งชื่อให้คล้องจองกับชื่อของพระองค์ เมืองอเล็กซานเดรียนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญในตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของ ราชินีเลอโฉมชื่อก้องโลก พระนางคลีโอพัตรา และนายทหารโรมัน มาร์ค แอนโทนี และปัจจุบันเมืองนี้ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ
สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย หรือ หลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs of Kom El Shoqafa) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง สุสานของขาวโรมันในอดีตมีกว่า 50,000 ศพ สุสานใต้ดินแห่งนี้มีสามชั้น ชั้นที่ 1 มีไว้สำหรับลำเลียงโลงและศพ ชั้นที่ 2 เป็นที่ฝังศพ และชั้นที่ 3 ใช้เป็นที่รวมญาติเพื่อระลึกถึงผู้ตาย โดยมีการเลี้ยงสังสรรค์กันทั้งวัน ซึ่งเล่ากันว่าตอนที่นักโบราณคดีค้นพบที่นี่เป็นครั้งแรก บนโต๊ะยังมีขวดไวน์และจานวางอยู่
โรงละครโรมันตั้งอยู่ใจกลางเมืองอัมมาน เมืองหลวงของประเทศจอร์แดน และเป็นโรงละครในแบบโรมันที่จุผู้ชมได้มากถึง 6,000 คน อีกทั้งยังเป็นโรงละครในศตวรรษที่ 2 ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์จนมาถึงปัจจุบันนี้ สำหรับรายละเอียดส่วนอื่นของที่นี่นั้น มันถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นล่างสุดสำหรับผู้ที่มีตระกูลสูงศักดิ์หรือขุนนาง ส่วนชั้นถัดไปสำหรับสมาชิกวุฒิสภา และชั้นบนสุดเป็นที่นั่งสำหรับประชาชนทั่วไป และทางด้านซ้ายของโรงละครจะมีรูปปั้นของนักรบเบดูอินคอยดูแลปกป้องโรงละครแห่งนี้
ป้อมปราการซิทาเดล หรือ ป้อมปราการเคทเบย์ (The Citadel of Qaitbay) ตั้งอยู่ที่เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ สร้างขึ้นในปี 1176 โดยกษัตริย์ซาลามดิน โดยใช้หินจากปิรามิด แห่งกีซ่า มาสร้างกำแพงเพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันประเทศจากสงครามครูเสด
ห้องสมุดอเล็กซานเดรีย ตั้งอยู่ที่เมืองอเล็กซานเดรีย ทางเหนือสุดของประเทศอียิปต์ โดยทีมนักโบราณคดีของโปแลนด์และอียิปต์ ได้ทำการขุดค้นบางส่วนของ เมืองอเล็กซานเดรีย ก็ได้พบสิ่งก่อสร้างซึ่งมีลักษณะคล้ายห้องเรียนและหอประชุม ราว 2,000 ปีที่แล้ว ห้องสมุดแห่งนี้เคยเป็นศูนย์รวมของ นักคิดนักเขียนแห่งโลกโบราณ เป็นที่สะสมผลงานสำคัญของนักปราชญ์กรีก ทั้ง เพลโต โซเครติส และคนอื่นๆ แต่น่าเสียดายที่ผลงานเหล่านั้นถูกเผาทำลายไปพร้อมกับตัวห้องสมุด
กรุงไคโร (Cairo) เมืองหลวงของประเทศอียิปต์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ มีประชากรมากถึง 15.2ล้านคน "ไคโร"ในภาษาอาหรับมีความหมายว่า "ชัยชนะ' โดยเชื่อว่าเกิดจากที่มีการมองเห็นดาวอังคารในช่วงที่ก่อสร้างเมืองและดาวอังคารเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการทำลายล้าง
สุเหร่าแห่งโมฮัมหมัด อาลี (The Mohammad Ali Mosque) สุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา เป็นสถานที่ชาวอียิปต์ให้ความเคารพนับถือ และสักการะตลอดเวลา เป็นสุเหร่าที่สร้างจาก หินอลาบาสเตอร์ (Alabaster) โดยสร้างตามแบบจาก Blue Mosque ในเมืองอิลตันบูล ประเทศตุรกี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1830 และเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1848 เป็นสัญลักษณ์ของกรุงไคโร ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ตัวสุเหร่า และ ส่วนของสนาม บริเวณตรงกลางน้ำพุ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีก ต้องการให้มีรูปแบบเหมือน Blue Mosque
สถานที่ที่รวมศิลปวัตถุโบราณมากมายที่สุด มัมมี่ของฟาโรห์รามเซสที่ 2 โลงศพทองคำแท้พร้อมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมน และสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ อาทิเช่น เตียงบรรทม รถศึกและเก้าอี้บัลลังก์ทองคำ ซึ่งภาพบนพนักเก้าอี้โรแมนติกมาก เป็นภาพของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั่งอยู่บนเก้าอี้และมเหสีของพระองค์กำลังทาน้ำมันหอมให้ ทั้งคู่ใส่รองเท้าแตะคนละข้างอันแสดงถึงความรักอันลึกซึ้ง และชมสมบัติอันล้ำค่าอื่นๆ อีกจำนวนมาก (ห้ามเอากล้องเข้าไป ถ่ายได้เฉพาะข้างนอก)
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553