หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
วิหารฟิเล (Philae Temple หรือ Temple of Isis) ตั้งอยู่เมืองอัสวาน ประเทศอียิปต์ เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีไอซิส เป็นวิหารที่มีความสําคัญและงดงามมาก ในอดีตวิหารนี้เคยถูกสร้างขึ้นบนเกาะฟิเลกลางแม่น้ำไนล์ แต่เมื่อเขื่อนอัสวานสร้างเสร็จ วิหารทั้งวิหารก็จมอยู่ใต้ระดับน้ำ นานาชาติจึงเข้ามาช่วยเหลือโดยการทำทำนบกั้นน้ำ และค่อยๆย้ายหินทีละก้อน ขึ้นมาสร้างวิหารแห่งใหม่ที่เกาะอากิลเกียแทนที่วิหารเดิมแห่งนี้
ออกแบบโดยสถาปนิกเซเนมุท เมื่อกว่า3,500ปีมาแล้ว เพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐานพระศพของฟารห์หญิงฮัทเชปซุท หรือ รู้จักในนามของ ราชินีหนวด ซึ่งเป็นฟาโรห์หญิงพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์อันยาวนานของอียิปต์โบราณ ในสมัยของพระนาง ประเทศอียิปต์เจริญรุ่งเรืองมาก เชิญเยี่ยมชมซากปรักหักพังของที่ประกอบพิธีศพฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ ปัจจุบัน มีเพียงรูปแกะสลักของฟาโรห์นั่งบนบัลลังก์ขนาดมหึมา2รูป สูงถึง41ม หนัก1,200ตัน ถือเป็นอนุสาวรีย์ชนิดหนึ่งของอียิปต์โบราณ ที่สร้างเพื่อบูชาแด่เทพ อามุน-รา หรือ สุริยะเทพ
มหาวิหาร รามเสสที่ 2 (Great Temple of Ramses 2) เป็นวิหารประกอบพิธีศพของฟาโรห์รามเสสที่ 2 พระองค์ทรงสร้างวิหารประกอบพิธีศพของพระองค์ขึ้นบนที่ตั้งวิหารเดิมของฟาโรห์เซติที่ 1 วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่โตมาก ใช้เวลาสร้างนานถึง 20 ปีจึงจะสำเร็จ ปัจจุบันแทบทุกสิ่งที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีตกลายเป็นซากพังไปหมด สิ่งที่น่าสนใจของวิหารรามเสสที่ 2 คือ ภาพแกะสลักบนซุ้มประตู ที่เล่าเรื่องชัยชนะของอียิปต์ต่อชาวฮิตไทต์ในการรบที่เมืองดาปูร์
หมู่บ้านชาวนูเบียน (Nubian Village) ตั้งอยู่บนเกาะเอเอลฟันทีน บ้านแต่ละหลังจะถูกทาสีอย่างสวยงาม เรียกได้ว่าแต่ละบ้านมีสีที่ไม่ยอมน้อยหน้ากันเลย หลากหลายสีมากจริง ๆ ในหมู่บ้านสามารถเดินชมวิถีชีวิตของคนที่นี่ได้โดยรอบ ชาวอียิปต์มองชาวนูเบียนเป็นพวกคนใช้แรงงาน จึงถูกมองว่าเป็นคนอีกชนชั้นหนึ่ง แต่เขาก็มีวัฒนธรรมที่โดดเด่นของเขาเหมือนกัน คนที่นี่มีสีผิวที่ดำมากๆ ด้านในจัดแสดงประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับชาวนูเบียนที่เคยอาศัยอยู่ที่เมืองอัสวานก่อนที่จะมีการสร้างเขื่อนอัสวานขึ้น
ชุมชนโบราณที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอียิปต์ตอนบน ติดริมแม่น้ำไนล์ ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์ ได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งทอง" เนื่องจากเคยเป็นจุดพักค้าขายทองคำและสินค้าที่สำคัญของกองคาราวานที่มาจากนูเบีย,ทะเลทรายตะวันออกและทะเลแดงเมื่อครั้งอดีต ปัจจุบันเป็นเมืองแห่งการเกษตรกรรมที่โดดเด่น เนื่องจากมีการจัดการทางด้านระบบชลประทานที่ดีเยี่ยม บ้านเรือนส่วนใหญ่สูงเพียง1หรือ2ชั้น ระหว่างทางผ่านแหล่งเพาะปลูกสำคัญริมแม่น้ำไนล์ และยังเป็นที่ตั้งของวิหารคอมออมโบที่มีความซับซ้อนสวยงามมาก
วิหารเอ็ดฟู (Temple of Edfu) ได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด เป็นวิหารใหญ่สวยงาม ตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส มีเศียรเป็นเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ มองได้ไกลเหมือนตาเหยี่ยว อดีตวิหารนี้ถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบถึงยอดตัวเสาและหัวเสาเป็นเวลานาน ปีคศ1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังแข็งแรง แน่นหนา
วิหารลักซอร์ สร้างถวายแก่เทพอมอน-รา กษัตริย์แห่งเทพ และได้รับการบูรณะในปีคศ. 1883 ภายในบริเวณวิหารประกอบด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่และรูปสลักหินแกรนิตขนาดมหึมา สลักเป็นรูปฟาโรห์รามเซสที่2 และมหาราชินีเนเฟอตารี เชิญชมเสาโอบิลิสก์ เสาหินแกรนิตขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักด้วยอักษรอียิปต์โบราณ (เฮโรกริฟฟิค) เพื่อสรรเสริญเทพเจ้าอมอนรา
รูปสลักแห่งเมมนอน (Colossi Of Memnon) รูปสลักแห่งเมมนอน รูปสลักยักษ์ใหญ่ 2 รูป ที่มีความสูงถึง 20 เมตร ในสมัยก่อนใช้เป็นที่ฝังพระศพของฟาโรห์อเมนโนฟิสที่ 3 แต่ก่อนคริสตกาลประมาณ 27 ปี ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงทำให้ตัววิหารพังทลายลงมาเหลืองเพียงรูปสลักเพียง 2 รูปนี้เท่านั้น ไม่หลงเหลือซากปรักหักพังอื่นอีกเลย และตามตำนานก็มีเรื่องเล่าว่าเมื่อนักเดินทางผ่านมาก็จะได้ยินเสียงเพลงจากรูปปั้น 2 รูปนี้ ในยามเช้า แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ตำนานที่ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้มาจนถึงทุกวันนี้
หุบผากษัตริย์ (The Valley of the Kings) ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ที่เทือกเขาทีบัน เป็นที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 63 พระองค์ สุสานแห่งนี้มีทั้งบรรพกษัตริย์ เหล่าราชวงศ์และขุนนาง ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของอียิปต์ที่มีการขุดค้นทางโบราณคดีเกือบศตวรรษ มีอายุกว่า 3,000 ปี ภายในวิหารเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมงดงาม สีของภาพยังคงดูสดใส มีชีวิตชีวาอยู่ และมีสุสานของฟาโรห์ตุตันคาแมนและสุสานของพระนางฮัตเซบสุด สุสานเหล่านี้เป็นสุสานที่ถูกเลือกให้เป็นสุสานที่เก็บ มัมมี่และสมบัติของกษัตริย์
วิหารฮัตเชฟซุต (Mortuary Temple of Hatshepsut) วิหารอายุเก่าแก่กว่า 3,500 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระศพของฟาโรห์หญิง "ฮัตเชฟซุต" หรือที่รู้จักในนาม “ราชินีหนวด” ฟาโรห์หญิงองค์เดียวในประวัติศาสตร์อียิปต์ ที่รุ่งเรืองมากในสมัยของพระองค์ ฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุต เป็นสตรีที่ทรงอำนาจที่สุดในโลกยุคนั้น และทรงความสามารถด้านการปกครองยิ่งกว่าฟาโรห์บุรุษส่วนมาก ทรงเชี่ยวชาญด้านการปกครองและแสดงความเป็นผู้นำจนข้าราชสำนักต่างประจักษ์ในความสามารถ
มหาวิหารคาร์นัค แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองลักซอร์ ประเทศอียิปต์ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในอียิปต์ ทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวอียิปต์โบราณได้เป็นอย่างดี มหาวิหารแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในสมัยฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 ความโดดเด่นของวิหารคาร์นัคนั้นอยู่ที่ รูปปั้นสฟิงซ์หัวแกะ หมอบนั่งเฝ้าอยู่ด้านหน้าวิหารเรียงรายจนเข้าไปถึงด้านใน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของเทพเจ้า มหาวิหารคาร์นัค ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวอียิปต์ที่สวยงาม และยังคงความยิ่งใหญ่จนถึงปัจจุบัน
เมืองเมมฟิส ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองที่ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญในการรวมอียิปต์บน และอียิปต์ล่างให้เป็นหนึ่งเดียวโดยกษัตริย์เมนา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 ที่นี่ท่านจะได้ชม รูปแกะสลักขนาดยักษ์ ด้วยหินอลาบาสเตอร์ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ฝีมือการแกะสลักเป็นเยี่ยม ระหว่างทางท่านจะได้เห็นต้นอินทผาลัมขึ้นสวยงามเป็นทิวแถว
ซัคคาราsaqqarahเมืองโบราณฝั่งซ้ายของแม่น้ำไนล์ทางใต้เมืองกีซ่าและอยู่ไม่ไกลจากกรุงไคโรสมัยเมมฟีสรุ่งเรืองเป็นเมืองหลวงซัคคาราคือที่ตั้งสุสานของกษัตริย์และบรรดาขุนนางทั้งหลายได้ชื่อว่าเมืองปีศาจของอียิปต์
พีระมิดแห่งโจเซอร์ หรือ พีระมิดขั้นบันได (Step Pyramid) เป็นโบราณสถานที่ยังคงอยู่ในสุสานในเมืองซัคคาร่าทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของเมืองเมมฟิส มันถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 27 ก่อนคริสตกาล สำหรับการฝังศพของฟาโรห์โจเซอร์ นับว่าเป็นพีระมิดแห่งแรกของอียิปต์ ที่ฟาโรห์โจเซอร์ (Djoser หรือ Zoser) เป็นผู้สร้างขึ้น โดยมี อิมโฮเทป ที่ปรึกษาประจำองค์ฟาโรห์เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ
สถานที่ที่รวมศิลปวัตถุโบราณมากมายที่สุด มัมมี่ของฟาโรห์รามเซสที่ 2 โลงศพทองคำแท้พร้อมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมน และสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ อาทิเช่น เตียงบรรทม รถศึกและเก้าอี้บัลลังก์ทองคำ ซึ่งภาพบนพนักเก้าอี้โรแมนติกมาก เป็นภาพของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั่งอยู่บนเก้าอี้และมเหสีของพระองค์กำลังทาน้ำมันหอมให้ ทั้งคู่ใส่รองเท้าแตะคนละข้างอันแสดงถึงความรักอันลึกซึ้ง และชมสมบัติอันล้ำค่าอื่นๆ อีกจำนวนมาก (ห้ามเอากล้องเข้าไป ถ่ายได้เฉพาะข้างนอก)
สุเหร่าแห่งโมฮัมหมัด อาลี (The Mohammad Ali Mosque) สุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา เป็นสถานที่ชาวอียิปต์ให้ความเคารพนับถือ และสักการะตลอดเวลา เป็นสุเหร่าที่สร้างจาก หินอลาบาสเตอร์ (Alabaster) โดยสร้างตามแบบจาก Blue Mosque ในเมืองอิลตันบูล ประเทศตุรกี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1830 และเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1848 เป็นสัญลักษณ์ของกรุงไคโร ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ตัวสุเหร่า และ ส่วนของสนาม บริเวณตรงกลางน้ำพุ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีก ต้องการให้มีรูปแบบเหมือน Blue Mosque
ตลาดข่าน เอล-คาลิลี (Khan el-Khalili) ในกรุงไคโรเป็นตลาดพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงไคโร มีสินค้าพื้นเมืองหลากหลายรูปแบบให้เพื่อนๆ เลือกซื้อหา ทั้งเครื่องเทศ เสื้อผ้า ผ้าคลุมไหล่ หม้อทองเหลือง ตะเกียง โคมไฟ เครื่องทอง พีระมิดจำลอง กระดาษปาปิรุส ฯลฯ ซึ่งนอกจากการซื้อของแล้วเพื่อนๆ ยังได้เดินชื่นชมบรรยากาศแบบพื้นเมืองพร้อมถ่ายรูปสวยๆ เพราะที่นี่มีร้านค้าที่ตกแต่งอย่างสวยงามหลายร้าน อีกทั้งยังได้เห็นและสัมผัสวิถีชีวิตการทำมาหากินของชาวพื้นเมืองที่นี่อีกด้วย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553