หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินเลโอนาร์โด ดา วินชี ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci International Airport) ตั้งอยู่ในเมืองฟีอูมีชีโน ซึ่งห่างจากศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของโรม 35 กิโลเมตร สนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ด้วยจำนวนผู้โดยสาร 35,226,351 คน ในปี พ.ศ. 2551
นครวาติกัน (Vatican) ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ถือเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ผู้เป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครวาติกันนี้เป็นรัฐอิสระ จัดว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชม เช่น พิพิธภัณฑ์วาติกัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล เป็นต้น
จัตุรัส เซนต์ ปีเตอร์ส (Saint Peter’s Square) เป็นลานวงกลมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของนครรัฐวาติกันอย่าง มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ หรือ มหาวิหารนักบุญเปโตร (St. Peter’s Basilica)
โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ โดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร ออกแบบโดย Francesco Salvi เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ซึ่งเทพเจ้าเนปจูนนี้จะทรงประทับมาบนรถม้ามีปีก ซึ่งซ่อนความหมายเอาไว้ว่าจะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงโรมแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญหนึ่งเหรียญลงในสระน้ำพุเทรวี่ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้หนึ่งข้อ
บันไดสเปน (Spanish Steps) ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1723 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามโปรดระวังกระเป๋าเงินและสิ่งของมีค่าด้วย เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุกชุมของมิจฉาชีพทั้งหลาย
เมืองปิซา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ)ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร เชิญเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 6 มรดกโลก เช่น จตุรัสดูโอโมแห่งปิซา,มหาวิหารปิซา,หอศีลจุ่มเมืองปิซา,หอเอนเมืองปิซา,สุสานนักบุญ,พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา
จัตุรัสเปียเซซ่า (Piazza Square) เมืองบาทูมี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมือง สร้างขึ้นในปี 2009 เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวจอร์เจีย Vazha Orbeladze ที่สร้างด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานและจินตนาการนิทาน และในปี 2011 ที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้เริ่มปรับปรุงเพื่อให้เป็นแหล่งบันเทิงและพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของเมือง ซึ่งประกอบไปด้วยภัตตาคาร โรงแรม ไนท์คลับ และอื่น ๆ
หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) หอคอยหินอ่อนซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ประเทศอิตาลี และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ของศาสนสถานของชาวคริสต์ ใช้เวลาสร้างนานกว่า 176 ปี แต่เกิดการทรุดตัวลงเมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 จึงหยุดก่อสร้างไป จนอีกประมาณ 100 ปีต่อมาถึงมีผู้สร้างต่อได้จนครบ 8 ชั้น และได้นำระฆังไปติดในอีกร่วม 100 ปีต่อมา จนเสร็จสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน กาลิเลโอได้เคยมาพิสูจน์ทฤษฏีการตกของวัตถุที่ยอดของหอเอนแห่งนี้
เวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับฉายาทั้ง ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกัน มีคลองเล็กๆ กว่า 150 คลอง เต็มไปด้วยสะพานกว่า 400 สะพานเชื่อมถึงกัน มีเรือกอนโดล่าเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันดีของนักท่องเทีี่ยว รวมทั้งบ้านเรือนสีสันสดใสอายุเก่าแก่เรียงรายกันอยู่ เวนิสเป็นเมืองมรดกโลกและถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าสุดแสนโรแมนติกของอิตาลีด้วย
ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto Pier) อยู่ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นจุดจอดรับ-ส่ง เป็นท่าล่องเรือที่มีเรือบริการในการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ของเมือง มีการบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งคลองโดยทางเรือ นับเป็นเมืองที่คลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือเพื่อผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใครโดยใช้เรือแทนรถใช้คลองแทนถนน
เกาะเวนิส (Venice Island) หรือเวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก สมญานามว่าเป็น ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เพราะในเกาะแห่งนี้มีคลองมากมายหลายสาย แล้วยังมีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ มีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง บริเวณซานมาร์โคนั้นเป็นศูนย์กลางของเกาะเวนิสแห่งนี้ ไฮไลต์สำคัญของที่แห่งนี้ คือ การนั่งเรือกอนโดล่าชมบรรยากาศของเมือง และการไปชมความงดงามของมหาวิหารซันมาร์โก
จัตุรัสเซนต์มาร์ก หรือ จตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco | Saint Mark Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิส ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก เป็นจุดเด่นของลานกว้าง บริเวณรอบๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ไว้คอยบริการมากมาย และรอบๆ จัตุรัสยังมีอาคารที่สำคัญสองแห่งคือ หอระฆัง และ หอนาฬิกา อีกด้วย
มหาวิหารซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก (St. Mark’s Basilica) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้ชมเข้าชมมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซานมาร์โค ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์ มีการประดับอย่างงดงามด้วยโมเสก และประติมากรรมต่างๆ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจ และความมั่งคั่งของเวนิส
พระราชวังดอจส์ เป็นที่ทำการของรัฐบาลเวนิสและที่พำนักของผู้ดำรงตาแหน่งเจ้าเมืองในอดีต ตัวอาคารกะทัดรัดในแบบโกธิค เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มากว่า 800 ปีมาแล้ว เมื่อสมัยเวนิสยังเป็นสาธารณรัฐอิสระ ซึ่งเคยร่ำรวยและมีอำนาจมหาศาลและเคยส่งให้มาร์โคโปโลเดินทางไปเมืองจีน เชิญเยียมชมพระราชวังเก่าโบราณเวนิส และเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีตในอดีต
หอระฆังซันมาร์โก (St. Mark's Campanile) หอระฆังใจกลางเมืองเวนิส สูง 98.6 เมตร สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงสมัยศตวรรษที่ 12 ต่อมาสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในช่วงสมัยศตวรรษที่ 16 ในการสร้างขึ้นใหม่นั้นได้ต่อเติมรูปปั้นอัครเทวดามิคาเอลเข้าไปด้วย ซึ่งรูปปั้นนี้ทำหน้าที่เป็นกังหันที่บอกทิศทางลม ระฆัง 5 ใบที่อยู่ในหอระฆังแห่งนี้ มีเพียงใบที่ใหญ่ที่สุดเท่านั้นที่ยังเป็นใบที่เก่าแก่ที่สุด ส่วนระฆังใบอื่น ๆ เป็นใบที่ทดแทน หลังจากที่เกิดเหตุการณ์หอระฆังถล่มเมื่อปี ค.ศ. 1902
สะพานสะอื้น หรือบางคนเรียกว่า "สะพานแห่งการทอดถอนใจ” ซึ่งทอดข้ามด้านหลังวังของผู้ปกครองเวนิสในอดีต ไปยังคุกที่อยู่อีกฟากฝั่งคลอง ว่ากันว่าสะพานแห่งนี้คือจุดหายใจเฮือกสุดท้ายแห่งอิสรภาพของเหล่านักโทษ และคุกแห่งนี้เองเป็นที่คุมขังนักรักกระเดื่องนาม “คาสโนว่า” ซึ่งเขาเป็นนักโทษเพียงคนเดียวที่สามารถแหกคุกนี้หนีออกมาได้ปัจจุบันวังแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษาไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญของเมือง
สะพานริอัลโต (Rialto Bridge) สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 สะพานนี้มีประวัติที่น่าสนใจเพราะเป็นสะพานที่ทอดข้ามแกรนด์คาเนลเพียงแห่งเดียวมายาวนานเป็นพันปี เดิมเป็นสะพานไม้ ปัจจุบันปรับปรุงซ่อมแซมใหม่เป็นสะพานหินแข็งแรง จนกระทั่งถึงปี ค.ศ.1854 จึงมีการสร้างสะพานแห่งใหม่ข้ามแกรนด์คะแนลเพิ่มขึ้น สะพานริอัลโตนับว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเวนิส และสามารถะมองเห็นวิวสวยมุมกว้างสวยๆ ของคลองใหญ่ได้ดี และบริเวณรอบๆ สะพานจะมีร้านขายของที่ระลึกมากมาย
เมืองเมสเตร้ (Mestre) เป็น Gateway to Venice ในแคว้นเวเนโต้ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ด้วยอาคารประวัติศาสตร์ สวนสาธารณะเขียวชอุ่ม และวัฒนธรรมอิตาลีแบบดั้งเดิมที่ทำให้ภูมิภาคชนบทแห่งนี้ เป็นที่ท่องเที่ยวอันสะดวกสบายและสวยงาม ห่างจากคลองเวนิสไปเพียงไม่กี่นาที เมืองเมสเตรเป็นย่านเล็ก ๆ ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ เต็มไปด้วยสวนสาธารณะ ร้านดีไซเนอร์แบรนด์ดัง และจัตุรัสที่มีแลนด์มาร์กเก่าแก่
เมืองมิลาน หรือ มิลาโน่ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก มิลานเป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ 1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า “ปาเนตโตเน” อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน มีแกลอรี่ชื่อดัง โบสถ์ที่สวยงาม และโรงละครโอเปร่า
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
เมืองอินเทอร์ลาเคิน หนึ่งในเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ถูกขนาบข้างด้วย 2 ทะเลสาบ คือทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออินเทอร์ลาเคนที่มีความหมายว่า ‘เมืองระหว่างสองทะเลสาบ เป็นเมืองที่มีทางผ่านไปสู่ยอดเขาจุงเฟรา ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาแอลป์ฉายา Top of Europe เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อน เพราะบรรยากาศของเมืองที่สวยงาม ธรรชาติและอากาศบริสุทธิ์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลสาบและสวนผลไม้ จนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่
กรินเดลวาลด์ (Grindelwald) เมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงของรัฐเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนเทือกเขากรุงเบิร์น-แอลป์ (Bernese-Alps) อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร เมืองเล็กๆ แห่งนี้คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก เนื่องจากกรินเดลวาลด์เป็นเมืองแห่งรีสอร์ทกีฬาฤดูหนาวและมียังหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) อีกด้วย
สถานีรถไฟจุงเฟรายอค (Jungfraujoch Railway Station) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ด้านบนของเขาจุงเฟรายอค ที่สถานีปลายทาง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การสร้างทางรถไฟสายนี้ ที่จัดแสดงในอุโมงค์ยาว พร้อมทั้งมีถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่มีรูปปั้นแกะสลัก และอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็งให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย ซึ่งจุดนี้เป็นอีกจุดที่พลาดไม่ได้เลย เนื่องจาก Ice Palace เป็นถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย และภายในมีการแกะสลักน้ำแข็งอยู่ตามจุดต่างๆ ให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย
ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) เป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดของยอดเขาจุงเฟรา เป็นอุโมงค์น้ำแข็งที่ มีรูปปั้นแกะสลัก และอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็งให้ได้เที่ยวชม ถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร ภายในจะมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตามจุดต่างๆให้เรามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
อุโมงค์โลกอัลไพน์ (Alpine Sensation) อุโมงค์แห่งนี้ได้จัดแสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรมและธรรมชาติของชาวเมือง มีทางเดินที่ยาวถึง 250 เมตร ระหว่างทางเดินไป Sphinx Hall และ Ice Palace และเราอาจได้รับประสบการณ์ชวนขนหัวลุก ที่นอกเหนือไปจากอุณหภูมิที่หนาวเหน็บของที่แห่งนี้
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ฉายา Top of Europe และ ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007 โดยมีสถานีรถไฟจุงเฟรายอค (Jungfraujoch) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปตั้งอยู่ด้านบน
ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เชิญเที่ยวชมวิวทิวทัศน์สวยงาม เช่ย น้ำตกทรุมเมลบาค อยู่ในภูเขาวนวนเป็นเกลียว เกิดจากธารน้ำแข็งมี10ชั้น และน้ำตก Staubbach น้ำไหลแรงและเย็นมากๆ เห็นมีฝูงแกะที่เขาเลี้ยงอยู่รอบๆ ส่วนถนนในหมู่บ้านของเมืองมีเส้นดียวขนานไปกับช่องเขา สำหรับร้านค้าต่างๆในเมืองนี้ อยู่ใกล้ๆกัน รวมถึงร้านสหกรณ์ ที่นี่ ยังเป็นจุดรวมของรถไฟหลายสาย ที่สถานี Lauterbrunnen เชิญเที่ยวชมความงามของภูเขาที่อยู่รายรอบแนวเทือกเขา Alps,หุบเขา Lauterbrunnen Valley รวมถึงยอด Jungfrau
น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach Waterfall) ตั้งอยู่ในเมืองเมืองเลาเทอร์บรุนเนิน เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในที่สูงกว่า 300 เมตร ซึ่งมีทางน้ำผ่านซอกหน้าผาลงมาแบบไม่มีสิ่งกีดขวาง และเบื้องล่างของน้ำตกแห่งนี้มีหมู่บ้านน่ารัก ๆ ตัดกับทิวเขาที่ล้อมโดยรอบ น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ เมื่อถึงฤดูร้อนจะมีสายลมอันอบอุ่นพัดพาสายน้ำที่กำลังตกลงสู่เบื้องล่าง จึงทำให้มีละอองน้ำกระจายไปทั่วทิศทาง ดังนั้นน้ำตกแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า น้ำตกชเตาบ์บาค ซึ่งคำว่า ชเตาบ์ (staub) แปลว่า ฝุ่นละออง นั่นเอง
ดิจอง หรือ ดีฌง หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม และน่าค้นหาเมืองหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโคต-ดอร์ในแคว้นบูร์กอญในประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ ถือเป็นเมืองสำคัญแห่งแคว้นเบอร์กันดี เป็นแหล่งไวน์และมัสตาร์ดชั้นดีอีกแห่งของฝรั่งเศส มีแหล่งท่องเที่ยวและทัศนียภาพสวยงามต่างๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้าไปสัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองดิจอง มีของฝากและของที่ระลึกท้องถิ่นให้เลือกซื้อ
ลา วัลเลย์ วิลเลจ เอาท์เลท (La Vallee Village Outlet) เป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นมาเพื่อเหมาะกับนักช้อปปิ้ง เพราะสร้างสไตล์ Chic เป็นแบบเปิดโล่ง มีร้านค้าประมาณ 900 กว่าร้านค้า และมีแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกกว่า 80 แบรนด์ ที่ให้เราได้เลือกซื้อได้อย่างจุใจ เช่น Giorgio Armani, Burberry, Celine, Longchamp, Givenchy, Salvatore Ferragamo, Christian Lacroix, Kenzo, Miss Sixty, Bodum, Calvin Klein, Versace, Polo, Diesel, Cacharel, Camper, Dunhill, Lancel, Nina Ricci, Timberland, Tommy Hilfiger และอื่น ๆ
ปารีส (Paris) เมืองหลวงแสนสวยของฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน มหานครปารีส คือหนึ่งในเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันอยากมาเยือน ด้วยความงามของสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ หรือเรื่องราวของแฟชั่น ดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง เชิญเต็มอิ่มสนุกไปกับการซื้อของ และเดินท่องเที่ยวไปบนถนนเส้นต่างๆ ของเมืองปารีสเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศทั้งโมเดิร์นและประวัติศาสตร์แสนประทับใจ
จัตุรัสทรอคคาเดโร อยู่กลางกรุงปารีส เป็นจุดยอดนิยมในการชมวิวหอไอเฟล โดยฝั่งตรงข้ามของจตุรัสนี้ คือ ฝั่งโรงเรียนการทหาร ซึ่งโดยทั้งสองจุดนี้ เป็นจุดสวยที่สุด และสามารถมองเห็นตัวหอไอเฟลได้ทั้งหมดอย่างชัดเจน เชิญเดินเล่นชมบริเวณลานจัตุรัสคองคอร์ด ออกแบบโดยเลอโนตร สถาปนิกผู้ริเริ่มสร้างเมืองแวร์ซายส์ให้พระเจ้าหลุยส์ที่14 ที่ชวนให้ระลึกถึงการปฏวัติใหญ่ฝรั่งเศส ที่นี่..เป็นจุดสำคัญของเมืองปารีส เพราะสามารถเดินเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจรอบๆ ได้อย่างเพลิดเพลินใจและยังได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมด้วย
หอไอเฟล (Eiffel Tower) หนึ่งในสิ่งก่อสร้างโครงเหล็กที่โด่งดังสุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นสัญลักษณ์ของนครปารีสและประเทศฝรั่งเศส ที่ใครต่อใครที่มาเที่ยวจะต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกมาเคยมาเยือนฝรั่งเศสด้วยราวกับเป็นธรรมเนียม หอไอเฟลสร้างขึ้นใน ค.ศ.1887-1889 โดยวิศวกรและสถาปนิกชื่อดังในยุคนั้นอย่าง "กุสตาฟ ไอเฟล" ในยามค่ำคืนหอไอเฟลและบริเวณโดยรอบยังเปิดไฟประดับสวยงาม และมุมดีที่สุดในการถ่ายภาพหอไอเฟล คือ บริเวณทรอกาเดโร (Trocadéro)
ล่องเรือแม่น้ำแซน ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่งในการชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองริมสองฝั่งแม่น้ำแซน ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส ผ่านชมโบสถ์นอร์ทเทรอดามสร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างงดงาม ชมความงดงามของโบราณสถานและอาคารเก่าแก่ สร้างขึ้นตามสไตล์ของศิลปะเรอเนสซองส์ ตลอดทางได้ความประทับใจกับความสวยงามของทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีส ชื่อว่าเป็นนครที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles) วังหลวงอันโด่งดัง ยิ่งใหญ่ และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์ มหานครปารีส พระราชวังแวร์ซายส์ นับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน ภายในห้องต่างๆ ของพระราชวังล้วนมีค่าด้วยภาพเขียนสีแบบเฟรสโก้ โดยช่างฝีมือเอกชาวฝรั่งเศส ควรค่าแก่การยกย่องให้ เป็นพระราชวังที่งดงามล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ปารีส (Paris) เมืองหลวงแสนสวยของฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน มหานครปารีส คือหนึ่งในเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันอยากมาเยือน ด้วยความงามของสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ หรือเรื่องราวของแฟชั่น ดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง เชิญเต็มอิ่มสนุกไปกับการซื้อของ และเดินท่องเที่ยวไปบนถนนเส้นต่างๆ ของเมืองปารีสเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศทั้งโมเดิร์นและประวัติศาสตร์แสนประทับใจ
แกลเลอรีลาฟาแยตต์ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของกรุงปารีส เปิดกิจการในค.ศ.1894 ในย่านโอเปร่าที่คนปารีสชอบเดินช้อปปิ้งกันมากที่สุด มีแฟชั่นโชว์ให้ชมฟรีทุกๆสัปดาห์ แถมมีร้านอาหารแบบบริการตนเองกับทิวทัศน์ที่สวยงามบนชั้น6 ซึ่งสามารถมองเห็นตึกโอเปร่าได้อย่างชัดเจน ห้างสรรพสินค้านี้มีสินค้าหลายหลากยี่ห้อ และมีสิ่งของทุกประเภทไว้ล่อตาล่อใจนักช้อปปิ้งแบรนด์ดังๆ ให้เลือกสรรได้อย่างครบครัน เช่น Amani,Chanel,Parda,John Galliano เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือ Musee Du Lurve เป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะสำคัญแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองปารีส แคว้นอิล-เดอ-ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าไว้มากกว่า 40,000 ชิ้น รวมไปถึงผลงานชื่อก้องโลกอย่าง ภาพวาดโมนาลิซ่า ของศิลปินลีโอนาโด ดาวินซี หรือ รูปปั้น Venus de Milo ที่นี่จึงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยังเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง รหัสลับดาวินซีอีกด้วย
ประตูชัยอาร์ค เดอ ตรีอองฟ์ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นประตูชัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 1 ในปี ค.ศ.1810 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของพระองค์ ออกแบบโดยสถาปนิกที่ชื่อ ฌ็อง ชาลแกร็ง มีอายุกว่า 200 ปี
ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs-Élysées) ตั้งอยู่เขตที่ 8 ของกรุงปารีส เป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฝรั่งเศส สวรรค์ของนักช็อปจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งมีย่านศูนย์การค้าระดับพรีเมียม เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทุกแบรนด์ ซึ่งสมกับเป็นย่านธุรกิจที่เป็นหัวใจสำคัญของกรุงปารีส นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารที่มีความหรูหราอลังการ และอีกมากมายที่สร้างความตื่นตาตื่นใจตลอดสองข้างทาง ที่สมกับได้ชื่อว่าเป็นถนนสายที่สวยที่สุดในโลก
สนามบินนานาชาติชาเดอโก หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติชาเดอโก (Charles de Gaulle International Airport) ตัวย่อสนามบิน: CDG หรือเรียกโดยทั่วไปว่า ท่าอากาศยานรัวซี (Roissy) ตั้งอยู่ที่รัวซี กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อยู่ห่างจากตัวเมืองปารีสไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร นับเป็นประตูสำคัญในการเดินทางเข้าออกประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังเป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินแอร์ฟรานซ์ด้วย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553