หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองทบิลิซี (Tbilisi) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่ในหุบเขาที่งดงาม และก็ยังเป็นศูนย์กลางการปกครองและย่านเศรษฐกิจของประเทศจอร์เจีย ประกอบกับมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เพราะมีแหล่งน้ำมากมายพร้อมกับมีทำเลที่ดีในการปกครอง ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองหลวงในที่สุด ชื่อทบิลิซิ แปลว่าที่ตั้งอันอบอุ่น มีที่มาจากน้ำพุร้อนกำมะถัน ซึ่งผุดพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมิทควารี
ย่านเมืองเก่าทบิลิซี (Old Town Tbilisi) เป็นด่านเมืองเก่าของเมืองทบิลิซี่ ซึ่งในจุดนี้ เราจะสามารถมองเห็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5-20 อาทิเช่น วิหารซามีบ้าแห่งกรุงทบิลิซี่ (Holy Trinity Cathedral Of Tbilisi) สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace) โบสถ์เมเตฆี (Metekhi Church) และโบสถ์เก่าแก่อายุราว 800 ปี แต่ตึกรามบ้านช่องที่สร้างมาก่อนคริสศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่ถูกทำลายไปจนหมด จากการรุกรานของชาวเปอร์เซียในปี ค.ศ.1795
ป้อมปราการนาริกาลา (Narikala Fortress) สร้างขึ้นครั้งแรกช่วงคริสตวรรษที่ 4 มีการเปลี่ยนมือผู้ปกครองมากมาย ทั้งชาวอาหรับ มองโกล เปอร์เซีย เติร์ก รัสเซีย ตัวอาคารที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 มาสัมผัสความงดงามของโบสถ์ที่อยู่ภายในนี้คือ โบสถ์นักบุญนิโคลาส (St. Nicholas Church) ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 หากมองลงมาจากป้อม เราจะได้เห็นความผสมผสานกลมกลืนกัน ระหว่างผู้คนหลากหลายชนชาติที่มาอยู่กันในเมืองนี้ ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติอีกด้วย
โบสถ์เมเคตี (Metekhi Church) เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาที่เบื้องล่างเป็นแม่น้ำมิตคาวารี ในอดีตถูกใช้เป็นป้อมปราการ และที่พำนักของกษัตริย์ ในบริเวณเดียวกัน จะมีอนุสาวรีย์ทรงม้าของกษัตริย์วาคตัง กอร์กาซาลี ผู้สร้างเมืองตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม
ถนนซาร์เดนี ถนนคนเดินสายเล็กๆ ที่เป็นศูนย์รวมทางสังคมและวัฒนธรรม หลังจากการฟื้นฟูในศตวรรษที่ 9 ได้เปลี่ยนชื่อถนนมาเป็นซาร์เดนีเหมือนในปัจจุบันเพื่อเป็นเกียรติแก่นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส Jean Chardin ปัจจุบันถนนคนเดินสายนี้เรียงรายไปด้วยร้านค้าแฟชั่น และร้านกาแฟ
สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace) เป็นอีกหนึ่งงานสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจในเมืองทบิลิซี ออกแบบโดย สถาปัคนิกชาวอิตาเลื่ยนชื่อ Michele De Lucchi สะพานมีความยาวที่ 150 เมตร โครงสร้างนั้นถูกออกแบบและสร้างที่ อิตาลี่ และ นำเข้ามาโดยรถบรรทุก 200 คัน เพื่อเข้ามาติดตั้งในเมือง Tbilisi ที่ตั้งนั้นอยู่บนแม่น้ำ Mtkvari River สามารถมองเห็นได้หลายมุมจากในเมือง และยังมี illuminating ที่จะแสดงแสงสีจากไฟ LED ที่ติดตัวรอบตัวสะพานเป็นเวลา 90 นาทีก่อนพระอาทิตย์จะตกลับขอบฟ้าไป
เมืองมิสเคด้า (Mtskheta) เป็นศูนย์กลางทางศาสนาของประเทศจอร์เจีย เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ห่างจากกรุงทบิลิซี ประมาณ 20 กม. และในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอิเบเรีย (Iberia Kingdom) ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล ถึงปี ค.ศ. 500 แต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรจากสมัยนั้นหลงเหลืออยู่แล้ว ศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแผ่ในเมืองนี้ช่วงศตวรรษที่ 4 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนที่นี่เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1994
มหาวิหารจวารี (Jvari Monastery) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อารามแห่งไม้กางเขน (Monastery of the Cross) อันศักดิ์สิทธิ์ของศานาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ สร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียสักการะนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางโถง ชาวเมืองได้ให้ความเคารพนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก และได้กล่าวกันว่า นักบุญนีโน่ หรือแม่ชีนีโน่แห่งคัปปาโดเกีย (เมืองหนึ่งในประเทศตุรกีปัจจุบัน) ได้นำไม้กางเขนนี้เข้ามา พร้อมกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เป็นครั้งแรกในช่วงโบราณกาล
วิหารสเวติสเคอเวรี (Svetitskhoveli Cathedral) สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze ตัววิหารมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ. 337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย
ป้อมอันนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16-17 ร่องรอยของซากกำแพงที่ล้อมรอบป้อมปราการแห่งนี้ ได้หลงเหลือไว้เปรียบเสมือนม่านที่ซ่อนเร้นความงดงามของโบสถ์ 2 หลังที่ตั้งอยู่ภายใน ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวเวอร์จิน ภายในยังมีหอคอยทรงสี่เหลี่ยมใหญ่ที่ตั้งตระหง่านให้เราได้ชม
เมืองคัสเบกิ (Kazbegi) หรือในปัจจุบันคือ เมืองสเตปันสมินดา (Stepantsminda) ซึ่งชื่อเมืองนี้เพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี ค.ศ. 2006 นี้แต่คนมักจะเรียกติดปากกันอยู่ว่า คัสเบกิอยู่ เมืองนี้ตั้งอยู่ในความสูงที่ 1,700 เมตร และถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส ที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย มีภูมิทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคัสเบกิอีกด้วย
โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) โบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย โบสถ์คริสต์นิกายจอร์เจียนออร์โธด็อกซ์เก่าแก่นี้ สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 บนยอดเขาที่มีความสูงถึง 2,170 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติของเทือกเขาคอเคซัสรอบทิศ และโบสถ์เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา จึงทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่สมัยที่จอร์เจีย ยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต
เมืองซาดาโคล (Sadakhlo) อยู่ทางด้านใต้ ซึ่งเป็นเมืองพรมแดนที่อยู่ติดกับอาร์เมเนีย และยังตั้งอยู่ใกล้กับอะเซอร์ไบจานอีกด้วย จึงทำให้เป็นเมืองที่มี 3 บรรยากาศ คือ ความเป็นจอร์เจีย เป็นอาร์เมเนียและเป็นทั้งอะเซอร์ไบจาน ตลอดเส้นทาง ท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์และธรรมชาติอันสวยของเทือกเขาคอเคซัสน้อยที่อยู่ระหว่างอาร์เมเนียและอะเซอร์ไบจานอย่างประทับใจ
เมืองฮักห์พาท (Haghpat) เป็นเมืองในหมู่บ้านของจังหวัดลอรี่ ที่อยู่ทางด้านเหนือของอาร์เมเนีย เมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเพราะเป็นที่ตั้งของวัดอารามโบราณทั้งสองแห่งให้ท่านได้ชมความสวยงามของ วัดอารามโบราณฮักห์พาท (Haghpat Monastery) ซึ่งถือได้เป็นผลงานชิ้นเอกของทางด้านศาสนาและทางด้านสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างในยุคกลาง
อารามฮักห์พาท (Haghpat Monastery) เป็นอารามอาร์เมเนียยุคกลาง หรืออารามไบแซนไทน์ที่มีความซับซ้อนทางศาสนา ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 10 ในราชวงศ์คลูริเคียน เป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมทางศาสนาในยุครุ่งเรืองสูงสุดซึ่งมีรูปแบบอันเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น และนอกจากนั้นก็ยังมีแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นใกล้ๆ กัน คือ อารามซานาฮิน (Sanahin Monastery) และสถานที่ทั้งสองแห่งนี้และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปีค.ศ.1996
เมืองดิลิจัน (Dilijan) เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อของอาร์เมเนีย มักจะเรียกขานกันว่าสวิตเซอร์แลนด์แห่งอาร์เมเนีย ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,500 เมตร จึงทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี กิจกรรมที่นิยมของนักท่องเที่ยว ได้แก่ การเดินป่า ปั่นจักรยานเสือภูเขา และปิกนิก
เมืองเซวาน (Sevan) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเซวาน ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในอาร์เมเนียและภูมิภาคคอเคซัส และหนึ่งในทะเลสาบน้ำจืดที่ตั้งอยู่ในที่สูงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะเลสาบกว้าง 940 ตารางกิโลเมตร จุน้ำ 34 พันล้านลูกบาศก์เมตร ทะเลสาบเซวานล้อมรอบด้วยแม่น้ำและลำธารถึง 28 แห่ง ที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำฮราชดาน และแม่น้ำมาสริค
อารามเซวาน (Sevan Monastery) หรือมีชื่อเรียกว่า เซวานาแว๊งค์ (Sevana-vank) ซึ่งคำว่า แว๊งค์ เป็นภาษาอาร์เมเนียมีความหมายว่า โบสถ์วิหาร สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณแหลมที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฝั่งทะเบสาบเซวานถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 874 โดยเจ้าหญิงมาเรียม ซึ่งเป็นธิดาของกษัตริย์อะช๊อตที่1 ซึ่งอยู่ในช่วงของการต่อสู้กับพวกอาหรับที่ปกครองดินแดนแห่งนี้
กรุงเยเรวาน (Yerevan) เมืองหลวงของอาร์เมเนีย เป็นภาพสะท้อนของอดีตอันยาวนานนับพันปีของประเทศที่ตั้งอยู่ในจุดบรรจบของเอเชียและยุโรป เยเรวานเป็นเมืองใหญ่ตั้งอยู่ในหุบเขาอารารัต ทางใต้ของเมืองคือช่องเขาแม่น้ำโวโรแทน ตึกรามบ้านช่องในเยเรวานละม้ายคล้ายคลึงไปทางโซเวียตรัสเซียเป็นส่วนใหญ่ คือจะสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมบล็อกๆ ทึบๆ เนื่องจากเป็นหนึ่งในสหภาพโซเวียตมาก่อน
หมู่บ้านการ์นี (Garni Village) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอะซาท การ์นีเป็นชุมชนโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีชุมชนเล็กๆ ตั้งกระจายกันอยู่ตามริมแม่น้ำอะซาท ต่อมาในศตวรรษที่ 8 การ์นีถูกครอบครองโดยกษัตริย์อาร์กิสห์ตี้ที่ 1 แห่งอาณาจักรอูราร์เทียน
วิหารการ์นี (Garni temple)เป็นอาคาร Colonnaded เเบบกกรีกโรมัน สร้างขึ้นด้วยไอโอนิด มีอายุกว่า 1,700 ปีในหมู่บ้าน Garni เป็นโครงสร้างที่มีชื่อเสียงของอาร์เมเนีย
วิหารเก็กฮาร์ด (Geghard Monastery) เป็นอารามยุคกลางเเกะสลักจากบางส่วนของภูเขาได้รับเป็นมรดกโลกอารามก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 4 อารามแห่งนี้เคยมีชื่อว่าAyrivank (Այրիվանք) ซึ่งมีความหมายว่า "อารามแห่งถ้ำต้นกำเนิดมาจากหอกซึ่งได้รับบาดเจ็บที่พระเยซูที่ตรึงกางเขน
อนุสาวรีย์มาเธอร์อาร์เมเนีย (Statue of Mother Armenia) เป็นรูปปั้นผู้หญิงขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมมองทั่วทั้งเมือง ซึ่งเป็นรูปปั้นที่งดงามที่สุด แห่งอาร์เมเนียตั้งอยู่ในสวนสาธารณะแห่งชัยชนะ Statue of Mother Armenia
พิพิธภัณฑ์มาเทนาดาราน หนึ่งในยุดยอดพิพิธภัณฑ์ของโลกที่เก็บรวบรวมต้นฉบับตำราโบราณกว่า 2,000 ภาษาจากทั่วโลกไว้มากกว่า 30,000 ฉบับ ทั้งภาษาอาร์เมเนียนโบราณ กรีก โรมัน ซีเรีย ฮิบรู เปอร์เซีย จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย ฯลฯ เนื่องจากอาร์เมเนียเป็นประเทศในจุดเชื่อมต่อยุโรปและเอเชีย จึงเป็นเหมือนศูนย์กลางของคนเดินทาง พ่อค้า ขบวนทัพ พระ หมอสอนศาสนา นักปราชญ์ บัณฑิต ที่เดินทางไปมาและแวะพักกันมาแต่โบราณ อาร์เมเนียจึงได้มีตำราโบราณเหล่านี้ไว้ในครอบครอง
เยเรวานแคสเคดคอมเพล็กซ์ อุทยานทางศิลปะขนาดยักษ์ สร้างเป็นบันไดขนาดมหึมา 572 ขั้น สูงกว่า 500 เมตร ลาดขึ้นไปบนไหล่เขากลางใจเมือง มีการปล่อยน้ำให้ตกลงมาคล้ายน้ำตกจำลอง ด้านล่างสุดเป็นสวนหย่อม และมีรูปประติมากรรมลอยตัวน่ารักๆ อัดแน่นไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์ ด้านบนมีลิฟท์ บันไดเลื่อน และบันได ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปจุดสูงสุดของยอดเขา ชมวิวกรุงเยเรวานจากมุมสูงได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว ในวันที่ท้องฟ้าสดใสจะเห็นยอดเขาอารารัตในตำนานเรือโนอาห์ ยืนตระหง่านเป็นแบ๊กกราวน์ของเมืองอย่างสุดอลังการ
ตลาดชูคา เป็นตลาดขายผลไม้ มีทั้งผลไม้สด ผลไม้แห้ง และถั่วต่างๆ มีแผงขายนับร้อยๆ แผง นอกจากนี้ยังมีขนมหวาน อาทิ ลาวาช แผ่นแป้งหวาน แบนๆ รูปร่างกลมๆ รีๆ ซูจุ๊ก แป้งม้วนใส่ไส้ถั่ววอลนัตหรือแมคาเดเมีย เนื้อแป้งจะมีความพิเศษ เพราะใช้แอปเปิล แอปริคอต พีช มากวนผสมกับน้ำผึ้ง แล้วตีให้เป็นแผ่นแป้ง จึงหวานอร่อยกำลังดี
อาร์ทาชัต (Artashat) บนที่ราบสูงอารารัต ตรงรอยต่อพรมแดนตุรกี ตะวันออก กับอาร์เมเนียตะวันตก ซึ่งในสมัยโบราณพื้นที่ตรงนี้ทั้งหมดคือดินแดนของอาร์เมเนีย แต่เพิ่งมาเสียไปให้ตุรกีในภายหลัง ประมาณช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1-2
วิหารคอร์วิราพ โบราณสถานสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอาร์เมเนีย ด้วยว่ามันคือสถานที่จองจำนักบุญเกรกอรีนานถึง 13 ปี ในคุกใต้ดินที่แทบจะมืดมิด วิหารคอร์วิราพจึงกลายเป็นสถานที่แสวงบุญสำหรับคริสต์ศาสนิกชนจากทั่วสารทิศ จากวิหารนี้ท่านจะมองเห็นยอดเขาอารารัต สูง 5,137 เมตร ในเขตตุรกีได้อย่างชัดเจน
หมู่บ้านอะเรนี ที่ตำนานกล่าวไว้ว่ามีการผลิตไวน์มากว่า 6,000 ปีแล้ว ซึ่งนักโบราณคดียังได้พบหลักฐานต่างๆ มากมาย ได้พบเซลล์ของต้นพืชที่นำมาผลิตไวน์ที่ได้ถูกทิ้งเอาไว้ภายในบริเวณถ้ำต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านอะเรนี ชาวอเมริกาและไอริสได้มีการศึกษาเกียวกับการผลิตไวน์ในสมัยโบราณของชาวอาร์เมเนีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกไวน์เป็นประเทศแรกในโลก
โรงงานผลิตไวน์ท้องถิ่นที่หมู่บ้านอะเรนี่ (areni winery) มีตำนานการทำเหล้าไวน์มานานกว่าหกพันปีแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้ชมและสัมผัสกับการทำเหล้าไวน์ที่มีชื่อเสียงมานานของหมู่บ้านแห่งนี้ พร้อมทั้งลองลิ้มชิมรสชาติของเหล้าไวน์รสเลิศ ที่มีการทำแบบพิธีการโบราณอันดั้งเดิมของอาร์เมเนีย
เมืองโนราแว๊งค์ (Noravank) ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดวายอทส์ ดีซอร์ทางด้านใต้ โดยเมืองนี้มีโบสถ์และวิหารที่เก่าแก่ที่สำคัญๆ เช่น วิหารโนราแว๊งค์ (Noravank Monastery Complex) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 13 นอกจากนั้นยังมีโบสถ์ที่ถูกสร้างในปี ค.ศ.1339 เป็นอนุสาวรีย์ที่ฝังศพที่อยู่ทางด้านใต้ สถานที่แห่งนี้ได้ถูกปฏิสังขรณ์ให้ดีขึ้นและได้เปิดให้เข้าชมเมื่อปี ค.ศ.1999 ซึ่งจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของบริเวณรอบๆ รวมถึงทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาอีกด้วย
วิหารโนราแว๊งค์ สถาปัตยกรรมชิ้นเอกของอาร์เมเนียนยุคกลาง สร้างในศตวรรษที่ 14 โดยนักสอนศาสนายูนิค แต่ตัวโบสถ์ใหญ่ถูกสร้างประมาณปีค.ศ.1227 โดยนักบุญคาราเพท บริเวณประตูทางเข้าหรือตามหน้าต่างทางด้านหน้าจะถูกสร้างให้มีส่วนที่ยื่นออกมาปกคลุมและได้รับการแกะสลักอย่างประณีตสวยงาม และยังมีโบสถ์อีกหลังที่สร้างเมื่อค.ศ.1339 เป็นอนุสาวรีย์ที่ฝังศพที่อยู่ทางด้านใต้ ซึ่งจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามของบริเวณรอบๆ รวมถึงทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาอีกด้วย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553