หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
นครถ้ำวาร์ดเซีย (Vardzia Cave Town) ตั้งอยู่ทางตอนใต้อยู่ประเทศจอร์เจีย อยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำคูร่า มีหมู่บ้านถ้ำโบราณ ซึ่งเป็นหมู่บ้านถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ถ้ำแห่งนี้แบ่งออกเป็นส่วนที่อยู่อาศัยกับส่วนอารามสงฆ์ โดยถ้ำเหล่านี้ถูกขุดเจาะเป็นโพรงทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ เพื่อหลบหลีกการคุกคามของกองทัพมองโกล ซึ่งเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจอร์เจียอีกด้วย
เมืองบอร์โจมี (Borjomi) เป็นเมืองตากอากาศเล็ก ๆ ในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 15,000 คน เมืองบอร์โจมีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านน้ำแร่ระดับโลก เพราะมีลำธารน้ำที่ใสบริสุทธิ์ที่ไหลมาจากยอดเขาบาคูเรียนี ที่มีความสูงประมาณ 2,300 เมตร ที่ค้นพบโดยนายทหารชาวรัสเซีย โดยในอดีตชาวเมืองเชื่อกันว่า ถ้าดื่มน้ำนี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้ ต่อมาได้เริ่มมีการตั้งโรงงานผลิตและส่งออกน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจมี ที่มีชื่อเสียงไปยังประเทศต่าง ๆ
เมืองบอร์โจมี (Borjomi) เป็นเมืองตากอากาศเล็ก ๆ ในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 15,000 คน เมืองบอร์โจมีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านน้ำแร่ระดับโลก เพราะมีลำธารน้ำที่ใสบริสุทธิ์ที่ไหลมาจากยอดเขาบาคูเรียนี ที่มีความสูงประมาณ 2,300 เมตร ที่ค้นพบโดยนายทหารชาวรัสเซีย โดยในอดีตชาวเมืองเชื่อกันว่า ถ้าดื่มน้ำนี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้ ต่อมาได้เริ่มมีการตั้งโรงงานผลิตและส่งออกน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจมี ที่มีชื่อเสียงไปยังประเทศต่าง ๆ
เมืองบอร์โจมี (Borjomi) เป็นเมืองตากอากาศเล็ก ๆ ในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 15,000 คน เมืองบอร์โจมีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านน้ำแร่ระดับโลก เพราะมีลำธารน้ำที่ใสบริสุทธิ์ที่ไหลมาจากยอดเขาบาคูเรียนี ที่มีความสูงประมาณ 2,300 เมตร ที่ค้นพบโดยนายทหารชาวรัสเซีย โดยในอดีตชาวเมืองเชื่อกันว่า ถ้าดื่มน้ำนี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้ ต่อมาได้เริ่มมีการตั้งโรงงานผลิตและส่งออกน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจมี ที่มีชื่อเสียงไปยังประเทศต่าง ๆ
สวนบอร์โจมี (Borjomi City Park) ตั้งอยู่ที่เมืองบอร์โจมี ประเทศจอร์เจีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อน ที่นิยมมาเดินเล่นผ่อนคลายรับอากาศบริสุทธิ์ และดื่มน้ำแร่ หรือชื่นชมสีสันของดอกไม้นานาชนิด สัมผัสกับบรรยากาศที่เย็นสบาย สามารถชมวิวหรือเก็บภาพมุมสูงโดยการขึ้นกระเช้าสู่จุดชมวิว บนหน้าผาเหนือสวนบอร์โจมี ซึ่งเป็นวิวทิวทัศน์ธรรมชาติจากมุมสูงได้เห็นวิวเมือง ที่สวยสดงดงาม
ถ้ำโพรเมธิอุส (Prometheus Cave) เป็นหนึ่งในถ้ำอันน่าอัศจรรย์ของชาวจอร์เจีย ค้นพบครั้งแรกปี ค.ศ.1984 และตกแต่งใหม่เมื่อปี ค.ศ. 2012 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมมากมายในแต่ละปี พบความสวยงามของหินงอกหินย้อย ที่สะท้อนแสงสีตระการตาภายในตัวถ้ำ ทั้งการเดินและการล่องเรือเพื่อชมความงดงาม
เมืองบาทูมี่ (Batumi) เมืองนี้เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลบนชายฝั่งตะวันออกของทะเลดำ เป็นเมืองหลวงของอัตจารา (Ajara) เป็นสาธารณรัฐอิสระที่ปกครองตนเอง อยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศจอร์เจีย ครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้าง และมีสภาพภูมิทัศน์ที่หลากหลายแตกต่างกัน มีทั้งบริเวณเทือกเขาสูงที่อุดมไปด้วยป่าไม้เขียวขจี ไปจนถึงเนินเขาที่เขียวชอุ่ม เป็นหนึ่งในเมืองที่มีทิวทัศน์สวยที่สุดของจอร์เจีย
ถนนเลียบชายหาดบาทูมี (Batumi Promenade) อยู่ที่เมืองบาทูมี เมืองหลวงของอัดจารา (Ajara) สาธารณรัฐอิสระที่ปกครองตนเองอยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศจอร์เจีย เป็นถนนเลียบชายหาดที่ยาวถึง 6 กิโลเมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1884 ประดับด้วยน้ำพุงดงามตลอดสาย และเป็นถนนที่ยาวที่สุดบนชายหาดทะเลดำ ทัศนียภาพผสมผสานวิวภูเขาและวิวทะเล ชมแลนด์มาร์กสำคัญๆตลอดถนน เช่น อนุสาวรีย์อาลีและนีโน่ หอคอยชิงช้าสวรรค์ เป็นต้น และพบว่า ถนนแห่งนี้มีความสะอาดมาก
รูปปั้นอาลีและนีโน่ (Ali and Nino Moving Sculptures) เป็นรูปปั้นเหล็กสูง 8 เมตร ตั้งอยู่ริมทะเลดําที่สามารถเคลื่อนไหวเป็นวงกลมได้ทุก ๆ 8-10 นาที จนกระทั่งบรรจบกันและแยกตัวออกไปอีกครั้งหนึ่ง รูปปั้นนี้สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักของหนุ่มสาวต่างเชื้อชาติและศาสนา อาลี ชายหนุ่มชาวอาเซอร์ไบจานที่มาจากครอบครัวชาวมุสลิม และนีโน่ เจ้าหญิงชาวจอร์เจียที่มาจากครอบครัวชาวคริสเตียน นอกจากเรื่องราวความรักของทั้งคู่แล้ว ลักษณะการออกแบบรูปปั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
โชว์การแสดงน้ำพุเต้นระบำ (Fountain Show) ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองบาทูมิ
ล่องเรือในทะเลดํา (Black Sea) ล่องเรือชมอ่าวเมืองบาทูมี เหตุที่ได้ชื่อว่าทะเลดําก็เพราะดินโคลนชายฝั่ง ดินทรายชายหาดของทะเลแห่งนี้เป็นสีดํา อันเนื่องมาจากสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ ให้เราได้เพลิดเพลินชมความงามเฉพาะตัวของอ่าวเมืองบาทูมิ
จัตุรัสเปียเซซ่า (Piazza Square) เมืองบาทูมี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมือง สร้างขึ้นในปี 2009 เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวจอร์เจีย Vazha Orbeladze ที่สร้างด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานและจินตนาการนิทาน และในปี 2011 ที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้เริ่มปรับปรุงเพื่อให้เป็นแหล่งบันเทิงและพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของเมือง ซึ่งประกอบไปด้วยภัตตาคาร โรงแรม ไนท์คลับ และอื่น ๆ
อาคารตัวอักษร The Alphabetic Tower ตึกสูง 130 เมตร แลนด์มาร์คสวยเด่นขแงเมืองบาตูมี (Batumi) ประเทศจอร์เจีย ตึกนี้มีรูปร่างให้คล้ายกับโครงสร้างดีเอ็นเอ (DNA) ที่เราคุ้นเคย ในรูปแบบเกลียวคู่ วงแหวนสองวงขึ้นไปบนหอคอยมีตักอักษรภาษาจอร์เจียประดับ ตึกนี้ตั้งอยู่ในสวนมิราเคิลส์ (Miracle Park) ที่สามารถมองเห็นทะเลได้ชมวิวของทั้งเมืองบาทูมีได้แบบ 360 องศาา
จัตุรัสยุโรป (Europe Square) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจัตุรัสที่สำคัญในยุโรป
เมืองคูไทซี (Kutaisi) เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศ ย้อนกลับไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 12-13 เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักร Colchis และ Imeretia ทางภาคตะวันตกของประเทศจอร์เจีย
วิหารเกลาติ (Gelati Cathedral) วิหารนี้ค้นพบในศตวรรษที่ 12 สร้างโดยกษัตริย์ผู้โด่งดังของจอร์เจีย เดวิดที่ 5 (ระหว่างปี ค.ศ. 1073-1125) ที่นี่จะพบสถานศึกษาและศาสนสถานที่กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษา และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของจอร์เจีย เป็นสถานที่เก็บรวบรวมภาพจิตรกรรมฝาผนังจำนวนมากมาย ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนักบุญและกษัตริย์ในยุคต่าง ๆ ของจอร์เจียไว้ภายในใจกลางวิหารเวอร์จิน (Virgin Cathedral) และยังได้รับการยกย่องจากยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
วิหารบากราติ (Bagrati Cathedral) ตั้งชื่อตามพระเจ้าบากราติที่ 3 (Bagrat III) กษัตริย์พระองค์แรกที่ทรงรวมจอร์เจีย ก่อสร้างขึ้นไปในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 10 (กลางพุทธศตวรรษที่ 16) ถึงแม้จะถูกทำลายไปบางส่วนโดยพวกเติร์กในคริสต์ศักราช 1691 ซากปรักหักพังของโบสถ์ก็ยังคงปรากฏอยู่ใจกลางเมืองคูไทซี
เมืองกอรี (Gori) เป็นเมืองในจอร์เจียตะวันออกซึ่งทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Shida Kartli เมืองแห่งประวัติศาสตร์ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นบ้านเกิดของ “โจเซฟ สตาลิน” (Joseph Stalin) ชาวจอร์เจียที่ในอดีตเป็นผู้ปกครองสหภาพโซเวียต ในยุคศตวรรษที่ 1920 ถึง 1950 และมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมในการปกครองในเมืองกอรีแห่งนี้
พิพิธภัณฑ์สตาลิน (Museum of Stalin) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รวบรวมเรื่องราวและสิ่งของเครื่องใช้ของท่านสตาลิน ตั้งแต่สถานที่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต ตั้งอยู่ที่เมืองโกรี ประเทศจอร์เจีย ซึ่งเป็นเมืองที่สตาลินเกิด พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นอกจากจัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวชีวประวัติและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ของ สตาลินแล้ว ยังรวมไปถึงบ้านหลังจริงที่สตาลินเกิดและใช้ชีวิตในวัยเด็ก และขบวนรถไฟของสตาลินที่ดั้งเดิมเป็นของซาร์นิโคลัสที่2 จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจักรวรรดิรัสเซียด้วย
เมืองคัสเบกิ (Kazbegi) หรือในปัจจุบันคือ เมืองสเตปันสมินดา (Stepantsminda) ซึ่งชื่อเมืองนี้เพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี ค.ศ. 2006 นี้แต่คนมักจะเรียกติดปากกันอยู่ว่า คัสเบกิอยู่ เมืองนี้ตั้งอยู่ในความสูงที่ 1,700 เมตร และถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส ที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย มีภูมิทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคัสเบกิอีกด้วย
เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains) เป็นเทือกเขาสูงขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของทวีปยุโรป โดยมียอดเขาเอลบรูสที่มีความสูงกว่า 5,642 เมตร เทือกเขาคอเคซัสแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นปราการธรรมชาติแบ่งพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย
โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) โบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย โบสถ์คริสต์นิกายจอร์เจียนออร์โธด็อกซ์เก่าแก่นี้ สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 บนยอดเขาที่มีความสูงถึง 2,170 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติของเทือกเขาคอเคซัสรอบทิศ และโบสถ์เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา จึงทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่สมัยที่จอร์เจีย ยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต
เมืองกูดาอูรี (Gudauri) เป็นเมืองสําหรับสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียง ที่ตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาของเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,100 เมตร สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่พักผ่อนเล่นสกีของชาวจอร์เจีย ที่จะนิยมมาเล่นในเดือนธันวาคมจนถึงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่สวยงามและมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลา
อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument) เป็นอนุสาวรีย์หินคอนกรีตทรงกลมขนาดใหญ่ มีสถาปัตยกรรมแบบโซเวียต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk ภายในตกแต่งด้วยประเบื้องโมเสกสีสันสดใส ซึ่งบอกเล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวรัสเซียและชาวจอร์เจีย และหากมองจากมุมนี้ สามารถมองเห็นหุบเขาปีศาจ (Devil’s Valley) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัสอีกด้วย
ป้อมอันนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16-17 ร่องรอยของซากกำแพงที่ล้อมรอบป้อมปราการแห่งนี้ ได้หลงเหลือไว้เปรียบเสมือนม่านที่ซ่อนเร้นความงดงามของโบสถ์ 2 หลังที่ตั้งอยู่ภายใน ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวเวอร์จิน ภายในยังมีหอคอยทรงสี่เหลี่ยมใหญ่ที่ตั้งตระหง่านให้เราได้ชม
อ่างเก็บน้ำชินวารี (Zhinvali Reservoir) ที่ซึ่งทำให้ชาวเมืองทบิลิซีมีน้ำไว้ดื่มไว้ใฃ้และชื่นชมทัศนียภาพทิวทัศน์ ของภูเขาล้อมรอบสถานที่แห่งนี้ และยังมีเขื่อนซึ่งเป็นสถานที่ที่สําคัญสําหรับนําน้ำที่เก็บไว้ส่งต่อไปยังเมืองหลวง พร้อมกับผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย
เมืองมิสเคด้า (Mtskheta) เป็นศูนย์กลางทางศาสนาของประเทศจอร์เจีย เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ห่างจากกรุงทบิลิซี ประมาณ 20 กม. และในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอิเบเรีย (Iberia Kingdom) ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล ถึงปี ค.ศ. 500 แต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรจากสมัยนั้นหลงเหลืออยู่แล้ว ศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแผ่ในเมืองนี้ช่วงศตวรรษที่ 4 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนที่นี่เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1994
มหาวิหารจวารี (Jvari Monastery) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อารามแห่งไม้กางเขน (Monastery of the Cross) อันศักดิ์สิทธิ์ของศานาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ สร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียสักการะนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางโถง ชาวเมืองได้ให้ความเคารพนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก และได้กล่าวกันว่า นักบุญนีโน่ หรือแม่ชีนีโน่แห่งคัปปาโดเกีย (เมืองหนึ่งในประเทศตุรกีปัจจุบัน) ได้นำไม้กางเขนนี้เข้ามา พร้อมกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เป็นครั้งแรกในช่วงโบราณกาล
วิหารสเวติสเคอเวรี (Svetitskhoveli Cathedral) สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze ตัววิหารมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ. 337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย
เดอะโครนิเคิลออฟจอร์เจีย (The Chronicle of Georgia ) เป็นอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจียที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงนอกเมืองและเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ของประเทศจอร์เจีย ผ่านสาหินขนาดใหญ่จำนวน 16 ต้น และด้วยโครงสร้างอันมหึนั่นก็เลยทำให้กลายเป็นอนุสรณ์สถานขนาดใหญ่ที่เราสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และป็นจุดชมวิวมุมสูงที่สามารถเห็นวิวเมืองทบิลิซีและทะเลสาบทบิลิซีที่สวยงามอีกด้วย
เมืองทบิลิซี (Tbilisi) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่ในหุบเขาที่งดงาม และก็ยังเป็นศูนย์กลางการปกครองและย่านเศรษฐกิจของประเทศจอร์เจีย ประกอบกับมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เพราะมีแหล่งน้ำมากมายพร้อมกับมีทำเลที่ดีในการปกครอง ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองหลวงในที่สุด ชื่อทบิลิซิ แปลว่าที่ตั้งอันอบอุ่น มีที่มาจากน้ำพุร้อนกำมะถัน ซึ่งผุดพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมิทควารี
ย่านเมืองเก่าทบิลิซี (Old Town Tbilisi) เป็นด่านเมืองเก่าของเมืองทบิลิซี่ ซึ่งในจุดนี้ เราจะสามารถมองเห็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5-20 อาทิเช่น วิหารซามีบ้าแห่งกรุงทบิลิซี่ (Holy Trinity Cathedral Of Tbilisi) สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace) โบสถ์เมเตฆี (Metekhi Church) และโบสถ์เก่าแก่อายุราว 800 ปี แต่ตึกรามบ้านช่องที่สร้างมาก่อนคริสศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่ถูกทำลายไปจนหมด จากการรุกรานของชาวเปอร์เซียในปี ค.ศ.1795
ป้อมนาริคาล่า (Narikala Fortress) หรือ ป้อมปราการนาริกาลา สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของเมืองทบิลิซี่ ประเทศจอร์เจีย เป็นป้อมปราการโบราณที่สามารถมองเห็นวิวเมืองทบิลิซิและแม่น้ำ Mtkvari ถูกสร้างในราวศตวรรษที่ 4 ป้อมปราการนี้ ประกอบด้วย ส่วนของผนังสองส่วนบนเนินเขาสูงชันระหว่างห้องอาบน้ำกำมะถัน และสวนพฤกษศาสตร์ของทบิลิซิ ในสไตล์ "ชูริส ทซิเค" ซึ่งหมายถึง รูปแบบที่ไม่มีความสม่ำเสมอกัน
โบสถ์โฮลีทรินิตี้ เป็นโบสถ์แรกของเมืองซาร์กอส สถาปัตยกรรมแบบยอดโดมหัวหอมสีทอง ภายใน ตกแต่งด้วยภาพเฟรสโกและภาพไอคอนห้าชั้น ที่สำคัญคือ มีโลงศพสีเงินของนักบุญเซอร์เจียส ภายในบรรจุกระดูกของท่านที่ประชาชนศรัทธาและเดินทางมาสักการะด้วยการก้มลงจูบฝาโลงศพเงินที่ตั้งอยู่มุมด้านขวาสุดของตัวโบสถ์
โรงอาบน้ำโบราณ หรือ อะบาโนตูบานี (Abanotubani) โรงอาบน้ำโบราณแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่สำหรับแช่น้ำพุร้อน ที่มีส่วนผสมของแร่กำมะถัน ซึ่งเชื่อกันว่าในน้ำพุร้อนมีแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยกำจัดของเสียและทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง โรงอาบน้ำร้อนแห่งนี้ได้เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน และในปัจจุบันยังคงเปิดให้บริการกันอยู่
โบสถ์เมเตคี (Metekhi Church) โบสถ์เก่าแก่ริมแม่น้ำมิตควารี (Mtkvari River) ที่เคยเป็นทั้งคุก คลังแสง และที่สวดภาวนา สถานที่แห่งคำสัญญา ศาสนสถานที่ผ่านการถูกทำลายมามากมายจนนับครั้งไม่ถ้วน ในอดีตโบสถ์แห่งนี้เคยถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานที่เก็บดินปืนสำหรับทำสงคราม ต่อมาก็กลายเป็นคุกในช่วงที่จอร์เจียตกอยู่ใต้อำนาจของสหภาพโซเวียต ก่อนจะกลับมาเป็นโบสถ์ดังเดิมในที่สุด
ห้างอีสต์พอยต์ (East Point) เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของเมืองทบิลิซี มีสินค้าแบรนด์เนมมากมายให้ได้ช้อปปิ้งกว่า 150 แบรนด์ อาทิ adidas, ALDO, Bershka, Columbia, Charles & Keith, Converse, H&M, L'Oréal และอื่น ๆ อีกมากมาย มีร้านอาหารกว่า 20 ร้าน มีหน้าจอโรงภาพยนตร์เป็นแบบ Ten-Screen พร้อมด้วยระบบ IMAX และมีลานจอดรถให้ฟรี
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553