หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
กรุงเดลี (Delhi) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอินเดีย มีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ เมืองยังเคยเป็นศูนย์กลางของอำนาจการปกครองของอินเดียมาหลายพันปี ทั้งจากผู้ครองนครที่เป็นสุลต่าน มุสลิม กษัตริย์ฮินดู และจักรพรรดิโมกุล อันเป็นช่วงของการแพร่ขยายอิทธิพลและวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการปกครอง ภาษา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และศาสนาอิสลาม ซึ่งส่งผลให้ที่นี่เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมที่ยาวนานหลายยุคสมัย
ทำเนียบประธานาธิบดีหรือราษฎร์ปติภาวัน ปัจจุบันคือที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีแห่งประเทศอินเดีย โดยเป็นคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเดลี ซึ่งภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมาย อย่างเช่น ห้องพักประธานาธิบดี ห้องโถง ห้องรับรองแขก และสำนักงาน เป็นต้น ทั้งหมดมีจำนวนถึง 340 ห้อง บนเนื้อที่ทั้งหมด 320 เอเคอร์ นอกจากนั้นยังประกอบไปด้วยสวนโมกุล และพื้นที่เปิดกว้างขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าบอดี้การ์ดและพนักงานในส่วนต่างๆ
ประตูอินเดีย (India Gate) คือสิ่งก่อสร้างที่มีรูปแบบและลักษณะคล้ายคลึงประตูชัยของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นประตูทรงโค้งที่มีความสูงถึง 42.35 เมตร โดยเซอร์เอ็ดเวิร์ด ลูตเยนส์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เหล่าทหารอินเดียและอังกฤษจำนวนมากมายที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกัน แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1931 โดยใช้วัสดุในการก่อสร้างเป็นหินทรายแดง ส่วนตรงกลางประตูนั้นมีกระถางหินทรายแดงขนาดใหญ่ซึ่งถูกจุดไฟให้ลุกโชนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 จนกระทั่งปัจจุบัน
พระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท ตั้งอยู่ห่างจากเมืองชัยปุระไปทางทิศเหนือประมาณ 11 กิโลเมตร ซึ่งแต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระมาก่อน ต่อมาจึงได้สร้างพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ทขึ้นบนเนินเขาสูง อันเป็นตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นที่ตั้งของป้อมปราการในศตวรรษที่ 11 มาก่อน โดยมหาราชามาน ซิงห์ใน ปี ค.ศ. 1592 และมีการขยายพื้นที่โดยมหาราชาองค์ต่อๆ มาจนใหญ่โตดังเช่นปัจจุบัน ซึ่งที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต แต่ช่วงหลังมีการผสมผสานศิลปะโมกุลเข้าไปด้วย
พระราชวังหลวง (City Palace) พระราชวังในเมืองชัยปุระ เป็นที่ประทับของมหาราชาองค์ปัจจุบัน ภายในมีหอดาราศาสตร์ ยันตระ มันตระของมหาราชา ไสว สิงห์ที่ 2 ผู้สร้างเมืองไชยปุระ และพิพิธภัณฑ์ของมหาราชาแห่งไชยปุระในยุคก่อนๆ พระราชวังหลวงแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ทั้งสวยและสำคัญมากของเมือง เต็มไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างราชวงศ์ไชยปุระกับโมกุล
หรือ พระราชวังกลางน้ำ เป็นพระราชวังเก่าที่ตั้งเด่นอยู่กลางทะเลสาบมันสกา ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทรายสีแดง สถาปัตยกรรมแบบเบงกอล แต่เดิมมีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ปัจจุบัน 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด เหลือเพียงชั้นบนสุดเท่านั้นที่เผยขึ้นมาเหนือน้ำ ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นจุดไฮไลท์ อวดความสวยงามให้นักท่องเที่ยวมาเช็คอิน ถ่ายรูปสวยๆ กัน
พระราชวังแห่งสายลม หรือ พระราชวังฮาวามาฮาล ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของ City Palace นครชัยปุระ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1799 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบราชปุตที่ถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฎพระนารายณ์ โดยมีรูปแบบเป็นอาคารขนาด 5 ชั้น มีหน้าต่างฉลุช่องลมสีชมพูอมส้มจำนวน 953 ช่อง เพื่อให้นางในวังสามารถมองเห็นกิจกรรมภายนอกหน้าต่างได้โดยไม่ถูกจับตามอง รวมถึงยังเป็นตัวช่วยในการระบายอากาศภายในให้ถ่ายเทได้สะดวกด้วย นั่นจึงทำให้ภายในตัวพระราชวังมีความเย็นอยู่ตลอดเวลา แม้อากาศภายนอกจะอบอ้าวสักเท่าใดก็ตาม
หอดูดาวจันตาร์ มันตาร์ (Jantar Mantar) เป็นบริเวณหอดูดาวซึ่งเป็นสถานที่ที่รวบรวมเครื่องมือทางดาราศาสตร์ สร้างโดยมหาราชาสะหวาย จัย สิงห์ ได้ทรงสร้างทั้งหมด 5 แห่ง รวมถึงที่ชัยปุระ และเดลลี ซึ่งหอดูดาวจันตาร์มันตาร์นี้มีขนาดใหญ่ที่สุด และยังเก็บรักษาอยู่ในสภาพดีที่สุดอีกด้วย โดยได้ถูกยกย่องโดยองค์การยูเนสโกว่า "เป็นการแสดงออกถึงความชาญฉลาดทางดาราศาสตร์และแนวความคิดทางจักรวาลวิทยาของ ราชสำนักในช่วงปลายของยุคโมกุล" จันตาร์ มันตาร์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโกในปีค.ศ. 2010
เมืองอัครา หรือ เมืองอักรา ตั้งอยู่รัฐอุตตรประเทศ อยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย เป็นเมืองประวัติศาสตร์ของการสู้รบและเมืองเจริญทางด้านศิลปสถาปัตยกรรมอันเลื่องลือมาแต่โบราณ ปัจจุบัน เมืองนี้เป็นจุดหมายของการเดินทางมาเพื่อเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ2แห่ง คือ ป้อมอัคราและทัชมาฮาล หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อนุสรณ์แห่งความรักนิรันดร์ และจัดเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามเป็นอมตะคู่โลก เมืองอัครามีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เชื่อว่าหากได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่ รับรองว่าต้องหลงรักเมืองเก่าแก่นี้
ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักโดยพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ เป็นที่รู้จักในฐานะ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ตั้งอยู่ริมน้ำยมุนา เมืองอัครา ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 และได้รับเลือกเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 สถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกนี้ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย มีความสมมาตรในทุกด้าน สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนฝังด้วยอัญมณีเพชรพลอยที่แตกต่างกัน 28 แบบ อาคารตรงกลางเป็นรูปโดม มีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล และพระเจ้าชาห์จาฮัน
พระราชวังอัคราฟอร์ต ซึ่งเป็นพระราชวังที่สวยงามมีบริเวณกว้างใหญ่ ใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 3 รัชสมัย พระเจ้าชาห์จาฮาล กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล เป็นผู้สร้างต่อจนเสร็จ ภายในอัคราฟอร์ด มีห้องสวยงามที่สร้างด้วยหินอ่อน แกะสลักฝังโดยรอบ
อัมริตสาร์ (Amritsar) เป็นเมืองการค้าและศูนย์กลางวัฒนธรรมที่สำคัญของรัฐปันจาบ (Punjab) เมืองนี้เป็นศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของศาสนาซิกข์ และเป็นที่ตั้งของฮาร์มานเดอร์ ซาฮิบ (Harmandir Sahib) หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดทองคำ (Golden Temple) ชมทหารอินเดียและปากีสถานเดินสวนสนามทุกคืนที่ชายแดนวากะห์ (Wagha Border) และที่ยาเลียนวาลา บากห์ (Jallian Wala Bagh) ซึ่งเป็นสถานที่ของการสังหารหมู่อัมริตสาร์ 1919 (1919 Amritsar Massacre ) ในปี 1919
พระวิหารฮัรมัรดิร ซาฮิบ(Harmandir Sahib)หรือวิหารทองคำ(Golden Temple)หรือพระสุวรรณวิหาร วิหารทองคำแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของผู้ที่นับถือศาสนาซิกข์และบรรดาผู้แสวงบุญจากทั่วโลก ล้วนมุ่งหมายที่จะต้องได้มาสักครั้งในชีวิต ตัววิหารทองคำ ชั้นแรกของวิหารเป็นหินอ่อน ผนังภายในแกะสลักเป็นรูปดอกไม้ไว้อย่างสวยงาม ชั้นสองขึ้นไปจนถึงยอดโดมได้ถูกตกแต่งโดยการเคลือบด้วยทองคำสีทองอร่ามงดงามมีน้ำหนักรวมกว่า 800ตัน ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจประจำวันผู้เข้าชมวิหารต้องมีผ้าคลุมศีรษะด้วย
ด่าน Wagah Border ด่านพรมแดนระหว่างอินเดีย และ ปากีสถาน ท่านจะได้ชมพิธีการเปลี่ยนเวรยาม ที่มีการประชันลีลาต่างๆ ของทหารอินเดียและปากีสถาน แข่งขันกันแบบชนิดที่ว่าไม่ยอมน้อยหน้ากันเลยทีเดียว สร้างความสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่ได้มาชมเป็นอย่างมาก