ทัวร์อินเดีย สิกขิม ดาร์จิลิ่ง กังต็อกไทเกอร์ฮิลล์ วัดธิเบตกุม ชมไร่ชา ทะเลสาบฌางโก วัดลิงค์ดัม

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

เมืองดาร์จีลิง (Darjeeling) ตั้งอยู่ในเมืองดาร์จีลิ่ง ประเทศอินเดีย เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องชา ถือเป็นแหล่งผลิตชาที่ดีแห่งหนึ่งในโลก เป็นเมืองที่ชาวอังกฤษขึ้นมาสร้างไว้เป็นเมืองตากอากาศบนยอดเขาสูง สามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของเมือง เป็นแหล่งปลูกและผลิตชาที่ดีที่สุดในโลก และเป็นเมืองศูนย์กลางการค้า ในทำการค้าขายกับทิเบต

จุดชมวิวไทเกอร์ฮิลล์เป็นจุดชมวิวเทือกเขาหิมาลัยยามเช้า ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองดาร์จีลิ่ง โดยอยู่ห่างออกไปประมาณ 11 กิโลเมตร นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นจุดที่สูงที่สุดของเมือง บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,590 เมตร จึงทำให้เหมาะแก่การชมวิวเป็นอย่างยิ่ง โดยวันไหนหากโชคดีท้องฟ้าเปิดอากาศสดใส นักท่องเที่ยวก็จะได้เห็นยอดเขาคันเชงจุงก้าอันเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกได้ด้วย

วัดกูมเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองดาร์จีลิ่ง ตั้งอยู่ห่างจากเมืองดาร์จีลลิ่งประมาณ 8 กิโลเมตร สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1875 โดยลามะ ชาร์ลาป ยัคโช โดยเป็นวัดในนิกายหมวกเหลือง และในปัจจุบันที่นี่ยังเปิดเป็นโรงเรียนสอนพระลามะอีกด้วย ซึ่งภายในเป็นที่ประดิษฐานพระอริยะเมตรตรัย ซึ่งมีความสูงประมาณ 15 ฟุต

วงเวียนรถไฟบาตาเซีย ลูปตั้งอยู่ห่างจากเมืองดาร์จีลิ่งประมาณ 5 กิโลเมตร โดยเป็นวงเวียนรถไฟที่สร้างขึ้นเพื่อลดปัญหาเมื่อรถไฟต้องไต่ระดับขึ้นเทือกเขาหิมาลัยเพื่อไปยังเมืองดาร์จีลิ่งในปี ค.ศ. 1919 ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ในวงการวิศวกรรมของประเทศอินเดีย โดยความน่าสนใจของวงเวียนรถไฟแห่งนี้ก็คือ มันถูกสร้างขึ้นรอบๆ วงอนุสรณ์สถานสงครามที่แสดงถึงความกล้าหาญของชาวดาร์จีลิ่งที่เสียชีวิตในสงครามเมื่อปี 1947 และอยู่ในความทรงจำของชาวเมืองเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

พิพิธภัณฑ์ปีนเขาหิมาลัยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีแบบจำลองเทือกเขาหิมาลัยภายใน พร้อมทั้งประวัติของการปีนเขา รูปภาพ รวมถึงประวัติของผู้พิชิตยอดเขาต่างๆ อุปกรณ์ปีนเขาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน และตัวอย่างพันธุ์ไม้และพันธุ์สัตว์ที่อยู่บนเทือกเขาหิมาลัย นอกจากนั้นภายในยังเป็นที่ตั้งของสถาบันนักปีนเขาเทือกเขาหิมาลัยซึ่งก่อตั้งโดยท่านเซอร์เอ็ดมันด์ ฮิลลารีชาวนิวซีแลนด์ และเทนซิงก์ นอร์เกย์ชาวดาร์จีลิ่ง ที่สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสได้สำเร็จ จากนั้นจึงก่อตั้งที่นี่ขึ้นในปี ค.ศ. 1954

สวนสัตว์ปมาจาร์ นัยดรูเป็นสวนสัตว์ที่รวบรวมสัตว์ในแถบตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัยหลากหลายสายพันธุ์ อย่างเช่นเสือไซบีเรียนที่ได้รับการจดสถิติว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสามารถพบเห็นได้ในไซบีเรียประเทศรัสเซียเท่านั้น แพนด้าแดงที่สามารถพบได้ตามเทือกเขาหิมาลัยหรือตามภูเขาสูงในแถบนี้ หมาป่าทิเบตที่ชื่นชอบอากาศหนาวเย็นและภูเขาสูง และเสือดาวหิมะหรือแมวยักษ์ที่มักอาศัยอยู่ตามแนวเทือกเขาทางตอนกลางและใต้ของทวีปเอเชีย เป็นต้น โดยสวนสัตว์แห่งนี้เปิดทำการทุกวันตั้ง 08.30-16.00 น.

เมืองกังต็อกเป็นเมืองหลวงของรัฐสิกขิม ตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งแต่เดิมที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ต่อมาในปี ค.ศ. 1840 ก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญสำหรับนักแสวงบุญทั่วประเทศ จนกระทั่งกษัตริย์ธูทอบ นัมเกลผู้ปกครองสิกขิมในขณะนั้น ได้ย้ายเมืองหลวงมาตั้งบนพื้นที่แห่งนี้เมื่อปี 1894 จึงทำให้กังต็อกกลายเป็นเมืองหลวงของรัฐแห่งนี้นับแต่นั้นเป็นต้นมา

เมืองกังต็อกเป็นเมืองหลวงของรัฐสิกขิม ตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งแต่เดิมที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ต่อมาในปี ค.ศ. 1840 ก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญสำหรับนักแสวงบุญทั่วประเทศ จนกระทั่งกษัตริย์ธูทอบ นัมเกลผู้ปกครองสิกขิมในขณะนั้น ได้ย้ายเมืองหลวงมาตั้งบนพื้นที่แห่งนี้เมื่อปี 1894 จึงทำให้กังต็อกกลายเป็นเมืองหลวงของรัฐแห่งนี้นับแต่นั้นเป็นต้นมา

จุดชมวิวตาชิ วิวพอยต์ เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนยอดเขาคังชังจุงก้าอันเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองกังต็อกแห่งรัฐสิกขิมไปทางตอนเหนือประมาณ 8 กิโลเมตร โดยที่นี่ถือเป็นจุดแวะพักรถยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิวของเทือกเขาหิมาลัยพร้อมจิบชากาแฟรสชาติดีควบคู่ไปด้วย นอกจากนั้นจุดชมวิวบริเวณนี้ยังสามารถมองเห็นวัดโพดองและวัดลาบางได้อีกด้วย

หมู่บ้านลาชุงเป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐสิกขิมและมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน จึงทำให้ชาวเมืองนี้โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวเลปาซาและชาวทิเบต นอกจากนั้นลาชุง ณ ปัจจุบันยังได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลอินเดียให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญทางตอนเหนือ อันโดดเด่นด้วยหุบเขายุมถังและวัดลาชุงอันยิ่งใหญ่และสวยงาม โดยหมู่บ้านลาชุงถือเป็นจุดสุดท้ายของภาคเหนือประเทศอินเดียที่ทางการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรมค้างคืนได้เมื่อมาท่องเที่ยวในสิกขิม

หมู่บ้านลาชุงเป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐสิกขิมและมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน จึงทำให้ชาวเมืองนี้โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวเลปาซาและชาวทิเบต นอกจากนั้นลาชุง ณ ปัจจุบันยังได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลอินเดียให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญทางตอนเหนือ อันโดดเด่นด้วยหุบเขายุมถังและวัดลาชุงอันยิ่งใหญ่และสวยงาม โดยหมู่บ้านลาชุงถือเป็นจุดสุดท้ายของภาคเหนือประเทศอินเดียที่ทางการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรมค้างคืนได้เมื่อมาท่องเที่ยวในสิกขิม

หมู่บ้านลาชุงเป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐสิกขิมและมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน จึงทำให้ชาวเมืองนี้โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวเลปาซาและชาวทิเบต นอกจากนั้นลาชุง ณ ปัจจุบันยังได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลอินเดียให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญทางตอนเหนือ อันโดดเด่นด้วยหุบเขายุมถังและวัดลาชุงอันยิ่งใหญ่และสวยงาม โดยหมู่บ้านลาชุงถือเป็นจุดสุดท้ายของภาคเหนือประเทศอินเดียที่ทางการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรมค้างคืนได้เมื่อมาท่องเที่ยวในสิกขิม

หุบเขายุมถังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของรัฐสิกขิมที่ได้ชื่อว่ามีความงดงามมากที่สุด โดยสองข้างทางขึ้นเขานั้นจะมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยตั้งตระหง่าน ทั้งยังมีธารน้ำแข็งน้อยใหญ่ไหลผ่าน รวมถึงป่าสนที่สูงเสียดฟ้า ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ โดยเฉพาะกุปลาบพันปีที่มากถึง 36 สายพันธุ์ รวมไปถึงดอกป๊อปปี้ ไอริส และดอกไม้ป่าอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนในช่วงฤดูร้อนความเขียวขจีของทุ่งหญ้าก็จะมาเยือนพื้นดินแถบนี้แทบทั้งหมด และนั่นจึงทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสวิสแห่งเอเชีย

เมืองกังต็อกเป็นเมืองหลวงของรัฐสิกขิม ตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งแต่เดิมที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ต่อมาในปี ค.ศ. 1840 ก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญสำหรับนักแสวงบุญทั่วประเทศ จนกระทั่งกษัตริย์ธูทอบ นัมเกลผู้ปกครองสิกขิมในขณะนั้น ได้ย้ายเมืองหลวงมาตั้งบนพื้นที่แห่งนี้เมื่อปี 1894 จึงทำให้กังต็อกกลายเป็นเมืองหลวงของรัฐแห่งนี้นับแต่นั้นเป็นต้นมา

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553