หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
กรุงเตหะราน (teheran) เป็นเมืองหลวงของประเทศอิหร่าน เมืองนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเทือกเขาอัลบอร์ช ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,000 เมตร สร้างขึ้นในราว ปี ค.ศ. 900 จากหมู่บ้านเล็กๆ และได้รับการพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองมาตลอด จนกระทั่งสิ้นสุด ราชวงศ์ปาห์ลาวี ปัจจุบันกรุงเตหะรานมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 13 ล้านคน เป็นศูนย์กลางการค้าขาย การคมนาคม เศรษฐกิจ และ การธนาคาร ซึ่งมีเครือข่ายการติดต่อกับต่างประเทศทั่วโลก
พระราชวังโกเลสตาน (Golestan Palace) ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งหลังการปฏิวัติ โดยอิหม่ามโคมัยนี พระราชวังแห่งนี้ก็ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ ถูกปล่อยทิ้งร้างอย่างน่าอัปยศอดสูเช่นเดียวกับวังอื่นๆ เพิ่งจะมีการบูรณะเมื่อเริ่มเปิดประเทศอีกครั้งหนึ่งราวๆ ห้าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม วังแห่งนี้ก็ยังคงความงดงามในการตกแต่งภายในด้วยกระจกเงาตัดเหลี่ยมแบบเพชรที่สุดอลังการ และการตกแต่งภายนอกด้วยกระเบื้องเคลือบที่มีสีสันและลวดลายโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศิลปะยุคกอญัร
พิพิธภัณฑ์อัญมณี (Jewelry Museum) ซึ่งตั้งอยู่ในห้องนิรภัยของธนาคารกลางแห่งชาติอิหร่านกลางกรุงเตหะราน ที่นี่ได้เก็บรวบรวมอัญมณีจากทุกยุคทุกสมัยของกษัตริย์ทุกราชวงศ์ที่เคยปกครองอาณาจักรเปอร์เชีย(ยกเว้นราชวงศ์แรก) จนกระทั้งกลายมาเป็นประเทศอิหร่านในปัจจุบัน ที่มีจำนวนมากมายที่สุดอลังการที่สุดในโลก คนส่วนใหญ่มักใฝ่ฝัน ที่จะได้มาชม เพชรสีชมพู ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักถึง 182 กะรัต และบัลลังก์นกยูง อันลือชื่อในพิพิธภัณฑ์อัญมณี แห่งนี้ยังมีสมบัติ มีค่าอีกมากมายที่ได้จัดแสดงใว้ให้ผู้มาเยือนได้ชม
เมืองอิสฟาฮาน (Isfahan) เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เชียในศตวรรษที่ 16-18 ตอนต้น ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ ซาหาวิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาณาจักรเปอร์เชียรุ่งเรืองสูงสุดอีกยุคหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการค้าขาย และเมืองอิสฟาฮานเองก็ได้กลายเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุด คือ 500,000 คน และยังได้รับการขนานนามไปทั่วโลกว่า “Esfahan is haft of the World”
พระราชวังเชเฮลโซตุน (Chehel Sotun Palace) สร้างในปี1614 สมัยชาห์อับบาสที่1 เพื่อใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและงานสังสรรค์ต่างๆ โดยเลียนแบบสถาปัตยกรรมในแบบอะคามินิด ซึ่งเป็นยุคแรกของเปอร์เซียแต่ใช้เสาคอลัมน์เป็นเสาไม้แทนหินมีเสาไม้สูงที่โถงด้านหน้า 20 ต้น ในห้องโถงด้านในของเชเฮลโซตุนมีภาพเขียนแบบเฟรสโกขนาดใหญ่หลายภาพที่มีชื่อเสียงโดยฝีมือของศิลปินประจำยุคซาฟาวิด ส่วนรอบๆ ตัววังนั้นร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ใหญ่น้อยที่อยู่รายรอบ จึงถือเป็นต้นแบบของสวนแบบเปอร์เซียที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
มัสยิดอิหม่าม (Imam Mosque) เป็นหนึ่งในมัสยิดที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เริ่มสร้างในปี 1611 สมัยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่1 และเสร็จสมบูรณ์ในอีก 4 ปีต่อมา นอกจากขนาดที่ใหญ่โตโอฬารแล้ว ยังเป็นมัสยิดที่มีองค์ประกอบทางด้านสถาปัตย์ที่สวยงามที่สุดในประเทศอิหร่าน โดยเฉพาะโดมประธานขนาดมหึมาที่สร้างคร่อมกันเป็นสองชั้นขนานกันตลอดทุกตารางนิ้ว ซึ่งมีผลต่อการระบายอากาศและการกระจายของเสียงผู้นำสวดให้แผ่ออกไปจนได้ยินอย่างชัดเจนในทุกซอกทุกมุมของมัสยิดโดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟน
พระราชวังอะลีคาปู (Ali Qapu Palace) สร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของจัตุรัสอิหม่าม เป็นอาคาร 6 ชั้น ที่ใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้างบนชั้น 3 ของพระราชวังสร้างเป็นห้องโถงใหญ่และมีระเบียงหันหน้าเข้าหาจัตุรัสอิหม่ามสำหรับพระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์ไว้ประทับทอดพระเนตรการละเล่นต่างๆ และปัจจุบันกลายเป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพมุมสูงที่สวยงาม ซึ่งสามารถมองเห็นทุกมุมและทุกอย่างที่อยู่บนจัตุรัสได้อย่างชัดเจน
มัสยิดชีคล้อตฟุลเลาะห์ (Sheikh Lotfollah Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้นที่จะเข้ามาทำการละหมาดได้ สร้างโดยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 ระหว่างปี 1602-1619 ขึ้นชื่อว่าวิจิตรสวยงามที่สุดในการตกแต่งภายในโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โดมประธานซึ่งอยู่ตรงกลางห้องโถงใหญ่
หมู่บ้านอะบียาเนห์ (Abyaneh Village) อยู่ในเขตจังหวัดอิศฟาฮาน ซึ่งเชื่อว่าหมู่บ้านนี้มีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปีเศษ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามและมีอากาศเย็นสบายแม้ในฤดูร้อนชาวบ้านที่นี่แต่งกายโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและเชื่อว่าเป็นชนชาติที่สืบเชื้อสายมาจากพวกอีลาไมท์ แต่ปัจจุบันคนเหล่านี้คือชาวอิหร่านตามกฎหมายและนับถือศาสนาอิสลามเช่นเดียวกับชาวอิหร่านทั่วไปพูดภาษาพื้นเมืองฟาซีเช่นเดียวกับคนพื้นราบโดยไม่ผิดเพี้ยน
เมืองคาชาน (Kashan) เชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่ประมาณ 4,000 ปี ก่อนคริสตกาลตัวเมืองที่เราเห็นกันในปัจจุบันนี้สร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่11-13 สมัยที่พวกเซลจุก มีอำนาจปกครองเหนือ อาณาจักร เปอร์เซีย (ประมาณ ปี 1051-1220) และเริ่มมีชื่อเสียงทางด้านการทำเครื่องปั้นดินเผา กระเบื้องเคลือบ และการทอผ้า ทอพรม ต่อมาในยุคราชวงศ์ ซาฟาวิด ปกครองเมืองคาชาน ก็ยิ่งเจริญรุ่งเรือง มากยิ่งขึ้น ในฐานะเมืองศูนย์กลางการค้า และเป็นด่านประตูสูเมืองต่างๆ ในพื้นที่ทะเลทรายด้านตะวันออก
คฤหาสน์เศรษฐีชื่อ (Borujerdi Historical House) ที่มีมาตั้งแต่ยุคที่เมืองคาชานเคยรุ่งเรืองบนเส้นทางการค้าในอดีตสมัยราชวงศ์ซาฟาวิดปกครองเปอร์เซีย(ศตวรรษที่ 16-18) เป็นยุคการค้ารุ่งเรืองอย่างถึงขีดสุด และเมืองคาชานก็เป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางการค้าแห่งยุคที่มีความสำคัญอีกเมืองหนึ่ง มีพ่อค้าวาณิชย์ที่เป็นมหาเศรษฐีมากมาย คฤหาสน์เศรษฐีหลังนี้ ก็เป็นหนึ่งในอีกหลายหลังที่เป็นมรดกตกทอดมาสู่คนยุคปัจจุบัน ให้ได้ย้อนรอยระลึกถึง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553