หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองมิลาน หรือ มิลาโน่ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก มิลานเป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ 1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า “ปาเนตโตเน” อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน มีแกลอรี่ชื่อดัง โบสถ์ที่สวยงาม และโรงละครโอเปร่า
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
จัตุรัสเซนต์มาร์ก หรือ จตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco | Saint Mark Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิส ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก เป็นจุดเด่นของลานกว้าง บริเวณรอบๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ไว้คอยบริการมากมาย และรอบๆ จัตุรัสยังมีอาคารที่สำคัญสองแห่งคือ หอระฆัง และ หอนาฬิกา อีกด้วย
สะพานสะอื้น หรือบางคนเรียกว่า "สะพานแห่งการทอดถอนใจ” ซึ่งทอดข้ามด้านหลังวังของผู้ปกครองเวนิสในอดีต ไปยังคุกที่อยู่อีกฟากฝั่งคลอง ว่ากันว่าสะพานแห่งนี้คือจุดหายใจเฮือกสุดท้ายแห่งอิสรภาพของเหล่านักโทษ และคุกแห่งนี้เองเป็นที่คุมขังนักรักกระเดื่องนาม “คาสโนว่า” ซึ่งเขาเป็นนักโทษเพียงคนเดียวที่สามารถแหกคุกนี้หนีออกมาได้ปัจจุบันวังแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษาไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญของเมือง
พระราชวังดอจส์ เป็นที่ทำการของรัฐบาลเวนิสและที่พำนักของผู้ดำรงตาแหน่งเจ้าเมืองในอดีต ตัวอาคารกะทัดรัดในแบบโกธิค เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มากว่า 800 ปีมาแล้ว เมื่อสมัยเวนิสยังเป็นสาธารณรัฐอิสระ ซึ่งเคยร่ำรวยและมีอำนาจมหาศาลและเคยส่งให้มาร์โคโปโลเดินทางไปเมืองจีน เชิญเยียมชมพระราชวังเก่าโบราณเวนิส และเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีตในอดีต
มหาวิหารเซนต์มาร์ก(St Mark’s Basilica)เป็นมหาวิหารสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ซึ่งตั้งอยู่บนจัตุรัสซันมาร์โกกลางเมืองเวนิสมหาวิหารเซนต์มาร์กเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้ชมเข้าชมมากที่สุดด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ทอดยาวมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 9 ของคริสตจักรจึงทำให้เป็นมหารวิหารที่มีเรื่องราวและตำนานอันน่าสนใจ
สะพานริอัลโต (Rialto Bridge) สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 สะพานนี้มีประวัติที่น่าสนใจเพราะเป็นสะพานที่ทอดข้ามแกรนด์คาเนลเพียงแห่งเดียวมายาวนานเป็นพันปี เดิมเป็นสะพานไม้ ปัจจุบันปรับปรุงซ่อมแซมใหม่เป็นสะพานหินแข็งแรง จนกระทั่งถึงปี ค.ศ.1854 จึงมีการสร้างสะพานแห่งใหม่ข้ามแกรนด์คะแนลเพิ่มขึ้น สะพานริอัลโตนับว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเวนิส และสามารถะมองเห็นวิวสวยมุมกว้างสวยๆ ของคลองใหญ่ได้ดี และบริเวณรอบๆ สะพานจะมีร้านขายของที่ระลึกมากมาย
เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองแห่งแหล่งกำเนิดศิลปะของโลก เป็นจุดกำเนิดของยุคเรอเนซองส์หรือยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่วยุโรป เชิญเที่ยวชมมหาวิหารใหญ่ซึ่งเป็นมหาวิหารที่เรียกว่าดูโอโม หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ปราสาท แกลอรี่ บาร์ ร้านอาหาร รวมทั้งคลับ และดิสโก้ ทุกสถานที่ๆจะได้พบกับความทันสมัยและความสวยงามตลอดเวลา มีแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆมากมายเพราะเป็นศูนย์กลางของผู้นำแฟชั่น เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย
มหาวิหารฟลอเรนซ์ หรือ มหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร (Florence Cathedral | Santa Maria del Fiore) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี เป็นมหาวิหารที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอิตาลี อีกทั้งยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอิตาลีรองลงมาจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่รัฐวาติกัน
โบสถ์ซันตาโคเช่ (Santa Croce) เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค ตั้งอยู่ในเมืองฟรอเรนซ์ โบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่เก็บศพบุคคลสำคัญของอิตาลี เช่น ไมเคิลแองเจโล และกาลิเลโอ ตัวโบสถ์ปัจจุบันสร้างขึ้นแทนของเดิมในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ.1294 สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนทั้งหลังแบบสถาปัตกรรมนีโอโกธิค ลวดลายแกะสลักงดงาม อ่อนหวานพริ้วไหวราวมีชีวิต
สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) เป็นสะพานเก่าแก่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ยังคงหลงเหลือมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1333 มีสีเหลืองทองอร่าม บวกกับสองฟากของสะพานถูกสร้างเป็นตึกแถว ซึ่งถูกใช้เป็นร้านขายของ อาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้ามากมาย สมัยก่อนเป็นร้านขายเนื้อสัตว์ ต่อมามีการปรับปรุงทัศนียภาพ เลยเปลี่ยนให้กลายเป็นร้านขายทอง ด้านบนหลังคาของอาคารพาณิชย์ได้ต่อเติมให้เป็นทางเดินลอยฟ้า เชื่อมระหว่างพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี่กับพระราชวังพิตติ
ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน ตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นส่วนประกอบของหมู่บ้านหลากสีทั้งห้าแห่ง หมู่บ้านทั้งห้าจากเหนือลงมาใต้ Monterosso, Vernazza, Corniglia, Manarola, และ Riomaggiore ที่อยู่ติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ในประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ชอบการชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของตึกรามบ้านช่องที่ถูกฉาบไว้ด้วย สีสันสะดุดตามากมาย ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใสที่อยู่ด้านหลัง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่สวยงาม
พอตโตฟิโน่ (Portofino) เมืองท่าแห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงในระดับโลก อยู่ในเขตจังหวัดของเจนัว ประเทศอิตาลี ที่ถูกล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็กๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "สวรรค์แห่งเมืองท่า" ภายในตัวเมืองประกอบไปด้วยด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน ซึ่งตั้งเบียดเสียดกันไปตามเชิงเขาเขียวชอุ่ม โอบล้อมอ่าวที่มี เรือยอร์ช (Yatch)จอดเต็มไปหมด พร้อมทั้งตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารักดูโรแมนติกตามแบบฉบับของอิตาลี มีร้านขายสินค้าน่ารักๆ และร้านจำหน่าจโปสการ์ดราคาถูกกระจายอยู่รอบๆ เมือง
เมืองปิซา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ)ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร เชิญเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 6 มรดกโลก เช่น จตุรัสดูโอโมแห่งปิซา,มหาวิหารปิซา,หอศีลจุ่มเมืองปิซา,หอเอนเมืองปิซา,สุสานนักบุญ,พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา
หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) หอคอยหินอ่อนซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ประเทศอิตาลี และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ของศาสนสถานของชาวคริสต์ ใช้เวลาสร้างนานกว่า 176 ปี แต่เกิดการทรุดตัวลงเมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 จึงหยุดก่อสร้างไป จนอีกประมาณ 100 ปีต่อมาถึงมีผู้สร้างต่อได้จนครบ 8 ชั้น และได้นำระฆังไปติดในอีกร่วม 100 ปีต่อมา จนเสร็จสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน กาลิเลโอได้เคยมาพิสูจน์ทฤษฏีการตกของวัตถุที่ยอดของหอเอนแห่งนี้
เมืองเซียนา (Siena) หรือ เมืองซีเอนา เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเซียนา (Province of Siena) จังหวัดในแคว้นทัสกานี (Tuscany) ซึ่งเป็นแคว้นในภาคกลางของประเทศอิตาลี อีกทั้งยังเป็นแคว้นที่ขึ้นชื่อว่ามีทิวทัศน์งดงามมาก และมีไวน์ที่รสชาติดีเยี่ยมแห่งหนึ่งของอิตาลี โดยสิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดของมหาวิหารคือโดมและหอระฆัง โดยโดมที่ตั้งอยู่บนหอแปดเหลี่ยมมาสร้างเพิ่มโดยจาน โลเรนโซ แบร์นินี ภายนอกและภายในตกแต่งด้วยแถบหินอ่อนขาวสลับเขียวดำยกเว้นด้านหน้าที่แทรกด้วยหินอ่อนสีชมพูแก่เกือบแดง
จตุรัสเปียซซ่า เดล คัมโป (Piazza Del Campo) ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นมรดกโลก และเคยเป็นบ้านของปาลิโอนักแข่งม้าที่มีชื่อกระฉ่อนที่สุดในโลก ถือเป็นจตุรัสที่มีความสวยงามแปลกตา ด้วยรูปทรงเป็นแบบเกือกม้าคล้ายๆ กับรูปพัด ลาดเอียงแบบขั้นบันได ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลาว่าการเมืองเซียน่า อีกทั้งมีร้านกาแฟ, บาร์, ร้านค้า และของที่ระลึกมากมาย ล้อมรอบด้วยตึกอาคารสไตล์อิตาลี นอกจากยังเป็นสถานที่ที่นิยมจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น จัดงานแต่งงาน, แสดงเครื่องแต่งกายต่างๆ และเป็นสถานที่พบปะชุมนุมของชาวเมือง
เมืองอะมัลฟี จุดหมายปลายทางฝันของเส้นทางสายอะมัลฟีโคสต์ ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ทำให้ทั้งศิลปิน, นักกวี, นักเขียน ต่างหลั่งไหลมาเยือนกันเป็นเวลานับศตวรรษมาแล้ว เอกลักษณ์เฉพาะของบ้านเรือนที่ปลูกเรียงลดหลั่นตามหน้าผาสูง เหนือน้ำทะเลอันกว้างใหญ่ สวยงามจนยากที่จะพรรณนา อิสระให้ท่านเพลิดเพลินในเมืองอันแสนโรแมนติกแห่งนี้
เมืองโพสิตาโน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของ Campania ประเทศอิตาลี ตัวเมืองส่วนใหญ่ตั้งอยู่รายเรียงบนผาหินที่เปิดหน้าลงสู่ทะเล โพสิตาโนเดิมเป็นเมืองท่าในการปกครองของแคว้นอะมัลฟี มีฐานะร่ำรวยอย่างมากในยุคกลาง จุดเริ่มต้นของการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาจาก John Steinbeck เจ้าของรางวัลโนเบลด้านวรรณคดี ได้เผยแพร่เรื่องราวของเมืองใน Harper's Bazaar ในปี 1953 เมืองที่ไร้ซึ่งที่ราบแห่งนี้เต็มไปด้วยบ้านเรือนที่สร้างกันอยู่บนหน้าผาสูงชัน ไล่เรียงกันลงมาเป็นแถบ โพสิตาโนจึงกลายเป็นเมืองทรงเสน่ห์
เมืองซอร์เรนโต้ (Sorrento City)เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ในภาคใต้ของอิตาลี และยังมีอีกชื่อหนึ่งคือ เมืองนางเงือก มีท้องฟ้าสีคราม น้ำทะเลใส อากาศเย็นสบาย ภูมิประเทศริมชายฝั่งส่วนจะเป็นหน้าผาสูง สลับกับหาดทรายเล็กๆพอให้ลงเล่นน้ำได้ มีภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตามีสีสันที่ไม่เหมือนที่ใด ทั้งบ้านเรือนสีสวยที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา ในขณะที่ร่มชายหาดสีสดกางเป็นแถวแนวอยู่เบื้องล่าง สามารถเดินทางเที่ยวชมได้โดยการใช้บริการรถนำเที่ยว เช่น City Singhtseeing Bus , Sorrento Fun Tour เป็นต้น
เกาะเล็กๆที่มีธรรมชาติสวยงาม เป็นสถานที่ตากอากาศของบุคคลสำคัญๆมาช้านานซึ่งรายได้หลักของเกาะนี้มาจาก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สู่ชุมชนคาปรีอันเก่าแก่ตั้งรกรากมาแต่บรรพบุรุษจนกลายเป็นศูนย์กลางของเกาะ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยวและตากอากาศ ร้านรวงเปิดให้บริการนักช้อปปิ้งได้เลือกสรร
ถ้ำบลูกร็อตโต (Blue Grotto) เป็นถ้ำทะเลบนชายฝั่งของเกาะคาปรีเกาะสวรรค์ทางตอนใต้ของอิตาลี ซึ่งทะเลได้กัดกร่อนหินปูนจนเป็นรู ปัจจุบันนี้มีน้ำเข้าไปครึ่งหนึ่งเนื่องจากบริเวณทะเลแผ่นดินทรุดตัวลง เรียกว่า “บลู” เพราะมีแสงอาทิตย์รอดลงมาจากปล่องถ้ำมีสีสันเป็น “สีน้ำเงิน” ถ้ำน้ำลอดที่มีการกระทบของแสงกับน้ำทะเลสีครามทำให้ภายในบริเวณถ้ำประกายไปด้วยแสงสีน้ำเงิน
เกาะเล็กๆที่มีธรรมชาติสวยงาม เป็นสถานที่ตากอากาศของบุคคลสำคัญๆมาช้านานซึ่งรายได้หลักของเกาะนี้มาจาก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สู่ชุมชนคาปรีอันเก่าแก่ตั้งรกรากมาแต่บรรพบุรุษจนกลายเป็นศูนย์กลางของเกาะ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยวและตากอากาศ ร้านรวงเปิดให้บริการนักช้อปปิ้งได้เลือกสรร
เมืองซอร์เรนโต้ (Sorrento City)เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ในภาคใต้ของอิตาลี และยังมีอีกชื่อหนึ่งคือ เมืองนางเงือก มีท้องฟ้าสีคราม น้ำทะเลใส อากาศเย็นสบาย ภูมิประเทศริมชายฝั่งส่วนจะเป็นหน้าผาสูง สลับกับหาดทรายเล็กๆพอให้ลงเล่นน้ำได้ มีภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตามีสีสันที่ไม่เหมือนที่ใด ทั้งบ้านเรือนสีสวยที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา ในขณะที่ร่มชายหาดสีสดกางเป็นแถวแนวอยู่เบื้องล่าง สามารถเดินทางเที่ยวชมได้โดยการใช้บริการรถนำเที่ยว เช่น City Singhtseeing Bus , Sorrento Fun Tour เป็นต้น
เมืองเก่าที่ได้รับการจัดตั้งเป็น'พิพิธภัณฑ์เมืองปอมเปอี'ซึ่งอดีตเต็มไปด้วยงานศิลปะและวัฒนธรรมที่ถูกกลืนหายไปจากการระเบิดของภูเขาไฟวิซูเวียสในคศ79 เถ้าถ่านลาวาได้ไหลทับถมเมืองหายไปทั้งเมืองจมอยู่ใต้ดินกว่า1,500ปี เคยมีฐานะเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่แน่นขนัดไปด้วยร้านค้า ตลาดและห้องแถว สนามกีฬา โรงละคร วิหาร โรงอาบนํ้าสาธารณะ หอนางโลม โรงแรมถึง 130 แห่ง หลังจากการขุดสำรวจในศตว16 ภาพชีวิตของชาวโรมันกว่าสองพันปีได้ปรากฏแก่สาธารณะชน เชิญสัมผัสได้ถึงชีวิตที่หรูหราในปอมเปอีและพลังอำนาจของธรรมชาติ
เมืองนาโปลี หรือ เนเปิ้ล เป็นเมืองหลวงของแคว้นกัมปาเนีย อยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลี ติดกับอ่าวเนเปิลส์ กึ่งกลางระหว่างพื้นที่ภูเขาไฟ2แห่ง คือ ภูเขาไฟวิสุเวียสและกัมปีเฟลเกรย์ และถือเป็นเมืองท่าของเรือสำราญท่องเที่ยวในเขตเมดิเตอเรเนียนที่สำคัญ มีชื่อเสียงในด้านความร่ำรวยทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร เป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลีมาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา โดยเป็นท่าเรือที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
เMcArthur Glenn Designer Outlet แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ตั้งอยู่ในเขตเมือง Serravalle Scrivia ใกล้กับเมือง มิลาน ที่ เอ้าท์เลท แฟคทอรี่ แห่งนี้ มีร้านค้ามากกว่า 140 ร้าน จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกมากกว่า 100 แบรนด์ อาทิเช่น Bulgari,Prada,Versace Louis, Dolce&Gabbana,Gucci,Bally เป็นต้น นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับการเดินเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมในราคาพิเศษกันอย่างจุใจ
กรุงโรม เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศอิตาลี แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ โรมเป็นมหานครที่มีสีสันเฉพาะตัว คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวที่ทุกหัวมุมถนน เต็มไปด้วยโบสถ์ สิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โต และรูปปั้นโบราณ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น ตลาดหัวเมืองโรมันโบราณ โคลอสเซียม โบสถ์ซิสทิน แพนธีออน น้ำพุเทรวีอันเลื่องชื่อ
นครวาติกัน (Vatican) ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ถือเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ผู้เป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครวาติกันนี้เป็นรัฐอิสระ จัดว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชม เช่น พิพิธภัณฑ์วาติกัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล เป็นต้น
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) เป็นมหาวิหาร 1 ใน 4 มหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และ สำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่น สามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน
พระราชวังหลวงปาแลร์โม..พระราชวังปราสาทที่งดงาม ตั้งอยู่กลางเมืองปาเลอร์โม เป็นมรดกตกทอดจากพวกนอร์มัน ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของรัฐบาลซิซิลีมาก่อน ภายในมีห้องหับต่างๆ สวยงามไปด้วยภาพโมเสก ที่มีอิทธิพลของตะวันออก พร้อมชมภาพวาดอันวิจิตรภายใน พิพิธภัณฑ์หุ่น มีหน้ากากจากแอฟริกาและของอินโด แขวนอยู่บนผนังมากมาย
โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ โดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร ออกแบบโดย Francesco Salvi เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ซึ่งเทพเจ้าเนปจูนนี้จะทรงประทับมาบนรถม้ามีปีก ซึ่งซ่อนความหมายเอาไว้ว่าจะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงโรมแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญหนึ่งเหรียญลงในสระน้ำพุเทรวี่ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้หนึ่งข้อ
บันไดสเปน (Spanish Steps) ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1723 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามโปรดระวังกระเป๋าเงินและสิ่งของมีค่าด้วย เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุกชุมของมิจฉาชีพทั้งหลาย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553