Mushroom Travel
รหัสทัวร์MUSH181587

ทัวร์อิตาลี โครเอเชีย สโลวีเนีย มอนเตเนโกร ชมความงามของถ้ำโพสทอยน่า สะพานมังกร ทะเลสาบเบลด

SOLD OUT

ทัวร์นี้ได้ปิดกรุ๊ปแล้ว

หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com

ดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์
แชร์เลย !

วันที่เดินทาง

ไฮไลท์โปรแกรมทัวร์

  • เที่ยว:เมืองเวนิส-ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก-จตุรัสเซนต์มาร์โคและพระราชวังดอจจ์-ถ้ำโพสทอยน่า-ทะเลสาบเบลด-เมืองลุบเบลียน่า-สะพานมังกร-เมืองซาเกรบ-มหาวิหารเซนต์สตีเฟน-ตลาดกลางเมือง-อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่-เมืองซาดาร์-โบสถ์อนาสตาเชีย-มหาวิหารเซนต์จาคอบ-เมืองมรดกโลกดูบรอฟนิค-ชมน้ำพุ-หอนาฬิกาโบราณ-ไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
  • ช้อป:จตุรัสเซนต์มาร์โค-สปอนซา พาเลส

โปรแกรมทัวร์

  • Day 1
  • 18.30 น. พร้อมกันที่ : สนามบินสุวรรณภูมิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

  • 21.45 น. เดินทางสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 65

  • Day 2
  • 06.50 น. เดินทางสู่ สนามบินเวนิส (VCE)โดยเที่ยวบิน TK1867

  • 08.20 น. นำท่านสู่ :

  • นำท่านนั่งเรือสู่ : เมืองเวนิส

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับฉายาทั้ง ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกัน มีคลองเล็กๆ กว่า 150 คลอง เต็มไปด้วยสะพานกว่า 400 สะพานเชื่อมถึงกัน มีเรือกอนโดล่าเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันดีของนักท่องเทีี่ยว รวมทั้งบ้านเรือนสีสันสดใสอายุเก่าแก่เรียงรายกันอยู่ เวนิสเป็นเมืองมรดกโลกและถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าสุดแสนโรแมนติกของอิตาลีด้วย

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

  • นำท่านชม : จัตุรัสเซนต์มาร์ก

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    จัตุรัสเซนต์มาร์ก หรือ จตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco | Saint Mark Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิส ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก เป็นจุดเด่นของลานกว้าง บริเวณรอบๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ไว้คอยบริการมากมาย และรอบๆ จัตุรัสยังมีอาคารที่สำคัญสองแห่งคือ หอระฆัง และ หอนาฬิกา อีกด้วย

  • นำท่านชม : พระราชวังดอจส์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พระราชวังดอจส์ เป็นที่ทำการของรัฐบาลเวนิสและที่พำนักของผู้ดำรงตาแหน่งเจ้าเมืองในอดีต ตัวอาคารกะทัดรัดในแบบโกธิค เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มากว่า 800 ปีมาแล้ว เมื่อสมัยเวนิสยังเป็นสาธารณรัฐอิสระ ซึ่งเคยร่ำรวยและมีอำนาจมหาศาลและเคยส่งให้มาร์โคโปโลเดินทางไปเมืองจีน เชิญเยียมชมพระราชวังเก่าโบราณเวนิส และเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีตในอดีต

  • นำท่านชม : สะพานถอนหายใจ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สะพานสะอื้น หรือบางคนเรียกว่า "สะพานแห่งการทอดถอนใจ” ซึ่งทอดข้ามด้านหลังวังของผู้ปกครองเวนิสในอดีต ไปยังคุกที่อยู่อีกฟากฝั่งคลอง ว่ากันว่าสะพานแห่งนี้คือจุดหายใจเฮือกสุดท้ายแห่งอิสรภาพของเหล่านักโทษ และคุกแห่งนี้เองเป็นที่คุมขังนักรักกระเดื่องนาม “คาสโนว่า” ซึ่งเขาเป็นนักโทษเพียงคนเดียวที่สามารถแหกคุกนี้หนีออกมาได้ปัจจุบันวังแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษาไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญของเมือง

  • นำท่านชม : ซานมาร์โค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ซานมาร์โค (san marco) คือ ห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป ซึ่งยังไม่มีใครค้านมาจนทุกวันนี้ เปียซซ่า ซานมาร์โค หรือจัตุรัสซานมาร์โค เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิสที่สวยงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก (Basilica di San Marco หรือ Saint Mark’s Basilica) เป็นจุดเด่นของลานกว้างที่เต็มไปด้วยฝูงนกพิราบและนักท่องเที่ยว ถ้านั่งเรือมาเมื่อถึงที่ท่าซานมาร์โค จะพบเสาสูงสองต้นอยู่ริมน้ำ เสาหนึ่งเป็นรูปสิงห์โตมีปีกแห่งเซนต์มาร์ก อีกเสาหนึ่งคือนักบุญธีโอดอร์ซึ่งทั้งสองเป็นสัญลักษณ์ของเวนิส

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

  • เข้าพักสู่โรงแรมที่พัก ANTONY PALACE หรือ HOLIDAY INN หรือ NH LAGUNA **** หรือเทียบเท่า

  • Day 3
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • นำท่านสู่ : ถ้ำโพสทอยน่า

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ถ้ำโพสทอยน่า อยู่ในประเทศสโลเวเนีย เป็นถ้ำสวยที่สุดในยุโรปแห่งหนึ่ง อายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี มีความยาว ภายในถ้ำถึง 27 ก.ม. เชิญเยี่ยมชมภายในถ้ำโดยขบวนรถรางไฟฟ้า วิ่งผ่านลำธาร เขื่อนเก็บน้ำใต้ดินภายในถ้ำตลอดระยะทาง 5 ก.ม.ภายในถ้ำมีหินอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่างๆ มากมายภายในถ้ำลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ราวกับวิมานเนรมิต

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

  • นำท่านล่องเรือ : ทะเลสาบเบลด

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ทะเลสาบเบลด ตั้งอยู่ริมเทือกเขาแอลป์จูเลียน เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสโลเวเนีย เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งโบฮินจ์ ในยุคน้ำแข็ง แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือน้ำในทะเลสาบ ไม่ได้มาจากการละลายของธารน้ำแข็ง แต่มาจากบ่อน้ำร้อนใต้ดินหลายแห่ง น้ำในทะเลสาบนี้จึงใสบริสุทธิ์ และไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว ทะเลสาบถูกล้อมรอบไปด้วยป่าทึบ ทำให้ทะเลสาบนี้งดงามยิ่ง

  • นำท่านสู่ : เมือง ลุบเบลียนา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ลุบเบลียนา..เมืองหลวงเล็กๆของประเทศสโลวาเนีย ที่มีบรรยากาศเรียบง่าย สงบเรียบร้อย เป็นระเบียบ มีจัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน เป็นจัตุรัสบันไดสเปนในกรุงโรม ใจกลางจัตุรัสเป็นรูปหล่อของ ฟรานซ์ เพรเซเรน กวีมีชื่อของสโลวาเนีย สัญลักษณ์ของคนที่รักชาติสุดใจขาดดิ้น รักเสรีภาพ เป็นประพันธ์เพลงชาติ ที่นี่..มีสะพานมังกร สร้างปี ค.ศ.1901 เป็นสะพานแห่งแรกๆ ที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ของยุโรป ที่หัวสะพานทั้งสองฝั่งจะมีรูปมังกรใน แบบอาร์ตนูโว อยู่ฝั่งละ 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว

  • นำท่านชม : สะพานมังกร

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สะพานมังกร อยู่เมืองลุบเบลียนา ประเทศสโลวีเนีย สร้างในปี ค.ศ.1901 เป็นสะพานแห่งแรกๆ ที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ของยุโรป ที่หัวสะพานทั้งสองฝั่งจะมีรูปมังกรใน แบบอาร์ตนูโว อยู่ฝั่งละ 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว เป็นเรื่องความผูกพันของชาวสโลวาเนียที่เชื่อกันว่า เจสัน ได้ขโมยขนแกะทองคำมา และได้เดินทางผ่านมายังลุบเบียนา และได้ปะทะกับมังกรแห่งลุบเลียนา ดังนั้น มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์อีกชิ้นที่ประดับอยู่บนตราประจำเมือง

  • นำท่านชม : ปราสาทเมืองเก่าลุบเบลียนา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ปราสาทเมืองเก่าลุบเบลียนา ตั้งอยู่บนเนินสูง ปราสาทแห่งนี้สร้างในสมัยศตวรรษที่ 11 ในศิลปะสไตล์บาร๊อค และได้ทำการบูรณะใหม่ในปี 1990 โดยได้บูรณะหอสูงในลักษณะสถาปัตกรรมแบบโกธิค ณ จุดนี้ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์โดยรอบของเมืองลุบเบลียน่าในระยะไกล

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

  • เข้าพักสู่โรงแรมที่พัก RADISSON BLU หรือ LEV HOTEL หรือ AUSTRIA TREND **** หรือเทียบเท่า

  • Day 4
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • นำท่านสู่ : เมืองซาเกร็บ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองซาเกร็บเป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบแพนโนเนีย ซึ่งเชื่อมโยงกับเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาไดนาริกแอลป์ ทะเลเอเดรียติก นี่จึงทำให้ซาเกร็บเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่สำคัญกับภูมิภาคยุโรปกลางและทางทะเลเอเดรียติก นอกจากนี้ซาเกร็บยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการศึกษาของประเทศอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ซาเกร็บยังโดดเด่นทางด้านการท่องเที่ยวด้วยเสน่ห์ของความเป็นเมืองเก่าที่มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมอีกด้วย

  • นำท่านถ่ายรูปกับ : มหาวิหารเซนต์สตีเฟน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St Stephens Cathedral) ตั้งอยู่ในเมืองซาเกร็บ เป็นวิหารอันมีอายุเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1093 ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ในสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิค หลังจากที่ถูกกองทัพมองโกลทำลายในปี ค.ศ. 1242 โดยมีลักษณะเป็นหอคอยแฝดปลายแหลมสีทอง ที่มีความแปลกตรงที่มีขนาดความสูงที่ไม่เท่ากัน ส่วนภายในวิหารนั้นประดิษฐานรูปปั้นนักบุญที่สำคัญ ทั้งเซนต์ปีเตอร์และเซนต์ปอล นอกจากนั้นยังมีความโดดเด่นอีกอย่างคือ หลังคาวิหารที่ปูกระเบื้องเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของกองกำลังทหารในยุคกลางนั่นเอง

  • นำท่านชม : ตลาดโดเเลค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ตลาดโดแลคเป็นตลาดเกษตรกรที่ตั้งอยู่ในเมืองซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย และอยู่ไม่ไกลจากจัสตุรัสกลางเมืองมากนัก ซึ่งตลาดโดแลคถือว่าเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากมันเป็นตลาดเก่าแก่ในการซื้อขายสินค้าทางด้านการเกษตรมาตั้งแต่ปี 1926 โดยในอดีตชาวเกษตรกรที่อยู่หมู่บ้านรอบๆ บริเวณนี้จะนำผลผลิตของพวกเขาออกมาวางขาย ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้สดๆ รวมถึงอาหารในสไตล์โฮมเมด แต่ในปัจจุบันสินค้าของที่นี่ยังครอบคลุมไปถึงสินค้าประเภทอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสินค้าทางเกษตร

  • นำท่านถ่ายรูปกับ : โบสถ์เซนต์มาร์ค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โบสถ์เซนต์มาร์ค ตั้งอยู่ในเขตที่ทำการรัฐบาล มีหลังคาสีสันสวยงาม ไม่เหมือนใคร โดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องที่ปูเป็น รูปตราของกองทหารแห่งยุคกลาง เช่น ตราหมากรุกสีแดง-ขาว หมายถึง โครเอเชีย ส่วนหัวลีโอพาร์ด 3 ตัว แทนแคว้นดัลเมเทีย แถบสีแดง ฟ้า ขาว หมายถึง สโลวาเนีย และตราฝั่งขวามือ คือ ตราของกองกำลังแห่งซาเกร็บรอบๆ จัตุรัส กำแพงหินโบราณ ยุคศตวรรษที่ 13 ที่สร้างรายล้อมเมืองเก่า ซึ่งยังคงความอัศจรรย์ของภาพพระแม่มารีที่ไม่ถูกเผาทำลายเมื่อไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1731

  • นำท่านถ่ายรูปกับ : โบสถ์เซนต์แคทเธอรีน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โบสถ์สไตล์บาร๊อคที่สวยงามที่สุดในเมืองซาเกรบ ถูกสร้างขึ้นโดย Jesuits ช่วงระหว่างปี 1620 ถึง 1632 ภายในมีการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามทั้งบริเวณเพดาน เสา และผนังโดยรอบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นของศิลปะในสมัยนั้น นอกจากนี้ก็ยังมีรูปปั้นที่แกะสลักอย่างประณีตประดับอยู่ทั่วบริเวณโบสถ์ รวมทั้งซึ่งมีการจัดแสดงภาพวาดของเซนต์แคทเธอรีนด้วย

  • นำท่านชม : จัตุรัสเยลาซิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    จัตุรัสเยลาซิคตั้งอยู่บริเวณจุดศูนย์กลางเมืองซาเกร็บ โดยตั้งอยู่ด้านล่างของเขตเมืองเก่าซาเกร็บ และอยู่ทางทิศใต้ของตลาดโดแลค ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางที่แท้จริงของซาเกร็บเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเต็มไปด้วยคาเฟ่ แหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารมากมาย ดังนั้นทั้งชาวโครแอตเองและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจึงมักมารวมตัวกันอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นสิ่งที่ยิ่งเสริมให้ที่นี่มีจุดเด่นมากยิ่งขึ้นก็คือคืออนุสาวรีย์เยลาซิคที่นั่งอยู่บนหลังม้าอันเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชาตินิยมอย่างสมบูรณ์แบบ

  • นำท่านชม : อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic (Ban Josip Jelacic Monument) อนุสาวรีย์แห่งนี้มีที่ใจกลางจัตุรัสหลักของ Jelacic ในกรุงซาเกร็บ ตั้งอยู่บนฐานสูงที่น่าภาคภูมิใจ สำหรับคนท้องถิ่นเป็นรูปปั้นของประวัติศาสตร์ของนายพลผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อเป็นอิสระจากชาวฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1848 อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในจัตุรัสหลักในเมือง ซึ่งประกอบไปด้วยร้านค้าและย่านช้อปปิ้ง ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งด้านหลังและด้านหน้าของอนุสาวรีย์แห่งนี้เลยทีเดียว

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

  • นำท่านสู่ : อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า (Plitvice Lakes National Park) อุทยานแห่งนี้มีต้นกำเนิดมาจากน้ำในภูเขามาลา คาเปลา ที่กัดเซาะชั้นหินปูนและก้อนหินโดโลไมท์ มาเป็นระยะเวลานานหลายพันปี จนก่อเกิดเป็นน้ำตกที่ไหลลงสู่ทะเลสาบสีเขียวมรกต และสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แวววาวภายในอุทยานถึง 16 แห่ง โดยเป็นสีที่เกิดจากการผสมผสานกันของแร่ธาตุต่าง ๆ และน้ำพุร้อนใต้ผืนดินแห่งนี้ ซึ่งแต่ละแห่งเชื่อมต่อกันด้วยสะพานไม้ ที่ลัดเลาะผ่านผืนน้ำ ต้นไม้ใหญ่ที่เขียวชอุ่ม และเนินเขาน้อยใหญ่ที่รายล้อมอุทยาน

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

  • เข้าพักสู่โรงแรมที่พัก JEZERO HOTEL *** หรือเทียบเท่า

  • Day 5
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • นำท่านล่องเรือ : ทะเลสาบคอสจัค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ทะเลสาบคอสจัค (Lake Kozjak) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดและลึกที่สุดในบรรดา 16 ทะเสาบ ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า ประเทศโครเอเชีย นั่นคือมีความกว้างถึง 81.5 เอเคอร์ และลึกกว่า 46 เมตร อีกทั้งยังเป็นทะเสาบที่ตั้งอยู่ด้านบนของเทือกเขา โดยมีน้ำตกมิลาโน่วัคซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 20 เมตร นำพาน้ำจากทะเลสาบคอสจัค ไหลลงมาสู่ทะเลสาบที่อยู่ชั้นล่างลงมา ซึ่งนั่นก็คือทะเลสาบมิลาโน่วัค

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

  • นำท่านสู่ : เมืองซาดาร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองซาดาร์ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย ซึ่งในอดีตนั้นที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชียมาก่อน และมีบทบาทเป็นเมืองท่าที่สำคัญของคาบสมุทรเอเดรียติคมาตั้งแต่ในช่วงสมัยอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน และในปัจจุบันซาร์ดาร์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่และยาวนานมากกว่า 3,000 ปี ซึ่งสามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมในแบบโรมาเนสก์และโกธิค ให้แพ็กกระเป๋าเดินทางมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย

  • นำท่านถ่ายรูปกับ : โบสถ์อนาสตาเชีย

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โบสถ์โรมันคาทอลิกประจำเมืองซาดาร์ และถือว่าเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคดัลมัลเชียซึ่งเป็นภูมิภาคทางชายฝั่งทะเลของโครเอเชีย โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 5-6 โดยใช้ศิลปะแบบโรมัน และได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดในศตวรรษที่ 13 เนื่องจากได้รับความเสียหายจากการโจมตีของชาวเวนิสในช่วงสงครามศาสนา นอกจากนี้ โบสถ์อนาสตาเชียยังมีความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์เพราะเคยเป็นสถานที่ที่พระสันตปาปา ถึง 2 พระองค์คือ พระสันตปาปาอเล็กซานพระสันตปาปาจอห์นพอลที่ 2 เคยเสด็จมาเยือน

  • นำท่านชม : โบสถ์เซนต์ โดแนท

  • นำท่านชม : โรมันฟอรัม

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

  • เข้าพักสู่โรงแรมที่พัก CLUB FUMINATION BORIK HOTEL หรือ DIADORA HOTEL **** หรือเทียบเท่า

  • Day 6
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแ

  • นำท่านสู่ : เมืองซีเบนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองซีเบนิคคือเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของโครเอเชีย ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โดยทอดตัวยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ซึ่งหากมองจากระยะไกลก็จะเห็นถึงความคลาสสิกของเมืองแห่งนี้ด้วยอาคารบ้านเรือนที่มุงหลังคากระเบื้องสีส้มสไตล์เรเนซองส์ทอดยาวริมฝั่งทะเล นอกจากนั้นซีเบนิคยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยภูมิทัศน์อันงดงาม รวมทั้งอนุสาวรีย์ทางวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของมลรัฐหมู่เกาะชีเบนิค-คนีนอีกด้วย

  • นำท่านชม : มหาวิหารเซนต์เจมส์หรือมหาวิหารเซนต์จาคอบ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    มหาวิหารเซนต์เจมส์หรือมหาวิหารเซนต์จาคอบคืออีกหนึ่งมรดกโลกของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ที่เมืองซีเบนิคบนชายฝั่งดัลเมเชียน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมการส่อสร้างในแบบผสมระหว่างศิลปะทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ดัลเมเชีย และทัสคานี เนื่องจากใช้สถาปนิกในการออกแบบถึง 3 คน และมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน โดยสร้างเสร็จในปี 1535 ด้วยโครงสร้างที่มาจากหินปูนสีขาวล้วนๆ ไม่มีวัสดุอื่นปลอมปน ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นนักบุญเจมส์หรือจาคอบตามภาษาโครแอต ซึ่งเป็น 1 ใน 12 สาวกของพระเยซู

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

  • นำท่านสู่ : เมืองโทรเกียร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โทรเกียร์คือเมืองเล็กๆ บนเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากแผ่นดินใหญ่มากนัก ทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคกรีกและโรมัน และผ่านการปกครองจากเชื้อชาติต่างๆ มาหลายยุคหลายสมัย นั่นจึงทำให้โทรเกีย์กลายเป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย ด้วยสิ่งก่อสร้างต่างๆ อันเป็นผลิตผลจากการปกครองของอาณาจักรเวนิสในยุคเวนิเชียน ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ หรืออาคารบ้านเรือนในสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองก์และบาโร้ก และนี่เองที่ส่งเสริมให้โทรเกียร์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าจนได้รับการรับรองให้เป็นอีกหนึ่งมรดกของโลก

  • นำท่านชม : เขตเมืองเก่าโทรเกียร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เขตเมืองเก่าโทรเกียร์ (trogir old town) มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมืองที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชมมหาวิหารเซ็นต์ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลัก ที่มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญองค์สำคัญ

  • นำท่านสู่ : เมืองสปลิต

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองสปลิตเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโครเอเชีย รวมทั้งยังเป็นอีกหนึ่งเมืองท่าที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวของประเทศ เนื่องจากในแต่ละปีนั้นนักเดินทางจากทั่วโลกต่างมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่นี่ไม่น้อยกว่าล้านคน ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเสน่ห์อันล้นเหลือของสปลิต ไม่ว่าจะเป็นในฐานะของเมืองโบราณอันเก่าแก่และเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและการบริหารในศตวรรษที่ 15 และก่อเกิดสิ่งก่อสร้างอันทรงคุณค่าต่างๆ ตามมา อย่างเช่นพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน หนึ่งในพระราชวังที่ถูกการรับรองให้เป็นมรดกของโลก

  • นำท่านชม : พระราชวังไดโอคลีเชียน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พระราชวังไดโอคลีเชียนตั้งอยู่ที่เมืองสปลิทประเทศโครเอเชีย โดยพระราชวังแห่งนี้สร้างโดยพระราชประสงค์ของจักรพรรดิไดโอคลีเชียนแห่งจักรวรรดิโรมัน เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับในบั้นปลายชีวิต เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4ลักษณะภายนอกเป็นพระราชวังขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆ หลายส่วนนับตั้งแต่ทางเข้าหลัก อย่างเช่นมหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์ โบสถ์แห่งเทพวีนัส และวิหารโดมนิอุส เป็นต้น จึงทำให้พระราชวังแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่อันทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1979

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

  • เข้าพักสู่โรงแรมที่พัก ATRIUM HOTEL หรือ PRESIDENT HOTEL SOLIN**** หรือเทียบเท่า

  • Day 7
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • นำท่านสู่ : สตอน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองสตอน เมืองเล็กๆที่มีความสงบเงียบริมโค้งอ่าวกว้าง เดิมเป็นเหมือนเมืองหน้าด่านของดูบรอฟนิค มีความเจริญรุ่งเรืองการค้าเกลือ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ตัวเมืองถูกโอบล้อมเมืองด้วยกำแพงที่ทอดยาวราว 5กม มองเห็นได้จากระยะไกล ปัจจุบันเมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเลรสเลิศ เนื่องจากมีชื่อเสียงเรื่องฟาร์มเลี้ยงหอย โดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมมีอยู่มากมาย นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ได้ชมขั้นตอนต่างๆของการเลี้ยงและอาจได้ชิมหอยนางรมสดๆจากทะเลอเดรียติค พร้อมด้วยไวน์สดที่คล่องคอแบบสุดๆ

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมลองชิมหอยนางรมสดจากฟาร์มในเมืองสตอน

  • นำท่านสู่ : เมืองดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองดูบรอฟนิคเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย และมีพรมแดนติดกับประเทศบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า ในอดีตในช่วงศตวรรษที่ 13 เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจทางทะเล โดยครอบคลุมพื้นที่ทะเลเอเดรียติคและทะเลเมดิเตอเรเนียนทั้งหมด และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในยุคนั้นจนก่อให้เกิดปัญหาตามมา แต่ในปัจจุบันดูบรอฟนิคกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโครเอเชีย และได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองเก่าที่สวยที่สุดในทวีปยุโรป จนทำให้ได้รับฉายาว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค

  • นำท่านชม : เขตเมืองเก่าดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เขตเมืองเก่าดูบรอฟนิคเป็นเขตเมืองซึ่งถูกโอบล้อมด้วยกำแพงโบราณสูงตระหง่านถึง 25 เมตร ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้ป้องกันการรุกรานของศัตรู โดยประตูเมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ส่วนภายในกำแพงหินนั้นเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเก่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก-บาโร้ก รวมทั้งถนนการค้าเส้นสำคัญที่ปูพื้นด้วยหินด้วยความยาว 292 เมตร ซึ่งเกือบทั้งหมดภายในเขตเมืองเก่านี้คือสิ่งที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่จากความเสียหายเพราะเหตุการณ์การต่อสู้แบ่งแยกดินแดนจากยูโกสลาเวีย

  • นำท่านชม : ประตูหลักเมืองดูบรอฟนิค

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    หรือ ประตูปิเล เป็นทางเข้าหลักของเมือง ที่เชื่อมอยู่กับสะพานหินที่มีอายุย้อนถึงปีค.ศ.1537 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของย่านเขตเมืองเก่าดูบรอฟนิค เพื่อปกป้องเมืองภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียนและเซิร์บ ซึ่งต้องเดินทางผ่านทางสะพานไม้ อันเป็นสะพานที่สามารถยกขึ้นทุกเย็น แล้วประตูเมืองจึงจะปิดล็อคเอง เหนือประตูปิเล มีรูปปั้นของนักบุญเบลส ซึ่งเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของเมือง ซึ่งฝังตัวอยู่ในโค้งของประตูเมือง ออกแบบโดย Ivan Mestrovic นักประติมากรในศตวรรษ 20

  • นำท่านถ่ายรูปกับ : พระราชวังเรคเตอร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พระราชวังเร็กซ์เตอร์ (Rector's Palace) พระราชวังที่มีประตูโค้งพร้อมด้วยบัวหัวเสาแกะสลักสวยงาม สถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเนสซองส์และบารอค อดีตเป็นที่ทำการรัฐบาล ในศตวรรษที่ 15 ตัวตึกถูกทำลายโดยระเบิดและได้สร้างใหม่โดย โอโนฟริโอ้ เดลลา คาวา ในรูปแบบโกธิค ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของเมือง ที่รวบรวมสมบัติล้ำค่าไว้มากมาย และยังใช้เป็นที่แสดงคอนเสิร์ตด้วย

  • อิสระช้อปปิ้ง : สปอนซ่าพาเลซ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ตึกนี้ถือเป็นแหล่งผลิตเหรียญกษาปณ์และเก็บอาวุธ สร้างขึ้นในศต16 ในสไตล์โกธิคเรเนซองค์ ออกแบบโดย Paskoje Milicevic เดิมเป็นพระราชวังและหอจดหมายเหตุที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นเมืองท่าการค้าขายทางทะเลในอดีต ที่นี่..มีงานแกะสลักสวยงามด้วย สร้างโดยพี่น้อง อันดริจิค และในศต17ใช้เป็นที่พบปะของสมาชิกนักปราชญ์ที่มาทำการถกเถึยงในด้านอักษรศาสตร์ ศิลปะและวิทยาศาสตร์ ปัจจุบัน สปอนซ่าพาเลซใช้เป็นที่เก็บรักษาหนังสือสำคัญที่ถือว่ามากที่สุดในยุโรป

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

  • เข้าพักสู่โรงแรมที่พัก VALAMAR LACROMA / KOMPAS / GH PARK / CROATIA HOTEL**** หรือเทียบเท่า

  • Day 8
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • นำท่านสู่ : เมืองกอเตอร์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองชายฝั่งทะเลที่มีมนต์เสน่ห์ด้วยความงดงามของทัศนียภาพริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกเมืองหนึ่งของมอนเตเนโกร อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้อีกด้วย ตัวเมืองถูกสร้างขึ้นภายในกำแพงสูงที่แบ่งเมืองออกเป็น 2 โซน คือ โซนเมืองเก่า และโซนเมืองใหม่ โดยกำแพงเมืองแห่งนี้สร้างโดยชาวเวนิส ในช่วงที่เข้ามายึครองระหว่างปี 1420 และ 1797 ยิ่งไปกว่านั้นงานสถาปัตยกรรมในเมืองส่วนใหญ่ก็ยังได้รับอิทธิพลจากชาวเวนิสด้วยเช่นเดียวกัน

  • นำท่านชม : โบสถ์เซ็นต์ไทรฟอน

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    อีกหนึ่งโบสถ์สำคัญและมีชื่อเสียงของเมืองกอเตอร์ ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยใช้ศิลปะแบบโรมัน ต่อมาในศตวรรษที่ 17 เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงทำให้ตัวโบสถ์ทางด้านทิศตะวันตกได้รับความเสียหาย จึงมีการสร้างหอระฆังสไตล์บาร๊อคจำนวน 2 หอขึ้นมาแทนที่ ภายในโบสถ์มีการตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังมากมายซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณค่าทางศิลปะรวมทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ด้วย

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

  • นำท่านสู่ : เมืองบุดวา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองโบราณริมชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ทางตอนใต้ของมอนเตเนโก ซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 5 เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ อันน่าหลงใหลด้วยธรรมชาติอันงดงาม ทั้งหาดทรายขาว อ่าวน้อยใหญ่ที่มีน้ำทะเลใสเหมือนกระจก รวมทั้งเกาะต่างๆอีกมากมาย นอกจากนี้ เมืองบุดวา ยังเป็นเมืองที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และอารยธรรมสไตล์เวนิส เนื่องจากบุดวาเคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาวเวนิสนานถึง 400 ปี ในเมืองจึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเวนิสที่ยังคงหลงเหลืออยู่

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

  • เข้าพักสู่โรงแรมที่พัก RAMADA HOTEL หรือ PODGORICA HOTEL**** หรือเทียบเท่า

  • Day 9
  • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

  • นำท่านสู่ : เมือง พอดกอรีตซา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศซึ่งมีภูมิประเทศทั้งแบบชายฝั่งทะเล และเทือกเขาสูง ทำให้เมือง พอดกอรีตซา มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งทะเล ชายหาด ภูเขา ลานสกี และในเมืองก็ยังมีน้ำหลายสายไหลผ่านทำให้มีสภาพอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว เมืองพอดกอรีตซา ยังเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่างๆที่สะท้อนให้เห็นถึงงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์ตั้งแต่อดีตของชาวเมืองพอดกอรีตซาด้วย

  • นำท่านผ่านชม : อนุสาวรีย์กษัตริย์นิโคลา

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    กษัตริย์นิโคลา คือ กษัตริย์องค์สุดท้ายของมอนเตเนโกร พระองค์ทรงมีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านการเมืองการปกครอง และทางด้านการประพันธ์บทกวีอันแสนไพเราะ อนุสาวรีย์ของพระองค์ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะตรงข้ามกับอาคารรัฐสภา รูปปั้นของพระองค์มีความสูงถึง 4 เมตรอยู่ในอิริยาบทนั่งบนหลังม้าอย่างสง่างาม ซึ่งยืนอยู่บนแท่นหินอ่อนสีแดง

  • นำท่านสู่ : จัตุรัส Trg Republike

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    จัตุรัส Trg Republike ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมือง ศูนย์รวมร้านค้าต่างๆ มากมาย

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

  • นำท่านสู่ : เมืองเซตินเย

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองเซตินเย (Cetinje) อดีตเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในหุบเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 แต่ถูกรุกรานโดยชาวเติร์กหลายครั้ง ปัจจุบันเป็นเมืองที่พำนักของประธานาธิบดี

  • 20.05 น. เดินทางจากสนามบินพอดกอรีซาสู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK1088

  • Day 10
  • 01.25 น. เดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK

  • 15.00 น. เดินทางถึง : สนามบินสุวรรณภูมิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

คำถามที่พบบ่อย

 ซื้อทัวร์กับมัชรูมทราเวล มั่นใจได้แค่ไหน? จะได้เดินทางตามใบนัดหมายหรือเปล่า?

บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด ทำงานด้านการท่องเที่ยวมานาน ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียในเรื่องนี้ เพราะเราซื่อสัตย์ จริงใจ และที่สำคัญเรามีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/09294 ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเภท Outbound คือบริษัททัวร์ที่สามารถจัดทัวร์นำเที่ยวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

มัชรูมทราเวล เป็นผู้จัดทำแพ็กเกจทัวร์เองหรือส่งต่อให้กับบริษัททัวร์อื่น?

มัชรูมทราเวล มีทั้งจัดแพ็กเกจทัวร์เองในนาม มัชรูมทราเวล และจัดทัวร์ร่วมกับกลุ่มบริษัทพันธมิตร (Partner) เพื่อให้ลูกค้าได้มีโปรแกรมท่องเที่ยวตามความต้องการและเหมาะสมกับลูกค้ามากที่สุด

สามารถติดต่อขอจองแพ็กเกจทัวร์ต่างๆ ได้อย่างไร?

สามารถแจ้งจองแพ็กเกจทัวร์ที่ต้องการได้หลายช่องทาง เช่น จองทาง เช่น website, Call Center, email, สื่อ Social media ต่างๆ  ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อท่านเพื่อยืนยันที่นั่งพร้อมแจ้งชำระเงินค่าจองทัวร์

มัชรูมทราเวล มีช่องทางการชำระเงินใดบ้าง?

ช่องทางการชำระเงิน มีหลายช่องทาง ดังนี้
  • 1. ชำระด้วยเงินสด หรือ เช็คเงินสด ที่ บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด  คลิกดูแผนที่บริษัท 
  • ชำระด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร ชื่อบัญชี บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด   คลิกดูรายชื่อธนาคาร
  • 3. ชำระด้วยบัตรเครดิต ชำระโดยตรงได้ที่บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด หรือแจ้งพนักงานขายของท่าน (โดยมีค่าธรรมเนียมการใช้บัตรจ่ายธนาคาร 3.5% ของมูลค่าสินค้า)

เมื่อใดจึงจะทราบว่าจองทัวร์สำเร็จ ได้รับที่นั่งเรียบร้อย?

หลังจากลูกค้าแจ้งชำระเงินมัดจำค่าทัวร์ และการบริการอื่นๆ เรียบร้อยแล้ว พนักงานขายจะติดต่อกลับเพื่อยืนยันที่นั่งอีกครั้ง พร้อมส่งเอกสารการยืนยันสำรองที่นั่ง

เมื่อชำระเงินค่าทัวร์เรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องแจ้งกับพนักงานขายหรือไม่?

จำเป็น!  เพื่อให้พนักงานขายรับทราบและตัดสำรองที่นั่งให้ท่านได้อย่างรวดเร็ว ท่านสามารถแจ้งผ่านทาง e-mail ของพนักงานขาย , Line ของพนักงานขาย หรือทางแฟกซ์หมายเลข 02 745 6258  โดยส่งหลักฐานการโอนเงินแนบประกอบมาด้วย

สามารถขอยกเลิกการเดินทาง และขอเงินคืนมัดจำหรือเงินค่าทัวร์เต็มจำนวนได้ไหม?

สามารถขอยกเลิกการเดินทาง และขอเงินคืนได้ไหมนั้น ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการจอง ขอให้สอบถามกับพนักงานขายที่บริการท่านหรือดูรายละเอียดในเอกสารรายการทัวร์  แต่โดยส่วนใหญ่จะไม่สามารถขอยกเลิกหรือขอคืนเงินได้หลังจากได้ทำการจ่ายเงินแล้ว

กรณีจองทัวร์แล้วแต่กรุ๊ปทัวร์ที่จอง มีผู้เดินทางไม่ถึงตามที่กำหนด ทัวร์ยังจะออกเดินทางหรือไม่?

เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 7 วันหากมีผู้เดินทางไม่ครบตามกำหนด และบริษัท ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนให้ท่าน

เงื่อนไขทัวร์

อัตราค่าบริการนี้รวม:

  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบินTK (กระเป๋าเดินทาง น.น. ไม่เกิน 20 ก.ก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาทค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าทิปพนักงานขับรถ ท่านละ 2 ยูโร / ท่าน / วัน (คิดเป็น 8 วัน เท่ากับ 16 ยูโร)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ท่านละ 2 ยูโร / ท่าน / วัน (คิดเป็น 10 วัน เท่ากับ 20 ยูโร)
  • ค่าทิปรวมโดยประมาณ 36 ยูโร เท่ากับประมาณ 1,440 บาท

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม:

  • ค่าวีซ่าเชงเก้นอิตาลี (ประมาณ 3,000 บาท **อัตราค่าวีซ่าอาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด, โทรศัพท์-แฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

หมายเหตุ:

  • กรณีกรุ๊ปทัวร์ไม่ออกเดินทาง Mushroom Travel ยินดีคืนเงินให้ท่านภายใน 10 วันทำการ
  • กรณีต้องยื่นวีซ่า เราบริการ รับ-ส่ง เอกสารครั้งแรกฟรี เฉพาะในกรุงเทพฯ ยกเว้นเขตหนองจอก :
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 20 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง(หากจำนวนลูกค้าในคณะไม่ถึง 20 ท่าน ราคาทัวร์ เพิ่มท่านละ 4,000 บาท)
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจราจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
โทรหาเรา
ไปด้านบนสุด