ทัวร์อิตาลี มอลต้า ซิซิลี ประสาทซูโว โคเซนซา มหาวิหารมอนเรอาเล สวนบารัคคา ป้อมปราการวิคตอเรีย

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

อิสตันบูล (Istanbul City) เมืองที่มีความสำคัญและมีประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศตุรกี เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัสหรือคอนสแตนติโนเปิล อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์โลกโบราณ และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ อิสตันบูลคือเมืองหนึ่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป นั่นคือทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ทำให้อิสตันบูลกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของตุรกี ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังเป็นศูนย์กลางความเจริญของประเทศอีกด้วย

บารี เป็นเมืองใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในภูมิภาค Apulia ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่ง Adriatic เป็นหนึ่งในประตูทางออกของประเทศอิตาลีที่จะออกเรือข้ามฟากไปยังประเทศเพื่อนบ้าน บารีเคยเป็นเมืองศูนย์กลางของโรมัน มีการสะสมของโบราณยุคกลางและมีอาคาร สถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมาย

อาเบอโรเบลโล (Alberobello) แคว้นปูลย่า Pulglia เมืองขนาดกลางที่มีผู้คนอยู่ราว 11,000 คน และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก Unesco ให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ.1996 นำชม Trulli หรือบ้านเรือนในสมัยศตวรรษที่ 16 ที่ก่อขึ้นมาจากหินปูนและหลังคาทรงกรวย วิธีการสร้างบ้านเป็นแบบโบราณ กำแพงและผนังของบ้านก่อด้วยหิน Dry Stone แต่ละก้อนค่อยๆ ไล่เรียงกันและเข้าล็อกกันอย่างแน่นหนาตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องอาศัยปูนซีเมนต์เลยแม้แต่น้อย หินขนาดใหญ่ที่ใช้ก่อขึ้นมานั้นก็เป็นหินปูนที่สามารถหาได้ในพพื้นที่นั้นนั่นเอง

เมืองมาเทร่า (Matera) เป็นเมืองอันน่าพิศวง งดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง เข้าใจว่าที่แห่งนี้เป็นชุมชนมาตั้งแต่ 300 ปีก่อนคริสตวรรษ เมืองนี้สร้างอยู่ในหินภูเขาไฟ ชื่อเมืองนี้ตั้งชื่อตามกงสุลผู้สำเร็จราชการแห่งจักรวรรษโรมัน ที่มีนามว่า Licius Caecilius Metelius ผู้คนอาศัยอยู่ในบ้านที่เป็นถ้ำมานานหลายศตวรรษ เป็นอีก 1 เมืองไฮไลท์ของเส้นทางนี้ที่ท่านไม่ควรพลาด

ถนนอุมแบร์โต เป็นถนนเส้นหลัก ตัดผ่านเขตเมืองเก่าในตัวเมืองเทารมิน่า ผ่าเข้าสู่ใจกลางเมืองจากประตู Catania ทางทิศเหนือ ไปจนจรดประตูเมือง Messinaทางทิศใต้ สองฟากฝั่งของคอร์โซ อัมแบร์โต้แยกย่อยออกเป็นตรอกเล็กแคบๆมากมาย พื้นปูด้วยแผ่นหินตามแบบเมืองในยุคกลาง ทอดไปสู่จตุรัสเล็กจตุรัสน้อย ประดับด้วย น้ำพุกระจายอยู่ทั่วเมือง ริมถนนปลูกต้นยี่โถต้นโตๆ ออกดอกพราวหลากสี ร้านรวงเล็กๆ ประดับประดาอย่างอบอุ่น เรียงรายอยู่ซ้ายขวา มีสินค้าทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพง และราคาเยา สลับกันไป

โรงละครกรีกแห่งเทารมิน่า เป็นอนุสรณ์สถานของเมือง สร้างบนยอดเขาทอรัส นับว่าชัยภูมิที่ดีที่สุด อายุเก่าแก่กว่า 2,300ปี สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ธรรมชาติผสมผสานผนวกกับศิลปะให้ดูโดดเด่น มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของซิซิลี ในอดีตเคยบรรจุผู้ชม ได้ถึง 5,400คน ปัจจุบัน ทุกวันนี้โรงละครนี้เป็นแหล่งดึงดูดความสนใจของ เทารมิน่า เนื่องจากถูกใช้เป็นสถานที่ จัดงานแจกรางวัล "David di Donatello" สำหรับวงการภาพยนตร์อิตาเลียนมาหลายต่อหลายปี รวมทั้งยังมีการแสดงละครเวที จัดคอนเสิร์ตซิมโฟนี่ บัลเล่ต์ จัดตลอดช่วงตลอดฤดูร้อน

เมืองเซฟาลู (CEFALU) (ระยะทาง 70 กม. / ใช้เวลา 1.10 ชม.) เมืองเซฟาลูเป็นที่รู้จักดี เพราะเป็นมีชายหาดที่สวยงาม แต่การล่องเรือของโรแบร์โตและประสบการณ์กับชีวิตประจำวันของชาวประมงซิซิลีเป็นจุดมุ่งหมายที่น่าสนใจกว่า แล่นไปกับเรือที่โยกเบาๆ ในขณะที่ลมพัดผ่านผมและดวงอาทิตย์สะท้อนบนพื้นผิวของน้ำ ดึงตาข่ายขึ้นเรือและลองดูว่าวันนี้ได้ปลามากน้อยขนาดไหน

มหาวิหารมอนริอาเร ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมไบเซนไทน์แห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นโดยกษัตริย์วิลเลี่ยมที่ 2 ผู้ปกครองดินแดนซิซิลี ในช่วงปี ค.ศ. 1060 ภายในวิหารท่านจะได้พบกับความอลังการของโมเสกทอง ซึ่งว่ากันว่าใช้ทองในการประดับประดาทั้งหมด 2,200 กก.เลยทีเดียว นับเป็นโบสถ์โมเสกที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์โซเฟียที่ตุรกี และที่น่าอัศจรรย์คือ โมเสกที่เห็นทั้งหมดนี้ใช้เวลาสร้างแค่ 8 ปีเท่านั้น

เมืองปาแลร์โม เป็นทั้งเมืองเอกและเมืองท่าของเกาะซิซิลี เกาะกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่เชื่อมระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน อีกทั้งเคยเป็นศูนย์กลางของโลกยุคโบราณ มีทั้งโบราณสถานแบบคลาสสิค และแบบแขกมัวร์ในยุคศตวรรษที่ 10 ปาแลร์โมได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากคอนสแตนติโนเปิล อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมอีก 200 ปี จากการเข้ายึดครองพวกนอร์มัน ทำให้เมืองนี้งามสง่าที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป

พาลาซโซ่ เดล ไดมานตี" (Palazzo dei Diamanti) หรือ "ปราสาทไดมอนด์" (Diamond Palace) เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่บน Corso Ercole เป็นหนึ่งในพระราชวังที่มีชื่อเสียงที่สุดในอิตาลี ถูกสร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมเรเนสซองส์ ได้รับการออกแบบโดย Biagio Rossetti

สวนที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองวัลเลตตา ในอดีตเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ต่อมาภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนได้เข้าชมตั้งแต่ปี 1824 โดยสวนแห่งนี้แบ่งออกเป็น 2 โซนคือ Upper Barracca และ Lower Barracca ซึ่งในโซนของ Upper Barracca ได้รับความนิยมมากกว่าด้วยทำเลที่ตั้งที่สามารถชมความงดงามของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ และยังมีกำแพงโบราณซึ่งประกอบไปด้วยซุ้มประตูโค้งมนที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของศิลปะในสมัยโบราณ นอกจากนี้ภายในสวนก็ยังมีรูปปั้นที่มีความสำคัญในอดีตอีกด้วย

สถานที่ซึ่งเปรียบเสมือนอัญมณีอันล้ำค่าของเมืองวัลเลตตา ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1573 ถึง 1578 เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการประชุมของเหล่าอัศวินในยุคนั้น ยิ่งไปกว่านั้นวิหารเซนต์จอห์นยังถือเป็นตัวอย่างของวิหารสไตล์บาร๊อคที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง โดยภายในวิหารมีการการตกแต่งอย่างวิจิตร ตระการตา ลวดลายบนเพดาน ผนัง และเสาต่างๆก็มีมีความอ่อนช้อยสวยงามและเป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตของเซ็นต์จอห์น นอกจากนี้บริเวณทางเข้ายังเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์ของ Grand Master Fra Marc'Antonio Zondadari อีกด้วย

อาคารที่มีความสง่างามและใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่ง ในเมืองวัลเลตตา ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของคาบสมุทรซึ่งถูกออกแบบให้เป็นสถานที่ที่หรูหราอลังการที่สุด ปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรีของประเทศสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งอาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1574 โดยสถาปนิกชาวมอลต้าชื่อ GIROLAMO CASSAR และมีการบูรณะใหม่อีกครั้งในปี 1741

ถ้ำบลูกร็อตโต (Blue Grotto) เป็นถ้ำทะเลบนชายฝั่งของเกาะคาปรีเกาะสวรรค์ทางตอนใต้ของอิตาลี ซึ่งทะเลได้กัดกร่อนหินปูนจนเป็นรู ปัจจุบันนี้มีน้ำเข้าไปครึ่งหนึ่งเนื่องจากบริเวณทะเลแผ่นดินทรุดตัวลง เรียกว่า “บลู” เพราะมีแสงอาทิตย์รอดลงมาจากปล่องถ้ำมีสีสันเป็น “สีน้ำเงิน” ถ้ำน้ำลอดที่มีการกระทบของแสงกับน้ำทะเลสีครามทำให้ภายในบริเวณถ้ำประกายไปด้วยแสงสีน้ำเงิน

เมืองราบัต (Rabat) เมืองยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว และเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวในแถบทะเลแอตแลนติก ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศโมร็อคโค และเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากสภาพบ้านเมืองที่มีเอกลักษณ์พิเศษอันเกิดจากการผสมผสานระหว่างชุมชนมุสลิมดั้งเดิม นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปสัมผัสแล้ว ประเทศโมร็อกโกยังมีรอยยิ้มที่เป็นมิตร ชอบช่วยเหลือ ชอบพบปะกับเหล่านักศึกษาจากทั่วโลกที่เข้ามาโมร็อกโก โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรม และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันอยู่เสมอ

อิสตันบูล (Istanbul City) เมืองที่มีความสำคัญและมีประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศตุรกี เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัสหรือคอนสแตนติโนเปิล อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์โลกโบราณ และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ อิสตันบูลคือเมืองหนึ่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป นั่นคือทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ทำให้อิสตันบูลกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของตุรกี ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังเป็นศูนย์กลางความเจริญของประเทศอีกด้วย

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553