หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองมิลาน หรือ มิลาโน่ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก มิลานเป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ 1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า “ปาเนตโตเน” อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน มีแกลอรี่ชื่อดัง โบสถ์ที่สวยงาม และโรงละครโอเปร่า
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าและห้างเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมที่ทันสมัย มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อิสระให้สำรวจสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของอิตาลีตามอัธยาศัย
อนุสาวรีย์กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Monument of Vittorio Emanuele) เป็นอนุสาวรีย์ที่กษัตริย์ Victor Emmanuel II สร้างขึ้นเป็นสัญญลักษณ์แห่งการรวมประเทศอิตาลีให้เป็นหนึ่งเดียวจากการรวมแคว้นต่างๆ เข้าด้วยกัน ถือว่าพระองค์เป็นกษัตริย์องค์แรกของประเทศอิตาลี
โบสถ์ซานตา มาเรีย เดลเล กราเซีย ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ เป็นแห่งเดียวในมิลานที่ถูกกำหนดให้เป็นมรดโลก ภาพ The Last Supper วาดโดยใช้เทคนิคการวาดภาพแบบปูนเปียก ลีโอนาร์โด ได้ทดลองเรื่องของสีเพื่อให้อยู่ทนได้นาน ปัจจุบัน ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่า วิธีการที่ทำให้สีทนนานขึ้นหรือว่าเป็นการให้อายุสั้นลง รวมทั้งวิธีการซ่อมแซมภาพนี้ก็ยังคงเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ ภาพเขียนนี้มีคุณค่าและความสำคัญอย่างมาก จน แดน บราวน์ได้หยิบไปแต่งเป็นหนังสือนิยาย สืบสวนเรื่องรหัสลับดาวินชี
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
เมืองเวโรน่า เมืองเก่าแก่ เล็กๆ อยู่ตอนเหนือของเวนิส ประเทศอิตาลี มีอารีนาเป็นสนามกีฬาศูนย์กลางของเมือง บ้านเรือนสวยงามสร้างจากหินอ่อนสีชมพู เป็นวังและปราสาทเก่าๆ ปรับมาเป็นโรงแรม ที่พัก และที่สำคัญเป็นเมืองของวิลเลียม เชคเปียร์ บ้านของจูเลียต ที่เกิดโศกนาฏกรรมความรัก โรมิโอกับจูเลียต ในปี ค.ศ. 2000 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติก็ประกาศให้เวโรนาเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม
ในสมัยโรมันเป็นที่ชุมนุมทางเศรษฐกิจการเมือง รวมทั้ง เป็นตลาดขายสมุนไพรเมื่อหลายร้อยปีก่อนด้วย ปัจจุบัน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีน้ำพุ ร้านกาแฟน่ารักน่านั่งเพลินๆ และร้านค้ามากมาย อีกทั้งยังเป็นตลาดขนาดย่อม ที่มีเอกลักษณ์ที่ต่างจากจัตุรัสใหญ่ของเมืองอื่นๆ ภายในจัตุรัส เป็นแหล่งขายผักผลไม้ และขายสมุนไพรด้วย แต่ในช่วงกลางคืนจัตุรัสแห่งนี้จะคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ออกมาสังสรรค์กันในยามราตรี
สนามกีฬาโรมันอารีน่า สนามกีฬากลางแจ้งแบบโบราณในยุคโรมัน ตั้งอยู่ในเมืองเวโรน่า ประเทศอิตาลี สนามกีฬากลางแจ้งแห่งนี้ สร้างขึ้นใน ค.ศ.30 เป็นที่ใช้แสดงโชว์ ละคร และกีฬาต่างๆ ดึงดูดผู้ชมจากทั่วทุกสารทิศ แต่เดิมด้านนอกของอาคาร สร้างจากหินปูนสีขาวและสีชมพู แต่หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใน ค.ศ. 1117 กำแพงด้านนอกก็พังทลายลงเกือบเหมด
บ้านจูเลียต เมืองเวโรนา ที่โด่งดังมาจากนิยายรักอมตะเรื่องเอกของ วิลเลี่ยม เชกส์เปียร์ โรมิโอและจูเลียต เรื่องนี้แต่งจากเรื่องจริงของคู่รักที่อาศัยอยู่ในนครเวโรนา ประเทศอิตาลี ภายในบ้านของจูเลียตจะเห็นระเบียงที่โรมิโอปีนเข้าหาจูเลียต รูปปั้นจูเลียตที่เป็นบรอนซ์ ปั้นโดย N.Costantini ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไปจับที่หน้าอกของ จูเลียตเพื่อขอพรให้สมหวังในความรัก
ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto Pier) อยู่ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นจุดจอดรับ-ส่ง เป็นท่าล่องเรือที่มีเรือบริการในการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ของเมือง มีการบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งคลองโดยทางเรือ นับเป็นเมืองที่คลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือเพื่อผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใครโดยใช้เรือแทนรถใช้คลองแทนถนน
เวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับฉายาทั้ง ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกัน มีคลองเล็กๆ กว่า 150 คลอง เต็มไปด้วยสะพานกว่า 400 สะพานเชื่อมถึงกัน มีเรือกอนโดล่าเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันดีของนักท่องเทีี่ยว รวมทั้งบ้านเรือนสีสันสดใสอายุเก่าแก่เรียงรายกันอยู่ เวนิสเป็นเมืองมรดกโลกและถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าสุดแสนโรแมนติกของอิตาลีด้วย
สะพานสะอื้น หรือบางคนเรียกว่า "สะพานแห่งการทอดถอนใจ” ซึ่งทอดข้ามด้านหลังวังของผู้ปกครองเวนิสในอดีต ไปยังคุกที่อยู่อีกฟากฝั่งคลอง ว่ากันว่าสะพานแห่งนี้คือจุดหายใจเฮือกสุดท้ายแห่งอิสรภาพของเหล่านักโทษ และคุกแห่งนี้เองเป็นที่คุมขังนักรักกระเดื่องนาม “คาสโนว่า” ซึ่งเขาเป็นนักโทษเพียงคนเดียวที่สามารถแหกคุกนี้หนีออกมาได้ปัจจุบันวังแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษาไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญของเมือง
จัตุรัสเซนต์มาร์ก หรือ จตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco | Saint Mark Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิส ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก เป็นจุดเด่นของลานกว้าง บริเวณรอบๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ไว้คอยบริการมากมาย และรอบๆ จัตุรัสยังมีอาคารที่สำคัญสองแห่งคือ หอระฆัง และ หอนาฬิกา อีกด้วย
เมืองหลวงของแคว้น เอมีเลีย-โรมัญญา ตั้งอยู่ในหุบเขาโป ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนามากที่สุด โดยโบโลญญามีชื่อเสียงในเรื่องของธรรมชาติอันงดงาม มีสิ่งก่อสร้าง งานสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่ามากมาย อีกทั้งยังถือเป็นศูนย์กลางศาสตร์ด้านอาหารของประเทศด้วย อาทิเช่น ซอสลากู สำหรับสปาเก็ตตี้ หรือ ลาซานญ่า นอกจากนี้เมืองโบโลญญา ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย Alma Mater Studiorum มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของอิตาลีด้วย
จัสตุรัสเปียสซ่า มัจโจเล่ จัตุรัสขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของส่วนเมืองเก่า ที่ล้อมรอบด้วยโบสถ์ซาน เปโตรนิโอ (Basilica of San Petronio) ซิตี้ฮอล ( City Hall ) ลานน้ำพุเทพเนปจูน (Fontana del Nettuno) และ อาคารปาลาซโซ เดล โพเดสตา (Palazzo del Podesta)
เมืองปิซา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ)ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร เชิญเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 6 มรดกโลก เช่น จตุรัสดูโอโมแห่งปิซา,มหาวิหารปิซา,หอศีลจุ่มเมืองปิซา,หอเอนเมืองปิซา,สุสานนักบุญ,พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา
จตุรัสเปียซซ่า เดล คัมโป (Piazza Del Campo) ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นมรดกโลก และเคยเป็นบ้านของปาลิโอนักแข่งม้าที่มีชื่อกระฉ่อนที่สุดในโลก ถือเป็นจตุรัสที่มีความสวยงามแปลกตา ด้วยรูปทรงเป็นแบบเกือกม้าคล้ายๆ กับรูปพัด ลาดเอียงแบบขั้นบันได ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลาว่าการเมืองเซียน่า อีกทั้งมีร้านกาแฟ, บาร์, ร้านค้า และของที่ระลึกมากมาย ล้อมรอบด้วยตึกอาคารสไตล์อิตาลี นอกจากยังเป็นสถานที่ที่นิยมจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น จัดงานแต่งงาน, แสดงเครื่องแต่งกายต่างๆ และเป็นสถานที่พบปะชุมนุมของชาวเมือง
มหาวิหารปิซา (Duomo di Pisa) เป็นมหาวิหารขนาดมหึมา ถูกสร้างขึ้นในปี 1093 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์แบบปิซา เกือบ 1,000 ปี ตั้งอยู่ใจกลางของจัตุรัส Piazza dei Miracoli ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่อันเป็นที่เคารพบูชาสูงสุดและมีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ควบคู่ไปกับหอเอนปิซาซึ่งตั้งอยู่อย่างอิสระ มหาวิหารนี้ยังเป็นโบสถ์ที่ใช้งานอยู่ ในปัจจุบัน
หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) หอคอยหินอ่อนซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ประเทศอิตาลี และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ของศาสนสถานของชาวคริสต์ ใช้เวลาสร้างนานกว่า 176 ปี แต่เกิดการทรุดตัวลงเมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 จึงหยุดก่อสร้างไป จนอีกประมาณ 100 ปีต่อมาถึงมีผู้สร้างต่อได้จนครบ 8 ชั้น และได้นำระฆังไปติดในอีกร่วม 100 ปีต่อมา จนเสร็จสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน กาลิเลโอได้เคยมาพิสูจน์ทฤษฏีการตกของวัตถุที่ยอดของหอเอนแห่งนี้
เดอะมอลล์เอ๊าเลท (THE MALL OUTLET) เป็นศูนย์รวมสินค้านานาชนิดไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้ากระเป๋า รองเท้า นาฬิกา แว่นตา ของฝากของทีระลึกสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำจากทั่วโลกต่างมารวมกันที่นี่กว่า 150 ร้านค้า ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าราคาโปรโมชั่นที่แข่งกันลดราคาเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวกันอย่างจุใจ
เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองแห่งแหล่งกำเนิดศิลปะของโลก เป็นจุดกำเนิดของยุคเรอเนซองส์หรือยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่วยุโรป เชิญเที่ยวชมมหาวิหารใหญ่ซึ่งเป็นมหาวิหารที่เรียกว่าดูโอโม หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ปราสาท แกลอรี่ บาร์ ร้านอาหาร รวมทั้งคลับ และดิสโก้ ทุกสถานที่ๆจะได้พบกับความทันสมัยและความสวยงามตลอดเวลา มีแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆมากมายเพราะเป็นศูนย์กลางของผู้นำแฟชั่น เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย
มหาวิหารฟลอเรนซ์ หรือ อาสนวิหารซันตามาเรียแห่งฟลอเรนซ์ หรือ มหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร (Santa Maria del Fiore | Florence Cathedral) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี เป็นมหาวิหารที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี อีกทั้งยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอิตาลีรองลงมาจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่รัฐวาติกัน และยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 4 ในทวีปยุโรป
เปียซซา เดล ซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) จัตุรัสใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ ที่มีความเก่าเเก่สวยงาม เเละเต็มไปด้วยประติมากรรมชั้นยอด ของศิลปินเอกชาวอิตาเลี่ยนมากมายมาตั้งรวมกัน จนมีคนกล่าวว่ามันเหมือนกับเเกลลอรี่กลางเเจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เเละเต็มไปด้วยงานประติมากรรมที่ทรงคุณค่าเเละประเมินค่าไม่ได้มากมายหลายต่อหลายชิ้นเลยทีเดียว
สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) เป็นสะพานเก่าแก่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ยังคงหลงเหลือมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1333 มีสีเหลืองทองอร่าม บวกกับสองฟากของสะพานถูกสร้างเป็นตึกแถว ซึ่งถูกใช้เป็นร้านขายของ อาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้ามากมาย สมัยก่อนเป็นร้านขายเนื้อสัตว์ ต่อมามีการปรับปรุงทัศนียภาพ เลยเปลี่ยนให้กลายเป็นร้านขายทอง ด้านบนหลังคาของอาคารพาณิชย์ได้ต่อเติมให้เป็นทางเดินลอยฟ้า เชื่อมระหว่างพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี่กับพระราชวังพิตติ
กรุงโรม เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศอิตาลี แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ โรมเป็นมหานครที่มีสีสันเฉพาะตัว คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวที่ทุกหัวมุมถนน เต็มไปด้วยโบสถ์ สิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โต และรูปปั้นโบราณ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น ตลาดหัวเมืองโรมันโบราณ โคลอสเซียม โบสถ์ซิสทิน แพนธีออน น้ำพุเทรวีอันเลื่องชื่อ
โรมันฟอรัม (Roman Forum) เป็นศูนย์กลางทุกด้านของกรุงโรมโบราณเป็นที่รวมของเหล่านักปราชญ์ผู้วางรากฐานประชาธิปไตยให้โลกจนปัจจุบัน และศูนย์กลางการประชุมทางการเมือง การปกครอง มีโบสถ์วิหารสำหรับบูชาเทพเจ้าของโรมัน ปัจจุบันส่วนใหญ่เหลือแต่ซาก แต่ก็ยังเห็นโครงสร้างของความยิ่งใหญ่ที่สำคัญ ตัวหมู่อาคารฟอรัมทั้งหมด ใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลายาวนานถึง 900 ปี ทั้งยังใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจและที่ชุมนุมทางการเมืองแต่เมื่อจักรวรรดิโรมันเสื่อมลงโรมันฟอรัมก็ถูกทิ้งร้าง
โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ โดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
นครวาติกัน (Vatican) ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ถือเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ผู้เป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครวาติกันนี้เป็นรัฐอิสระ จัดว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชม เช่น พิพิธภัณฑ์วาติกัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล เป็นต้น
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) เป็นมหาวิหาร 1 ใน 4 มหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และ สำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่น สามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน
น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร ออกแบบโดย Francesco Salvi เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ซึ่งเทพเจ้าเนปจูนนี้จะทรงประทับมาบนรถม้ามีปีก ซึ่งซ่อนความหมายเอาไว้ว่าจะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงโรมแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญหนึ่งเหรียญลงในสระน้ำพุเทรวี่ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้หนึ่งข้อ
บันไดสเปน (Spanish Steps) ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1723 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามโปรดระวังกระเป๋าเงินและสิ่งของมีค่าด้วย เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุกชุมของมิจฉาชีพทั้งหลาย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553