หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
เมืองเวโรน่า เมืองเก่าแก่ เล็กๆ อยู่ตอนเหนือของเวนิส ประเทศอิตาลี มีอารีนาเป็นสนามกีฬาศูนย์กลางของเมือง บ้านเรือนสวยงามสร้างจากหินอ่อนสีชมพู เป็นวังและปราสาทเก่าๆ ปรับมาเป็นโรงแรม ที่พัก และที่สำคัญเป็นเมืองของวิลเลียม เชคเปียร์ บ้านของจูเลียต ที่เกิดโศกนาฏกรรมความรัก โรมิโอกับจูเลียต ในปี ค.ศ. 2000 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติก็ประกาศให้เวโรนาเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม
บ้านจูเลียต เมืองเวโรนา ที่โด่งดังมาจากนิยายรักอมตะเรื่องเอกของ วิลเลี่ยม เชกส์เปียร์ โรมิโอและจูเลียต เรื่องนี้แต่งจากเรื่องจริงของคู่รักที่อาศัยอยู่ในนครเวโรนา ประเทศอิตาลี ภายในบ้านของจูเลียตจะเห็นระเบียงที่โรมิโอปีนเข้าหาจูเลียต รูปปั้นจูเลียตที่เป็นบรอนซ์ ปั้นโดย N.Costantini ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไปจับที่หน้าอกของ จูเลียตเพื่อขอพรให้สมหวังในความรัก
เวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับฉายาทั้ง ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกัน มีคลองเล็กๆ กว่า 150 คลอง เต็มไปด้วยสะพานกว่า 400 สะพานเชื่อมถึงกัน มีเรือกอนโดล่าเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันดีของนักท่องเทีี่ยว รวมทั้งบ้านเรือนสีสันสดใสอายุเก่าแก่เรียงรายกันอยู่ เวนิสเป็นเมืองมรดกโลกและถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าสุดแสนโรแมนติกของอิตาลีด้วย
ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) อยู่ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นท่าเรือที่มีเรือบริการในการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ของเมือง มีการบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งคลองโดยทางเรือ นับเป็นเมืองที่คลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือเพื่อผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน
มหาวิหารฟลอเรนซ์ หรือ มหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร (Florence Cathedral | Santa Maria del Fiore) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี เป็นมหาวิหารที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอิตาลี อีกทั้งยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอิตาลีรองลงมาจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่รัฐวาติกัน
ประติมากรรมหินอ่อน "เดวิด" เป็นผลงานของมิเคลันเจโล เป็นหินอ่อนแกะสลักรูป พระเจ้าเดวิด (King David) ตามตำนานในคำภีร์ไบเบิล ลักษณะเป็นชายหนุ่มยืนเปลือยกาย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงและความงดงามของร่างกายมนุษย์
สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) เป็นสะพานเก่าแก่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ยังคงหลงเหลือมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1333 มีสีเหลืองทองอร่าม บวกกับสองฟากของสะพานถูกสร้างเป็นตึกแถว ซึ่งถูกใช้เป็นร้านขายของ อาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้ามากมาย สมัยก่อนเป็นร้านขายเนื้อสัตว์ ต่อมามีการปรับปรุงทัศนียภาพ เลยเปลี่ยนให้กลายเป็นร้านขายทอง ด้านบนหลังคาของอาคารพาณิชย์ได้ต่อเติมให้เป็นทางเดินลอยฟ้า เชื่อมระหว่างพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี่กับพระราชวังพิตติ
หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) หอคอยหินอ่อนซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ประเทศอิตาลี และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ของศาสนสถานของชาวคริสต์ ใช้เวลาสร้างนานกว่า 176 ปี แต่เกิดการทรุดตัวลงเมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 จึงหยุดก่อสร้างไป จนอีกประมาณ 100 ปีต่อมาถึงมีผู้สร้างต่อได้จนครบ 8 ชั้น และได้นำระฆังไปติดในอีกร่วม 100 ปีต่อมา จนเสร็จสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน กาลิเลโอได้เคยมาพิสูจน์ทฤษฏีการตกของวัตถุที่ยอดของหอเอนแห่งนี้
เมืองเนเปิลส์ (Naples) หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี (Napoli) คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยเฉพาะบริเวณใจกลางของเมืองเนเปิลส์ยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นมรดกโลก ในปี 1995
เปียสซา เดล เพิลบิสซิโต (Piazza del Plebiscito) หนึ่งในจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองเนเปิลส์ โดยจัตุรัสนั้นตั้งอยู่ใกลๆกับอ่าวเนเปิลส์ถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าอาคารสถานที่ที่มีความสำคัญของเมืองไม่ว่าจะเป็น พระบรมมหาราชวัง (Royal Palace of Naples) เป็น 1 ใน 4 ของที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์บูร์บง (Bourbon Kings) หนึ่งในราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดในทวีปยุโรป
พระบรมมหาราชวัง (Royal Palace of Naples) เป็น 1 ใน 4 ของที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์บูร์บง (Bourbon Kings) หนึ่งในราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดในทวีปยุโรป และฝั่งตรงข้ามเป็นโบสถ์ซานฟรานซิสโก โดยตัวอาคารหลักของโบสถ์มีการสร้างเรียนแบบวิหารแพนทีออนในกรุงโรม โดยมีโดม สูงประมาณ 53 เมตร นอกจากนี้ด้านหน้ายังมีเสาจำนวน 6 เสา คล้ายๆกับวิหารแพนทีออนอีกด้วย
เมืองซอร์เรนโต้ (Sorrento City)เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ในภาคใต้ของอิตาลี และยังมีอีกชื่อหนึ่งคือ เมืองนางเงือก มีท้องฟ้าสีคราม น้ำทะเลใส อากาศเย็นสบาย ภูมิประเทศริมชายฝั่งส่วนจะเป็นหน้าผาสูง สลับกับหาดทรายเล็กๆพอให้ลงเล่นน้ำได้ มีภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตามีสีสันที่ไม่เหมือนที่ใด ทั้งบ้านเรือนสีสวยที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา ในขณะที่ร่มชายหาดสีสดกางเป็นแถวแนวอยู่เบื้องล่าง สามารถเดินทางเที่ยวชมได้โดยการใช้บริการรถนำเที่ยว เช่น City Singhtseeing Bus , Sorrento Fun Tour เป็นต้น
กรุงโรม เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศอิตาลี แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ โรมเป็นมหานครที่มีสีสันเฉพาะตัว คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวที่ทุกหัวมุมถนน เต็มไปด้วยโบสถ์ สิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โต และรูปปั้นโบราณ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น ตลาดหัวเมืองโรมันโบราณ โคลอสเซียม โบสถ์ซิสทิน แพนธีออน น้ำพุเทรวีอันเลื่องชื่อ
นครวาติกัน (Vatican) ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ถือเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ผู้เป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครวาติกันนี้เป็นรัฐอิสระ จัดว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชม เช่น พิพิธภัณฑ์วาติกัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล เป็นต้น
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) เป็นมหาวิหาร 1 ใน 4 มหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และ สำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่น สามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน
โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ โดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine) เป็นซุ้มประตูที่มีชื่อเสียงในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ประตูชัยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินในการสู้รบที่สะพานมิลเวียน การออกแบบโดยทั่วไปของซุ้มประตูนั้นมีส่วนหลักที่มีโครงสร้างเป็นเสาเดี่ยว และห้องใต้หลังคาที่มีจารึกหลักอยู่ที่บริเวณด้านบน ซึ่งได้จารึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชัยชนะของการรบอันยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์โรมันนั่นเอง
น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร ออกแบบโดย Francesco Salvi เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ซึ่งเทพเจ้าเนปจูนนี้จะทรงประทับมาบนรถม้ามีปีก ซึ่งซ่อนความหมายเอาไว้ว่าจะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงโรมแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญหนึ่งเหรียญลงในสระน้ำพุเทรวี่ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้หนึ่งข้อ
มหาวิหารแพนธีออนแก่งกรุงโรม เป็นมหาวิหารจากยุคโรมันที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน โดยถูกสร้างขึ้นในช่วง 27 ปีก่อนคริสตกาลโดยเลียนแบบศิลปะกรีก ต่อมาได้รับการฎิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.118 โดยตัววิหารถูกออกแบบให้มีความกว้าง 142 ฟุต และสูง 142 ฟุต บริเวณประตูทางเข้าทำจากโลหะสีทองบรอนซ์ที่มีน้ำหนักถึง 20 ตัน และสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของมหาวิหารแห่งนี้คือ "โอคูลุส" หรือช่องแสงขนาดใหญ่ตรงกลางหลังคาโดม ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
บันไดสเปน (Spanish Steps) ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1723 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามโปรดระวังกระเป๋าเงินและสิ่งของมีค่าด้วย เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุกชุมของมิจฉาชีพทั้งหลาย
สนามบินเลโอนาร์โด ดา วินชี ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci International Airport) ตั้งอยู่ในเมืองฟีอูมีชีโน ซึ่งห่างจากศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของโรม 35 กิโลเมตร สนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ด้วยจำนวนผู้โดยสาร 35,226,351 คน ในปี พ.ศ. 2551
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553