หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) เป็นมหาวิหาร 1 ใน 4 มหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และ สำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่น สามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน
กรุงโรม เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศอิตาลี แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ โรมเป็นมหานครที่มีสีสันเฉพาะตัว คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวที่ทุกหัวมุมถนน เต็มไปด้วยโบสถ์ สิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โต และรูปปั้นโบราณ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น ตลาดหัวเมืองโรมันโบราณ โคลอสเซียม โบสถ์ซิสทิน แพนธีออน น้ำพุเทรวีอันเลื่องชื่อ
โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ โดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร ออกแบบโดย Francesco Salvi เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ซึ่งเทพเจ้าเนปจูนนี้จะทรงประทับมาบนรถม้ามีปีก ซึ่งซ่อนความหมายเอาไว้ว่าจะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงโรมแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญหนึ่งเหรียญลงในสระน้ำพุเทรวี่ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้หนึ่งข้อ
บันไดสเปน (Spanish Steps) ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1723 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามโปรดระวังกระเป๋าเงินและสิ่งของมีค่าด้วย เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุกชุมของมิจฉาชีพทั้งหลาย
เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองแห่งแหล่งกำเนิดศิลปะของโลก เป็นจุดกำเนิดของยุคเรอเนซองส์หรือยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่วยุโรป เชิญเที่ยวชมมหาวิหารใหญ่ซึ่งเป็นมหาวิหารที่เรียกว่าดูโอโม หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ปราสาท แกลอรี่ บาร์ ร้านอาหาร รวมทั้งคลับ และดิสโก้ ทุกสถานที่ๆจะได้พบกับความทันสมัยและความสวยงามตลอดเวลา มีแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆมากมายเพราะเป็นศูนย์กลางของผู้นำแฟชั่น เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย
มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Santa Maria del Fiore) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดูโอโมแห่งฟลอเรนซ์ (Duomo di Firenze) คือศาสนสถานที่มีความโดดเด่นทั้งสถาปัตยกรรมและความยิ่งใหญ่บนที่ตั้งใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ ที่นี่คือสัญลักษณ์สำคัญของเมืองซึ่งกล่าวได้ว่าหากมาเยือนฟลอเรนซ์แต่มิได้เยี่ยมเยือนมหาวิหารแห่งนี้ก็เหมือนยังมาไม่ถึงฟลอเรนซ์ มหาวิหารฟลอเรนซ์สร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 บนพื้นที่ของโบสถ์เก่าแก่ซึ่งมีขนาดเล็กและไม่สามารถรองรับคริสต์ศาสนิกชนที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ได้อีกต่อไป โดยฝีมือการออกแบบของ Arnolfo di Cambio และโดมขนาดมหึมานั้นออกแบบโดย Filippo Brunelleschi ภายหลังมีการสร้างรูปปั้นของสถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองตั้งไว้ในท่าแหงนมองมหาวิหารด้วย สำหรับโดมอันโด่งดังของมหาวิหารฟลอเรนซ์นั้นมีความสูงถึง 114 เมตร หลังคาโดมมีสีส้มสวยงาม ภายในมหาวิหารตกแต่งในแบบเรเนซองส์ตอนต้น ใต้โดมมีภาพเขียน "การตัดสินครั้งสุดท้าย (The Last Judgement)" แบบปูนเปียกที่เริ่มวาดโดย Giorgio Vasari ในปีพ.ศ.2111 และแล้วเสร็จโดยฝีมือของ Federico Zuccaro ในพ.ศ.2122 ส่วนภายนอกโบสถ์นั้นตกแต่งด้วยหินอ่อนสีชมพู ขาวและเขียวผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
เปียซซา เดล ซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) จัตุรัสใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ ที่มีความเก่าเเก่สวยงาม เเละเต็มไปด้วยประติมากรรมชั้นยอด ของศิลปินเอกชาวอิตาเลี่ยนมากมายมาตั้งรวมกัน จนมีคนกล่าวว่ามันเหมือนกับเเกลลอรี่กลางเเจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เเละเต็มไปด้วยงานประติมากรรมที่ทรงคุณค่าเเละประเมินค่าไม่ได้มากมายหลายต่อหลายชิ้นเลยทีเดียว
สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) เป็นสะพานเก่าแก่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ยังคงหลงเหลือมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1333 มีสีเหลืองทองอร่าม บวกกับสองฟากของสะพานถูกสร้างเป็นตึกแถว ซึ่งถูกใช้เป็นร้านขายของ อาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้ามากมาย สมัยก่อนเป็นร้านขายเนื้อสัตว์ ต่อมามีการปรับปรุงทัศนียภาพ เลยเปลี่ยนให้กลายเป็นร้านขายทอง ด้านบนหลังคาของอาคารพาณิชย์ได้ต่อเติมให้เป็นทางเดินลอยฟ้า เชื่อมระหว่างพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี่กับพระราชวังพิตติ
เมืองปิซา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ)ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร เชิญเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 6 มรดกโลก เช่น จตุรัสดูโอโมแห่งปิซา,มหาวิหารปิซา,หอศีลจุ่มเมืองปิซา,หอเอนเมืองปิซา,สุสานนักบุญ,พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา
มหาวิหารแห่งเมืองปาแลร์โม ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมไบเซนไทน์แห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บนยอดเขากลางใจเมือง สร้างด้วยศิลปะแบบกอธิคสไตล์กาตาโลเนีย ภายในตกแต่งงดงามอลังการ สร้างอุทิศแด่พระแม่มารี งานก่อสร้างส่วนใหญ่บังเกิดขึ้นในราวคริสต์ศต15–16 ตกแต้งด้วยโมเสกทองอร่ามงามตาใหญ่อันดับ2ของโลก รองจาก Hagia Sophia ที่ตุรกี โมเสกภายในวิหารนี้ใช้เวลาสร้างแค่ 8ปีเท่านั้น ส่วนเพดานวิหาร มีสีสันสดใสมาก ส่วนแท่นพิธี เป็นรูปพระเยซูอันใหญ่ เป็นโมเสกรูปพระเยซูกำลังให้พร กำแพงโดยรอบวิจิตรตระการตา
หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) หอคอยหินอ่อนซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ประเทศอิตาลี และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ของศาสนสถานของชาวคริสต์ ใช้เวลาสร้างนานกว่า 176 ปี แต่เกิดการทรุดตัวลงเมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 จึงหยุดก่อสร้างไป จนอีกประมาณ 100 ปีต่อมาถึงมีผู้สร้างต่อได้จนครบ 8 ชั้น และได้นำระฆังไปติดในอีกร่วม 100 ปีต่อมา จนเสร็จสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน กาลิเลโอได้เคยมาพิสูจน์ทฤษฏีการตกของวัตถุที่ยอดของหอเอนแห่งนี้
เมืองเมสเตร้ (Mestre) เป็น Gateway to Venice ในแคว้นเวเนโต้ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ด้วยอาคารประวัติศาสตร์ สวนสาธารณะเขียวชอุ่ม และวัฒนธรรมอิตาลีแบบดั้งเดิมที่ทำให้ภูมิภาคชนบทแห่งนี้ เป็นที่ท่องเที่ยวอันสะดวกสบายและสวยงาม ห่างจากคลองเวนิสไปเพียงไม่กี่นาที เมืองเมสเตรเป็นย่านเล็ก ๆ ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ เต็มไปด้วยสวนสาธารณะ ร้านดีไซเนอร์แบรนด์ดัง และจัตุรัสที่มีแลนด์มาร์กเก่าแก่
เวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับฉายาทั้ง ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกัน มีคลองเล็กๆ กว่า 150 คลอง เต็มไปด้วยสะพานกว่า 400 สะพานเชื่อมถึงกัน มีเรือกอนโดล่าเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันดีของนักท่องเทีี่ยว รวมทั้งบ้านเรือนสีสันสดใสอายุเก่าแก่เรียงรายกันอยู่ เวนิสเป็นเมืองมรดกโลกและถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าสุดแสนโรแมนติกของอิตาลีด้วย
ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto Pier) อยู่ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นจุดจอดรับ-ส่ง เป็นท่าล่องเรือที่มีเรือบริการในการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ของเมือง มีการบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งคลองโดยทางเรือ นับเป็นเมืองที่คลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือเพื่อผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใครโดยใช้เรือแทนรถใช้คลองแทนถนน
มหาวิหารเซนต์มาร์ก(St Mark’s Basilica)เป็นมหาวิหารสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ซึ่งตั้งอยู่บนจัตุรัสซันมาร์โกกลางเมืองเวนิสมหาวิหารเซนต์มาร์กเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้ชมเข้าชมมากที่สุดด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ทอดยาวมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 9 ของคริสตจักรจึงทำให้เป็นมหารวิหารที่มีเรื่องราวและตำนานอันน่าสนใจ
สะพานริอัลโต (Rialto Bridge) สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 สะพานนี้มีประวัติที่น่าสนใจเพราะเป็นสะพานที่ทอดข้ามแกรนด์คาเนลเพียงแห่งเดียวมายาวนานเป็นพันปี เดิมเป็นสะพานไม้ ปัจจุบันปรับปรุงซ่อมแซมใหม่เป็นสะพานหินแข็งแรง จนกระทั่งถึงปี ค.ศ.1854 จึงมีการสร้างสะพานแห่งใหม่ข้ามแกรนด์คะแนลเพิ่มขึ้น สะพานริอัลโตนับว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเวนิส และสามารถะมองเห็นวิวสวยมุมกว้างสวยๆ ของคลองใหญ่ได้ดี และบริเวณรอบๆ สะพานจะมีร้านขายของที่ระลึกมากมาย
เมืองมิลาน หรือ มิลาโน่ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก มิลานเป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ 1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า “ปาเนตโตเน” อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน มีแกลอรี่ชื่อดัง โบสถ์ที่สวยงาม และโรงละครโอเปร่า
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
เมืองลูเซิร์น (Lucerne City) เป็นเมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทยและชาวเอเชีย โดยเฉพาะประติมากรรมที่งดงามแกะสลักสิงโตหินบนหน้าผา หรือสะพานไม้คาเปลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ความงามที่แท้จริงของลูเซิร์น นอกจากนี้ การได้ล่องเรือไปตามทะเลสาบที่แลดูโรแมนติกมาก ๆ และท่องเที่ยวในเมืองเล็กสวยงามบนฝั่งทะเลสาบเวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ ที่อยากให้มาเชยชม
อนุสาวรีย์สิงโต หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน (Lion Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ของทหารองครักษ์ชาวสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น อนุสาวรีย์นี้แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่คศ. 1819-1821
สะพานไม้ชาเปล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
ยอดเขาทิตลิส (Mount Titlis) ยอดเขาชื่อดังของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงถึง 3,020 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล การขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิสนั้น ต้องต่อกระเช้าหลายสถานี ก่อนถึงยอดเขาเป็นกระเช้าที่พื้นสามารถหมุนได้รอบ 360 องศา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของเทือกเขาได้รอบทิศทาง สัมผัสกับกระเช้าไฟฟ้าที่หมุนรอบตัวเองไปด้วยในขณะที่เคลื่อนที่ และพบกับทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ในแบบ 360 องศา หากไม่ชอบให้ยืนอยู่บริเวณตรงกลางของกระเช้าที่พื้นไม่ได้หมุน
กรุงเบิร์น (Bern | Berne) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองโบราณเก่าแก่แสนโรแมนติก สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี 2010 อีกด้วย
หอนาฬิกาดาราศาสตร์ หรือ หอระฆังซิทกล็อด เป็นสัญลักษณ์คู่เมืองเบิร์น เริ่มแรกที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นประตูเมืองในช่วงปี คศ. 1191-1256 ในสมัยก่อนนั้นตึกนี้ไม่ได้เป็นนาฬิกา จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1530 จึงได้มีการติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์ จากนั้นที่นี่จึงกลายเป็นหอนาฬิกาและสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมือง มีตุ๊กตา ทั้งคน สิงโต หมี ที่ติดตั้งอยู่ภายในออกมาหมุน มีไก่ออกมาขันเต้นรำไปรอบๆ เป็นจุดไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันทุกๆ ชั่วโมง
เมืองเบอซงซอง เมืองหลวงของแคว้นฟร็องช์กงเตแห่งนี้ ซ่อนตัวอยู่ในศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่พลุกพล่านของประเทศ มีป้อมปราการที่น่าหลงใหลและพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส และเป็นบ้านเกิดของวิคเตอร์ ฮูโก้ นักเขียนชื่อดังของฝรั่งเศสอีกด้วย
ปารีส (Paris) เมืองหลวงแสนสวยของฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน มหานครปารีส คือหนึ่งในเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันอยากมาเยือน ด้วยความงามของสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ หรือเรื่องราวของแฟชั่น ดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง เชิญเต็มอิ่มสนุกไปกับการซื้อของ และเดินท่องเที่ยวไปบนถนนเส้นต่างๆ ของเมืองปารีสเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศทั้งโมเดิร์นและประวัติศาสตร์แสนประทับใจ
เรือบาโตมูซ เป็นเรือนั่งล่องชมความงามของเมืองปารีสให้บรรยากาศแสนโรแมนติคในแม่น้ำแซน แม่น้ำสายหลักของเมืองปารีสประเทศฝรั่งเศส เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1949 มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการแล้วกว่า 100 ล้านคน ได้ชมทิวทัศน์ของสองฝากฝั่งแม่น้ำและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามน่ารักของเมืองปารีส ซึ่งระหว่างทางจะผ่านสถานที่สำคัญๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ มหาวิหารนอร์ทเธอดาม สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 รวมทั้งโบราณสถานและอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองส์อีกหลายแห่ง
พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles) วังหลวงอันโด่งดัง ยิ่งใหญ่ และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์ มหานครปารีส พระราชวังแวร์ซายส์ นับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน ภายในห้องต่างๆ ของพระราชวังล้วนมีค่าด้วยภาพเขียนสีแบบเฟรสโก้ โดยช่างฝีมือเอกชาวฝรั่งเศส ควรค่าแก่การยกย่องให้ เป็นพระราชวังที่งดงามล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือ Musee Du Lurve เป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะสำคัญแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองปารีส แคว้นอิล-เดอ-ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าไว้มากกว่า 40,000 ชิ้น รวมไปถึงผลงานชื่อก้องโลกอย่าง ภาพวาดโมนาลิซ่า ของศิลปินลีโอนาโด ดาวินซี หรือ รูปปั้น Venus de Milo ที่นี่จึงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยังเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง รหัสลับดาวินซีอีกด้วย
หอไอเฟลคือสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของปารีส เป็นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฝรั่งเศสห้ามพลาด หอไอเฟลคือหอคอยขนาดใหญ่ สูงถึง 324 เมตร มีโครงสร้างเป็นเหล็ก ตั้งชื่อตาม กุสตาฟ ไอเฟล ผู้ออกแบบหอคอย สร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของงาน World Exhibition ในปีพ.ศ. 2432 ในอดีต ชาวปารีสหลายคนกล่าวว่าสิ่งก่อสร้างนี้มีรูปร่างลักษณะที่ไม่เข้ากับสถาปัตกรรมอันเก่าแก่ในเมือง แต่ในปัจจุบัน หอไอเฟลก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นหอคอยที่เหมาะสมกับปารีสและเป็นดังสัญลักษณ์ของเมืองเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทิวทัศน์มุมสูงของปารีสได้บนหอไอเฟลทั้งโดยลิฟต์และบันได
ประตูชัยอาร์ค เดอ ตรีอองฟ์ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นประตูชัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 1 ในปี ค.ศ.1810 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของพระองค์ ออกแบบโดยสถาปนิกที่ชื่อ ฌ็อง ชาลแกร็ง มีอายุกว่า 200 ปี
แกลเลอรีลาฟาแยตต์ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของกรุงปารีส เปิดกิจการในค.ศ.1894 ในย่านโอเปร่าที่คนปารีสชอบเดินช้อปปิ้งกันมากที่สุด มีแฟชั่นโชว์ให้ชมฟรีทุกๆสัปดาห์ แถมมีร้านอาหารแบบบริการตนเองกับทิวทัศน์ที่สวยงามบนชั้น6 ซึ่งสามารถมองเห็นตึกโอเปร่าได้อย่างชัดเจน ห้างสรรพสินค้านี้มีสินค้าหลายหลากยี่ห้อ และมีสิ่งของทุกประเภทไว้ล่อตาล่อใจนักช้อปปิ้งแบรนด์ดังๆ ให้เลือกสรรได้อย่างครบครัน เช่น Amani,Chanel,Parda,John Galliano เป็นต้น
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553