หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินเลโอนาร์โด ดา วินชี ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci International Airport) ตั้งอยู่ในเมืองฟีอูมีชีโน ซึ่งห่างจากศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของโรม 35 กิโลเมตร สนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ด้วยจำนวนผู้โดยสาร 35,226,351 คน ในปี พ.ศ. 2551
กรุงโรม เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศอิตาลี แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ โรมเป็นมหานครที่มีสีสันเฉพาะตัว คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวที่ทุกหัวมุมถนน เต็มไปด้วยโบสถ์ สิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โต และรูปปั้นโบราณ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น ตลาดหัวเมืองโรมันโบราณ โคลอสเซียม โบสถ์ซิสทิน แพนธีออน น้ำพุเทรวีอันเลื่องชื่อ
นครวาติกัน (Vatican) ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ถือเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ผู้เป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครวาติกันนี้เป็นรัฐอิสระ จัดว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชม เช่น พิพิธภัณฑ์วาติกัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล เป็นต้น
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) เป็นมหาวิหาร 1 ใน 4 มหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และ สำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่น สามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน
โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ โดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine) เป็นซุ้มประตูที่มีชื่อเสียงในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ประตูชัยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินในการสู้รบที่สะพานมิลเวียน การออกแบบโดยทั่วไปของซุ้มประตูนั้นมีส่วนหลักที่มีโครงสร้างเป็นเสาเดี่ยว และห้องใต้หลังคาที่มีจารึกหลักอยู่ที่บริเวณด้านบน ซึ่งได้จารึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชัยชนะของการรบอันยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์โรมันนั่นเอง
น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร ออกแบบโดย Francesco Salvi เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ซึ่งเทพเจ้าเนปจูนนี้จะทรงประทับมาบนรถม้ามีปีก ซึ่งซ่อนความหมายเอาไว้ว่าจะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงโรมแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญหนึ่งเหรียญลงในสระน้ำพุเทรวี่ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้หนึ่งข้อ
บันไดสเปน (Spanish Steps) ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1723 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามโปรดระวังกระเป๋าเงินและสิ่งของมีค่าด้วย เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุกชุมของมิจฉาชีพทั้งหลาย
มหาวิหารแพนธีออนแก่งกรุงโรม เป็นมหาวิหารจากยุคโรมันที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน โดยถูกสร้างขึ้นในช่วง 27 ปีก่อนคริสตกาลโดยเลียนแบบศิลปะกรีก ต่อมาได้รับการฎิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.118 โดยตัววิหารถูกออกแบบให้มีความกว้าง 142 ฟุต และสูง 142 ฟุต บริเวณประตูทางเข้าทำจากโลหะสีทองบรอนซ์ที่มีน้ำหนักถึง 20 ตัน และสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของมหาวิหารแห่งนี้คือ "โอคูลุส" หรือช่องแสงขนาดใหญ่ตรงกลางหลังคาโดม ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
เมืองปิซา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ)ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร เชิญเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 6 มรดกโลก เช่น จตุรัสดูโอโมแห่งปิซา,มหาวิหารปิซา,หอศีลจุ่มเมืองปิซา,หอเอนเมืองปิซา,สุสานนักบุญ,พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา
หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) หอคอยหินอ่อนซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ประเทศอิตาลี และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ของศาสนสถานของชาวคริสต์ ใช้เวลาสร้างนานกว่า 176 ปี แต่เกิดการทรุดตัวลงเมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 จึงหยุดก่อสร้างไป จนอีกประมาณ 100 ปีต่อมาถึงมีผู้สร้างต่อได้จนครบ 8 ชั้น และได้นำระฆังไปติดในอีกร่วม 100 ปีต่อมา จนเสร็จสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน กาลิเลโอได้เคยมาพิสูจน์ทฤษฏีการตกของวัตถุที่ยอดของหอเอนแห่งนี้
ซานมาร์โค (san marco) คือ ห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป ซึ่งยังไม่มีใครค้านมาจนทุกวันนี้ เปียซซ่า ซานมาร์โค หรือจัตุรัสซานมาร์โค เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิสที่สวยงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก (Basilica di San Marco หรือ Saint Mark’s Basilica) เป็นจุดเด่นของลานกว้างที่เต็มไปด้วยฝูงนกพิราบและนักท่องเที่ยว ถ้านั่งเรือมาเมื่อถึงที่ท่าซานมาร์โค จะพบเสาสูงสองต้นอยู่ริมน้ำ เสาหนึ่งเป็นรูปสิงห์โตมีปีกแห่งเซนต์มาร์ก อีกเสาหนึ่งคือนักบุญธีโอดอร์ซึ่งทั้งสองเป็นสัญลักษณ์ของเวนิส
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
เมืองอินเทอร์ลาเคิน หนึ่งในเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ถูกขนาบข้างด้วย 2 ทะเลสาบ คือทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออินเทอร์ลาเคนที่มีความหมายว่า ‘เมืองระหว่างสองทะเลสาบ เป็นเมืองที่มีทางผ่านไปสู่ยอดเขาจุงเฟรา ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาแอลป์ฉายา Top of Europe เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อน เพราะบรรยากาศของเมืองที่สวยงาม ธรรชาติและอากาศบริสุทธิ์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลสาบและสวนผลไม้ จนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่
สถานีไคลน์ไชเด็ค ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เคยเสด็จเมื่อ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2440 / ค.ศ. 1897
สถานีรถไฟจุงเฟรายอค (Jungfraujoch Railway Station) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ด้านบนของเขาจุงเฟรายอค ที่สถานีปลายทาง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การสร้างทางรถไฟสายนี้ ที่จัดแสดงในอุโมงค์ยาว พร้อมทั้งมีถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่มีรูปปั้นแกะสลัก และอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็งให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย ซึ่งจุดนี้เป็นอีกจุดที่พลาดไม่ได้เลย เนื่องจาก Ice Palace เป็นถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย และภายในมีการแกะสลักน้ำแข็งอยู่ตามจุดต่างๆ ให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ฉายา Top of Europe และ ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007 โดยมีสถานีรถไฟจุงเฟรายอค (Jungfraujoch) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปตั้งอยู่ด้านบน
ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) เป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดของยอดเขาจุงเฟรา เป็นอุโมงค์น้ำแข็งที่ มีรูปปั้นแกะสลัก และอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็งให้ได้เที่ยวชม ถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร ภายในจะมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตามจุดต่างๆให้เรามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
เมืองลูเซิร์น (Lucerne City) เป็นเมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทยและชาวเอเชีย โดยเฉพาะประติมากรรมที่งดงามแกะสลักสิงโตหินบนหน้าผา หรือสะพานไม้คาเปลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ความงามที่แท้จริงของลูเซิร์น นอกจากนี้ การได้ล่องเรือไปตามทะเลสาบที่แลดูโรแมนติกมาก ๆ และท่องเที่ยวในเมืองเล็กสวยงามบนฝั่งทะเลสาบเวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ ที่อยากให้มาเชยชม
สะพานไม้ชาเปล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
อนุสาวรีย์สิงโต หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน (Lion Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ของทหารองครักษ์ชาวสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น อนุสาวรีย์นี้แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่คศ. 1819-1821
เมืองอินส์บรูค เป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำอินน์ อยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมรอบตัวเมือง เป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นทีโรล เจ้าของดินแดนออสเตรียนแอลป์ อยู่ทางตะวันตกในประเทศออสเตรีย เป็นเมืองขนาดเล็กริมแม่น้ำอินน์ ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ เมื่อซัมเมอร์มาเยือนจะกลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง อุณหภูมิกำลังเย็นสบายที่ 17 องศาเซลเซียส ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของคนที่รักธรรมชาติ รวมทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง
พระราชวังอิสตาน่า นูรูล อิหม่าน (Istana Nurul Iman Palace) เป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของ Hassanal Bolkiah ซึ่งเป็นสุลต่านแห่งประเทศบรูไน และยังเป็นทำเนียบรัฐบาลของประเทศอีกด้วย พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำของภูเขาบนฝั่งแม่น้ำบรูไน ที่แผ่กิ่งก้านสาขามากมาย สำหรับชื่อของพระราชวังแห่งนี้เป็นภาษาอาหรับ ซึ่งหมายถึงแสงแห่งศรัทธา และได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวฟิลิปปินส์ชื่อ Leandro V
แต่เดิมที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบวูล์ฟกัง โดยตั้งชื่อตามนักบุญ Wolfgang ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 นักบุญที่โดดเด่นในศตวรรษที่ 10 มีบรรยากาศสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสกี ที่นี่จะคลาคล่ำไปด้วยนักสกี นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ได้ทำกัน อาทิ สโนวบอร์ดปีนเขาไอซ์สเกตและไฮไลต์สำคัญคือการเดินชมเมืองสงบที่แสนโรแมนติก เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัว หรือคนรัก รวมถึงในตัวเมืองยังมีการบริการนั่งรถไฟไอน้ำขึ้นไปยังยอดเขา Schafberg เพื่อชมบรรยากาศของเมืองและทะเลสาบได้โดยรอบ
เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) ประเทศออสเตรีย เมืองริมทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก หลายคนอาจเคยเห็นภาพของหมู่บ้านสไตล์ยุโรปที่มีเทือกเขาเป็นองค์ประกอบอยู่ด้านหลังและมีทะเลสาบอยูด้านหน้าที่งดงามราวกับภาพวาด คือ ภาพจำที่ถูกเผยแพร่ไปมากที่สุดของประเทศออสเตรีย
เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองเล็กๆ ในอ้อมกอดของภูเขาที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ มีแม่น้ำซาลส์ซักค์ สีเขียวมรกตสวยงามไหลผ่าน สองข้างทางมีบรรยากาศที่ร่มรื่นมีอาคารบ้านเรือนสไตล์บารอกที่สวยงาม โดยเมืองนี้มีอดีตที่เติบโตมาจากการผลิตเกลือและการค้าเกลือซึ่งในยุคนั้นมีค่าประดุจทองคำขาว ดังนั้น“เกลือ”จึงเป็นที่มาของทั้งชื่อแคว้นและเมือง วิวที่เป็นไฮไลต์สำคัญคือ ป้อมปราการโฮเอินซัลทซ์บวร์คที่ตั้งอยู่บนยอดเขาใจกลางเมืองแห่งนี้
สวนดอกไม้มิราเบล เป็นสวนสไตล์ฝรั่งเศสที่อยู่บริเวณพระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) สวนนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองซาล์ลบวร์ก ประเทศออสเตรีย นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นที่จดจำในฐานะเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์สุดคลาสสิกอย่าง The sound of music หรือ มนต์รักเพลงสวรรค์
เมืองมิวนิค (Munich) ประเทศเยอรมนี คือเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย แคว้นตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิซาร์ เป็นศูนย์กลางความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเงิน การธนาคาร และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมัน มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีอาร์ตแกลเลอรี่ดีที่สุดด้วย เชิญเที่ยวชมมหานครแห่งนี้ ก่อตั้งในคศ1158 มีบรรยากาศรื่นรมย์ เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามจากยุคสมัยอันรุ่งเรือง แหล่งรวมห้างสรรพสินค้าอันทันสมัยมากมาย
มาเรียนพลัทซ์ จตุรัสมาเรีย หรือ จตุรัสแมรี่ (Marienplatz | Mary's Square) แหล่งรวมห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย ตั้งอยู่เขตเมืองเก่าใจกลางเมืองมิวนิคประเทศเยอรมนี บริเวณนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในการชมวิถีชีวิตของคนมิวนิคในยามเย็น ตามร้านอาหารกลางจัตุรัส ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างพากันมาชุมนุมดื่มเบียร์ พบปะสนทนา พลาดไม่ได้เลือกชมตุ๊กตาเต้นรำที่ประดับอยู่บนอาคารเทศบาลเมืองเก่าเวลา 11.00 น. ทุกวัน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
สนามอัลลีอั๊นซ์ อารีน่า คือสนามฟุตบอลขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเยอรมนี อยู่ทางเหนือของนครมิวนิค มีพื้นที่ถึง 150,000 ตารางเมตร สามารถจุผู้ชมได้ถึง 66,000 คน เคยเป็นสนามแข่งขัน ฟีฟ่า เวิร์ดคัพ ปี 2006 ความโดดเด่นของสนามฟุตบอลแห่งนี้คือ รูปทรงที่เหมือนหมอนพลาสติกเป่าลมสีขาวใบยักษ์ที่สร้างจากวัสดุโพลิเมอร์ชนิดใหม่ซึ่งมีความแข็งแรง คงทน นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนสีได้ถึง 3 สี คือ สีแดง สีน้ำเงิน และสีขาว ทำให้ที่นี่เป็นสนามฟุตบอลที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก หรือ สนามบินมิวนิก (Munich International Airport) ตัวย่อสนามบิน: MUC ชื่อเต็มคือ ท่าอากาศยานมิวนิก "ฟรันทซ์ โยเซ็ฟ ชเตราส์"ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติต่อฟรัให้บริการในเขตมิวนิคและภูมิภาคบาวาเรีย และเป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รองจากสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีเส้นทางบินสู่ 248 จุดหมายปลายทางทั่วโลก โดยสนามบินแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่เพื่อทดแทนสนามบินเดิมที่มีขนาดเล็ก และเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553