หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto Pier) อยู่ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นจุดจอดรับ-ส่ง เป็นท่าล่องเรือที่มีเรือบริการในการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ของเมือง มีการบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งคลองโดยทางเรือ นับเป็นเมืองที่คลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือเพื่อผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใครโดยใช้เรือแทนรถใช้คลองแทนถนน
เกาะเวนิส (Venice Island) หรือเวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก สมญานามว่าเป็น ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เพราะในเกาะแห่งนี้มีคลองมากมายหลายสาย แล้วยังมีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ มีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง บริเวณซานมาร์โคนั้นเป็นศูนย์กลางของเกาะเวนิสแห่งนี้ ไฮไลต์สำคัญของที่แห่งนี้ คือ การนั่งเรือกอนโดล่าชมบรรยากาศของเมือง และการไปชมความงดงามของมหาวิหารซันมาร์โก
พระราชวังดอดจ์ (Doge’s Palace) เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในสไตล์โกธิคแบบเวนิสอันเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองเวนิสซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของ Doge of Venice ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของสาธารณรัฐเวนิสในอดีต ซึ่งได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ.1996 ภายใน Doge’s palace เต็มไปด้วยสมบัติยุคโบราณที่สวยงามมากมาย ในพระราชวังได้เชื่อมติดกับโบสถ์หลักที่สำคัญของเมืองเวนิสอย่าง St Mark’s Basilica และจุดเด่นที่สำคัญของพระราชวังแห่งนี้คือสะพานถอนหายใจ
จัตุรัสเซนต์มาร์ก หรือ จตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco | Saint Mark Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิส ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก เป็นจุดเด่นของลานกว้าง บริเวณรอบๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ไว้คอยบริการมากมาย และรอบๆ จัตุรัสยังมีอาคารที่สำคัญสองแห่งคือ หอระฆัง และ หอนาฬิกา อีกด้วย
เมืองมิลาน หรือ มิลาโน่ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น ศิลปะ และเครื่องหนัง เป็นเมืองแห่งแฟชั่นสำคัญเมืองหนึ่งของโลก มิลานเป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดียในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีประชากรประมาณ 1,308,500 คน และมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า “ปาเนตโตเน” อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน มีแกลอรี่ชื่อดัง โบสถ์ที่สวยงาม และโรงละครโอเปร่า
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าและห้างเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมที่ทันสมัย มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อิสระให้สำรวจสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของอิตาลีตามอัธยาศัย
เมืองปาร์มา เป็นเมืองในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา จังหวัดปาร์มา ประเทศอิตาลี มีชื่อเสียงในด้านการผลิตแฮม ,ชีส และด้านสถาปัตยกรรม เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยปาร์มา และสโมสรฟุตบอลปาร์มา เป็นต้นกำเนิดของปาณ์ม่าแฮมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
เมืองปิซา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดปิซาอยู่ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ)ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร เชิญเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ 6 มรดกโลก เช่น จตุรัสดูโอโมแห่งปิซา,มหาวิหารปิซา,หอศีลจุ่มเมืองปิซา,หอเอนเมืองปิซา,สุสานนักบุญ,พิพิธภัณฑ์มหาวิหารปิซา
จตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี แปลว่า "จตุรัสอัศจรรย์" หรือ ที่ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ จตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า คือ บริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพงใจกลางเมืองปิซ่า ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างได้แก่ มหาวิหารปิซ่า หอเอน หอศีลจุ่ม เริ่มสร้างปีคศ.1173 แล้วเสร็จในปีคศ.1372 ปัจจุบันยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมในปีคศ.1987
มหาวิหารแห่งเมืองปาแลร์โม ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมไบเซนไทน์แห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บนยอดเขากลางใจเมือง สร้างด้วยศิลปะแบบกอธิคสไตล์กาตาโลเนีย ภายในตกแต่งงดงามอลังการ สร้างอุทิศแด่พระแม่มารี งานก่อสร้างส่วนใหญ่บังเกิดขึ้นในราวคริสต์ศต15–16 ตกแต้งด้วยโมเสกทองอร่ามงามตาใหญ่อันดับ2ของโลก รองจาก Hagia Sophia ที่ตุรกี โมเสกภายในวิหารนี้ใช้เวลาสร้างแค่ 8ปีเท่านั้น ส่วนเพดานวิหาร มีสีสันสดใสมาก ส่วนแท่นพิธี เป็นรูปพระเยซูอันใหญ่ เป็นโมเสกรูปพระเยซูกำลังให้พร กำแพงโดยรอบวิจิตรตระการตา
หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) หอคอยหินอ่อนซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ประเทศอิตาลี และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ของศาสนสถานของชาวคริสต์ ใช้เวลาสร้างนานกว่า 176 ปี แต่เกิดการทรุดตัวลงเมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 จึงหยุดก่อสร้างไป จนอีกประมาณ 100 ปีต่อมาถึงมีผู้สร้างต่อได้จนครบ 8 ชั้น และได้นำระฆังไปติดในอีกร่วม 100 ปีต่อมา จนเสร็จสมบูรณ์เหมือนที่เห็นในปัจจุบัน กาลิเลโอได้เคยมาพิสูจน์ทฤษฏีการตกของวัตถุที่ยอดของหอเอนแห่งนี้
แคว้นทัสคานี (Tuscany) โดยเมืองหลวงของแคว้น คือ ฟลอเรนซ์ (Florence) ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโบราณสถานสำคัญ และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้เมื่อ ปี ค.ศ.1982 ทำให้ทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก
มหาวิหารซานตามาเรีย เดลฟิออเร ชื่อเต็มคือ อาสนวิหารซันตามาเรียแห่งฟลอเรนซ์(Cathedral Of Santa Maria Del Fiore)หรือที่ชาวฟลอเรนซ์นั้นจะเรียกว่า“เซนต์แมรีแห่งบุปผา”ตั้งอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ มณฑลฟลอเรนซ์ แคว้นตอสคานา ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่13 แต่สร้างเสร็จ ออกแบบใหม่ใน คศ.1436โดย สถาปนิกมากมายหลายคนที่มีชื่อเสียง สำหรับโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น ออกเเบบโดย“ฟิลิปโป บรูเนลเลสชี”ซึ่งมันมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 45.5 เมตร โดยมีบันไดในการขึ้นไปชมด้านบนถึง 463 ชั้นด้วยกัน
เปียซซาเดลซิญญอเรีย จุดศูนย์กลางเเห่งอำนาจของเมืองฟลอเรนซ์ ที่มีความเก่าเเก่เเละประวัติศาสตร์เรื่องราวให้เล่าขานอย่างมากมาย จนคักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวฟลอเรนซ์ ต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมซักครั้ง นับว่าเป็นพื้นของจัตุรัสใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ ที่มีความเก่าเเก่สวยงาม เเละเต็มไปด้วยประติมากรรมชั้นยอด ของศิลปินเอกชาวอิตาเลี่ยนมากมายมาตั้งรวมกันอยู่ จนมีคนกล่าวว่ามันเหมือนกับเเกลลอรี่กลางเเจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เเละเต็มไปด้วยงานประติมากรรมที่ทรงคุณค่าเเละประเมินค่าไม่ได้มากมายหลายต่อหลายชิ้นเลยทีเดียว
สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) เป็นสะพานเก่าแก่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ ยังคงหลงเหลือมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1333 มีสีเหลืองทองอร่าม บวกกับสองฟากของสะพานถูกสร้างเป็นตึกแถว ซึ่งถูกใช้เป็นร้านขายของ อาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้ามากมาย สมัยก่อนเป็นร้านขายเนื้อสัตว์ ต่อมามีการปรับปรุงทัศนียภาพ เลยเปลี่ยนให้กลายเป็นร้านขายทอง ด้านบนหลังคาของอาคารพาณิชย์ได้ต่อเติมให้เป็นทางเดินลอยฟ้า เชื่อมระหว่างพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี่กับพระราชวังพิตติ
เมืองเล็กๆ ที่มีทิวทัศน์งดงามที่สุดในแคว้นทัสคานี ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองโบราณ เป็นเมืองแห่งสุดยอดสถาปัตยกรรมของยุคกลาง โดยเฉพาะหอคอยสูงตระหง่าน 14 หอ ที่สามารถมองเห็นได้แม้อยู่ห่างจากตัวเมืองหลายกิโลเมตร เป็นเมืองเดียวในอิตาลี่ที่สามารถอนุรักษ์สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมยุคกลางไว้ได้อย่างครบถ้วนจนได้รับการประกาศเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO ชมโบสถ์ SAN GIMIGNANO DUOMO โบสถ์หลักประจำเมือง ตั้งอยู่ในจัตุรัส PIAZZA DEL DUOMO ภายในมีการตกแต่งแบบโรมาเนสก์
เมืองเซียนา (Siena) หรือ เมืองซีเอนา เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเซียนา (Province of Siena) จังหวัดในแคว้นทัสกานี (Tuscany) ซึ่งเป็นแคว้นในภาคกลางของประเทศอิตาลี อีกทั้งยังเป็นแคว้นที่ขึ้นชื่อว่ามีทิวทัศน์งดงามมาก และมีไวน์ที่รสชาติดีเยี่ยมแห่งหนึ่งของอิตาลี โดยสิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดของมหาวิหารคือโดมและหอระฆัง โดยโดมที่ตั้งอยู่บนหอแปดเหลี่ยมมาสร้างเพิ่มโดยจาน โลเรนโซ แบร์นินี ภายนอกและภายในตกแต่งด้วยแถบหินอ่อนขาวสลับเขียวดำยกเว้นด้านหน้าที่แทรกด้วยหินอ่อนสีชมพูแก่เกือบแดง
จตุรัสคัมโป (Piazza Del Campo) พื้นที่จัตุรัสอันเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์แห่งเมืองเซียนา มีชื่อเสียงในเรื่องของความงดงามและความสมบูรณ์ของงานสถาปัตยกรรมพื้นที่จัตุรัสหลักที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองเซียน่า อีกทั้งยังได้รับการยอมรับว่าเป็นจัตุรัสยุคกลางที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เป็นจัตุรัสที่มีชื่อเสียงในเรื่องความงามและความสมบูรณ์ของงานสถาปัตยกรรมไปทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ๆ จำนวนหลายแห่ง
พระราชวังปาลาโซ พลับบลิคโค (Palazzo Pubblico) ซึ่งเป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในแบบโรมาเนสก์ ภายนอกตกแต่งแบบอิตาลียุคกลางที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเป็นพระราชวังที่มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นตึกที่ทำงานของรัฐบาล โดยก่อสร้างด้วยศิลปะแบบโรมาเนส ภายในทุกห้องของพระราชวังนี้ได้รับการตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม
มหาวิหารเซียนา (Siena Cathedral) หรือที่เรียกว่ามดูโอโมดิเซียนา (Duomo Di Siena) มหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1215-1263 วิหารที่มีความงามของโดมที่ตั้งอยู่บนหอคอยแปดเหลี่ยมและหอระฆัง ภายนอกและภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนขาวสลับเขียวดำ แต่เฉพาะด้านหน้าของมหาวิหารที่ถูกตกแต่งด้วยหินอ่อนสีชมพู โดยสีขาวและสีดำที่นำมาตกแต่งนั้นเป็นสีสัญลักษณ์ของเมืองเซียนา ซึ่งตามตำนานกล่าวว่าเป็นสีของม้าเซเนียส และอาสเคียส ผู้ก่อตั้งเมือง
มหาวิหารเซียนา (Siena Cathedral) หรือที่เรียกว่ามดูโอโมดิเซียนา (Duomo Di Siena) มหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1215-1263 วิหารที่มีความงามของโดมที่ตั้งอยู่บนหอคอยแปดเหลี่ยมและหอระฆัง ภายนอกและภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนขาวสลับเขียวดำ แต่เฉพาะด้านหน้าของมหาวิหารที่ถูกตกแต่งด้วยหินอ่อนสีชมพู โดยสีขาวและสีดำที่นำมาตกแต่งนั้นเป็นสีสัญลักษณ์ของเมืองเซียนา ซึ่งตามตำนานกล่าวว่าเป็นสีของม้าเซเนียส และอาสเคียส ผู้ก่อตั้งเมือง
กรุงโรม เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศอิตาลี แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ โรมเป็นมหานครที่มีสีสันเฉพาะตัว คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวที่ทุกหัวมุมถนน เต็มไปด้วยโบสถ์ สิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โต และรูปปั้นโบราณ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น ตลาดหัวเมืองโรมันโบราณ โคลอสเซียม โบสถ์ซิสทิน แพนธีออน น้ำพุเทรวีอันเลื่องชื่อ
นครวาติกัน (Vatican) ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ถือเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ผู้เป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นครวาติกันนี้เป็นรัฐอิสระ จัดว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชม เช่น พิพิธภัณฑ์วาติกัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล เป็นต้น
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) เป็นมหาวิหาร 1 ใน 4 มหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และ สำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่น สามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน
โรมันฟอรัม (Roman Forum) เป็นศูนย์กลางทุกด้านของกรุงโรมโบราณเป็นที่รวมของเหล่านักปราชญ์ผู้วางรากฐานประชาธิปไตยให้โลกจนปัจจุบัน และศูนย์กลางการประชุมทางการเมือง การปกครอง มีโบสถ์วิหารสำหรับบูชาเทพเจ้าของโรมัน ปัจจุบันส่วนใหญ่เหลือแต่ซาก แต่ก็ยังเห็นโครงสร้างของความยิ่งใหญ่ที่สำคัญ ตัวหมู่อาคารฟอรัมทั้งหมด ใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลายาวนานถึง 900 ปี ทั้งยังใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจและที่ชุมนุมทางการเมืองแต่เมื่อจักรวรรดิโรมันเสื่อมลงโรมันฟอรัมก็ถูกทิ้งร้าง
โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ โดดเด่นในด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร ออกแบบโดย Francesco Salvi เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง "Three Coins in the Fountain" กลางน้ำพุจะมีรูปสลักหินอ่อนเป็นรูปเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ซึ่งเทพเจ้าเนปจูนนี้จะทรงประทับมาบนรถม้ามีปีก ซึ่งซ่อนความหมายเอาไว้ว่าจะนำพามาซึ่งความเจริญมั่งคั่งแก่กรุงโรมแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญหนึ่งเหรียญลงในสระน้ำพุเทรวี่ จะสามารถขอพรให้สมหวังได้หนึ่งข้อ
บันไดสเปน (Spanish Steps) ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1723 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามโปรดระวังกระเป๋าเงินและสิ่งของมีค่าด้วย เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุกชุมของมิจฉาชีพทั้งหลาย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553