หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินชิโตเซ่ (Chitose Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของฮกไกโด เปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 1991 ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองชิโตเซะและโทะมะโกะไม ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโระ ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด
เมืองอาซาฮิกาว่า (Asahikawa City) เป็นเมืองที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด รองจากเมืองซัปโปโร รายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม และมากด้วยศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่เคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่ครั้งอดีต โดยเฉพาะศิลปะในการปั้นแขนงต่างๆ เป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งของภูมิภาคโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น อุทยานแห่งชาติไดเซทสึซัง บ่อน้ำแร่โซอุนเคียว สวนสัตว์อาซาฮิคาวะ และทุ่งดอกไม้อีกมากมายให้เราได้เพลิดเพลินในฤดูต่างๆ ตลอดทั้งปี
หมู่บ้านราเมงอาซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village) ตั้งอยู่ในเมืองอะซะฮิคะวะ เป็นหมู่บ้านที่รวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองจำนวน 8 ร้านไว้ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ นอกจากนั้นภายในบริเวณหมู่บ้านยังมีศูนย์การค้า และศาลเจ้าเพื่อให้คู่รักมาขอพรเพื่อให้ชีวิตคู่ร้อนแรงเหมือนน้ำซุปและยืนยาวเหมือนเส้นบะหมี่จากเทพเจ้า 2 องค์
สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) หรือ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ตั้งอยู่นเมืองอาซาฮากาวะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของเมือง ซึ่งสวนสัตว์ที่นี่ถือว่าไม่ธรรมดาเพราะสัตว์ต่างๆ ของที่นี่ไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในกรง แต่มีการสร้างสถานที่เลียนแบบธรรมชาติของที่อยู่อาศัยของสัตว์นั้นๆ รวมทั้งยังมีการสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ใกล้ชิดบรรดาสัตว์มากขึ้น อย่างการสร้างแทงค์น้ำรูปกระบอกยื่นเข้าไปในบ่อของแมวน้ำ เป็นต้น ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน
พิพิธภัณฑ์เหล้าสาเกโอโตโกยามะตั้งอยู่ในเมืองอาซาฮิกาวะ ทั้งยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 340 ปี และเป็นสาเกที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอกไกโด ภายในนอกจากส่วนของพิพิธภัณฑ์แล้ว ก็ยังมีในส่วนของสำนักงานและโรงงานผลิตด้วย ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาเยือนนอกจากจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและวัฒนธรรมของการทำสาเก ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณแล้ว ยังจะได้ชมวิธีการผลิตอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังได้ชิมฟรีอีกด้วย หรือหากใครติดใจอยากจะซื้อกลับบ้านก็มีจำหน่ายด้วยเช่นกัน
เมืองโอตารุตั้งอยู่ในเกาะฮอกไกโดและอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ทั้งยังเป็นเมืองท่าหลักของอ่าวอิชิคะริ เนื่องจากเมืองแห่งนี้จะหันหน้าออกสู่อ่าวอิชิคะริ ส่วนด้านหลังของเมืองนั้นถูกโอบล้อมด้วยภูเขาถึง 3 ด้านด้วยกัน จากนั้นจึงเป็นทางลาดเอียงลงสู่ทะเล จึงทำให้บ้านเรือนที่นี่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามไหล่เขา และทำให้ที่นี่กลายแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เพราะนอกจากจะมีทิวทัศน์อันงดงาม ที่นี่ยังเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ มีพื้นที่สำหรับเล่นสกีอันมีชื่อเสียง และยังมีน้ำพุร้อนให้แช่อีกหลายแห่งด้วย
คลองโอตารุ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก ซึ่งในอดีตเป็นคลองที่เกิดจากการถมทะเลเพื่อใช้เป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงสู่เรือขนถ่ายแล้วนำสินค้ามาเก็บไว้ภายในโกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และถมคลองครึ่งหนึ่งทำเป็นถนนหลวง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งได้บูรณะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนั้นริมสองฝั่งคลองยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมาย รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคลองมากนัก
พิพิธภัณฑ์รถไฟในญี่ปุ่นถูกสร้างขึ้นในไซตามะซิตี้ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับโครงการตะวันออกจูเนียร์ในโอกาสครบรอบ 20 ปี โดยพิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งนี้ได้อนุรักษ์ไว้ซึ่งมรดกทางรถไฟในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงรถไฟสาย JR ตะวันออก และรถไฟสาย JNR อีกด้วย นั่นจึงทำให้ที่นี่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมของการพัฒนาระบบรถไฟ อีกทั้งยังแนะนำภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของแต่ละช่วงเวลาด้วยการแสดงในรูปแบบที่เกิดขึ้นจริง
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ที่ภายในเต็มไปด้วยรูปแบบ ขนาด และประเภทต่างๆ ของกล่องดนตรี โดยตัวอาคารหลังนี้ก่อสร้างด้วยกำแพงอิฐสีแดงและมีหน้าต่างโค้งซึ่งเป็นไสตล์เรเนซองส์ ส่วนด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์มีนาฬิกาไอน้ำที่ผลิตโดยผู้ผลิตนาฬิกาแคนาดาที่จะส่งเสียงเตือนทุกๆ 15 นาที และทุกชั่วโมงจะดังเป็นพิเศษ
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
โรงงานช็อกโกแลตอิชิยะตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรในสวนชิโรอิโคอิบิโตะ ซึ่งภายในระกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และโรงงานช็อกโกแลตอันมีชื่อเสียง โดยอาคารซึ่งเป็นร้านขายของนั้นถูกตกแต่งให้เหมือนกับโลกแห่งเทพนิยายคลาสสิก ส่วนภายในโรงงานมีการจัดแสดงอุปกรณ์การผลิตตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม โดยจำลองโรงงานและขั้นตอนการผลิตมาไว้ที่นี่ นอกจากนั้นยังสามารถชิมและเลือกซื้อช็อกโกแลตหรือไอศกรีมแบบต่างๆ ที่ผลิตจากนมสดของเกาะฮอกไกโดได้ที่นี่ แถมยังทดลองทำคุกกี้ได้เองด้วย
หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่ ตั้งอยู่ถัดจากอาคารว่าการเก่าเมืองฮอกไกโด เป็นอีกหนี่งสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง ซึ่งในอดีตเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดมาก่อน และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ทาสีขาว ภายในจัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของหอนาฬิกา รวมถึงเรื่องราวของนาฬิการุ่นเดียวกับนาฬิกาที่อยู่บนหอคอย ซึ่งที่นี่ก็เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวมักแวะมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido-jingu Shrine) เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี ซึ่งแต่เดิมศาลเจ้านี้มีชื่อว่าศาลเจ้าซัปโปโร และชาวฮอกไกโดต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าโยฮะชิระ ผู้พิทักษ์เกาะฮอกไกโดและคอยปกปักษ์รักษาชาวเมืองบนเกาะมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนแห่งนี้ ดังนั้นคนท้องถิ่นจึงนิยมไปสักการะไม่ขาดสาย เพื่อเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
ภูเขาโอคุระยามา หรือ Mt.OKURA ( นั่งกระเช้าไฟฟ้า) สู่ยอดเขาเพื่อชมวิวของเกาะฮอกไกโดและเป็นสถานที่ในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งจัดขึ้นที่ซัปโปโรในปี1972 ยังเป็นสถานที่สอนกีฬาสกีจัมพ์อีกด้วย ในช่วงที่ไม่มีการจัดการแสดงหรือแข่งขันกีฬา
ตลาดถนนคนเดินทานูกิโคจิ ตลาดและย่านการค้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเมือง โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7 บล็อก ภายในนอกจากจากจะเป็นแหล่งรวมร้านค้าต่างๆ อย่างร้านขายกิโมโน เครื่องดนตรี วิดีโอ โรงภาพยนตร์แล้ว ยังมีร้านอาหารมากมาย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นด้วย เนื่องจากมีเกมเซ็นเตอร์ และตู้หนีบตุ๊กตามากมาย นอกจากนั้นที่นี่ยังมีการตกแต่งบนหลังคาด้วยตุ๊กตาทานุกิขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีศาลเจ้าทานุกิอันเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1973 ด้วย
บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ
สวนสาธารณะโอโดริ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร ถือเป็นหัวใจหลักของเมือง ด้วยเป็นสวนที่แบ่งเมืองออกเป็นเขตเหนือและใต้ และมีถนนสายหลักตัดผ่านโดยรอบสำหรับเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมือง โดยมีหอโทรทัศน์ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของสวน เป็นจุดสังเกต ภายในมีสวนดอกไม้หลากหลายพันธุ์ น้ำพุ และงานประติมากรรมกลางแจ้งต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ ของเมือง อย่างเช่นเทศกาลดอกไม้นานาชาติในช่วงฤดูร้อน และเทศกาลหิมะซัปโปโรในช่วงฤดูหนาว เป็นต้น
ซัปโปโรเจอาร์ทาวเวอร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร โดยตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ เจอาร์ซัปโปโร มีความสูงถึง 173 เมตร ภายในนอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าแล้ว ยังแบ่งเป็นส่วนของอาคารสำนักงานด้วย ที่นี่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งของเมือง เพราะนอกจากจะอยู่บนทำเลที่สะดวกแล้ว ชั้นบนสุดยังเป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม เพราะสามารถดูวิวทิวทัศน์ของเมืองได้แบบ 360 องศา ซึ่งหากวันไหนอากาศดีๆ ก็จะมองเห็นได้ไกลถึงท่าเรือเมืองโอตารุ ภูเขามารุยามะ ภูเขาซันกากุ รวมทั้งสถานที่เล่นสกีอันเลื่องชื่อของเมืองนิเซโกะ เป็นต้น
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) ตั้งอยู่กลางเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น โดยมีหลังคาจั่วสีฟ้าเขียวเป็นเอกลักษณ์ เป็นตลาดทางประวัติศาสตร์ที่มีอายุประมาณ 100 ปีย้อนหลังสร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ.1903 และตลาดแห่งนี้รู้จักกันในนาม “ครัวทะเลของชาวเมืองซัปโปโร” ตลาดแห่งนี้คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาซื้อของฝาก เช่น ปูและหอยเชลล์ เป็นต้น และในตลาดปลายังมีอาคารที่รวบรวมร้านอาหารที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ไว้มากมาย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553