หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ เป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดจิบะ ในอดีตสนามบินแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า New Tokyo International Airport จนกระทั่งปี 2004 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะถึงแม้ว่าสนามบินแห่งนี้จะให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกโตเกียวเป็นหลัก แต่ตัวสนามบินกลับไม่ได้ตั้งอยู่ในโตเกียว ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อตามแหล่งที่ตั้งนั่นเอง
ทะเลสาบอะชิโนะโกะ หรือ ทะเลสาบฮาโกเน่ เป็นทะเลสาบอันเงียบสงบอันมีภูมิทัศน์สวยงาม เพราะรายล้อมไปด้วยภูเขาและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกเนะ มีลักษณะเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ทอดตัวไปในแนวตะวันตกเฉียงใต้ของแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดฮาโกเนะ ซึ่งทะเสาบแห่งนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักจะมาล่องเรือที่มีลักษณะคล้ายเรือโจรสลัดเพื่อชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่งดงามในระยะไกล ซึ่งจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือจุดที่อยู่บริเวณใกล้ๆ กับประตูศาลเจ้าฮาโกเนะสีแดงสดที่จมน้ำอยู่
โกเทมบะ พรีเมี่ยม เอ้าท์เลท เป็นหนึ่งในเอ้าท์เลทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เพราะนอกจากที่นี่จะมีสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกราคาถูกกว่า 200 ร้านค้าแล้ว รอบๆ บริเวณยังโรแมนติกและสวยงามเพราะตั้งอยู่บนเชิงภูเขาไฟฟูจิ ระหว่างทางเชื่อมไปสู่อุทยานแห่งชาติฮาโกเนะ โดยที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนและมีสะพานเชื่อมถึงกัน นั่นก็คือ West Zone ที่อยู่ด้านหน้าเอ้าท์เลท และ East Zone ที่อยู่ติดติดกับอุทยานฮาโกเนะ และที่นี่ยังมีสวนกุหลาบ และชิงช้าสวรรค์อีกด้วย
บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ทุ่งดอกไม้ชิบะซากุระ หรือที่รู้จักกันในนามว่าดอกพิ้งค์มอส ในช่วงฤดูใบไม้ผลิดอกไม้จะบานและหน้าตาดูคล้ายกับดอกซากุระ ส่วนในฤดูอื่นจะมีใบสีเขียวแทนและดูคล้ายต้นหญ้า จึงเรียกกันว่า ชิบะซากุระ คำว่า "ชิบะ" หมายถึงต้นหญ้า ดังนั้นจะแปลได้ว่า "ซากุระต้นหญ้า" มาเดินชมต้นชิบะซากุระที่มีอยู่นับแสนต้น ซึ่งดูเหมือนพรมหลากสี ทั้งสีขาว สีชมพู และสีแดง ซึ่งสีของดอกจะเข้มขึ้นตามอายุที่ปลูกกันได้ที่นี่
ภูเขาฟูจิหรือฟุจิซัง คือภูเขาที่สูงที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิสึโอกะและจังหวัดยามานาชิ ในอดีตฟูจิเคยเป็นฐานทัพของเหล่าซามูไรมาก่อน ในปัจจุบันฟูจิถูกรับรองให้เป็นอีกหนึ่งมรดกโลก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติญี่ เนื่องจากมีทั้งทะเลสาบล้อมรอบและมีอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม ประกอบกับเสน่ห์ของฟูจิเองที่มีผลให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกใฝ่ฝันอยากไปสัมผัสสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นแห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง
มหานครโตเกียว หรือ "โตเกียว" เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคคันโต มีระบบการปกครองพิเศษที่รวมการปกครองแบบจังหวัดและเมืองไว้ด้วยกัน โตเกียวได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และที่นี่ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญๆ ที่ได้รับการโหวตให้ติดอันดับโลกในด้านการท่องเที่ยวอยู่เนืองๆ หากใครคิดจะมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ได้มาเยือนโตเกียวซักครั้งแล้วล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกค้างคาใจ เหมือนมาไม่ถึงประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
วัดอาซากุสะ (Asakusa) หรือ วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ เป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว ภายในวัดมีเทวรูปคันนงประดิษฐานอยู่ รวมทั้งยังมีเจ้าแม่กวนอิมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใครมาขอพรสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ นอกจากนี้ยังมีโคมแดงยักษ์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัด ที่ใครมาถึงต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
โตเกียวสกายทรี เป็นหอกระจายคลื่นซึ่งตั้งอยู่ในเขตซุมิดะ กรุงโตเกียว ปัจจุบันเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น พร้อมควบตำแหน่งหอคอยที่สูงเป็นอันดับสองของโลกรองจากบูร์จคาลิฟา เมืองดูไบ สาเหตุที่ญี่ปุ่นสร้างโตเกียวสกายทรีขึ้นมา เป็นอันเนื่องมาจากหอคอยโตเกียวทาวเวอร์ที่มีอยู่เดิมนั้น มีความสูงไม่เพียงพอที่จะส่งสัญญาณคลื่นวิทยุในรูปแบบดิจิตอล จึงต้องมีการสร้างหอคอยแห่งใหม่ขึ้นมาทดแทน ทั้งนี้โตเกียวสกายทรีได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ TOKYO SKYTREE TEMPO DECK และ TOKYO SKYTREE TEMBO GALLERIA
ชินจูกุ หรือ ย่านชินจูกุ แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจไม่เชื่อว่าในอดีตย่านนี้เป็นเพียงที่ "ทิ้งขยะของเมือง" แต่ปัจจุบันชินจูกุได้แปรสภาพกลายเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ อิเซตัน (Isetan) ทาคาชิมายะ (Takashimaya) ดองกี้ (Don Quijote) โอดะคิว (Odakyu) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวไปทำความรู้จัก
ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) แหล่งรวมตัวของวัยทีนในกรุงโตเกียว ย่านนี้นอกจากมีร้านค้าแบรนด์ดัง แหล่งช็อปปิ้ง ร้านเครปญี่ปุ่นขึ้นชื่อ และคาเฟ่เก๋ๆ มากมายแล้ว ไฮไลท์ที่หลายคนอยากมาสัมผัสซักครั้งก็คือการแต่งตัวรวมทั้งประชันแฟชั่นกันอย่างสนุกสนานของบรรดาวัยรุ่น หากมาในย่านนี้ต้องไม่พลาดแวะขอพรที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) ต่อด้วยการช้อปปิ้งที่ถนน Takeshita Dori ส่วนในฝั่งของถนน Ometesando นั้นเรียกได้ว่าเป็นถนนแห่งร้านแบรนด์เนมซึ่งเป็นย่านสำหรับวัยผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย
ถนนโอโมเตะซันโด ตั้งอยู่ในย่านที่เรียกว่า “อาโอยามะ” ติดฮาราจูกุ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ฌ็องเซลิเซ่แห่งกรุงโตเกียว” ขึ้นชื่อมากในกรุงโตเกียว เหล่าแฟชั่นนิสต้าไม่ควรพลาด โดยเฉพาะใครที่รักในความทันสมัยและแบรนด์เนมต่างๆ พลาดไม่ได้ ที่นี่มีการโฆษณาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณา การโฆษณาบนถนน หรือแม้แต่อีเวนท์ที่เดินแห่ขบวนเรียกความสนใจตามท้องถนน บรรยากาศคล้ายยุโรปกับตึกร้านค้าที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์ยุโรป สองข้างทางปลูกต้นเซลโกเวียเป็นทิวแถว เหมือนเป็นอุโมงค์ธรรมชาติสวยงามอยู่ใจกลางเมือง
ชิบุย่า แหล่งท่องเที่ยวและย่านที่ฮิตที่สุดแห่งหนึ่งของมหานครโตเกียว ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการรวมตัวยอดนิยมของวัยรุ่นและวัยทำงาน เพราะเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า และแฟชั่นต่างๆ มากมาย โดยย่านชิบุย่านั้นมีศูนย์กลางอยู่ตรงสถานีรถไฟชิบุย่า หนึ่งในสถานีใหญ่ของโตเกียวที่มีความซับซ้อน เพราะมีรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินหลายสาย จึงทำให้สถานีชิบุยะมีผู้คนผ่านไปมาถึงวันละประมาณ 2 ล้านต้นๆ ที่สำคัญชิบุย่ามีจุดนัดพบที่มีชื่อเสียงนั่นก็คือบริเวณอนุสรณ์รูปปั้นของสุนัขชื่อฮาจิโกะนั่นเอง