หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในอ่าวโอซากา นอกชายฝั่งเมืองเซ็นนังและเมืองอิซุมิซะโนะ จังหวัดโอซะกะ ญี่ปุ่น มักถูกเรียกในภาษาอังกฤษว่า Osaka Airport หรือท่าอากาศยานโอซากา ออกแบบโดยสถาปนิก Renzo Piano เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537
เมืองทาคายามะ หรือ เมืองฮิดะทาคายะมะ เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเจแปนแอลป์ในเขตจังหวัดกิฟุ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบโบราณ ด้วยสิ่งก่อสร้างที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปะแบบดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ เพราะในอดีตเมืองแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรป่าไม้ อีกทั้งยังมีการวางผังเมืองให้คล้ายคลึงกับเกียวโต จนถูกเรียกว่าเป็นลิตเติ้ลเกียวโต
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิรากาวะโกและโกกายามะ เป็นหมู่บ้านชาวนาซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาในเขตกิฟุและโทยามะทางตอนกลางของเกาะฮอนชู ซึ่งสิ่งที่แปลกตาสำหรับหมู่บ้านแห่งนี้คือบ้านหลังคาทรงสูงที่มีความชันถึง 60 องศา อันเป็นสถาปัตยกรรมที่เรียกว่ากัสโช โดยมีความหมายว่าพนมมือ ทั้งยังเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200-300 ปี กระจายไปตามที่ราบแคบๆ ขนานไปกับแม่น้ำโชกาวะ ในช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมหลังคาบ้านเต็มไปหมด ดูคล้ายกับหมู่บ้านในเทพนิยาย นอกจากนี้ยังถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1995 อีกด้วย
ทาคายามะ จินยะ หรืออดีตจวนผู้ว่าแห่งเมืองทาคายามะ ในอดีตเคยเป็นที่ทำงานและที่พำนักของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนตระกูลโทคุงาวะในสมัยเอโดะ ภายในนั้นกว้างขวางและมีการแบ่งเป็นห้องต่างๆ มากมาย ทั้งหองทำงาน ห้องรับแขก ห้องเก็บส่วย หรือแม้กระทั่งห้องทรมาน นอกจากนี้ยังมีห้องในแบบที่เรียกว่าห้อง Garden View อันเป็นห้องที่ดีที่สุดภายในจวน เพราะสามารถมองเห็นวิวของสวนสไตล์ญี่ปุ่นได้ชัดเจน นอกจากนั้นยังมีส่วนจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งเอกสารเก่าๆ ด้วย
ซันมาชิซูจิ หรือ “ลิตเติ้ลเกียวโต” เป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นย่านเมืองเก่าสมัยเอโดะ ที่มีอายุกว่า 300 ปี แต่ยังคงอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ ทั้งวัดวาอาราม ศาลเจ้า บ้านแบบดั้งเดิมของชาวนาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ให้ได้เลือกซื้อของที่ระลึกพื้นเมืองมากมาย ณ บริเวณนี้
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
เมืองโตยามา หรือ โทยามา หนึ่งในหลายเมืองน่าสนใจของญี่ปุ่น เป็นจังหวัดที่ติดทะเลญี่ปุ่น มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาที่มียอดเขาสูงกว่า3,000เมตร จึงทำให้ที่นี่อุดมสมบรูณ์ไปด้วยอาหารทะเลนานาชนิด และเมืองนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัด National Athletic Meet2000 และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายด้านการจัดประชุมพร้อมที่พักที่ได้มาตรฐานสากลด้วย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย ด้วยความสวยงามของทัศนียภาพและความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม จึงไม่น่าแปลกใจว่าเป็นเมืองนี้เป็นเมืองหนึ่งในความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยว
เจแปนแอลป์ (Japan Alps) หรือเทือกเขาทาเทยาม่า อุทยานแห่งชาติที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ตั้งอยูใจกลางเกาะฮอนชู โดยครอบคลุมพื้นที่เมืองต่างๆ ได้แก่ จิฟุ โทยามะ นากาโน่ ส่วนทางใต้ยังครอบคลุมบางส่วนของยามานาชิ และชิสุโอกะ ที่มาของชื่อเจแปนแอลป์ เป็นเพราะลักษณะของเทือกเขาที่มีความคล้ายคลึงกับเทือกเขาแอลป์ของยุโรปนั่นเอง และสำหรับนักท่องเที่ยว กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพื้นที่แห่งนี้ก็คือการเดินป่า ปีนเขา ตั้งแคมป์ เล่นสกี อาบน้ำแร่ รวมทั้งการชมกำแพงหิมะในช่วงเมษายนถึงพฤษภาคมของทุกปี
เทือกเขาทาเทยามะหรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในนามของเจแปนแอลป์นั้น คือ 1 ใน 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของญี่ปุ่นในสมัยโบราณ อันประกอบด้วยภูเชสฟูจิยามะ ฮากุซังและทาเทยามะ ซึ่งถือเป็นหลังคาของญี่ปุ่น โดยมีจุดที่สูงที่สุดในบริเวณมุโรโดะอันมีความสูงถึง 2,450 เมตร รวมทั้งยังมีความสวยงามของทิวทัศน์จากพืชพันธุ์ต่างๆและทุ่งดอกไม้บนเขาที่สวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ นอกกจากนี้ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวสายคุโรเบะ อัลไพน์ที่พาดผ่านตอนเหนือของแจแปนเอลป์ จากโทยามะถึงนากาโน่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชูบุ ซังกากุ
คุโรเบะไดร่า ที่ราบสูงบนไหล่เขาที่ท่านสามารถชมทัศนียภาพของช่องเขาที่เป็นเหวลึก สร้างความตื่นตาตื่นใจยิ่งแก่นักท่องเที่ยวทุกคน นำท่านโดยสารกระเช้าข้ามเหวลึกซึ่งสลิงของกระเช้าจากต้นทางถึงปลายทาง ไม่มีเสาค้ำสลิงคั่นกลางเลยเป็นทางยาว 1,700 เมตร จึงได้ฉายาว่า "กระเช้าพาโนราม่า"
เขื่อนคุโรเบะ เป็นเขื่อนยักษ์ทรงโค้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีความสูง 168 เมตร และกว้าง 492 เมตร ตั้งอยู่บนเขาที่มีความสูงเหนือน้ำทะเล ซึ่งจุดที่น่าสนใจของเขื่อนแห่งนี้ก็คือ เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นบันไดจำนวน 220 ขั้นขึ้นไปก็จะถึงจุดชมวิวที่เป็นลานกว้าง ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของเขื่อนได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังจะได้ชมการปล่อยน้ำจากเขื่อนเป็นจำนวนมากกว่า 10 ตันในทุกๆ วินาที ซึ่งพลังอันมหาศาลของน้ำที่เองที่ก่อให้เกิดภาพของสายรุ้งที่พาดผ่านปากเขื่อนอยู่ตลอดปี
กิฟุ (Gifu) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งความงามที่หลากหลาย ด้วยตำแหน่งที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของญี่ปุ่น จึงกลายเป็นจุดบรรจบของวัฒนธรรมฟากตะวันออกและตะวันตกของญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยสภาพภูมิประเทศอันหลากหลาย มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และแหล่งน้ำที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ ประกอบกับมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเฉพาะตัว ที่สืบต่อกันมายาวนาน
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
เมืองอาราชิยาม่า (Arashiyama) เมืองเล็กๆ ทางฝั่งตะวันตกของเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เมืองนี้เป็นอีกจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีธรรมชาติอันสวยงามทั้งแม่น้ำ ภูเขา จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของชาติญี่ปุ่น นอกจากเมืองเกียวโตแล้วที่นี่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับที่สองซึ่งผู้มาเยือนเกียวโตจะต้องแวะมาเยือน
ป่าไผ่ซากาโนะตั้งอยู่ภายในวัดจิโซะอินหรือที่ได้รับการขนานนามว่าวัดไม้ไผ่ ซึ่งเป็นวัดเล็กๆ ริมป่าไผ่ในเมืองอาราชิยามา ที่สร้างขึ้นในปี 1367 โดยสองข้างทางเดินไปสู่ประตูวัด ทางเดินไปยังโบสถ์ และสวนด้านในนั้นเต็มไปด้วยต้นไผ่สูงเสียดฟ้าเรียงรายเป็นแถวเป็นแนวอย่างมีระเบียบและสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิอันเป็นช่วงที่ไผ่กำลังแตกยอดอ่อนสีเขียวสด แต่หากนักท่องเที่ยวคนไหนมาในช่วงที่ฟ้ากำลังมืด ก็จะพบกับความงามและความลึกลับไปอีกแบบด้วยแสงจากโคมไฟที่ลอดเข้ามายังบริเวณนี้
สะพานโทเงตสึ หรือ สะพานข้ามจันทร์ (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำคัตสึระเพื่อไปยังเกาะโอชิมา ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมืองอาราชิยามา ที่ใครๆ ก็ต่างชื่นชอบ ซึ่งสะพานนี้มีความยาว 155 เมตร กว้าง 11เมตร สร้างขึ้นในปี 1934 โดยใช้เสาและคานเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่ตัวสะพานนั้นเป็นไม้ และรถสามารถวิ่งผ่านได้ 2 เลน
เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ซึ่งในอดีตที่นี่ไม่ใช่วัด แต่เป็นบ้านพักตากอากาศของไซออนจิ คิซึเนะ ต่อมาในปี 1397 จึงได้ขายบ้านหลังนี้ให้กับโชกุนอาชิคางะ ซึ่งเป็นโชกุนคนเดียวกับในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง เพื่อใช้เป็นที่พำนัก จนกระทั่งท่านโชกุนเสียชีวิตจึงได้เปลี่ยนเป็นวัดเซนโดยผู้เป็นลูกชาย แต่วัดที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นแค่แบบจำลองจากของเก่าที่ถูกไฟไหม้เสียหาย โดยตัวอาคารมี 3 ชั้น ตัวเรือนเป็นสีทองจากทองคำเปลว มีรูปปั้นนกฟีนิกซ์บนยอด และมีลำธารโดยรอบตัวอาคาร
วัดคิโยมิซึ หรือ วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera Temple) ตั้งอยู่บนเนินเขาฮิงายามาทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ชื่อวัดตั้งตามชื่อของน้ำตกที่อยู่ในบริเวณวัดที่เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากเทือกเขา เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 1,500 ปี มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดในภูมิภาคนี้ ในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของโลก และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
ถนนสายกาน้ำชา (Gojo-Zaka Crossing) เป็นถนนที่เป็นทางขึ้นไปสู่วัดคิโยมิซึเดระที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดกิโมโน ตุ๊กตา ร่ม เครื่องรางต่างๆ ในอดีตถนนเส้นนี้เคยเต็มไปด้วยร้านขายถ้วยชาที่เป็นเครื่องปั้นดินเผาไปตลอดสองข้างทาง จนกลายมาเป็นชื่อถนนแห่งนี้นั่นเอง
สถานีรถไฟเกียวโต (Kyoto Station) ได้เป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้าโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็น อิชิตัน เดอะคิวบ์ หรือร้านค้าบริเวณในสถานี พบกับข้าวของเครื่องใช้นานาชนิดได้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง นาฬิกา แว่นตา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กล้องถ่ายรูป เกมส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ขนมต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งของที่ระลึกของเมืองเกียวโต
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ปราสาทโอซาก้า หรือ โอซาก้าโจ (Osaka Castle) คือสถานที่สำคัญและยังเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโอซาก้าที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นครั้งแรกในบริเวณที่เคยเป็นวัดอิชิยามะฮนกังจิ เมื่อปีค.ศ.1583 ปัจจุบันปราสาทโอซาก้ามีความสูง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น โดยบนหอคอยชั้น 8 สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษคือประตูขนาดใหญ่และป้อมปราการที่ทำมาจากก้อนหินใหญ่อันสูงชันเกือบ 30 เมตรนั่นเอง
ชินไซบาชิ หรือ Shinsaibashi-Suji ถนนสายช็อปปิ้งเส้นยาวอีกหนึ่งย่านการค้าชื่อดังของเมืองโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านรวงทั้งเก่าแก่และร้านแบรนด์เนมสมัยใหม่ ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแนะนำอีกแห่งสำหรับสายช็อป ชิม ชิล มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง อาหารทะเลขึ้นชื่อ ส่วนตรงใจกลางของถนนจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นั่นก็เพราะเป็นที่ตั้งของตึกสัญลักษณ์คนวิ่งชูมือ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของกูลิโกะนั่นเอง
ริงกุ พรีเมี่ยม เอ้าท์เลท คืออีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของโอซาก้า ตั้งอยู่ที่เมืองริงกุ ตรงข้ามกับท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โดยออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับเมืองท่าของสหรัฐอเมริกา และมีบรรยากาศแบบรีสอร์ท ซึ่งภายในแม้จะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และร้านค้าแบรนด์เนมหลากหลายอันมีชื่อเสียงจากต่างประเทศ