หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) เป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือสุดของเกาะคิวชู เป็นจุดเชื่อมต่อทั้งทางบกและทางน้ำ ระหว่างเกาะคิวชูและเกาะฮอนชู หรือเกาะใหญ่ของญี่ปุ่น ทำให้คิตะคิวชูได้พัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหรกรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นด้วย โดยสามารถชมตึกและอาคารเก่า ที่รักษาเอาไว้ได้แถวท่าเรือโมจิ ที่เป็นย่านเดินเล่น กินลม ชมวิวสบาย ๆ ได้สักครึ่งวัน นอกจากนี้ก็ยังมีปราสาทโคคุระให้เราได้ไปเที่ยวชมกัน
สวนคาวาชิ ฟูจิ (Kawachi Fuji Garden) สวนชื่อดังที่นักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและชาวญี่ปุ่นนิยมมาชมความสวยงามของ “ดอกวิสทีเรีย” (Wisteria) ซึ่งเป็นจุดเด่นของสวนนี้ ภายในสวนมีอุโมงค์ดอกวิสทีเรียกว่า 200 ต้น ที่ทิ้งกิ่งก้านพร้อมดอกสีม่วงเข้ม ม่วงอ่อน ขาว และชมพูไล่เฉดสีห้อยลงมาจากอุโมงค์ไม้ที่คลุมทางเดินยาวประมาณ 100 เมตร นอกจากนี้ยังมีจุดชมดอกไม้ที่เป็นซุ้มโค้งครึ่งวงกลม และซุ้มสี่เหลี่ยมขนาดกว้าง เมื่อมองจากระยะไกลจะเหมือนพู่ประดับเต็ม ลานรอบๆ จะมีม้านั่งให้นั่งชมดอกไม้อยู่หลายจุดทั่วสวน
ศาลเจ้าดาไซฟุเทมมังกู (Dazaifu Tenman-gu) สัญลักษณ์ของเมืองฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1448 ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นศาลเจ้าที่ให้พรในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน เนื่องจากศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับท่านสึกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ผู้เป็นนักปราชญ์ประจำราชสำนักในสมัยเฮอัน แต่ถูกใส่ร้ายจนถูกปลดออกจากตำแหน่งและเนรเทศให้มารับราชการอยู่ที่ดาไซฟุ
หมู่บ้านยูฟูอินเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนที่ราบกลางหุบเขาของจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู และอยู่ไม่ไกลจากเมืองฟุกุโอกะและเมืองเปปปุมากนัก ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางอีกแห่งหนึ่งบนเกาะคิวชูที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ เพราะนอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของจุดชมมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยม ณ ทะเลสาบกินริน และมีออนเซ็นชื่อดังแล้ว ที่นี่ยังมีความงามของวิวทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์แตกต่างกันอย่างเด่นชัดทั้ง 4 ฤดูกาล นอกจากนี้ยูฟูอินยังเป็นหมู่บ้านต้นแบบ OTOP ของญี่ปุ่นอีกด้วย
เมืองเบปปุเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดโออิตะ ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฟุกุโอกะ และเป็นเมืองที่มีบ่อน้ำร้อนออนเซ็นธรรมชาติมากที่สุดในญี่ปุ่น จนทำให้ได้รับฉายาว่าเป็นเมืองหลวงของออนเซ็น เนื่องจากตัวเมืองนั้นอยู่ติดกับภูเขาไฟอะโสะ จึงทำให้มีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติกระจายอยู่ทั่วเมือง จนทำให้หากใครขับรถผ่านเมืองแห่งนี้ หรือหากมองมาจากมุมสูงก็จะเห็นหมอกควันพวยพุ่งอยู่เหนือเมือง ดังนั้นกิจกรรมหลักของเมืองแห่งนี้ที่ใครๆ หากมาแล้วต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือการแช่ออนเซ็นนั่นเอง
การอบทรายร้อนถือเป็นออนเซ็นอีกอย่างหนึ่งซึ่งชาวญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณเชื่อว่า ในทรายร้อนนั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ทำให้ผิวพรรณสดใส ช่วยรักษาโรคผิวหนัง โรคไขข้ออักเสบ รวมทั้งยังทำให้เลือดลมหมุนเวียนดี แต่กระนั้นก็มีข้อห้ามสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ปอด ความดันโลหิตสูง และสตรีมีครรภ์ โดยการอบทรายร้อนออนเซ็นนั้นอยู่ที่ทาเคะงาวาระออนเซ็น เมืองเปปปุที่เปิดมาตั้งแต่สมัยเมจิ โดยก่อนที่จะลงไปอบจะต้องเปลี่ยนชุดเป็นยูกาตะเสียก่อน แล้วลงไปฝังตัวอยู่ใต้ทรายร้อนประมาณ 10-15 นาที จากนั้นจึงค่อยแช่ตัวในบ่อน้ำร้อน
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
บ่อน้ำพุร้อนสีเลือด (Jigoku Meguri Beppu) หรือ นรกบ่อเลือด เป็นบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ น้ำในบ่อมีสีแดงคล้ายเลือด เนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมาก เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญและขึ้นชื่อของเมืองเบบปุ โดยบ่อนรกจิโกกุ มีอยู่ด้วยกันหลักๆ 8 บ่อ ซึ่งแต่ละบ่อล้วนมีเอกลักษณ์ความพิเศษแตกต่างกันไป
เมืองคุมาโมโตะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และยังเป็นเมืองหลวงของจังหวัดคุมาโมโตะบนเกาะคิวชู โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ และมีภูมิประเทศส่วนใหญ่ 3 ใน 4 ของพื้นที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขา ส่วนทิศตะวันตกนั้นเป็นทางออกทางทะเลซึ่งเป็นแนวชายฝั่งอันมีหมู่เกาะอะมิคุสะที่เป็นอุทยานแห่งชาติตั้งอยู่ นอกจากนี้รอบๆ ตัวเมืองส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ทางการเกษตร ฟาร์มปศุสัตว์ และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานฮอนด้าอีกด้วย
ปราสาทคูมาโมโตะ (Kumamoto Castle) เป็นปราสาทสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในแขวงชูโอ เมืองคูมาโมโตะ ในจังหวัดคูมาโมโตะ เป็นปราสาทมีใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ
โทสุเอ้าท์เลท เอ้าท์เลทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเขตคิวชู ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายชนิด จากทั่วโลก เช่น COACH, PRADA, ARMANI, DUNHILL, LEGO, GAP, NIKE, ADIDAS, PUMA, LEVI’S และร้านค้าแฟชั่นนำอีกมากมายของคนทุกวัย
ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine) เป็นศาลเจ้านิกายชินโต ตั้งอยู่ที่เมืองซากะ สร้างขึ้นในปี 1688 ด้านบนของตัวศาลเจ้า ก็เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยามที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง และช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง สวนหน้าศาลเจ้าก็ยังมีสะพานสีแดงคู่กับแม่น้ำสายเล็กๆ เป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามเลยทีเดียว ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ที่ประชาชนต่างนิยมไปสักการะขอพรเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยว ความสำเร็จด้านธุรกิจ และความปลอดภัย
หมู่บ้านฮอนแลนด์ เฮ้าท์เท่นบอช เป็นธีมปาร์คที่สร้างขึ้นในจังหวัดนางาซากิ ซึ่งมีอาณาบริเวณติดกับชายทะเล โดยภายในหมู่บ้านนั้นเต็มไปด้วยอาคารซึ่งก่อสร้างตามสไตล์ดัทช์โบราณแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม หมู่บ้าน โรงละคร หอนาฬิกา พิพิธภัณฑ์ต่างๆ และร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้นภายในบริเวณยังประกอบไปด้วยคลอง คูน้ำ กังหันลมที่เลียนแบบมาจากประเทศฮอลแลนด์ได้อย่างเหมือนจริง สวนสนุกเล็กๆ และสวนดอกไม้ตามฤดูกาล โดยมีไฮไลท์คือดอกทิวลิปหลากสี
จังหวัดฟุกุโอกะตั้งอยู่บนเกาะคิวชู โดยมีฐานะเป็นเมืองท่าสำคัญในภูมิภาคนี้ นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่มีการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ทำให้ฟุกุโอกะได้ชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และแฟชั่น รวมถึงยังถูกเรียกว่าเป็นประตูสู่เอเชียอันเนื่องมาจากมีชายฝั่งทะเลตั้งอยู่ทางภูมิภาคเอเชีย และมีสนามบินนานาชาติที่มีเที่ยวบินจากชาติในเอเชียบินขึ้นลงอยู่วันละหลายเที่ยวบินนั่นเอง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553