หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
เมืองอาราชิยาม่า (Arashiyama) เมืองเล็กๆ ทางฝั่งตะวันตกของเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เมืองนี้เป็นอีกจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีธรรมชาติอันสวยงามทั้งแม่น้ำ ภูเขา จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของชาติญี่ปุ่น นอกจากเมืองเกียวโตแล้วที่นี่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับที่สองซึ่งผู้มาเยือนเกียวโตจะต้องแวะมาเยือน
ป่าไผ่ ไผ่ที่ขึ้นอยู่สองข้างทางเสมือนเป็นอุโมงค์ให้เดินผ่าน ซึ่งถูกปลูกขึ้นตั้งแต่สมัยเฮอันหรือกว่าพันปีมาแล้ว เพื่อใช้ในการประดับสวนและชื่นชมความสวยงามและใช้ในการบำบัดจิตใจมาแต่ครั้งโบราณ จนกระทั่งกาลเวลาผ่านไป ไผ่เหล่านี้ก็ยังได้รับการดูแลอย่างดี เมื่อเข้าสู่ป่าไผ่แล้ว จะได้สัมผัสถึงสายลมจากธรรมชาติที่กระทบกับใบไผ่ ความเขียวขจีและความสดชื่นตลอดเส้นทาง แม้ว่าจะเป็นเพียงเส้นทางเล็กๆ ระยะทางไม่กี่ร้อยเมตรที่เชื่อมต่อระหว่างศาลเจ้าโนมิยะหรือฝั่งทิศเหนือของวัดเทนริวจิจนถึงโอโคจิซังโซ
สะพานโทเงตสึ หรือ สะพานข้ามจันทร์ (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำคัตสึระเพื่อไปยังเกาะโอชิมา ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมืองอาราชิยามา ที่ใครๆ ก็ต่างชื่นชอบ ซึ่งสะพานนี้มีความยาว 155 เมตร กว้าง 11เมตร สร้างขึ้นในปี 1934 โดยใช้เสาและคานเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่ตัวสะพานนั้นเป็นไม้ และรถสามารถวิ่งผ่านได้ 2 เลน
อิออนมอลล์ เป็นศูนย์ค้าปลีกและมีสินค้าหลากหลายชนิดจำหน่ายในราคาที่ไม่แพง ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยภายในห้างอิออนนั้นประกอบไปด้วยส่วนของดีพาร์ทเมนท์สโตร์ซึ่งก็คือห้างจัสโก้ และส่วนที่เป็นพลาซ่าหรือร้านค้าย่อย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็น ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดที่สะดวกและราคาไม่แพงมากนัก
นารา เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคคันไซ โดยมีเมืองหลวงของจังหวัดอันมีชื่อเดียวกัน ในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 1,300 ปีก่อน แต่ก็เป็นในระยะเวลาสั้นๆ เพราะก่อนที่นาราจะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวงนั้น ญี่ปุ่นไม่ได้มีเมืองหลวงอย่างเป็นหลักแหล่งแต่จะย้ายเมืองหลวงทุกครั้งเมื่อองค์จักรพรรดิสิ้นพระชนม์ตามความเชื่อในลัทธิชินโต จนกระทั่งเมื่อรับเอาพุทธศาสนาเข้ามาเป็นศาสนาประจำชาติ จึงได้สถาปนาเมืองหลวงแห่งแรกขึ้นที่นารา จึงทำให้ที่นี่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย
วัดโทไดจิ เป็นวัดพุทธที่ตั้งอยู่ในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น ภายในมีหอไดบุทสึซึ่งเป็นอาคารไม้ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุสึขนาดใหญ่ โดยบันทึกในอดีตได้ระบุว่า มีคนมาช่วยสร้างพระพุทธรูปและหอที่ประดิษฐานมากกว่า 2,600,000 คน ณ เมืองชิงะระกิ แต่หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้และแผ่นดินไหวจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ก็ได้ย้ายสถานที่สร้างมายังเมืองนาราในปี พ.ศ. 1288 นอกจากนี้ วัดแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางของโรงเรียนศาสนาในสายเคงอน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
ชินไซบาชิ หรือ Shinsaibashi-Suji ถนนสายช็อปปิ้งเส้นยาวอีกหนึ่งย่านการค้าชื่อดังของเมืองโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านรวงทั้งเก่าแก่และร้านแบรนด์เนมสมัยใหม่ ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแนะนำอีกแห่งสำหรับสายช็อป ชิม ชิล มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง อาหารทะเลขึ้นชื่อ ส่วนตรงใจกลางของถนนจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นั่นก็เพราะเป็นที่ตั้งของตึกสัญลักษณ์คนวิ่งชูมือ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของกูลิโกะนั่นเอง
ปราสาทโอซาก้า หรือ โอซาก้าโจ (Osaka Castle) คือสถานที่สำคัญและยังเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโอซาก้าที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นครั้งแรกในบริเวณที่เคยเป็นวัดอิชิยามะฮนกังจิ เมื่อปีค.ศ.1583 ปัจจุบันปราสาทโอซาก้ามีความสูง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น โดยบนหอคอยชั้น 8 สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษคือประตูขนาดใหญ่และป้อมปราการที่ทำมาจากก้อนหินใหญ่อันสูงชันเกือบ 30 เมตรนั่นเอง
เมืองโอะบะระ (Obara) เป็นเขตที่อยู่ในเมืองโตโยต้า จังหวัดไอจิ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนาโกย่า อีกทั้งยังเป็นเขตที่มีซากุระ 4 ฤดู (Shikizakura) ซึ่งเป็นซากุระที่แตกต่างกับพันธุ์อื่น เนื่องจากซากุระพันธุ์นี้จะบาน 2 ครั้งต่อปี คือ จะบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิและช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น จะมีความพิเศษตรงที่ซากุระจะบานพร้อมกับใบไม้แดง ภูเขาซากุระ (Senmi Shikizakura no Sato) เป็นภูเขาที่มีซากุระบานปกคลุมทั้งลูก สลับกับใบไม้แดงสีสดใสละลานตา
หุบเขาโครังเค (korankei) สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีอันดับต้นๆ ของจังหวัดไอจิ ด้วยความหลากหลายของสีสันจากต้นเมเปิ้ล กว่า 4,000 ต้นที่ อยู่รายรอบหุบเขาแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ชมความงดงามของธรรมชาติกับเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี หรือใบไม้ร่วง ต้นไม้ต่างๆ ที่กำลังผลัดใบเปลี่ยนสีสันสดใส ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ใบแปะก๊วยที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดงเหลืองเขียว
โกเทมบะ พรีเมี่ยม เอ้าท์เลท เป็นหนึ่งในเอ้าท์เลทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เพราะนอกจากที่นี่จะมีสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกราคาถูกกว่า 200 ร้านค้าแล้ว รอบๆ บริเวณยังโรแมนติกและสวยงามเพราะตั้งอยู่บนเชิงภูเขาไฟฟูจิ ระหว่างทางเชื่อมไปสู่อุทยานแห่งชาติฮาโกเนะ โดยที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนและมีสะพานเชื่อมถึงกัน นั่นก็คือ West Zone ที่อยู่ด้านหน้าเอ้าท์เลท และ East Zone ที่อยู่ติดติดกับอุทยานฮาโกเนะ และที่นี่ยังมีสวนกุหลาบ และชิงช้าสวรรค์อีกด้วย
ภูเขาฟูจิหรือฟุจิซัง คือภูเขาที่สูงที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิสึโอกะและจังหวัดยามานาชิ ในอดีตฟูจิเคยเป็นฐานทัพของเหล่าซามูไรมาก่อน ในปัจจุบันฟูจิถูกรับรองให้เป็นอีกหนึ่งมรดกโลก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติญี่ เนื่องจากมีทั้งทะเลสาบล้อมรอบและมีอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม ประกอบกับเสน่ห์ของฟูจิเองที่มีผลให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกใฝ่ฝันอยากไปสัมผัสสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นแห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง
อุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ ครอบคลุมบริเวณจังหวัดยามานาชิ ชิซูโอกะ คานางาวะ และบริเวณตะวันตกของโตเกียว เป็นอุทยานแห่งชาติชื่อดังของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักกันดี อุทยานนี้ครอบคลุมพื้นที่ของภูเขาไฟฟูจิ Hakone และคาบสมุทร Izu เรียกได้ว่าเป็นอุทยานที่คึกคักที่สุด เพราะมีกิจกรรมหลากหลายให้นักเดินทางได้ทำ เช่น ปีนภูเขาฟูจิ แช่ออนเซ็น เดินเล่นชมความงามของทะเลสาบ ภูเขาไฟฟูจิ และอื่นๆ อีกมากมาย แบบสายธรรมชาติพลาดไม่ได้เลย
ทะเลสาบอะชิโนะโกะ หรือ ทะเลสาบฮาโกเน่ เป็นทะเลสาบอันเงียบสงบอันมีภูมิทัศน์สวยงาม เพราะรายล้อมไปด้วยภูเขาและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกเนะ มีลักษณะเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ทอดตัวไปในแนวตะวันตกเฉียงใต้ของแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดฮาโกเนะ ซึ่งทะเสาบแห่งนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักจะมาล่องเรือที่มีลักษณะคล้ายเรือโจรสลัดเพื่อชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่งดงามในระยะไกล ซึ่งจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือจุดที่อยู่บริเวณใกล้ๆ กับประตูศาลเจ้าฮาโกเนะสีแดงสดที่จมน้ำอยู่
หุบเขาโอวาคุดานิ หรือ หุบเขานรก เป็นหุบเขาที่มีระดับความสูง 1,040 เมตร ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 พันปีก่อน และในปัจจุบันก็ยังเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่สงบ โดยด้านบนของหุบเขาจะมีควันสีขาวพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นด้านบนยังมีบ่อน้ำร้อนแร่กำมะถันที่มีความร้อนถึง 80 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถต้มไข่ให้สุกได้ และไข่ที่ต้มนั้นเมื่อสุกแล้วแกะเปลือกออกจะกลายเป็นไข่สีดำ ที่เชื่อกันว่าหากใครได้กินไข่ดำ 1 ฟอง จะมีอายุยืนขึ้นไปอีก 7 ปี
มหานครโตเกียว หรือ "โตเกียว" เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคคันโต มีระบบการปกครองพิเศษที่รวมการปกครองแบบจังหวัดและเมืองไว้ด้วยกัน โตเกียวได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และที่นี่ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญๆ ที่ได้รับการโหวตให้ติดอันดับโลกในด้านการท่องเที่ยวอยู่เนืองๆ หากใครคิดจะมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ได้มาเยือนโตเกียวซักครั้งแล้วล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกค้างคาใจ เหมือนมาไม่ถึงประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ชินจูกุ หรือ ย่านชินจูกุ แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจไม่เชื่อว่าในอดีตย่านนี้เป็นเพียงที่ "ทิ้งขยะของเมือง" แต่ปัจจุบันชินจูกุได้แปรสภาพกลายเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ อิเซตัน (Isetan) ทาคาชิมายะ (Takashimaya) ดองกี้ (Don Quijote) โอดะคิว (Odakyu) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวไปทำความรู้จัก
ท่าอากาศยานฮาเนดะ หรือจริงๆ ก็คือ ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (Haneda Airport | Tokyo International Airport) ตั้งอยู่ที่แขวงโอตะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองโตเกียวไปทางทิศใต้เพียงประมาณ 15 กิโลเมตร ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที