หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในอ่าวโอซากา นอกชายฝั่งเมืองเซ็นนังและเมืองอิซุมิซะโนะ จังหวัดโอซะกะ ญี่ปุ่น มักถูกเรียกในภาษาอังกฤษว่า Osaka Airport หรือท่าอากาศยานโอซากา ออกแบบโดยสถาปนิก Renzo Piano เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537
ปราสาทโอซาก้า หรือ โอซาก้าโจ (Osaka Castle) คือสถานที่สำคัญและยังเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโอซาก้าที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นครั้งแรกในบริเวณที่เคยเป็นวัดอิชิยามะฮนกังจิ เมื่อปีค.ศ.1583 ปัจจุบันปราสาทโอซาก้ามีความสูง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น โดยบนหอคอยชั้น 8 สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษคือประตูขนาดใหญ่และป้อมปราการที่ทำมาจากก้อนหินใหญ่อันสูงชันเกือบ 30 เมตรนั่นเอง
ชินไซบาชิ หรือ Shinsaibashi-Suji ถนนสายช็อปปิ้งเส้นยาวอีกหนึ่งย่านการค้าชื่อดังของเมืองโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านรวงทั้งเก่าแก่และร้านแบรนด์เนมสมัยใหม่ ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแนะนำอีกแห่งสำหรับสายช็อป ชิม ชิล มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง อาหารทะเลขึ้นชื่อ ส่วนตรงใจกลางของถนนจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นั่นก็เพราะเป็นที่ตั้งของตึกสัญลักษณ์คนวิ่งชูมือ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของกูลิโกะนั่นเอง
นารา เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคคันไซ โดยมีเมืองหลวงของจังหวัดอันมีชื่อเดียวกัน ในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 1,300 ปีก่อน แต่ก็เป็นในระยะเวลาสั้นๆ เพราะก่อนที่นาราจะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวงนั้น ญี่ปุ่นไม่ได้มีเมืองหลวงอย่างเป็นหลักแหล่งแต่จะย้ายเมืองหลวงทุกครั้งเมื่อองค์จักรพรรดิสิ้นพระชนม์ตามความเชื่อในลัทธิชินโต จนกระทั่งเมื่อรับเอาพุทธศาสนาเข้ามาเป็นศาสนาประจำชาติ จึงได้สถาปนาเมืองหลวงแห่งแรกขึ้นที่นารา จึงทำให้ที่นี่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย
วัดโทไดจิ เป็นวัดพุทธที่ตั้งอยู่ในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น ภายในมีหอไดบุทสึซึ่งเป็นอาคารไม้ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุสึขนาดใหญ่ โดยบันทึกในอดีตได้ระบุว่า มีคนมาช่วยสร้างพระพุทธรูปและหอที่ประดิษฐานมากกว่า 2,600,000 คน ณ เมืองชิงะระกิ แต่หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้และแผ่นดินไหวจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ก็ได้ย้ายสถานที่สร้างมายังเมืองนาราในปี พ.ศ. 1288 นอกจากนี้ วัดแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางของโรงเรียนศาสนาในสายเคงอน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
สวนนะบะนะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) เป็นสถานที่จัดแสดงไฟในฤดูหนาวที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่เมืองคุวะนะ จังหวัดมิเอะ สวนนะบะนะ โนะ ซาโตะ มีการจัดแสดงไฟที่สวยงามอลังการและมีเอกลักษณ์ จุดเด่นของที่นี่คือการนำแสงไฟมาจัดแสดงเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงไฟ 4 ฤดูของประเทศญี่ปุ่น เช่น แสงไฟสีขาวโพลนของหิมะในฤดูหนาว แสงไฟสีชมพูอบอุ่นของต้นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ แสงไฟสีเขียวขจีของทุ่งหญ้าในฤดูร้อน ปิดท้ายด้วยแสงไฟสีแดงสดของต้นเมเปิ้ลในฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้น
ตลาดเช้าเมืองทาคายามะมีอยู่ด้วยกัน 2 แห่งคือ ตลาดเช้าจินยะมาเอะซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าอาคารทาคายะ จินยะ อันเป็นอดีตจวนผู้ว่าแห่งเมืองทาคายา และตลาดเช้ามิยางาวะที่ตั้งอยู่เลียบแม่น้ำมิยางาวะ โดยตลาดเหล่านี้เริ่มก่อตั้งตั้งแต่สมัยเอโดะเพื่อใช้เป็นตลาดซื้อขายข้าว ต้นหม่อน และดอกไม้นานาชนิด จนกระทั่งกลางสมัยเมจิ จึงได้เปลี่ยนเป็นการขายสินค้าทางการเกษตรที่เพาะปลูกภายในเมือง สำหรับตลาดเช้าทั้ง 2 แห่งนี้เปิดบริการทุกวัน ในช่วงเวลา 06.00-12.00 น. โดยมีร้านค้าตั้งเรียงรายมากกว่า 40 ร้าน
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิรากาวะโกและโกกายามะ เป็นหมู่บ้านชาวนาซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาในเขตกิฟุและโทยามะทางตอนกลางของเกาะฮอนชู ซึ่งสิ่งที่แปลกตาสำหรับหมู่บ้านแห่งนี้คือบ้านหลังคาทรงสูงที่มีความชันถึง 60 องศา อันเป็นสถาปัตยกรรมที่เรียกว่ากัสโช โดยมีความหมายว่าพนมมือ ทั้งยังเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200-300 ปี กระจายไปตามที่ราบแคบๆ ขนานไปกับแม่น้ำโชกาวะ ในช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมหลังคาบ้านเต็มไปหมด ดูคล้ายกับหมู่บ้านในเทพนิยาย นอกจากนี้ยังถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1995 อีกด้วย
อิออนมอลล์ เป็นศูนย์ค้าปลีกและมีสินค้าหลากหลายชนิดจำหน่ายในราคาที่ไม่แพง ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยภายในห้างอิออนนั้นประกอบไปด้วยส่วนของดีพาร์ทเมนท์สโตร์ซึ่งก็คือห้างจัสโก้ และส่วนที่เป็นพลาซ่าหรือร้านค้าย่อย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็น ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดที่สะดวกและราคาไม่แพงมากนัก
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิรากาวะโกและโกกายามะ เป็นหมู่บ้านชาวนาซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาในเขตกิฟุและโทยามะทางตอนกลางของเกาะฮอนชู ซึ่งสิ่งที่แปลกตาสำหรับหมู่บ้านแห่งนี้คือบ้านหลังคาทรงสูงที่มีความชันถึง 60 องศา อันเป็นสถาปัตยกรรมที่เรียกว่ากัสโช โดยมีความหมายว่าพนมมือ ทั้งยังเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200-300 ปี กระจายไปตามที่ราบแคบๆ ขนานไปกับแม่น้ำโชกาวะ ในช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมหลังคาบ้านเต็มไปหมด ดูคล้ายกับหมู่บ้านในเทพนิยาย นอกจากนี้ยังถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1995 อีกด้วย
เขตเมืองเก่าซันมาชิซูจิ หรือ Little Kyoto ลิตเติ้ลเกียวโต เป็นย่านเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนสมัยเอโดะกว่า 300 ปี เอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีคูน้ำล้อมรอบและมีถนน 3 สายเล็กๆ ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันผู้คนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ต่างดัดแปลงบ้านเรือนของตนให้กลายเป็นย่านช้อปปิ้งที่สำคัญของเมือง ซึ่งมีร้านขายของที่ระลึกพื้นเมืองมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถ้วยชาม เหล้าสาเก เกี๊ยะ กระดาษญี่ปุ่น หรือตุ๊กตาซารุโบะโบะ เป็นต้น แต่หากเป็นในช่วงหน้าหนาวร้านค้าเหล่านี้จะปิดร้านไวกว่าปกติ
เจแปนแอลป์ (Japan Alps) หรือเทือกเขาทาเทยาม่า อุทยานแห่งชาติที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ตั้งอยูใจกลางเกาะฮอนชู โดยครอบคลุมพื้นที่เมืองต่างๆ ได้แก่ จิฟุ โทยามะ นากาโน่ ส่วนทางใต้ยังครอบคลุมบางส่วนของยามานาชิ และชิสุโอกะ ที่มาของชื่อเจแปนแอลป์ เป็นเพราะลักษณะของเทือกเขาที่มีความคล้ายคลึงกับเทือกเขาแอลป์ของยุโรปนั่นเอง และสำหรับนักท่องเที่ยว กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพื้นที่แห่งนี้ก็คือการเดินป่า ปีนเขา ตั้งแคมป์ เล่นสกี อาบน้ำแร่ รวมทั้งการชมกำแพงหิมะในช่วงเมษายนถึงพฤษภาคมของทุกปี
สถานีโอกิซาวะคือสถานีสุดท้ายของเส้นทางทาเคยามะ คุโรเบะ อัลไพน์อันโด่งดัง ซึ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1971 มีระยะทางตั้งแต่สถานีทาเทยามะ จนสิ้นสุดที่สถานีโอกิซาวะ ที่เป็นกำแพงน้ำแข็งและหิมะอัดแน่นกว่า 20 ฟุต มีความยาวถึง 90 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อเมืองโทยามะ กับเมืองโอมาชิแห่งจังหวัดนากาโนะไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นเส้นทางที่ปิดกั้นไม่ให้นำพาหนะส่วนตัวผ่านเข้าไป โดยนักท่องเที่ยวจะต้องใช้บริการรถสาธารณะเท่านั้น ทั้งรถไฟ รสบัส เคเบิลคาร์ เป็นต้น
เขื่อนคุโรเบะ เป็นเขื่อนยักษ์ทรงโค้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีความสูง 168 เมตร และกว้าง 492 เมตร ตั้งอยู่บนเขาที่มีความสูงเหนือน้ำทะเล ซึ่งจุดที่น่าสนใจของเขื่อนแห่งนี้ก็คือ เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นบันไดจำนวน 220 ขั้นขึ้นไปก็จะถึงจุดชมวิวที่เป็นลานกว้าง ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของเขื่อนได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังจะได้ชมการปล่อยน้ำจากเขื่อนเป็นจำนวนมากกว่า 10 ตันในทุกๆ วินาที ซึ่งพลังอันมหาศาลของน้ำที่เองที่ก่อให้เกิดภาพของสายรุ้งที่พาดผ่านปากเขื่อนอยู่ตลอดปี
จุดชมวิวไดคันโบะตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,300 เมตรบนหน้าผาสูงชัน และเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดบเส้นทางอัลไพน์ โดยอยู่ระหว่างมุโรโดะและสถานีคุโรเบะไดระ ในอดีตบริเวณนี้มีชื่อว่าโทมิกะฮานะแต่ถูกเปลี่ยนชื่อในปี 1922 โดยนายกเทศมนตรีโคจิ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเจแปนแอลป์ในแบบพาโนรามาได้ในบริเวณนี้ อย่างเช่นทะเลสาบที่เกิดจากเขื่อนคุโรเบะ และภูเขาคาชิมายะริกะทางเคะ 1 ใน 100 ของภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารอีกด้วย
มุโรโดะ คือบริเวณที่สูงที่สุดของเจแปนแอลป์ คือมีความสูงเกือบ 2,500 เมตร ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สมบูรณ์แบบด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามของบึงมิกุริกะ อันถือว่าเป็นตัวแทนของที่นี่ในบริเวณปล่องภูเขาไฟทาเทยามะ ซึ่งหากมีโอกาสมาเยือนในช่วงเดือนมิถุนายน ก็จะมีโอกาสได้เห็นผิวน้ำสีน้ำเงินเข้มหรือสีเขียวมรกตที่สะท้อนภาพภูเขาทาเทยาที่โดดเด่น รวมทั้งในบริเวณมุโรโดะยังเต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติมากมายหลายบ่อ ที่นักท่องเที่ยวสามารถลงแช่ได้ นอกจากนี้ยังมีตาน้ำบริสุทธิ์ที่สามารถดื่มได้ด้วย
เทือกเขาทาเทยามะหรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในนามของเจแปนแอลป์นั้น คือ 1 ใน 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของญี่ปุ่นในสมัยโบราณ อันประกอบด้วยภูเชสฟูจิยามะ ฮากุซังและทาเทยามะ ซึ่งถือเป็นหลังคาของญี่ปุ่น โดยมีจุดที่สูงที่สุดในบริเวณมุโรโดะอันมีความสูงถึง 2,450 เมตร รวมทั้งยังมีความสวยงามของทิวทัศน์จากพืชพันธุ์ต่างๆและทุ่งดอกไม้บนเขาที่สวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ นอกกจากนี้ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวสายคุโรเบะ อัลไพน์ที่พาดผ่านตอนเหนือของแจแปนเอลป์ จากโทยามะถึงนากาโน่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชูบุ ซังกากุ
ถนนนาคามิจิ (Nakamachi Street) ถนนช้อปปิ้งสายเก่าของเมืองที่ท่านสามารถเลือกซื้อหาสินค้าถูกใจในราคาพิเศษได้อย่างจุใจ ตามอัธยาศัยและสัมผัสบรรยากาศความคลาสสิคได้ที่นี่
ปราสาทมัตสึโมโต้ ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึโมโต้ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1593 โดยขุนนางในตระกูลอิชิกาวะ เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยและวางแผนการรบ โดยมีกำแพงสูงและคูน้ำล้อมรอบปราสาท ต่อมาจึงตกเป็นของโทะกุงาวะ อิเอยะสึ และถูกเรียกว่าอีกอย่างว่าปราสาทฟุกาชิหรือปราสาทอีกา เนื่องจากผนังของปราสาทที่มีสีดำเหมือนอีกานั่นเอง อีกทั้งอาคารสามชั้นที่ขนาบตัวปราสาททั้งสองข้างนั้นก็มีลักษณะคล้ายกับปีกนกด้วย นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์เอาไว้ได้ จนถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติสำคัญของชาติ
ไร่สตรอว์เบอร์รีในญี่ปุ่นเป็นไร่ผลไม้ตามฤดูกาลที่มีรสชาติหวาน สีแดงสด และมีลูกใหญ่ โดยส่วนใหญ่จะปลูกอยู่ในโรงเรือนพลาสติก สำหรับการชมไร่สตรอว์เบอร์รีนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเด็ดสตรอว์เบอร์รีสดๆ จากต้นรับประทานได้เองตามสบาย ในเวลา 30 นาที ต่อคนละประมาณ 1,000-1,500 เยน โดยที่ญี่ปุ่น ช่วงเวลาในการเก็บเกี่ยวสตรอว์เบอร์รีนั้นค่อนข้างยาวนานเกือบตลอดทั้งปี ตามภูมิอากาศของแต่ละภูมิภาค ซึ่งแหล่งที่เพาะปลูกมากที่สุดคืที่โทะจิงิ ฟุกุโอะกะ และซะงะ
บ่อน้ำโอชิโนะฮัคไค ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อเดียวกับบ่อน้ำ คือ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai) ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูชิโก ะและทะเลสาบยามานะกาโกะ บ่อน้ำแห่งนี้เป็นบ่อน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนยอดของภูเขาไฟฟูจิ และค่อย ๆ ซึมผ่านชั้นของลาวาที่เป็นรูพรุนลงมา อีกทั้งชาวญี่ปุ่นยังมีความเชื่อว่า นี่คือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพรแตกต่างกันไปในแต่ละบ่อ อย่างเช่น สุขภาพ ความรัก เป็นต้น และหากวันไหนที่อากาศดี ๆ ก็จะสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของฟูจิจากบ่อน้ำที่นี่ได้ด้วย
บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ทุ่งพิงค์มอส pink moss ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นก็คือ ทุ่งพิงค์มอสทาคิโนอูเอะ ซึ่งมีการปลูกดอกพิงค์มอสนี้ขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1957 และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ทุ่งแห่งนี้ยังรายล้อมไปด้วยภูเขา น้ำตก และหุบเขา ซึ่งทำให้ที่นี่มีธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างมาก
โกเทมบะ พรีเมี่ยม เอ้าท์เลท เป็นหนึ่งในเอ้าท์เลทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เพราะนอกจากที่นี่จะมีสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกราคาถูกกว่า 200 ร้านค้าแล้ว รอบๆ บริเวณยังโรแมนติกและสวยงามเพราะตั้งอยู่บนเชิงภูเขาไฟฟูจิ ระหว่างทางเชื่อมไปสู่อุทยานแห่งชาติฮาโกเนะ โดยที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนและมีสะพานเชื่อมถึงกัน นั่นก็คือ West Zone ที่อยู่ด้านหน้าเอ้าท์เลท และ East Zone ที่อยู่ติดติดกับอุทยานฮาโกเนะ และที่นี่ยังมีสวนกุหลาบ และชิงช้าสวรรค์อีกด้วย
ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Market) เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว เราจะได้สัมผัสบรรยากาศการประมูลอาหารสด ๆ และ ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ มากมาย เพราะมีข้อได้เปรียบตรงที่อยู่ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบนี่เอง แนะนำเลยนะว่าควรจะแวะชิมด้วย เพราะของที่นี่สดมาก ราคาก็อาจจะสูงบ้าง แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้มาล่ะก็คุ้มสุด ๆ ไปเลยล่ะ
ชินจูกุ หรือ ย่านชินจูกุ แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจไม่เชื่อว่าในอดีตย่านนี้เป็นเพียงที่ "ทิ้งขยะของเมือง" แต่ปัจจุบันชินจูกุได้แปรสภาพกลายเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ อิเซตัน (Isetan) ทาคาชิมายะ (Takashimaya) ดองกี้ (Don Quijote) โอดะคิว (Odakyu) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวไปทำความรู้จัก
ท่าอากาศยานฮาเนดะ หรือจริงๆ ก็คือ ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (Haneda Airport | Tokyo International Airport) ตั้งอยู่ที่แขวงโอตะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองโตเกียวไปทางทิศใต้เพียงประมาณ 15 กิโลเมตร ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที