หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานฟุกุโอะกะแต่เดิมเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศอิตะซุเกะ ซึ่งอยู่ในเขตฮะกะตะ และตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฮะกะตะไปทางทิศตะวันออกประมาณ 3 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองสะดวกสบายด้วยรถไฟใต้ดินซึ่งใช้เวลาเพียง 10 นาที โดยที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่รองรับทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ แต่จะปิดการขึ้นลงของเที่ยวบินในเวลา 22.00 น. ของทุกวัน เพื่อลดเสียงรบกวนต่อผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง และจะเปิดให้เที่ยวบินขึ้นลงอีกครั้งในเวลา 7.00 น.
ศาลเจ้าดาไซฟุเทมมังกู (Dazaifu Tenman-gu) สัญลักษณ์ของเมืองฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1448 ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นศาลเจ้าที่ให้พรในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน เนื่องจากศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับท่านสึกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ผู้เป็นนักปราชญ์ประจำราชสำนักในสมัยเฮอัน แต่ถูกใส่ร้ายจนถูกปลดออกจากตำแหน่งและเนรเทศให้มารับราชการอยู่ที่ดาไซฟุ
ซากะเป็นจังหวัดที่พรั่งพร้อมไปด้วยธรรมชาติ มีทิวทัศน์ที่สวยงามน่าดึงดูดใจ มากมายความเป็นธรรมชาติของซากะที่หาไม่ได้ในเมืองใหญ่ เป็นแหล่งกำเนิดของผลผลิตทางการเกษตรมากมาย ด้วยเหตุนี้ การเพลิดเพลินในจังหวัดซากะจึงมีหลายวิธี เช่น ธรรมชาติ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เทศกาลต่างๆ และในจังหวัดซากะ ยังสมบูรณ์ไปด้วยอาหารจากทั้งทางทะเลและภูเขาอีกด้วย
ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine) เป็นศาลเจ้านิกายชินโต ตั้งอยู่ที่เมืองซากะ สร้างขึ้นในปี 1688 ด้านบนของตัวศาลเจ้า ก็เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยามที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง และช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง สวนหน้าศาลเจ้าก็ยังมีสะพานสีแดงคู่กับแม่น้ำสายเล็กๆ เป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามเลยทีเดียว ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ที่ประชาชนต่างนิยมไปสักการะขอพรเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยว ความสำเร็จด้านธุรกิจ และความปลอดภัย
จังหวัดนางาซากิตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะคิวชู และใกล้กับประเทศเกาหลี และประเทศจีน ดังนั้นนางาซากิจึงเปรียบเสมือนประตูสู่ประเทศจีนและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้นางาซากิยังมีสถานที่สวยงามทางธรรมชาติมากมาย ทั้งยังเป็นเมืองแรกๆ ของญี่ปุ่นที่เปิดรับวิทยาการและแนวคิดของต่างชาติเข้ามา ซึ่งก็รวมถึงทางรถไฟ และท่าเรือที่ทันสมัยแห่งแรกของญี่ปุ่น รวมถึงอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่เป็นสถาปัตยกรรมในแบบญี่ปุ่นที่ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบยุโรป อย่างเช่นโบสถ์คาทอลิคโออุระ
ภูเขาอินาสะยามะซึ่งมีความสูงถึง 333 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของนางาซากิ ซึ่งบนยอดเขาแห่งนี้นอกจากจะเป็นที่ตั้งของเสาส่งคลื่นวิทยุและทีวีแล้ว ก็ยังเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของเมืองทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปยอดเขาได้ด้วยกระเช้าลอยฟ้า รถบัส หรือรถยนต์ นอกจากนี้อินาสะยามะยังถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 ของจุดชมวิวกลางคืนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น อันเนื่องมากจากวิวทิวทัศน์ของท่าเรือและเมืองที่สวยงามนั่นเอง
ไชน่าทาวน์ นางาซากิ (Nagasaki Chinatown) ตั้งอยู่ที่ย่านชินจิมาจิ เมืองนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น เป็น 1 ใน 3 แห่งของชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นไชน่าทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นเพียงแห่งเดียวที่ยังคงมีสถาปัตยกรรมแบบจีนแท้ๆหลงเหลืออยู่ มีทั้งซุ้มประตูทางเข้าที่สวยงามโดดเด่น รวมทั้งอาคารบ้านเรือนแบบจีนดั้งเดิมซึ่งส่วนใหญ่เปิดเป็นร้านอาหารจีน นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากมายให้นักท่องเที่ยวได้เดินเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายและราคาไม่แพง
สวนโกลฟเวอร์ เป็นสวนที่ออกแบบมาด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นกับยุโรป โดยสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1863 บนเนินเขามินามิ-ยามาเตะ เมืองนางาซากิ ภายในสวน มีคฤหาสน์หลังใหญ่สไตล์ตะวันตกของพ่อค้าชาวสก็อตแลนด์ผู้มีนามว่าโทมัส แบล็ก โกลฟเวอร์ ตั้งอยู่ โดยตกแต่งด้วยรูปปั้นของทามากิ มุอิระ กับปุชชีนี อันเป็นสองตัวละครสำคัญจากนวนิยายชื่อก้องโลกอย่างเรื่องมาดามบัตเตอร์ฟลายนั่นเอง
สะพานเมงาเนะเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและสำคัญของเมืองนางาซากิ ซึ่งสะพานหินเก่าแก่แห่งนี้มีชื่อที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนว่าสะพานแว่นตา อันเนื่องมาจากสะพานโค้งสองช่วงที่สะท้อนภาพผิวน้ำเป็นวงคล้ายกับรูปของแว่นตานั่นเอง โดยสะพานเมงาเนะถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นทางข้ามแม่น้ำนากาจิมะ อันเป็นแม่น้ำสายหลักของนางาซากินั่นเอง ถูกสร้างขึ้นโดยพระภิกษุจากวัดโคฟุคุจิในปี พ.ศ. 2177 ด้วยหินในสถาปัตยกรรมแบบจีนซึ่งเป็นแห่งแรกในญี่ปุ่นนั่นเอง
ถนนคนเดินฮามาโนมาจิ (hamanomachi) จังหวัดนางาซากิ ท่านสามารถเดินเล่นและชมบรรยากาศสถาปัตยกรรม สิ่งปลูกสร้าง เช่น บ้านเรือน ศาลเจ้า วัด ซุ้มประตูต่างๆ และอาหารรสชาติพิเศษที่มีความผสมผสานระหว่างจีนและญี่ปุ่นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว คุณจะพบได้ที่นางาซากิที่เดียวเท่านั้น อาหารขึ้นชื่อประจำเมืองนี้ คือ ซารา อุด้ง (SARA UDON) ราดหน้าญี่ปุ่น เป็นเมนูเส้นสูตรผสมพิเศษระหว่างจีนและญี่ปุ่น และอาหารที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งคือ จัมปง (CHAMPON) และซาลาเปาไส้หมูร้อนๆที่มีชื่อเรียกว่า KAKUNI-MAN
หมู่บ้านฮอนแลนด์ เฮ้าท์เท่นบอช เป็นธีมปาร์คที่สร้างขึ้นในจังหวัดนางาซากิ ซึ่งมีอาณาบริเวณติดกับชายทะเล โดยภายในหมู่บ้านนั้นเต็มไปด้วยอาคารซึ่งก่อสร้างตามสไตล์ดัทช์โบราณแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม หมู่บ้าน โรงละคร หอนาฬิกา พิพิธภัณฑ์ต่างๆ และร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้นภายในบริเวณยังประกอบไปด้วยคลอง คูน้ำ กังหันลมที่เลียนแบบมาจากประเทศฮอลแลนด์ได้อย่างเหมือนจริง สวนสนุกเล็กๆ และสวนดอกไม้ตามฤดูกาล โดยมีไฮไลท์คือดอกทิวลิปหลากสี
เมืองคุมาโมโตะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และยังเป็นเมืองหลวงของจังหวัดคุมาโมโตะบนเกาะคิวชู โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ และมีภูมิประเทศส่วนใหญ่ 3 ใน 4 ของพื้นที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขา ส่วนทิศตะวันตกนั้นเป็นทางออกทางทะเลซึ่งเป็นแนวชายฝั่งอันมีหมู่เกาะอะมิคุสะที่เป็นอุทยานแห่งชาติตั้งอยู่ นอกจากนี้รอบๆ ตัวเมืองส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ทางการเกษตร ฟาร์มปศุสัตว์ และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานฮอนด้าอีกด้วย
ภูเขาไฟอะโสะ (Aso Mount) เป็นภูเขาลูกใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ตอนกลางของเกาะคิวชูทั้งหมด ที่มองดูคล้ายกับเป็นเทือกเขาเนื่องจากฐานของภูเขาไฟลูกที่กว้างและใหญ่โต อีกทั้งยังมียอดเขาทั้งหมด 5 ยอด นอกจากนี้อะโสะยังเป็นหนึ่งในภูเขาไฟไม่กี่แห่งของญี่ปุ่นที่ยังคงมีการปะทุอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งชื่อเสียงของอะโสะที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเที่ยวก็คือ ภูเขาไฟอะโสะมีปากปล่องกว้างที่สุดในโลก โดยเส้นรอบวงนั้นวัดได้ถึง 128 กิโลเมตร และมีความความสูง 1,592 เมตร
ปราสาทคูมาโมโตะ (Kumamoto Castle) เป็นปราสาทสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในแขวงชูโอ เมืองคูมาโมโตะ ในจังหวัดคูมาโมโตะ เป็นปราสาทมีใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ
บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ท่าอากาศยานฟุกุโอะกะแต่เดิมเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศอิตะซุเกะ ซึ่งอยู่ในเขตฮะกะตะ และตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฮะกะตะไปทางทิศตะวันออกประมาณ 3 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองสะดวกสบายด้วยรถไฟใต้ดินซึ่งใช้เวลาเพียง 10 นาที โดยที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่รองรับทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ แต่จะปิดการขึ้นลงของเที่ยวบินในเวลา 22.00 น. ของทุกวัน เพื่อลดเสียงรบกวนต่อผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง และจะเปิดให้เที่ยวบินขึ้นลงอีกครั้งในเวลา 7.00 น.
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553