Mushroom Travel
รหัสทัวร์MUSH181666

ทัวร์ญี่ปุ่น สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า บ่อน้ำสีฟ้า โทมิตะฟาร์ม สวนดอกไม้ชิคิไซโนะโอกะ

SOLD OUT

ทัวร์นี้ได้ปิดกรุ๊ปแล้ว

หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com

ดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์
แชร์เลย !

วันที่เดินทาง

ก.ค.
24-29

ไฮไลท์โปรแกรมทัวร์

  • เที่ยว: เมืองอาซาฮีกาว่า-สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า-บ่อน้ำสีฟ้า-สวนดอกไม้ชิคิไซโนะโอกะ-โทมิตะฟาร์ม-จิโกกุดานิ-เนินแห่งพระพุทธเจ้า-สวนผลไม้ (เก็บเชอร์รี่)-คลองโอตารุ- นาฬิกาไอน้ำโบราณ-พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี
  • ช้อป: มิตซุยเอาท์เล็ต-ย่านทานุกิ
  • กิน: บุฟเฟ่ต์ขาปู-บุฟเฟ่ต์ปิ้ง-ปลาชิมาฮอกเกะ
  • พิเศษ: ออนเซ็น-บุฟเฟ่ต์เมล่อน-เก็บเชอร์รี่หวานๆจากต้นแบบไม่อั้น

โปรแกรมทัวร์

  • Day 1
  • 20.30 น. พร้อมกันที่ : สนามบินสุวรรณภูมิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

  • 23.45 น. ออกเดินทางสู่ เมืองชิโตเซ่ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 670

  • Day 2
  • 08.30 น. เดินทางถึง : สนามบินชิโตเซ่

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินชิโตเซ่ (Chitose Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของฮกไกโด เปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 1991 ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองชิโตเซะและโทะมะโกะไม ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโระ ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด

  • นำท่านสู่ : เมืองอาซาฮิกาว่า

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    เมืองอาซาฮิกาว่า (Asahikawa City) เป็นเมืองที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด รองจากเมืองซัปโปโร รายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม และมากด้วยศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่เคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่ครั้งอดีต โดยเฉพาะศิลปะในการปั้นแขนงต่างๆ เป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งของภูมิภาคโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น อุทยานแห่งชาติไดเซทสึซัง บ่อน้ำแร่โซอุนเคียว สวนสัตว์อาซาฮิคาวะ และทุ่งดอกไม้อีกมากมายให้เราได้เพลิดเพลินในฤดูต่างๆ ตลอดทั้งปี

  • นำท่านชม : สวนสัตว์อาซาฮิยามะ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) หรือ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ตั้งอยู่นเมืองอาซาฮากาวะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของเมือง ซึ่งสวนสัตว์ที่นี่ถือว่าไม่ธรรมดาเพราะสัตว์ต่างๆ ของที่นี่ไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในกรง แต่มีการสร้างสถานที่เลียนแบบธรรมชาติของที่อยู่อาศัยของสัตว์นั้นๆ รวมทั้งยังมีการสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ใกล้ชิดบรรดาสัตว์มากขึ้น อย่างการสร้างแทงค์น้ำรูปกระบอกยื่นเข้าไปในบ่อของแมวน้ำ เป็นต้น ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า ฮอกไกโด

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    หมู่บ้านราเมงอาซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village) ตั้งอยู่ในเมืองอะซะฮิคะวะ เป็นหมู่บ้านที่รวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองจำนวน 8 ร้านไว้ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ นอกจากนั้นภายในบริเวณหมู่บ้านยังมีศูนย์การค้า และศาลเจ้าเพื่อให้คู่รักมาขอพรเพื่อให้ชีวิตคู่ร้อนแรงเหมือนน้ำซุปและยืนยาวเหมือนเส้นบะหมี่จากเทพเจ้า 2 องค์

  • บ่าย นำท่านสู่ : พิพิธภัณฑ์หิมะและน้ำแข็งคามิคาวะ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พิพิธภัณฑ์หิมะและน้ำแข็งคามิคาวะ (Kamikawa Ice Pavilion) ตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง (Daisetsuzan National Park) ของฮอกไกโด(Hokkaido) ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีแกลลอรี่ใต้ดินที่รวบรวมชิ้นงานที่ทำมาจากน้ำแข็ง ทางเดินอุโมงค์น้ำแข็งที่ประดับประดาด้วยไฟสวยงาม บาร์น้ำแข็ง และถ้ำจำลองหินงอกหินย้อย นอกจากนั้นยังมีสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่ใต้น้ำแข็ง เช่น คลิโอเนะ(Clione) หรือที่รู้จักกันในชื่อผีเสื้อทะเลให้ชมกันอีกด้วย

  • นำท่านสู่ : โซอุนเคียว

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    โซอุนเคียว เป็นเมืองตากอากาศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางอุทยานแห่งชาติไดเซทสึ สถานที่อันเต็มไปด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม และมีบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งในเกาะฮอกไกโด ซึ่งเมืองนี้ถูกค้นพบครั้งแรกโดยชาวไอนุ นอกจากนี้โซอุนเคียวยังมีความโดดเด่นอีกอย่างคือ ทางเข้าสู่หุบเขาใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งอยู่ด้านในลึกเข้าไปในส่วนของโซอุนเคียวออนเซ็นนั้น มีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติผุดขึ้นมากว่า 20 แห่ง เป็นบริเวณกว้าง อีกทั้งน้ำพุร้อนเหล่านี้ยังมีอุณหภูมิสูงกว่า 70 องศา น้ำนั้นใสมากและไม่มีสีใดๆ เจือปน

  • ที่พัก SOUNKAKU GRAND HOTEL หรือเทียบเท่า

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • นำท่านผ่อนคลาย : แช่น้ำแร่ร้อนออนเซ็น

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย

  • Day 3
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • นำท่านชม : สระอะโออิเคะ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สระอาโออิ อิเคะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ บ่อน้ำสีฟ้า เมืองบิเอะ ที่นี่เป็นสระน้ำซึ่งน้ำในบ่อมีลักษณะเป็นสีฟ้าใสทั่วทั้งบ่อ เกิดจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนจากภูเขาไฟโทคาชิ (Tokachi) แล้วไหลเข้ามาสู่เมือง เนื่องจากมีสารอลูมิเนียมไฮดรอกไซต์ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเจือปนอยู่ จึงทำให้น้ำสะท้อนกับแสงแดดมองเห็นเป็นสีฟ้านั่นเอง มีต้นสนคารามัตสึที่ยืนต้นตายอยู่กลางน้ำ ให้บรรยากาศที่ดูราวกับอยู่ในโลกจินตนาการ

  • นำท่านชม : สวนชิกิไซโนะโอกะ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สวนชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai No Oka) ตั้งอยู่ในเมืองคามิกาวะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ถูกยกให้เป็นสรวงสวรรค์ของคนรักดอกไม้นานาสายพันธุ์บนพื้นที่หลายเฮกตาร์ เรียกได้ว่ามีความงดงามให้ได้ชมกัน ยังมีเนินเขาที่คุณสามารถเห็นสนามขนาดใหญ่ในทุกๆฤดู คุณสามารถพบดอกไม้ในแต่ละฤดู เช่น เดือนพฤษภาคมดอกทิวลิป เป็นต้น โดยจะมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์หมุนเวียนพากันมาอวดโฉมกว่า 30 ชนิด ทั้งดอกทิวลิป ลาเวนเดอร์ ดอกทานตะวัน และอีกเพียบ ภายในสวนยังมีรถบริการพาชมทัศนียภาพโดยรอบให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมกันเพลินๆ

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร : บุฟเฟต์เมล่อน

  • บ่าย นำท่านชม : ฟาร์มโทมิตะ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงของเมืองฟุราโนะ จังหวัดฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ฟาร์มแห่งนี้ขึ้นชื่อว่า เป็นจุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของเมือง เนื่องจากมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ (Tokachi mountain) ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ฟาร์มโทมิตะเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสายทุกปี เพราะภาพความงามของทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงของฟาร์มนี้ ได้ปรากฏอยู่บนปฏิทินของบริษัทรถไฟด่วน (JR) นั่นเอง

  • ที่พัก NOBORIBETSU MAHOROBA HOTEL หรือเทียบเท่า

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม : บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ

  • นำท่านผ่อนคลาย : แช่น้ำแร่ร้อนออนเซ็น

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย

  • Day 4
  • เช้า รับประทานอาหรเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

  • นำท่านชม : หุบเขานรกจิโกกุดานิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) เป็นหุบเขาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงหิมะหรือลิงภูเขาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกกว่า 200 ตัว ตั้งอยู่ในบริเวณหุบเขาแห่งแม่น้ำโยโคยุ อันเป็นสายน้ำที่ไหลมาจากที่ราบสูงชิงะโดยมีต้นน้ำจากน้ำพุร้อนชิบุ-ยุดานากะ ซึ่งเหตุที่หุบเขาแห่งนี้ได้ชื่อว่าหุบเขานรกก็เนื่องจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างโหดร้าย คือมีหิมะปกคลุมยาวนานถึง 1 ใน 3 ของปี อีกทั้งสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยโขดหินขรุขระและมีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาจากพื้นดินอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

  • นำท่านสู่ : เนินแห่งพระพุทธเจ้า

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร : ชาบู ชาบู

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ชาบู ชาบู (Shabu Shabu) เชิญลิ้มลองรสชาติอาหารขึ้นชื่อแห่งเมืองเกียวโต เป็นอาหารเซ็ทชาบูชาบู ซึ่งมีเนื้อหมูบดทรงเครื่อง เนื้อปลา เนื้อหมูสไลด์ ลูกชิ้นต่าง ๆ พร้อมผักสดนานาชนิด เช่น เห็ด ผักกาด เส้นอุด้ง เต้าหู้ ที่ต้มในน้ำซุปต้นตำหรับเกียวโต และเสิร์ฟพร้อมไอศครีมชาเขียวสูตรเฉพาะ

  • บ่าย อิสระช้อปปิ้ง : มิตซุย เอ้าท์เลท พาร์ค คิซะระซุ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    มิตซุย เอ้าท์เลท พาร์ค คิซะระซุ คือแหล่งรวมร้านค้าที่มีชื่อเสียงรวมทั้งสินค้าแบรนด์ดังทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 171 ร้านค้า ซึ่งร้านค้าทั้งหมดนี้รวมกันอยู่ภายใต้อาคารหนึ่งหลังคา นอกจากนั้นยังมีสินค้าประเภทกีฬากลางแจ้ง รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่มีส่วนลดมากมายถึง 30-50% ท่ามกลางพื้นที่ที่มองเห็นทะเลได้อย่างชัดเจน ทั้งยังปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใบไม้อันเขียวชอุ่ม จึงทำให้เหล่านักช้อปได้เพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงามและประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่ง

  • นำท่านชม : พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันออกของสถานีซัปโปโรประมาณ 1.7 กิโลเมตร ซึ่งที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งแรกและแห่งเดียวในญี่ปุ่น ที่นำเสนอเรื่องราวและประวัติความเป็นมา รวมทั้งขั้นตอนของการผลิตเบียร์ซัปโปโร เบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นและเป็นเบียร์ที่ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นอีกด้วย โดยตัวของอาคารพิพิธภัณฑ์นั้นเคยเป็นโรงงานผลิตเบียร์ในอดีต เป็นอาคารที่สร้างด้วยอิฐแดง ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2419 ในสมัยเมจิ ทั้งยังเป็นโรงงานผลิตเบียร์แห่งแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย

  • **พิเศษ! ให้ท่านได้ลิ้มรสเบียร์เบียร์ฮอกไกโดแบบต้นตำหรับท่านละ 1 แก้ว**

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร : บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ

  • ที่พัก KEIO PLAZA SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

  • Day 5
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • นำท่านสู่ : เก็บผลไม้ตามฤดูกาล

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    หนึ่งในกิจกรรมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวไทยชื่นชอบและนิยมเป็นพิเศษก็คือการเก็บผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีฤดูกาลแตกต่างกันอย่างเด่นชัดถึง 4 ฤดู นั่นจึงทำให้พืชผลต่างๆ มีความหลากหลาย และออกดอกออกผลอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ ปี โดยฤดูกาลเก็บผลไม้ที่เป็นที่นิยมของคนไทยก็ได้แก่การเก็บสตรอว์เบอร์รีในช่วงเดือนมกราคม เชอร์รีเดือนมิถุนายน ลูกท้อในเดือนกรกฎาคม เก็บองุ่นเดือนกรกฎาคม เก็บสาลี่เดือนสิงหาคม และแอปเปิ้ลในเดือนกันยายน เป็นต้น

  • นำท่านชม : คลองโอตารุ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    คลองโอตารุ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก ซึ่งในอดีตเป็นคลองที่เกิดจากการถมทะเลเพื่อใช้เป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงสู่เรือขนถ่ายแล้วนำสินค้ามาเก็บไว้ภายในโกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และถมคลองครึ่งหนึ่งทำเป็นถนนหลวง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งได้บูรณะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนั้นริมสองฝั่งคลองยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมาย รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคลองมากนัก

  • นำท่านถ่ายรูป : นาฬิกาไอน้ำโบราณ แห่งเมืองโอตารุ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Steam Clock) สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่เมือง Vancouver มอบให้แก่เมือง Otaru นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนหนึ่งที่ประเทศแคนาดา แถมที่นี่ก็ยังเคยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยู่ในภาพยนต์เรื่อง ‘แฟนเดย์’ อีกด้วย

  • นำท่านสู่ : พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ที่ภายในเต็มไปด้วยรูปแบบ ขนาด และประเภทต่างๆ ของกล่องดนตรี โดยตัวอาคารหลังนี้ก่อสร้างด้วยกำแพงอิฐสีแดงและมีหน้าต่างโค้งซึ่งเป็นไสตล์เรเนซองส์ ส่วนด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์มีนาฬิกาไอน้ำที่ผลิตโดยผู้ผลิตนาฬิกาแคนาดาที่จะส่งเสียงเตือนทุกๆ 15 นาที และทุกชั่วโมงจะดังเป็นพิเศษ

  • กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร : ปลาชิมาฮอกเกะ

  • บ่าย อิสระช้อปปิ้ง : ตลาดทานูกิโคจิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    ตลาดถนนคนเดินทานูกิโคจิ ตลาดและย่านการค้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเมือง โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7 บล็อก ภายในนอกจากจากจะเป็นแหล่งรวมร้านค้าต่างๆ อย่างร้านขายกิโมโน เครื่องดนตรี วิดีโอ โรงภาพยนตร์แล้ว ยังมีร้านอาหารมากมาย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นด้วย เนื่องจากมีเกมเซ็นเตอร์ และตู้หนีบตุ๊กตามากมาย นอกจากนั้นที่นี่ยังมีการตกแต่งบนหลังคาด้วยตุ๊กตาทานุกิขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีศาลเจ้าทานุกิอันเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1973 ด้วย

  • ค่ำ รับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย

  • ที่พัก KEIO PLAZA SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

  • Day 6
  • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • 10.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 671

  • 15.30 น. เดินทางถึง : สนามบินสุวรรณภูมิ

    อ่านรายละเอียด ช่อน

    สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

คำถามที่พบบ่อย

 ซื้อทัวร์กับมัชรูมทราเวล มั่นใจได้แค่ไหน? จะได้เดินทางตามใบนัดหมายหรือเปล่า?

บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด ทำงานด้านการท่องเที่ยวมานาน ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียในเรื่องนี้ เพราะเราซื่อสัตย์ จริงใจ และที่สำคัญเรามีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/09294 ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเภท Outbound คือบริษัททัวร์ที่สามารถจัดทัวร์นำเที่ยวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

มัชรูมทราเวล เป็นผู้จัดทำแพ็กเกจทัวร์เองหรือส่งต่อให้กับบริษัททัวร์อื่น?

มัชรูมทราเวล มีทั้งจัดแพ็กเกจทัวร์เองในนาม มัชรูมทราเวล และจัดทัวร์ร่วมกับกลุ่มบริษัทพันธมิตร (Partner) เพื่อให้ลูกค้าได้มีโปรแกรมท่องเที่ยวตามความต้องการและเหมาะสมกับลูกค้ามากที่สุด

สามารถติดต่อขอจองแพ็กเกจทัวร์ต่างๆ ได้อย่างไร?

สามารถแจ้งจองแพ็กเกจทัวร์ที่ต้องการได้หลายช่องทาง เช่น จองทาง เช่น website, Call Center, email, สื่อ Social media ต่างๆ  ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อท่านเพื่อยืนยันที่นั่งพร้อมแจ้งชำระเงินค่าจองทัวร์

มัชรูมทราเวล มีช่องทางการชำระเงินใดบ้าง?

ช่องทางการชำระเงิน มีหลายช่องทาง ดังนี้
  • 1. ชำระด้วยเงินสด หรือ เช็คเงินสด ที่ บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด  คลิกดูแผนที่บริษัท 
  • ชำระด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร ชื่อบัญชี บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด   คลิกดูรายชื่อธนาคาร
  • 3. ชำระด้วยบัตรเครดิต ชำระโดยตรงได้ที่บริษัท มัชรูมทราเวล จำกัด หรือแจ้งพนักงานขายของท่าน (โดยมีค่าธรรมเนียมการใช้บัตรจ่ายธนาคาร 3.5% ของมูลค่าสินค้า)

เมื่อใดจึงจะทราบว่าจองทัวร์สำเร็จ ได้รับที่นั่งเรียบร้อย?

หลังจากลูกค้าแจ้งชำระเงินมัดจำค่าทัวร์ และการบริการอื่นๆ เรียบร้อยแล้ว พนักงานขายจะติดต่อกลับเพื่อยืนยันที่นั่งอีกครั้ง พร้อมส่งเอกสารการยืนยันสำรองที่นั่ง

เมื่อชำระเงินค่าทัวร์เรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องแจ้งกับพนักงานขายหรือไม่?

จำเป็น!  เพื่อให้พนักงานขายรับทราบและตัดสำรองที่นั่งให้ท่านได้อย่างรวดเร็ว ท่านสามารถแจ้งผ่านทาง e-mail ของพนักงานขาย , Line ของพนักงานขาย หรือทางแฟกซ์หมายเลข 02 745 6258  โดยส่งหลักฐานการโอนเงินแนบประกอบมาด้วย

สามารถขอยกเลิกการเดินทาง และขอเงินคืนมัดจำหรือเงินค่าทัวร์เต็มจำนวนได้ไหม?

สามารถขอยกเลิกการเดินทาง และขอเงินคืนได้ไหมนั้น ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการจอง ขอให้สอบถามกับพนักงานขายที่บริการท่านหรือดูรายละเอียดในเอกสารรายการทัวร์  แต่โดยส่วนใหญ่จะไม่สามารถขอยกเลิกหรือขอคืนเงินได้หลังจากได้ทำการจ่ายเงินแล้ว

กรณีจองทัวร์แล้วแต่กรุ๊ปทัวร์ที่จอง มีผู้เดินทางไม่ถึงตามที่กำหนด ทัวร์ยังจะออกเดินทางหรือไม่?

เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 7 วันหากมีผู้เดินทางไม่ครบตามกำหนด และบริษัท ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนให้ท่าน

เงื่อนไขทัวร์

อัตราค่าบริการนี้รวม:

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป – กลับ ชั้นประหยัด (เดินทางไป-กลับพร้อมกรุ๊ปเท่านั้น) สายการบิน และ เส้นทางตามที่ระบุไว้เท่านั้น
  • ค่าภาษีสนามบินและภาษีน้ำมัน ณ วันออกราคาทัวร์ หากสายการบินเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมใดๆเพิ่มในภายหลัง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บจากท่านตามความเป็นจริง
  • ค่าพาหนะรับ-ส่ง และค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆตามรายการที่ระบุไว้เท่านั้น
  • ค่าโรงแรมที่พักตามระบุในรายการหรือเทียบเท่า ห้องพักห้องละ 2-3 ท่านเท่านั้น
  • ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ วงเงินท่านละ 500,000 บาท ของบริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด
  • หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวคอยดูแลอำนวยความสะดวก ตลอดการเดินทางไปกลับพร้อมลูกค้า 1 ท่าน
  • สมนาคุณทุกท่านด้วยกระเป๋า ท่านละ 1 ใบ
  • บริการน้ำดื่มบนรถบัสวันละ 1 ขวด

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม:

  • ค่าทำหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือในรายการเช่นค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่ม และอาหารที่สั่งเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ เป็นต้น
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนดคือ 30 กิโลกรัมต่อท่าน
  • ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่าสำหรับคนต่างด้าว
  • ค่าธรรมเนียมใดๆจากสายการบิน ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บจากท่านตามความเป็นจริง

หมายเหตุ:

  • กรณีกรุ๊ปทัวร์ไม่ออกเดินทาง Mushroom Travel ยินดีคืนเงินให้ท่านภายใน 10 วันทำการ
  • กรณีต้องยื่นวีซ่า เราบริการ รับ-ส่ง เอกสารครั้งแรกฟรี เฉพาะในกรุงเทพฯ ยกเว้นเขตหนองจอก
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะ ผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับพร้อมกรุ๊ป กรณีลูกค้าต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บ และการจัดที่นั่งของกรุ๊ป เป็นไปโดยสายการบินเป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯไม่สามารถเขาไปแทรกแซงได้
  • และในกรณีลูกค้ายกเลิกการเดินทาง แต่ทางบริษัทฯได้ดำเนินการออกตั๋วไปแล้วนั้น ผู้เดินทางต้องรอ REFUND ตามระบบของสายการบินเท่านั้น กรุณาตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่บริษัทฯว่าสามารถคืนค่าโดยสารได้หรือไม่
  • กรณีท่านมีความประสงค์ต้องการเปลี่ยนระดับชั้นที่นั่งจากชั้นประหยัดเป็นชั้นธุรกิจ โดยใช้คะแนนจากบัตรสะสมไมล์ จะดำเนินได้ภายหลังจากออกตั๋วกรุ๊ปแล้วเท่านั้น โดยผู้โดยสารต้องดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยตัวท่านเอง
  • ในกรณีที่ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้วลูกค้าไม่สามารถเดินทางได้ และต้องการเปลี่ยนตัวผู้เดินทางในกรณีนี้ทางบริษัทฯจะเช็คกับทางสายการบินก่อนว่าสามารถเปลี่ยนชื่อผู้โดยสารท่านอื่นแทนได้หรือไม่ กรณีถ้าสามารถเปลี่ยนได้จะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในการเปลี่ยนตั๋ว ลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตรงนี้เองทั้งหมด
  • ทางสายการบินไม่รับจองที่นั่ง (LONG LEG) ลูกค้าที่ประสงค์ที่นั่งตรงนี้ ทางลูกค้าต้องชี้แจงเหตุผลหน้าเคาน์เตอร์เช็คอินด้วยตัวท่านเองในวันเดินทางที่สนามบิน
  • สายการบินไทยกำหนดให้น้ำหนักกระเป๋าเดินทางไม่เกิน 30 ก.ก. ส่วนกระเป๋าใบเล็กที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้อยู่ในความดูแลของท่านน้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. และมีความ กว้าง+ยาว+สูง ไม่เกิน (25 ซม. X 56 ซม. X 46 ซม.) หากท่านเดินทางด้วยสายการบินอื่น ต้องตรวจสอบเรื่องน้ำหนักและจำนวน สัมภาระอีกครั้งกับเจ้าหน้าที่
  • การสะสมไมล์ของสายการบินไทย หากใช้ตั๋วโดยสารเป็นแบบหมู่คณะสามารถสะสมไมล์ได้ 50 % ส่วนสายการบินอื่นๆในเครือ STAR ALLIANCE ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขระหว่างสายการบินนั้นๆกับการบินไทย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขขึ้นอยู่กับสิทธิ์ของสายการบิน
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องเดินทางด้วยสายการบินภายในประเทศ หรือสายการบินอื่น น้ำหนักกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำหรือสูงกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน ซึ่งผู้เดินทางสามารถตรวจสอบได้จากพนักงานด้วยตัวท่านเอง
  • กรุณาใส่หมายเลขสะสมไมล์ทุกครั้งที่กรอกรายละเอียดการจองทัวร์ที่ทางบริษัทฯส่งให้เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง (กรุณาเก็บหางบัตรโดยสารทั้งขาไปและขากลับไว้เพื่อตรวจสอบกรณีท่านไม่ได้รับไมล์สะสม ท่านสามารถใช้หางบัตรโดยสารเพื่อยืนยันกับทางสายการบินได้)
โทรหาเรา
ไปด้านบนสุด