ทัวร์ญี่ปุ่น ศาลเจ้าดาไซฟุ ยูเมะทาวเวอร์ สะพานคินไตเคียว ศาลเจ้าอิสึคุชิมะปราสาทฮิเมจิ

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

ท่าอากาศยานฟุกุโอะกะแต่เดิมเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศอิตะซุเกะ ซึ่งอยู่ในเขตฮะกะตะ และตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฮะกะตะไปทางทิศตะวันออกประมาณ 3 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองสะดวกสบายด้วยรถไฟใต้ดินซึ่งใช้เวลาเพียง 10 นาที โดยที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่รองรับทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ แต่จะปิดการขึ้นลงของเที่ยวบินในเวลา 22.00 น. ของทุกวัน เพื่อลดเสียงรบกวนต่อผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง และจะเปิดให้เที่ยวบินขึ้นลงอีกครั้งในเวลา 7.00 น.

ศาลเจ้าดาไซฟุเทมมังกู (Dazaifu Tenman-gu) สัญลักษณ์ของเมืองฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1448 ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นศาลเจ้าที่ให้พรในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน เนื่องจากศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับท่านสึกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ผู้เป็นนักปราชญ์ประจำราชสำนักในสมัยเฮอัน แต่ถูกใส่ร้ายจนถูกปลดออกจากตำแหน่งและเนรเทศให้มารับราชการอยู่ที่ดาไซฟุ

สะพานคินไตเคียว (Kintai Bridge) หรือสะพาน 5 โค้ง เป็นสะพานไม้ที่สร้างโดยไม่ใช้ตะปู ซึ่งจะใช้สลักไม้แทนมีหมุดเหล็กเหมือนตะปู สะพานนี้มีรูปร่างแตกต่างจากสะพานทั่วไป และได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 สะพานที่มีชื่อเสียงสุดในญี่ปุ่น ในสมัยโบราณเป็นเส้นทางข้ามแม่น้ำของเหล่านินจา จากมุมของตัวสะพาน เราสามารถมองเห็นปราสาทอิวาคุนิตั้งอยู่บนยอดเขา กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ก็คือ การล่องเรือชมสะพานคินไตเคียว เมื่อย่างเข้าเดือนเมษายน บริเวณรอบ ๆ สะพานจะเต็มไปด้วยความงดงามสีชมพูของดอกซากุระ

เมืองฮิโรชิม่าเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฮิโรชิม่าและมีการปกครองในรูปแบบพิเศษ ในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการทหารของญี่ปุ่น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่อเมริกาเลือกฮิโรชิม่าเป็นเป้าหมายโจมตีด้วยระเบิดปรมาณู แต่ปัจจุบันเมืองฮิโรชิมากลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลกที่มีชื่อเสียงในระดับโลก นั่นก็คือ อนุสรณ์สถานสันติภาพฮิโรชิม่า อันเป็นที่ตั้งของฮิโรชิมาโดม อาคารแห่งเดียวที่เหลือรอดจากระเบิดปรมาณูเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี 1945

ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (Itsukushima Shrine) ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่า (Miyajima) นับเป็นศาลเจ้าชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของฮิโรชิม่า ซึ่งความโด่งดังมาจากประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล จนดูเหมือนลอยอยู่ในน้ำในช่วงที่น้ำขึ้น เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ความศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่บนน้ำ เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมลงตัวของทั้งวัฒนธรรมกับธรรมชาติ ตัวชื่อเกาะมิยาจิม่าที่แปลว่าเกาะแห่งศาลเจ้า เพราะมีศาลเจ้าอิสึกุชิมะตั้งอยู่ มียอดเขาสูงที่ชื่อภูเขาไมเซน (Misen) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนท้องถิ่น

ถนนย่านฮอนโดริ (Hondori Street) ศูนย์รวมร้านค้าและแหล่งช้อปปิ้งสำคัญ กลางใจเมืองฮิโรชิม่า เป็นถนนที่มีร้านค้าต่าง ๆ เรียงรายอยู่ในตึกสองฟากถนนที่มีหลังคาโค้ง ที่นี่เราจะได้เพลิดเพลินกับการซื้อของที่ระลึกแบบญี่ปุ่น หรือสินค้าทันสมัย ที่มีรูปแบบน่ารักและหลากหลาย อาทิ อาหารการกิน ขนม เสื้อผ้า รองเท้า ซูเปอร์มาร์เก็ต เครื่องสำอาง เครื่องประดับแฟชั่นนำสมัยต่าง ๆ และของที่ระลึกจิปาถะ สำหรับคนที่ชอบซื้อของก็ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่คือสวรรค์ของนักช็อป

โอโคโนมิยากิมุระ หรือ หรือ หมู่บ้านโอโคโนมิยากิ หรือ เมืองโอโคโนมิยากิ เป็นตึกที่รวบรวมเอาร้านฮิโรชิมา พิซซ่าเอาไว้มากมายให้คุณได้เลือกนั่งชิมกันตามใจชอบ สวรรค์สำหรับคนที่รักพิซซ่าญี่ปุ่น ถ้าพิจารณาตามรากศัพท์แล้ว "โอโคโนะมิ" แปลว่า ชอบ หรือ ตามใจชอบ และ "ยากิ" แปลว่า ย่าง หรือ ปิ้ง เนื่องจากในยามสงคราม อาหารการกินขาดแคลน ชาวญี่ปุ่นจึงนำเอาอาหารที่หาได้ มาผัดรวมกัน จึงกลายเป็นที่มาของโอโคโนมิยากิในปัจจุบัน ไม่ไกลจากบริเวณสวนอนุสรณ์สันติภาพ

ฮิโรชิม่า เฮวะคิเนนโคเอนหรืออนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า ตั้งอยู่ในเมืองฮิโรชิม่า ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีเดียวกัน ซึ่งที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของเมืองฮิโรชิม่า ภายในสวนมีพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพทั้งหมด 2 ตึก ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมือง และเหตุการณ์ที่เกิดระเบิดนิวเคลียร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนั้นภายในสวนยังมีอาคารที่เรียกว่าอะตอมมิก บอมบ์ โดม ซึ่งเป็นอาคารเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ทั้งที่เป็นจุดศูนย์กลางของระเบิด

คุราชิกิ ในอดีตเปรียบเสมือนศูนย์กลางการกระจายข้าวสู่ภูมิภาคต่างๆของประเทศ ภายในเมืองจึงเต็มไปด้วยโกดังหรือฉางข้าวอันมีความโดดเด่นด้วยตัวกำแพงหินสีขาว มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองเล็กๆอันเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งนี้ นอกจากนี้เมืองคุราชิกิยังมีชื่อเสียงในเรื่องของเขตเมืองเก่า ท่านจะได้สัมผัสวิถิชีวิตของชุมชนริมคลองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

คลองสายเล็กๆอันเปรียเบเสมือนสัญลักษณ์ประจำเมืองคุราชิกิ เมืองเล็กๆทางตะวันตกของจังหวัดโอกายาม่า ตลอดแนว 2 ฝั่งคลองท่านจะได้ชมอาคารที่ในอดีตเคยเป็นโกดังเก็บสินค้า แต่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร รวมทั้งร้านกาแฟด้วย ซึ่งอาคารเหล่านี้มีเอกลักษณ์พิเศษด้วยตัวอาคารไม้ที่ถูกทาด้วยสีขาว มุงด้วยกระเบื้องแบบโบราณสีดำ นอกจากนี้ที่คลองคุราชิกิแห่งนี้ยังมีเรือพายไว้คอยบริการนำนักท่องเที่ยวนั่งชมความงดงามของคลองแบบโบราณสายนี้อีกด้วย

การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ปราสาทฮิเมจิผ่านการรีโนเวทครั้งใหญ่ในปี 2015 ทำให้สภาพของปราสาทตอนนี้สวยงามและสมบรูณ์มากยิ่งขึ้นไปอีก จนได้รับการยอมรับว่าเป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก และเป็น 1 ใน 4 ปราสาทที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นด้วย

โกเบ (Kobe) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเฮียวโกะ ทั้งยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดตั้งให้เป็นหนึ่งในหลายเมืองของประเทศที่มีเขตการปกครองรูปแบบพิเศษ ตัวเมืองตั้งอยู่ระหว่างทะเลและเทือกเขาร็อกโก นอกจากนี้โกเบยังเป็นเมืองที่วัฒนธรรมอันหลากหลาย โดยได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก จีนและญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ด้วยถนนหนทางที่กว้างขวางสวยงาม ตึกรามบ้านช่องที่ถูกออกแบบอย่างทันสมัย หลังจากผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย

ย่านนานกิ่งมะชิ(Nankinmachi)หรือไชน่าทาวน์แห่งโกเบ เป็นบริเวนที่เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารกลิ่นอายแบบจีน ทางทิศตะวันออกมีประตูโชอังมอง สองข้างทางเนืองแน่นไปด้วยร้านอาหารจีน ร้านขายวัตถุดิบทำอาหาร และร้านขายของเบ็ดเตล็ด เป็นย่านที่มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ นานกิงมาชิ(Nankinmachi)แปลเป็นไทยได้ว่า ที่อยู่อาศัยของชาวหนานกิง ซึ่งเป็นชื่อเมืองหลวงของชาวจีนสมัยที่เริ่มติดต่อกับญี่ปุ่นใหม่ๆ ไชน่าทาวน์แห่งนี้ก่อตั้งมากว่าร้อยปีแล้ว ตั้งแต่ค.ศ. 1868 และเป็นไชน่าทาวน์เพียงแห่งเดียวในภูมิภาคคันไซ

โอซาก้า เป็นเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในเกาะฮอนชู มีชาวต่างชาติที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวอาศัยอยู่มากที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้โอซาก้ายังเป็นศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเล และยังมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน จึงทำให้มีผู้คนสัญจรไปมาทั้งจากในและนอกประเทศมากมาย จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรกของญี่ปุ่น

ชินไซบาชิ หรือ Shinsaibashi-Suji ถนนสายช็อปปิ้งเส้นยาวอีกหนึ่งย่านการค้าชื่อดังของเมืองโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านรวงทั้งเก่าแก่และร้านแบรนด์เนมสมัยใหม่ ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแนะนำอีกแห่งสำหรับสายช็อป ชิม ชิล มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง อาหารทะเลขึ้นชื่อ ส่วนตรงใจกลางของถนนจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นั่นก็เพราะเป็นที่ตั้งของตึกสัญลักษณ์คนวิ่งชูมือ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของกูลิโกะนั่นเอง

ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในอ่าวโอซากา นอกชายฝั่งเมืองเซ็นนังและเมืองอิซุมิซะโนะ จังหวัดโอซะกะ ญี่ปุ่น มักถูกเรียกในภาษาอังกฤษว่า Osaka Airport หรือท่าอากาศยานโอซากา ออกแบบโดยสถาปนิก Renzo Piano เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553